ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 17

ตอนที่ 17

บทที่ 17 โดนสวมเขา

เวลานี้เฉินเฟิงกลับไม่แปลกใจเลย เขาเข้าใจดี วัฒนธรรมของคนตระกูลใหญ่แบบนี้ ตำแหน่งหัวหน้า ตระกูล ยังไงก็ต้องสืบทอดให้ผู้ชายไม่สืบทอดให้ผู้ หญิงตลอดกาลอยู่แล้ว

“เฮ้อ มีคนบางคน ก็มักจะคิดว่าตัวเองเป็นสิ่ง สำคัญ คิดว่าพอนอนกับหลินจงเหว่ยไปแล้ว ก็จะ สามารถสมหวังทุกประการแล้วเหรอ?” เสี้ยจื่อหลันพูด เยาะเย้ยขึ้นมาประโยคหนึ่ง หลังจากพูดจบแล้ว เธอ ยังตั้งใจมองไปทางเฉินเฟิงครั้งหนึ่ง หัวเราะแล้วถาม ขึ้น “เฉินเฟิงนายยังไม่รู้ใช่ไหม ว่าเมื่อวานเมียนายไป เจรจาธุรกิจกับผู้จัดการใหญ่ของบริษัทติ่งเฟิงมายัง ไง”

“หือ?” เฉินเฟิงยักคิ้ว

“ได้ยินมาว่า พวกเขาสองคนไปเปิดห้องที่โรงแรม ฮิลตัน ยังเปิดห้องเพรสซิเดนท์สูทด้วยนะ และเจรจา กันนานถึงสามชั่วโมงเลย”เสี้ยจื่อหลันพูดใส่นมใส่ไข่ เพื่อจะยุแยงตะแคงรั่ว

“จากนั้นล่ะ?”

เฉินเฟิงแสร้งทำเป็นตกใจ แล้วถามขึ้น เสี้ยเมิ่ง เหยาเจรจาธุรกิจกับหลินจงเหว่ยยังไงนั้น เขารู้ดียิ่ง กว่าใคร ยัยผู้หญิงโง่เสี้ยจื่อหลัน ที่ใส่ไว้ในสมองมีแต่ ปูนหรือไง?
“อะไรจากนั้นล่ะ? เฉินเฟิง นายนี่สมองพิการเห รอ? หลินจงเหว่ยหล่อเหลาและมีเงินทอง และ เสี้ยเพิ่ง เหยาก็สะสวย แล้วพวกเขาก็อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ถ้า ฉันจะพูดว่าพวกเขาอยู่ในโรงแรมสองสามชั่วโมงเพื่อ เขียนการบ้านกัน นายจะเชื่อเหรอ?” เสี้ยจื่อหลันไม่ได้ โกรธแค่เพียงสิ่งเดียว เจ้าโง่เฉินเฟิงนี่ ตัวเองพูดเป็น นัยชัดเจนขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่เข้าใจอีก

“เชื่อซิ” เฉินเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ พวก เขาเขียนการบ้านอยู่ด้วยกัน เมิ่งเหยากลับมาก็บอกฉัน หมดแล้ว”

“ฮา ฮา”

เสี้ยเมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะมีเสียงออกมา เธอดูออกตั้งนานแล้วว่า เฉินเฟิงกำลังแกล้งโง่อยู่ เพื่อ แกล้งเสี้ยจื่อหลันเหมือนแกล้งลิงเล่น เจ้าชั่วนี่ กลาย เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

พอเห็นเสี้ยเมิ่งเหยาหัวเราะ เสี้ยจื่อหลันก็รู้สึกถึง ความผิดปกติ แต่ว่าเวลานี้ เธอทำได้แค่กัดฟันแน่นและ พูดอย่างหัวชนฝาว่า “เฉินเฟิง เจ้าคนปัญญาอ่อน เสี้ย เมิ่งเหยาสวมเขาให้แกแล้ว แกรู้ตัวหรือยัง!”

“อ่อ ฉันรู้แล้ว” เฉินเฟิงพูดขึ้นสีหน้าจริงจัง เสี้ยจื่อหลันพูดไม่ออก รู้แล้วยังสงบนิ่งได้ขนาด

นี้?

