บทที่ 12 ฝันกลางวัน
“พ่อ ผมไม่ได้กำลังฝันอยู่ใช่ไหม” เสี้ยห้าวพูดด้วย ใบหน้าดีอกดีใจ
เสี้ยฉี่ชาวส่ายหัวให้ แล้วแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “ลูกชาย ตั้งสติหน่อย ถึงแม้ตอนนี้ตระกูลเสี้ยของเรา จะตกต่ำไปบ้าง แต่เมื่อก่อนเราก็เป็นถึงตระกูลที่มีชื่อ เสียงอย่างจริงจังของชางโจวนะ บริษัทติ่งเฟิงนี้ไม่กล้า ไม่ไว้หน้าเราตระกูลเสี้ยหรอก อีกเดี่ยวพอถึงข้างใน แล้ว บุคลิกของเราต้องดูสูงส่งหน่อย อย่าให้คนมา ดูถูกเราได้
“ครับพ่อ พ่อวางใจได้” เสี้ยห้าวพยักหน้าราวกับ ลูกไก่จิกข้าวสาร จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มเดินอย่างมาด มั่นเข้าไปในห้องทำงานผู้จัดการทั่วไป
ในห้องทำงาน หลินจงเหว่ยนอนพิงอ้าซ่าอยู่บน เก้าอี้ทำงาน พอเห็นสองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวเดินเข้ามา หนังตายังยอมยกขึ้นสักนิด
เสี้ยห้าวรู้สึกมันงง นี่ทำไมไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้ เลย หรือว่าหลินจงเหว่ยไม่ควรลุกขึ้นมาก้มหัวต้อนรับ พวกเขาอย่างนอบน้อมเหรอ?
หลินจงเหว่ยไม่พูดอะไร ในที่สุดเสี้ยฉี่ชาวก็รู้สึก ความผิดปกติบางอย่าง แต่ว่าในเมื่อก็มาถึงแล้ว เขาก็ ไม่อาจอะไรก็ไม่ได้ทำแล้วกลับไปเลย
“สวัสดีครับ ประธานหลิน ผมคือเสี้ยฉี่ชาว….” เสี้ยสีชาวเปิดปากพูดขึ้นอย่างหงอยเหงา
“อ่อ” หลินจงเหว่ยตอบรับเสียงเรียบคำหนึ่ง
เสี้ยนี่ชาวสีหน้าแข็งที่อ ท่าทางอืดอาดยืดยาด ของหลินจงเหว่ยทำให้เขารำคาญใจเหลือเกิน แต่ว่า คนอยู่ใต้หลังคา จะไม่ก้มหัวก็ไม่ได้ มีเรื่องต้องขอร้อง คนอื่น ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะต้องลดท่าทีแข็งกร้าวลง
“ประธานหลิน ที่ผมมาครั้งนี้คือ มาเป็นตัวแทนตระ กูลเสี้ยจะมาเจรจาเรื่องโครงการบ้านพักตากอากาศยู่ ฉวนซาน ประธานหลินคุณว่า….”
“ในด้านการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ ตระกูล เสี้ยของพวกคุณ มีความสามารถพิเศษอย่างไรบ้าง?” หลินจงเหว่ยถามขึ้นเสียงเรียบ
เสี้ยสีชาวสีหน้าดูดีอกดีใจ ขอแค่หลินจงเหว่ย สนทนาต่อด้วย งั้นก็มีโอกาสคุยแล้ว
“ประธานหลิน ตระกูลเสี้ยของเรามีทีมวิศวกรรม มืออาชีพถึงเก้าทีม และยังมีเครื่องจักรที่ใช้ในงาน ก่อสร้างขนาดใหญ่อีกด้วย ซึ่งมีประสบการณ์สูงกันทั้ง นั้น …..และนอกเหนือจากนี้ ก็คือพวกเราตระกูลเสียตั้ง ตัวมาได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คนงานที่อยู่ในมือ มีประสบการณ์ก่อสร้างมาอย่างโชกโชน ตึก
อสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงมากมายในเมืองชางโจว ก็ เป็นผลงานการก่อสร้างของตระกูลเสี้ยเรา..”
