บทที่ 21 มือซ้ายหรือว่ามือขวา
“เชี่ย….
กู้ตงเชินโดนเสียงนี้ทำให้ตกใจสะดุ้ง กำลังจะเอ่ย คำด่าออกมา แต่พอเหลียวหลังไปมองเห็นภาพนี้แล้ว นัยน์ตารีบหุบเข้าหากัน หายใจเอาอากาศเย็น ๆ เข้าไป อย่างไม่รู้ตัว
คำว่า แม่ง โดนเขาข่มลงไปอย่างยากเย็น
“น้องชายเดินเข้ามาผิดประตูแล้วมั้ง?”
กู้ตงเชินค่อย ๆ หยิบมีดสั้นออกมาจากใต้โต๊ะเล่ม หนึ่ง แล้วหรี่ตาถามออกไป เขาอยู่ในวงการนี้มายี่สิบ กว่าปี เห็นคนมามากมายหลายรูปแบบ ฉะนั้นเขาจึงดู คนแม่นมาก คนแบบไหนล่วงเกินได้ คนแบบไหนล่วง เกินไม่ได้ เขามองทีเดียวก็มองออกได้แล้ว
ผู้ชายที่ท่าทางสงบนิ่งตรงหน้า เป็นคนที่มักจะพบ ได้น้อย คนแบบนี้ทำให้เขาเกรงกลัวจนไม่กล้าไปล่วง เกินอย่างแน่นอน!
เฉินเฟิงไม่ได้สนใจกู้ตงเชิน เวลาแบบนี้ในสายตา ของเขามีแต่เสี้ยเพิ่งเหยาเท่านั้น พอเห็นว่าเสี้ยเมิ่ง เหยาไม่เป็นอะไร จิตใจที่วิตกกังวลอยู่ตลอดของเขา ถึงได้วางใจลงในที่สุด
“น้องชายถูกใจผู้หญิงคนนี้เหรอ?”
กู้ตงเซินลองถามดู ตั้งแต่ที่เฉินเฟิงเข้าประตูมาเขาก็เริ่มสังเกตปฏิกิริยาของเฉินเฟิงแล้ว เพราะฉะนั้น พอปฏิกิริยาของเฉินเฟิงตอนนี้ตกอยู่ในสายตาเขา ก็ ทำให้เขามีความรู้สึกบางอย่างว่า เฉินเฟิงถูกใจเสี้ยเมิ่ง เหยาแล้ว
กู้ตงเซินไม่เคยคิดมาก่อน ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขาคนนี้ จะเป็นคนไร้ค่าที่เขาเคยพูดว่า อยากยังไม่ อยากจะเจอเลยคนนั้น
“ถ้าหากน้องชายไม่รังเกียจแล้วล่ะก็ สามารถ… พร้อมกับฉันได้นะ”
กู้ตงเชินใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแล้วเดินไปทาง
เฉินเฟิง
“ฟิ้ว”
ลำแสงสีเงินเย็นพุ่งเข้ามา!
ช่วงที่เข้าใกล้เฉินเฟิงนั้น ท่าทางของกู้ตงเชินดู โหดเหี้ยม เขาล้วงมีดสั้นที่อยู่ข้างหลังตัวเองออกมา แล้วแทงไปเส้นเลือดใหญ่ตรงคอของเฉินเฟิงอย่าง รวดเร็ว!
กู้ตงเชินแสยะยิ้มอย่างได้ใจ เหมือนกับว่าเขาได้ เห็นเลือดสด ๆ ของเฉินเฟิงไหลออกมาแล้วอย่างนั้น จะไม่พูดก็ไม่ได้ ความเร็วที่กู้ตงเชินลงมือนั้นถือว่า
เร็วมากแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไปนั้น ก็คงจะเสีย
ชีวิตให้กับการแทงแบบจู่โจมอย่างไม่คาดคิดของเขา
แล้วจริง ๆ
แต่ว่าเฉินเฟิง ไม่ใช่คนทั่วไป!
ตั้งแต่หกขวบ เขาก็ต้องยอมรับการฝึกราวกับนรก จากแม่ของเขา การต่อสู้ทุกรูปแบบ การลอบฆ่า และ การฝึกฝนร่างกายแบบต่าง ๆ ….ทุก ๆ วัน ทุก ๆ ปี
ปีที่เขาสิบขวบ เฉินเฟิงก็สามารถต่อสู้กับชาย ฉกรรจ์สามคน และไม่แพ้ด้วย
พออายุสิบสามก็ฆ่าหมาป่าได้ อายุสิบหกก็สู้กับ เสือได้แล้ว….
สามารถพูดได้ว่าครึ่งชีวิตแรกของเฉินเฟิง เกือบ ทุกวันเขาผ่านมากับการต่อสู้และฝึกฝนทั้งนั้น
เพราะว่าแม่ของเขาเคยบอกเขาว่า ถ้าอยากจะอยู่ รอดในโลกที่คนอ่อนแอเป็นเหยื่อของคนที่แกร่งกว่า เขาก็จำเป็นต้องมีพละกำลังที่เหนือกว่าคนธรรมดา ทั่วไปเป็นร้อยเท่า!
ต้องทนลำบากได้ทุกอย่าง ถึงจะได้รับการยกย่อง จากผู้อื่น
และเพื่อที่จะกลายเป็นคนที่อยู่เหนือคนอื่น เพื่อ ปกป้องแม่ไม่ให้ถูกตระกูลเฉินเหยียดหยาม เฉินเฟิง ต้องทนลำบากมานับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นตอนนี้ เขา เห็นท่าทางของกู้ตงเชินแล้วนั้น มันช่างดูน่าขำ
มันเชื่องช้าอย่างกับหอยทาก!
เฉินเฟิงยิ้มอย่างดูถูก แล้วยื่นนิ้วออกมาสองนิ้ว
มีดสั้นที่แฝงไปด้วยแสงเย็นนั้นหยุดลงก่อนจะถึง คอของเฉินเฟิงหนึ่งนิ้ว และไม่มีทางที่มแทงเข้าไปได้ อีก
กู้ตงเซินอดกลั้นจนหน้าแดง ใบหน้าเต็มไปด้วย ความตกใจ
“คึก”
เฉินเฟิงเพียงแค่ใช้แรงเบา ๆ
มีดสั้นที่ทำจากเหล็กเย็นก็หักออกตามเสียง เหมือนกับแผ่นไม้
ลูกกระเดือกของกู้ตงเขินพลางขยับขึ้นลง ตาโต อ้าปากค้าง
“นาย …..นายเป็นคนมีวิชาเหรอ? !” กู้ตงเชินพูด ออกมา นอกจากคำว่าคนมีวิชาแล้ว เขาก็ไม่มีคำอื่นมา บรรยาย ว่าทำไมการกระทำของเฉินเฟิงถึงได้น่ากลัว ขนาดนี้
เฉินเฟิงหัวเราะเสียงเย็น แล้วยกหมัดขึ้นมาต่อย ไปที่หน้าของกู้ตงเชิน
กู้ตงเซินลอยออกไปเหมือนอย่างกับลูกบอล กระทบกับกำแพงห้องส่วนตัวจนเป็นรอยร้าว
“อ่า”
กู้ตงเชินกระอักเลือดสด ๆ ออกมาคำใหญ่ ดูห่อ เหี่ยวไปในชั่วพริบตา
“น้องชาย มีอะไรก็พูดกันดี ๆ ก็ได้ ผู้หญิงคนนี้ ฉัน ไม่เอาแล้ว..” กู้ตงเชินลุกขึ้นยืนจากพื้นอย่าง ทุลักทุเล แล้วพูดจาอย่างยอมอ่อนข้อให้
เฉินเฟิงใบหน้าเย็นชา แล้วถีบอีกทีหนึ่งไปที่หน้า แข้งของกู้ตงเป็น
“พลัก”
เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างชัดเจน กู้ตงเชินร้อง เสียงหลง เขากึ่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ใบหน้าทั้งหน้าอด กลั้นจนเป็นสีตับหมูแล้ว
“พี่ใหญ่!”
เวลานี้ เสียงดังกังวานเสียงหนึ่งดังขึ้น
พอได้ยินเสียงนั้น กู้ตงเชินก็เหมือนคว้าฟางเส้น สุดท้ายได้ รีบร้อนตะโกนว่า “อาเหา ช่วยฉันเร็ว!”
เฉินเฟิงหั่นหน้าไปดู สายตาจ้องเขม็ง แล้วยกหมัด เหวี่ยงออกไปทางเงาร่างดำ ๆ นั้น
เงาร่างนั้นก็ไม่ใช่ย่อย รีบสวนคืนเฉินเฟิงหนึ่ง
หมัด!