“เฉินเฟิง นายยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า? โดนเมียตัวเองสวมเขาแล้ว นายไม่โกรธบ้างเลยเหรอ?” เสี้ยจื่อ หลันก่นด่าออกมา

“ทำไมฉันจะต้องโกรธ?” เฉินเฟิงถามกลับ

“นาย….นายนี่มันคนไร้ค่าจริง ๆ !” เสี้ยจื่อหลัน ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

“เขาไม่ใช่ไม่กล้าโกรธ แต่คือโกรธแล้วก็ไม่กล้า ทำอะไรเสี้ยเพิ่งเหยาอยู่ดี” เสี้ยห้าวเยาะเย้ยเสียงเรียบ เขาดูถูกเฉินเฟิงมาจากก้นบึ้งหัวใจเลย รู้สึกว่าเฉินเฟิง ทำให้ขายหน้าผู้ชายหมดเลย วันนั้นที่ห้องไหว้ บรรพบุรุษ เขาเหยียดหยามเฉินเฟิงขนาดนั้น เฉินเฟิ งกลับไม่พูดอะไรสักแอะ

“เสี้ยห้าว ได้ยินมาว่า เมื่อวานนายโดนคนตีมา นายยังโอเคอยู่ไหม?” เฉินเฟิงดูมีสีหน้าจริงใจ ถ้าคนที่ ไม่รู้ยังจะคิดว่าเขาเป็นห่วงเสี้ยห้าวจริง ๆ

“พอเลย ฉันโดนตีแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนไร้ค่า อย่างนายด้วย!” เสี้ยห้าวสีหน้าดูไม่ดีขึ้นมาทันที เมื่อ วานเขาโดนหลินจงเหว่ยตีจนเกิดภาพฝังใจ เพราะ ฉะนั้นตอนนี้ เขาจะเกลียดที่สุดถ้าคนอื่นพูดถึงเรื่องนี้

แต่ว่าเฉินเฟิงกลับยังสาดเกลือลงบนแผลของเขา

“ฉันแค่เป็นห่วงเป็นใยนายหน่อยเท่านั้นเอง ทำไม นายต้องโกรธด้วยละ” เฉินเฟิงถอนหายใจ แล้วพูดขึ้น

“ไสหัวไป! กูไม่ต้องการให้คนไร้ค่าอย่างถึงมา ห่วงใย ถึงมันไอ้คนไร้ค่าที่โดนคนสวมเขาแล้ว กล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ มีสิทธิ์อะไรมาห่วงใยกู!” เสี้ยห้าวตะคอกออกมาอย่างโกรธจัด

เสี้ยเมิ่งเหยายืนมองอยู่ข้าง ๆ ตกใจจนปากค้าง เหมือนกับว่าเพิ่งรู้จักเฉินเฟิงครั้งแรก นี่ยังใช่สามีที่ อ่อนแอของตัวเองอีกเหรอ? ทำไมฝีปากดีขนาดนี้ แค่ สองสามคำก็ทำให้เสี้ยห้าวโกรธจนระเบิดออกมาได้ ขนาดนี้

“โดนคนสวมเขากับห่วงใยนาย ระหว่างสองเรื่องนี้ มันขัดแย้งกันเหรอ? หรือว่าฉันโดนสวมเขาแล้วก็ไม่ สามารถห่วงใยนายได้แล้วเหรอ?” เฉินเฟิงยังคงมี ใบหน้าที่จริงใจเหมือนเดิม

“ถึงหุบปากให้กเดี๋ยวนี้ !” เสี้ยห้าวโกรธจนเดือด จัดแล้ว อยากจะกระโดดขึ้นมาเตะเฉินเฟิงสักที ที่จริง วันนี้เขากะว่าจะมาโอ้อวดต่อหน้าเสี้ยเมิ่งเหยาสัก หน่อย ให้เสี้ยเมิ่งเหยาสะเทือนใจสักหน่อย แต่ปรากฏ ว่าพอโดนเฉินเฟิงมาก่อกวนแบบนี้ คนที่สะเทือนใจ กลับเป็นตัวเขาซะเอง