เสี้ยสีชาวฝีปากคมคาย อีกนิดเดียวก็เกือบจะโม้ จนทีมงานของตระกูลเสี้ยลอยขึ้นสวรรค์ได้อยู่แล้ว เขาพูดติดต่อกันมาสิบกว่านาที พูดจนคอแห้ง ปากแห้ง ถึงยอมหยุดลง
หลังจากพูดจบแล้ว เสี้ยฉี่ชาวก็มองหลินจงเหว่ยอ ย่างมั่นใจทีหนึ่ง เขารู้สึกว่ามีโอกาสแปดเถ้าส่วนที่หลิน จงเหว่ยโดนตัวเขาทำให้หวั่นไหวแล้ว
แต่ต่อมาภาพที่เห็นตรงหน้า กลับทำให้เสี้ยฉี่ชาว ตะลึงคงจนตาค้าง
หลินจงเหว่ยกลับนอนพิงอยู่บนเก้าอี้ และหลับไป แล้ว!
แถมยังเริ่มมีเสียงกรนขึ้นมาอีก!
เสี้ยฉีชาวตาแดงขึ้นมาทันที มีคนที่ไม่เห็นคนเป็น คนขนาดนี้ด้วยเหรอ?
เสี้ยห้าวที่อยู่ข้าง ๆ ก็โกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่ไหว เมื่อก่อนเวลาอยู่ข้างนอก คนอื่นแค่ได้ยินว่าสถานะ ของเขาคือลูกหลานของตระกูลเสี้ย ก็จะคอยประคับ ประคองเขาอย่างนอบน้อมจนเกือบลอยขึ้นสวรรค์ แต่ วันนี้พอมาถึงที่นี่ พวกเขาสองพ่อลูกกลับโดนคนมอง ข้ามอย่างต่อเนื่องแบบนี้
“ประธานหลิน” เสี้ยฉี่ชาวอดไม่ได้ที่จะเสียงเข้ม ขึ้นมาเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะรู้สึกโมโห แต่เขาก็ไม่โง่ จะ หาเรื่องหลินจงเหว่ยนั้นเขาคิดยังไม่กล้าคิดเลย เพราะว่าเขารู้ดีว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินจงเหว่ยนั้น เป็นถึง ตระกูลเฉินและเสิ่น หนัง สองตระกูลนี้ ไม่ว่าจะเป็น ตระกูลไหนก็จับตระกูลเสี้ยโยนลงพื้นแล้วเหยียบได้ อย่างสบาย
“หือ มีอะไรเหรอ?” หลินจงเหว่ยเสมือนว่าเพิ่ง สะดุ้งตื่นจากฝัน มองทั้งสองคนอย่างสงสัยทีหนึ่ง
“ไม่…. ไม่มีอะไรครับ ความสามารถพิเศษของ ตระกูลเสี้ย ผมได้พูดจบไปแล้วครับ” เสี้ยฉี่ชาว พยายามอดกลั้นความโกรธไว้ในใจ แล้วก็ส่งสัญญาณ ทางสายตาไปให้เสี้ยห้าวทีหนึ่ง
พอเสี้ยห้าวรู้ตัว ก็ล้วงกล่องไม้จันทน์ยาวออกมา จากด้านหลัง แล้ววางลงตรงหน้าหลินจงเหว่ยอย่าง นอบน้อม ยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วพูดขึ้นว่า “ประธานหลิน ได้ยินมาว่าคุณชอบดื่มชา เพราะฉะนั้นบิดาของผมก็ เลยตั้งใจคนไปหาซื้อชุดน้ำชากระเบื้องลายคราม ราชวงศ์หยวนจากถนนนักเล่นของเก่ามาให้ชุดหนึ่ง หวังว่าคุณประธานหลินจะชอบนะครับ”
หลินจงเหว่ยเหล่มองเสี้ยห้าวทีหนึ่ง แล้วก็เปิด กล่องไม้จันทน์ออก ชุดสีขาวน้ำเงินตัดกัน ชุดน้ำชา แวววาวสวยงามดูล้ำค่าวางอยู่ในกล่องอย่างเรียบร้อย มันเป็นชุดน้ำชากระเบื้องลายครามราชวงศ์หยวน
จริง ๆ ถึงแม้จะไม่ใช่เครื่องลายครามเคลือบสีหยกชั้น
เยี่ยม แต่ก็ถือว่าเป็นของดี ชุดนี้ถ้าลองตีราคาดูแล้วก็