ผลัว
หลังจากเสียงดังผ่านไปแล้ว เฉินเฟิงแค่สะดุด ถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่เงาร่างนั้นกลับถอยหลังไป สามก้าว!
ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าของคนคนนั้น ก็ค่อย ๆชัดเจนขึ้นมา
ชายหนุ่มที่ถูกกู้ตงเชินเรียกว่าอาเหานั้น ความสูง ไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบ มีรูปร่างผอมเล็กดูเฉลียวฉลาด ถ้า เทียบร่างกายแล้วอาเหาไม่สามารถเทียบกับผู้ชาย ฉกรรจ์ที่อยู่ข้างหลังเขาได้แม้แต่คนเดียว
แต่ว่าชายฉกรรจ์สิบกว่าคนนั้น ล้วนแล้วแต่เคารพ นับถืออาเหา และที่สำคัญบนตัวอาเหายังมีกลิ่นอาย เลือดที่เข้มข้นแบบล้างไม่ออกอีกด้วย
กลิ่นอายแบบนี้ เฉินเฟิงคุ้นเคยยิ่งนัก!
เป็นกลิ่นอายที่ต้องฆ่าคนมาแล้วมากมายถึงจะมี
ได้!
บนตัวอาเหานี้ คงจะแบกชีวิตคนมาแล้วไม่น้อย
“อาเหา รีบฆ่ามันซะ รีบฆ่าไอ้ชาติชั่วนี่ให้ฉันเร็ว ๆ” พอเห็นอาเหาเท่านั้น กู้ตงเชินก็ดูมีความกล้าหาญขึ้น มาทันที อาเหาเป็นคนเก่งกาจที่เขาขุดออกมาจาก วงการมวยใต้ดินของประเทศหนึ่งในแถบทวีปยุโรป เมื่อเจ็ดปีก่อนวงการมวยใต้ดินของที่นั่น ไม่เหมือนกับ การชกต่อยเล่น ๆ ของภายในประเทศ ทุกยกของที่นั่น คือต้องถึงขั้นพนันกันด้วยชีวิตทั้งนั้น!
ขอแค่ยืนอยู่บนสังเวียน ก็จะต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่าย ใดตายทั้งนั้น การต่อสู้ถึงจะสิ้นสุดลงได้ แม้แต่ขอยอม แพ้ก็ไม่ได้!
สถิติตอนนั้นของอาหาร คือ ชนะสิบเจ็ดครั้งรวด!เขาเกือบจะกวาดสนามมวยนั้นจนเรียบแล้ว!
กู้ตงเชินใช้เงินไปยี่สิบกว่าล้าน ถึงซื้อตัวอาเหามา จากมือเถ้าแก่สนามมวยนั้นมาได้
หลังกลับประเทศมาแล้ว อาเหาก็ไม่เคยทำให้เขา ผิดหวัง หลายปีมานี้ อาเหาต่อสู้เพื่อเขาทั่วทุกสาระทิศ ธุรกิจในมือของเขาเกือบครึ่ง ล้วนแล้วแต่เป็นอาเหา ช่วยเขาฟันฝ่ามาทั้งนั้น สำหรับอาเหาแล้ว กู้ตงเชินมี ความเชื่อมั่นอย่างบอกไม่ถูก
ถึงแม้เฉินเฟิงที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นคนมีวิชาก็เถอะ กู้ตงเชินก็ยังรู้สึกว่าอาเหาจะสามารถสู้ได้!
อาเหาไม่ได้ลงมืออีก แต่กลับมองเฉินเฟิงอย่าง เกรงกลัวที่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “น้องชายไม่คิดว่าจะ อธิบายอะไรหน่อยเหรอ?”
“นายอยากได้คำอธิบายอะไรล่ะ?” เฉินเฟิงพูด
เสียงเรียบ
“น้องชายอยู่ ๆ ก็ฝ่าเข้ามาในคลับเจวายของเรา อย่างไม่มีเหตุผล แล้วก็ยังลงมือทำร้ายพี่ใหญ่ของ เรา..