มุมปากของเสี้ยเพิ่งเหยามีรอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้น มา ทำไมเมื่อก่อนเธอถึงไม่พบว่า เฉินเฟิงยังมีด้านที่ สนุกขนาดนี้ด้วย

“เธอยิ้มอะไร นั่งคนชั้นต่ำ? !” ตอนนี้เสี้ยห้าวที่ อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว พอเห็นเสี้ยเมิ่งเหยายิ้มแล้ว

อารมณ์ของเขาก็ยิ่งไม่ดีขึ้นไปอีก

“เสี้ยห้าว ปากนายให้มันสะอาดหน่อย!” เสี้ยเมิ่งเหยาตาขวางขึ้นมา อารมณ์ก็ร้อนตามขึ้นมาด้วยทันที

สีหน้าของเฉินเฟิงก็เย็นลง เสี้ยห้าวด่าเขา เขา สามารถไม่ใส่ใจได้ แต่ด่าเสี้ยเมิ่งเหยา ก็คือการ ท้าทายขีดจำกัดของเขาแล้ว

“เธอนี่มันคนชั้นต่ำ ฉันให้หน้าเธอเกินไปแล้วใช่ ไหม? อย่าคิดว่าไปนอนกับหลินจงเหว่ยมาครั้งเดียว เธอก็จะมาเดินเบ่งในตระกูลเสี้ยได้ ตระกูลเสี้ยของเรา ไม่ใช่ที่ที่ผู้หญิงไม่รักดีขายตัวแบบเธอจะมามีสิทธิ์พูด” คำพูดของเสี้ยห้าวด่าได้น่าเกลียดมาก หน้าอกของ เสี้ยเมิ่งเหยาหายใจเข้าออกจนกระเพื่อม เห็นได้ชัดว่า โกรธอยู่ไม่ใช่น้อย

“แกกล้าด่าเมิ่งเหยาอีกคำดูซิ!” ใบหน้าของ เฉินเฟิงเย็นเฉียบจนน่ากลัว

เสี้ยห้าวที่สบโดนสายตาเย็นเฉียบที่ไร้ความรู้ใด ๆ ทั้งคู่ของ เฉินเฟิงแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะขนลุกขึ้นมา แต่ ว่าเขาก็ยังปากแข็ง พูดขึ้นว่า “ด่าก็ด่า ฉันเป็นพี่ชาย ของเธอ จะด่าเธอสักคำสองคำไม่ได้เหรอ? แต่กลับ เป็นนาย ที่เป็นเพียงแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้าน กินของ ตระกูลเสี้ยเรา ใช้ของตระกูลเสี้ยเรา นายจะทำอะไร? นายกล้าตีฉันเหรอ?”

“เพี้ยะ”

หนึ่งฝ่ามือของเฉินเฟิง ตบจนเสี้ยห้าวหมุนตัวอยู่ กับที่ไปหนึ่งรอบ และฟันก็หลุดออกมาสองซี่
“ขอโทษด้วยนะ นายพูดถูกแล้ว ฉันกล้าตีนายจริง

ๆ ด้วย” เฉินเฟิงพูดขึ้นเสียงเรียบ มังกรยังมีเกล็ดที่เป็น จุดอ่อน พอใครแตะโดนก็ต้องโกรธ และเสี้ยเมิ่งเหยาก็ คือเกล็ดที่เป็นจุดอ่อนของเขา!

เสี้ยห้าวจะเหยียดหยามเขาแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้า เหยียดหยามเสี้ยเมิ่งเหยาก็คือรนหาที่ตาย!

หนึ่งฝ่ามือนี้ตบจนเสี้ยห้าวมีดาวหมุนเต็มสองตา หลังจากผ่านไปหลายวินาทีแล้วเขาถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองโดนไอ้คนไร้ค่าเฉินเฟิงนี่ตบเข้าให้แล้ว ? !