น่าจะเกินล้านแล้ว
สองพ่อลูกตระกูลเสี้ยนี่ยอมทุ่มจริง ๆ หลินจงเหว่ ยยิ้มอย่างคิดเล่น แล้วคิดขึ้นในใจ
“ประธานหลินคุณว่า….” พอเห็นหลินจงเหว่ย เหมือนจะพอใจมาก ในใจเสี้ยฉี่ชาวก็เริ่มมีจุดประกาย แห่งความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
“นายเสี้ย ผมรู้สึกว่าคุณจะพูดความสามารถพิเศษ ของตระกูลเสี้ยขาดไปอย่างหนึ่ง” หลินจงเหว่ยเปิด ปากพูดล้อเล่น
“หา?” สองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวมองสบตากันทีหนึ่ง แล้วอดที่จะสงสัยไม่ได้ ตระกูลเสี้ยยังมีความสามารถ พิเศษอย่างอื่นอีกเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้
“ประธานหลินได้โปรดช่วยพูดให้ชัดเจนด้วย” เสี้ยสีชาวพูดขึ้นอย่างนอบน้อม
“ฝัน! กลาง! วัน!” หลินจงเหว่ยยิ้มอย่างขี้เล่น แล้ว พูดออกมาสามคำ “คนตระกูลเสียของพวกคุณ ฝัน กลางวันได้ดีมาก”
เหยียดหยาม!
นี่มันดูถูกเหยียดหยามกันชัด ๆ !
ทั้งสองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวสีหน้าก็ดูไม่ได้ขึ้นมาทันที
จนถึงตอนนี้ พวกเขาถึงรู้ว่า ตั้งแต่เริ่มแรก หลินจง เหว่ยก็ไม่เคยคิดว่าจะพูดคุยดีๆ กับพวกเขาเลย!
ตั้งแต่แรก หลินจงเหว่ยก็อยากจะหักหน้าพวกเขาแล้ว!
เสี้ยฉีชาวโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง พูด อย่างโกรธจัดว่า “ประธานหลิน ตกลงตระกูลเสี้ยของ เราทำผิดต่อคุณตรงไหน? !”
เสี้ยฉีชาวไม่ได้โง่ เวลาแบบนี้ถ้าเขายังดูเป้าหมาย ของเสี้ยสีชาวไม่ออกอีกละก็งั้นเขาก็เสียชาติเกิดแล้ว ตอนแรกเขายังคิดว่า ทำไมบริษัทเป็นร้อยไม่ได้เข้าพบ หลินจงเหว่ย แต่พวกเขากลับได้พบ
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ไม่ใช่เพราะว่าพวกเข้าเจ๋ง แต่ เป็นเพราะหลินจงเหว่ยอยากจะพบพวกเขาเอง!
“ทำผิดต่อฉัน ตระกูลเสี้ยของพวกคุณคู่ควรด้วย เหรอ!” หลินจงเหว่ยพูดขึ้นเสียงเย็น แล้วหยิบกล่องไม้ จันทน์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาปาใส่หน้าเสี้ยฉีชาว
เสี้ยนี่ชาวร้องเสียงหลงคำหนึ่ง เอามือปิดจมูกไว้ แล้วถอยหลังไปหลายก้าว
เสียงแคร่ง!
กระเบื้องลายครามในกล่องก็โดนปาตกพื้น แตก กระจายอยู่ทั่วพื้น
“ฉันจะสู้กันให้ตายกันไปข้างหนึ่งกับแกแล้ว!”
พอเห็นเสี้ยสีขาวโดนตี เสี้ยห้าวก็ใบหน้าแดงก่ำ กลายเป็นเหมือนสิงโตบ้าคลั่งขึ้นมาทันที แล้วพุ่งเข้า ใส่หลินจงเหว่ยอย่างโกรธจัด
หลินจงเหว่ยยิ้มเสียงเย็นคำหนึ่ง แล้วเตะเสี้ยห้าว ล้มลงกับพื้น
“เข้ามา!”