“อย่างไม่มีเหตุผลงั้นเหรอ?” อาเหายังพูดไม่ทัน จบ ก็โดนเฉินเฟิงยิ้มเย็นพูดขัดขึ้น “นายรู้ไหมว่าเธอ เป็นใคร?” เฉินเฟิงชี้ไปที่เสี้ยเมิ่งเหยาที่กำลังนอนสลบ อยู่บนโซฟาแล้วถามขึ้น
อาเหาหันกลับไปมองกู้ตงเชินทีหนึ่ง เขายังไม่รู้ที่มาที่ไปของเรื่อง รู้แค่เพียงว่ามีคนฝ่าเข้ามาในคลับเจ วายแล้วลงมือทำร้ายกู้ตงเชินเท่านั้น
แต่ตอนนี้ดูแล้ว เรื่องนี้เหมือนจะมีเหตุผลอื่น
“เธอ….เธอเป็นผู้หญิงของฉัน” กู้ตงเซินก็ยังพูด อย่างหัวชนฝา เขายังไม่รู้สถานะที่แท้จริงของเฉินเฟิง ก็เลยคิดว่าเฉินเฟิงคงจะเป็นเพียงยอดฝีมือลึกลับของ ตระกูลเสี้ยเท่านั้น
“เพี๊ยะ”
เฉินเฟิงตบไปที่หน้าของกู้ตงเชินทีหนึ่ง เพียงชั่ว พริบตาเดียวก็มีฟันติดเลือดหลุดออกมาจากปากของกู้ ตงเชินห้าหกซี่
“ผู้หญิงของแกเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มเสียงเย็น “แก คิดว่าตัวเองเป็นตัวอะไร!”
ใบหน้ากู้ตงเชินเต็มไปด้วยความอับอาย โดนตบ หน้าต่อหน้าลูกน้องเยอะขนาดนี้ พูดได้ว่าศักดิ์ศรีของ เขาหมดสิ้นแล้ว แต่ตอนนี้เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก
เขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อกี้ตอนที่อาเหาไม่อยู่ เขาโดน เฉินเฟิงสั่งสอนมันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ตอนนี้อาเหาอยู่ ต่อหน้าเขา เฉินเฟิงก็ยังกล้าตีเขาต่อหน้าอาเหา ยัง ทำให้อาเหาแม้แต่เวลาไหวตัวก็ยังไม่มี อยู่ ๆ กู้ตงเชินก็ รู้ตัวขึ้นมาแล้วว่า แม้แต่อาเหาก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ เฉินเฟิง!
และเป็นอย่างเช่นกู้ตงเชินคาดไว้ ตอนนี้กล้ามเนื้อทั้งตัวของอาเหากำลังหดเกรงแล้ว ถ้าจะพูดว่าเมื่อกี้ เฉินเฟิงแค่ทำให้เขาเกรงกลัว งั้นตอนนี้พละกำลังของ เฉินเฟิงก็มากพอที่จะทำให้เขาหวาดกลัวแล้ว
มันเร็วเกินไปแล้ว!
ความเร็วของเฉินเฟิงมันมากเกินไปแล้วจริง ๆ เร็ว
จนเขายังไม่ทันได้ตั้งตัว กู้ตงเชินก็ฟันหลุดออกมาห้า
หกซี่แล้ว ถ้าหากเขากับเฉินเฟิงดวลกันเพื่อความเป็นความ ตายแล้วละก็ โอกาสที่เขาจะมีชีวิตรอดคงจะมีเพียง
น้อยนิด!
“น้องชาย ว่าข้อตกลงมาเลยดีกว่า จะให้ทำยังไง นายถึงจะยอมปล่อยพี่ใหญ่ของฉัน” อาเหาสูดลม หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดขึ้น
อย่าดูว่าตอนนี้ข้างหลังเขาถึงจะมีชายฉกรรจ์ยืน อยู่สิบกว่าคน แต่เขารู้ดีว่าทางฝั่งเขาไม่มีโอกาสแม้แต่ นิดเดียว อยู่ต่อหน้ายอดฝีมืออย่างเฉินเฟิงนี้ จำนวน คนถือว่าเป็นแค่เรื่องตลก อย่าพูดว่าสิบกว่าคนถึงจะ เป็นร้อยคนก็ไม่มีทางข่มขวัญเฉินเฟิงได้หรอก
กู้ตงเชินจิตใจหม่นหมอง แม้แต่อาเหายังพูดแบบนี้ แล้ว งั้นก็บอกได้ว่าวันนี้เขาคงจะเจอของแข็งเข้าให้ซะ แล้ว
กู้ตงเซินยิ้มอย่างสังเวชใจ ตอนนี้คนที่เขาอยาก จะฆ่าให้ตายที่สุดก็คือเสี้ยห้าว เพราะว่าเป็นเพราะเสี้ย