หลินจงเหว่ยตีตัวเองก็ช่างเถอะ แต่เฉินเฟิงมันถือ เป็นตัวอะไร มีสิทธิ์อะไรมาตีเขา! เสี้ยห้าวโกรธขึ้นมา ทันที

“เฉินเฟิง กูจะยำแม่ถึง!” เสี้ยห้าวตะคอกออกมา อย่างโกรธจัด แล้วก็พุ่งเข้าใส่เฉินเฟิง

เฉินเฟิงยิ้มอย่างดูถูก แค่รูปร่างเล็กแบบเสี้ยห้าว พูดอย่างไม่อลังการคือ เขาสามารถตีได้ทีเดียวสิบคน!

“เพี้ยะ”

แล้วก็อีกหนึ่งฝ่ามือ เสียงห้าวเหมือนกับเป็นลูกข่าง หมุนอยู่กับที่อีกหนึ่งรอบ “เฉินเฟิง แกทำอะไร! ทำร้ายคนมันผิดกฎหมาย

นะ แกรู้หรือเปล่า” เสี้ยจื่อหลันเริ่มลนลาน อยากจะ

เข้าไปขวางเฉินเฟิงไว้

“ให้ฉันหุบปากเดี่ยวนี้! ถ้ายังพูดมาก เธอก็จะโดนตบไปด้วย!” เฉินเฟิงพูดอย่างโหมเหี้ยม

เสี้ยจื่อหลันเงียบเสียงลงทันที

เฉินเฟิงไม่มีความคิดที่จะทะนุถนอมอยู่แล้ว และที่ สำคัญเขาก็มองเสี้ยจื่อหลันขัดตามานานแล้ว ถ้า เสี้ยจื่อหลันยังพูดมากอีก เขาก็ไม่รังเกียจที่จะให้ เสี้ยจื่อหลันได้รับรู้รสชาติการโดนตบฉาดใหญ่บ้าง

โดนเฉินเฟิงตบติดต่อกันสองฉาด เสี้ยห้าวถึงกับ มึนงงแล้วจริง ๆ

นี่ยังเป็นลูกเขยไร้ค่าคนนั้น ที่ปากคนตระกูลเสี้ย ชอบพูดว่า โดนตีแล้วไม่ตีคืน โดนด่าแล้วไม่ด่าคืนเห รอ? ทำไมวันนี้โหดเหี้ยมขนาดนี้

ตาเห็นเฉินเฟิงเดินมาทางตัวเองอีกแล้ว ในใจเสี้ย ห้าวก็อดไม่ได้ที่จะมีความกลัวพุ่งขึ้นมา

“เฉินเฟิง แก….แกจะทำอะไร? ฉันเป็นทายาท

เพียงคนเดียวของตระกูลเสี้ยนะ ถ้าแกตีฉันจนเป็น อะไรไปละก็ คุณปู่ต้องไม่ปล่อยแกไว้แน่!” เสี้ยห้าวพูด ข่มขู่อย่างทำเป็นเก่ง

เฉินเฟิงยิ้มเสียงเย็น แล้วพูดขึ้น “นายรู้สึกว่าฉัน จะกลัวเสี้ยหยุนเส็งเหรอ?” “แก ….แก่บ้าไปแล้วใช่ไหม!” เสี้ยห้าวจ้องตาเขม็ง เฉินเฟิงถึงขนาดกล้าเรียกชื่อของเสี้ยหยุนเส็งเฉย ๆ

เลยเหรอ

“ไอ้เนรคุณ!”
“นี่มันรุนหาที่ตายชัด ๆ !”

“ไล่มันออกจากตระกูลเสี้ยไปเลย!”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

“คุณชาย ท่านใช้เงินช้าเกินไปแล้ว ตระกูลให้เงินพันล้าน หนึ่งเดือนแล้ว ทําไมยังไม่ใช้ หมดขอรับ?”ในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลร่ํารวยที่สุด เฉินเฟิงกลัดกลุ้มใจมาก คนอื่น นั้นล้วนแต่ ถ้าไม่ขยันทํางาน ก็ต้องกลับบ้านไปทํานาแต่เฉินเฟิง ถ้าเขาไม่พยายามเป็น ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ก็ต้องกลับไปสืบทอดทรัพย์สินหลายล้านล้าน โธ่ การ ดําเนินชีวิตมันยากจริงเลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท