ดาเรียสเลือกที่จะลองทดสอบสิ่งที่เขาคิดไว้ อย่างแรกคือสิ่งของที่สามารถหาได้เอง
[คุณต้องการแปลงหนังของหมีสีเทา เป็นคะแนนการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ……. ผิดพลาดหนังหมีสีเทาไม่ตรงกับข้อกำหนด]
ด้วยคาวมผิดหวัง ดาเรียสจึงทำรายอย่างที่ 2 ต่อไป สิ่งเหล่านี้เป็นไอเท็มที่ได้รับจากระบบ และไอเท็มดรอปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ น้ำยา หรืออัญมณีสีแดง แต่มันก็ผิดพลาดเช่นกัน ดาเรียสเริ่มรู้สึกท้อแท้ และดาเรียสได้ทดลองอย่างที่ 3 เป็นไอเท็มที่ดาเรียสหยิบขึ้นมาแบบสุ่ม ดาเรียสออกไปด้านนอกและหยิบก้อนหินขึ้นมา และกล่าวว่าหินนี้เป็นของเขาเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของความสามารถในการสร้างแบนรด์
และได้เปลี่ยนมันเป็นคะแนนการเปลี่ยนแปลง แต่นั้นก็ล้มเหลวเช่นกัน บางทีเทพีวีนา อาจจะกำลังมีความสุขที่ได้เห็นดาเรียสทำตัวอย่างคนโง่ ดาเรียสได้ไตร่ตรองเรื่องนี้
‘อะไรที่นับได้ว่า เป็นของที่มีเจ้าของได้บ้าง’ ไม่สิฉันควรถามตัวเอง ‘ความเป็นเจ้าของ งั้นหรอ’ มันหมายความว่าอะไรกันแน่ บุคคลที่มีคุณสมบัติในการครอบครอง ?
‘การลงทะเบียนว่าเป็นเจ้าของ ? หรือคนอื่นๆ มองว่า เป็นเจ้าของ ? หรือต้องมีสิทธิ์ตอนความชอบธรรม?’
ดาเรียสได้พิจารณาปัจจัยเหล่านี้
เพื่อดำเนิดการทดลองต่อไป สิ่งที่ดาเรียสจะต้องทำ
1.ลงทะเบียนความเป็นเจ้าของ ?
2.ซื้อสินค้าอย่างถูกกฏหมาย – หรือไม่ถูกกฏหมาย ?
3.ได้รับสินค้าในลักษณะที่ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นเจ้าของมันแล้ว ?
สำหรับ 2 ตัวเลือก แรก ดาเรียสจะต้องไปยัง เมืองอื่นๆ เพื่อไปทดสอบให้เป็นขั้นตอน และในข้อที่ 3 ดาเรียสจะสามารถทำได้โดยต้องใช้ดันเจี้ยน หรือ หาปาร์ตี้ที่จะตะลุยเก็บเลเวลและรับของรางวัล และคนอื่นๆ จะได้รับรู้
ใช่ นั้นเป็นสิ่งที่ดาเรียสได้รู้ว่ามันมีในเฟาสท์ แม้ว่าชาวบ้านจะไม่มีระดับ ประสบการณ์ แต่พวกเขาก็ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานที่คล้ายกันกับเกมบนโลก
มันอยู่ในรูปแบบของดันเจี้ยน นักผจญภัย กิลด์และอื่นๆ แน่นอนว่าผู้คนไม่สามารถอัพเลวเลได้ด้วยการเพิ่มค่าประสบการณ์ แต่พวกเขาสามารถฝึกฝนทักษะได้ และมันจะพัฒนาขึ้นตามธรรมชาติ ของใช้ภายนอกจำนวนมาก เช่น ยาหรือม้วนคัมภีร์ทำมาจากส่วนผสมเวทย์มนต์ที่หายากหรือชิ้นสัตว์ของมอนเตอร์ที่พบในดันเจี้ยน
กล่าวอีกอย่างได้ว่า ระบบนิเวศของเฟาสท์ผูกมัดดันเจี้ยนเอาไว้และดันเจี้ยนก็ไม่ได้แพร่หลายอย่างในเกมทั่วไป แม้แต่อาณาจักอันดราโต ก็มีดันเจี้ยนเพียง 25 ดันเจี้ยน และทั้งหมดตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองใหญ่ และเมืองเล็กๆ
นั้นคือเหตผลที่อาณาจักอันดราโตมี 20 เมืองเล็กๆ และมีเมืองใหญ่ 5 เมือง ดันเจี้ยนเปรียบเสมือนศูนย์กลาง เศรษฐกิจของคนที่นี่และได้รับการอ้างสิทธิ์ที่จะจัดการอย่างเหมาะสม สร้างผลกำไรไม่รู้จบสำหรับผู้ที่ตั้งรกรากอยู่ใกล้ๆ
เท่าที่ดาเรียสรู้จากแพคข้อมูล มันทำให้เขารู้ข้อมูลเกี่ยวกับอาราจักอันดราโต ดาเรียสจึงตัดสินใจเลิกใช้กฏข้อที่ 5 ของการเปลี่ยนแปลงซะก่อน ไม่มีทางแก้ปัญหาที่มองไม่เห็น จนกว่าจะเข้าไปยังตัวเมืองที่อยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้าน โพเลเรีย
สิ่งนี้นำดาเรียสไปสู่ปัญหาที่ 2 ที่ต้องตรวจสอบ นั้นคือการวิเคราะห์ที่มาของคลาสไอเท็มแมนเซอร์ก่อนอื่น อะไรคือคลาสไอเท็มแมนเซอร์
ดาเรียสเคยเห็นคำป็อปอัพบนโลกเพียงครั้งเดียว ในระหว่างอนิเมะเรื่องรอมคอมที่มีการอพยพ ที่เขาดูตอนอายุ 57 กับหลายชาย เป็นอนิเมะที่ค่อนข้างสนุก แม้ว่าดาเรียสจะไม่เข้าใจมุมกล้องว่าทำไมถึงได้ยั่วยุทางเพศตลอดเวลา บางทีอาจเป็นเพราะผู้ใหญ่มักนั่งดูร่วมกับคนหนุ่มสาว
ไม่ว่ากรณีใดๆ ตัวละครหลักเรื่องนั้น ถ้าเรียสจำไม่ผิด ดาเรียสเคยพบกับคนพากษ์ นั้นคือเหตุผลที่ดาเรียสกำหนดคลาสนี้เป็นคลาสผู้ประเมิน/หรือเปลี่ยนไอเท็ม เมื่อเห็นคลาสนี้บน วงล้อแห่งโอกาส
ในเรื่องนั้น ตัวละครมีความสามารถในการบอกลักษณะที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็นหรือแม้แต่แก้ไข้มันตามความต้องการ นั้นอาจจะเป็นที่มาของความสามารถในการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่มีคือศักยภาพสูงสุด ตัวละครนั้นดูเหมือนจะจำกัดอยู่ที่สิ่งของบางอย่างเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ซีซั่น ได้เปิดเผยว่านั้นเป็นตัวร้ายหลักของเรื่องและตัวละครนั้นก็เก็บว่อนความสามารถที่เลวร้ายเอาไว้
เพราะนั้นคือการความสามารถที่เปล่ยนผู้คนให้กลายเป็นสิ่งของ !!!
แต่ถึงอย่างนั้นอนิเมะเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีภาคต่อทันที และใช้เวลาอีกนานกว่าจะออกฉายอีกครั้ง ดาเรียสต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการปลอบเด็กๆ ที่ต้องการที่จะดูมากกว่านี้ และร้องขอให้ดาเรียสซื้อสตูดิโอเพื่อที่จะถ่ายทำมันต่อใให้เร็วและในที่สุด ดาเรียสก็เสียชีวิตก่อนที่จะได้รุ้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลับจากเรื่องนั้น
ดาเรียสเอนหลังและนั่งยิ้มเมื่อคิดถึงหลานชายทั้งสองคนของเขา โจนัสและเจมส์ โจนัสคนโตเป็นหัวหน้าสถานที่บันเทิงที่ดาเรียสสร้างขึ้นในขณะที่เจมส์อายุน้อยกว่าได้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว
ดาเรียสสงสัยว่าทั้งสองคนในตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เจมส์จะเลิกใช้ชีวิตที่หยาบกระด้างและออกมาใช้ชีวิตในแบบของตัวเองรึเปล่า และโจนัสละจะทำอะไร ดาเรียสเคยได้ยินมาไม่นานนี้ว่าลูกสาวคนโตของเพื่อ ได้กลายเป็นไอดอลไปแล้ว
ดาเรียสชะงักเมื่อจิตใจปลอดโปร่ง และหัวเราะออกมาอย่างเชื่องช้าเมื่อจำได้ว่า เขาไม่ได้อยู่บนโลกเดิมอีกแล้วแม้ว่าจะพยายามทำตัวเหมือนชายหนุ่มที่พร้อมจะแต่งงาน แต่จิตใจของดาเรียสยังทำให้เขาหลงไหลในนิสัยที่เขามีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ดาเรียสอายุเพียง 13 ปี แม้ว่าจะมีอายุของจิตใจมากว่า 70 ปี แต่ดาเรียสก็ไม่ได้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่จนเกินไป ไม่เช่นนั้นมันจะน่าสงสัยไป
ดังนั้นดาเรียสจึงดึงความคิดกลับไปสู่การพิจารณาที่เขากำลังทำอยู่ ทักษะการวิเคราะห์ของระบบ นั้นคล้ายกับความสามารถของดาเรียส แต่ข้อแต่กต่างคือ ดาเรียสมีข้อจำกัดต่างๆ และถึงเวลาที่ต้องทดสอบต่อไปแล้ว