บอดี้การ์ดที่อยู่หน้าห้องได้ยินความเคลื่อนไหว ก็ พุ่งเข้ามาทันที
“ประธานหลิน!” พวกบอดี้การ์ดหลายคนมองไป ทางหลินจงเหว่ยอย่างพร้อมเพรียง
“เจ้าโง่สองคนนี้อยากจะจู่โจมทำร้ายฉัน ให้พวก มันรู้หน่อยซิ ว่าที่นี่มันที่ของใคร!” หลินจงเหว่ยยิ้มเย็น แล้วพูด ตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากที่เฉินจงมอบหมาย หน้าที่มาให้เขาแล้วนั้น เขาก็คิดว่า จะทำยังไงให้สอง พ่อลูกเสี้ยฉีชาวโกรธเคืองจนพวกเขาลงมือเองก่อน สุดท้ายเสี้ยห้าวก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ
“ครับ ประธานหลิน”
พวกบอดี้การ์ดยิ้มอย่างโหดเหี้ยม กำหมัดแน่น แล้วล้อมสองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวไว้ตรงกลาง
หลังจากเสียงร้องอย่างเจ็บปวดผ่านไปแล้ว เสี้ยี ชาวและเสี้ยห้าวก็จมูกเขียว ช้ำ หน้าบวมเบ่งนอนอยู่บน พื้น โดนตีจนมีแต่ลมหายใจเข้า ไม่มีลมหายใจออก “ยกพวกมันออกไป แล้วบอกคนของบริษัทพวกนั้น
ที่รอเจรจาธุรกิจอยู่หน้าประตูว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้า
อยากจะร่วมงานกับบริษัทติ่งเฟิง ก็จะต้องตัดขาด
ความสัมพันธ์กับตระกูลเสี้ยก่อน ไม่งั้นเรื่องร่วมธุรกิจกันก็ไม่ต้องมาคุย!”
สองพ่อลูกเสี้ยฉี่ซาวที่นอนอยู่บนพื้นพอได้ยินคำ พูดแบบนี้ ก็หน้ามืดหายใจไม่ออกขึ้นมา แล้วสลบไป เลยทันที
พวกบอดี้การ์ดยกทั้งสองคนออกไป แล้วเหมือน กับโดนหมาตัวหนึ่ง โยนทั้งสองคนไว้ตรงหน้าประตู
ผู้คนมากมายจากบริษัทอื่นที่รออยู่ตรงหน้าประตู ต่างก็มองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน สองพ่อลูกตระกูลเสี้ยไม่ใช่ได้ ไปคุยธุรกิจกับหลินจงเหว่ยอย่างสมปรารถนาแล้ว ไม่ใช่เหรอ? ทำไมพอผ่านไปพริบตาเดียวก็โดนโยน ออกมาแบบนี้
ตอนนั้นพวกเขายังอิจฉา นึกว่าตระกูลเสี้ยจะได้ เป็นบริษัทแรกที่ได้ร่วมงามกับบริษัทติ่ง เฟิง พอเห็น สภาพยับเยินของสองพ่อลูกเสี้ยฉีชาว คนทั้งหมดต่าง ก็สุดอากาศเย็น ๆ กันเข้าไปทีหนึ่ง โชคยังดีที่คนที่ เข้าไปไม่ใช่พวกตน
พวกบอดี้การ์ดถ่ายทอดคำพูดของหลินจงเหว่ยอ อกไปอีกครั้ง
พอฟังจบ ผู้คนก็เริ่มแตกตื่นกันขึ้นมา
“สองพ่อลูกตระกูลเสี้ยนี่กล้าขนาดนี้เลยเหรอ? กล้าจู่โจมทำร้ายประธานหลินในบริษัทติ่งเฟิงเลยเห รอ”
“ฮา ฮา ฮา ฉันจะตายอยู่แล้ว เจ้าจิ้งจอกเฒ่า เสี้ยหยุนเส็ง ทำไมถึงได้ส่งคนโง่แบบสองคนนี้มา”
“ตระกูลเสี้ยจบแล้ว ประธานหลินยังพูดแบบนี้แล้ว งั้นต่อไปนี้คงไม่มีใครกล้าร่วมงานกับตระกูลเสี้ยอีก แน่นอน”