ฟอลโดหัวเราะขึ้น ดาเรียสจำได้ว่าภายในห้องสมุดของแชงค์ส เขาได้เรียนรู้ว่าสัญญาณที่ชัดเจนในตัวบุคลในแต่ละด่านนั้นจะแสดงออกอย่างไร ซึ่งจะทำให้ผู้อื่นสามารถยืนยันความแข็งแกร่งของคนคนนั้นจากระดับพลังได้
ผู้ที่เป็นมือใหม่นั้นล้วนเป็นผู้ที่ฝึกหัดที่ฝึกทักพลังต่างๆ ในระดับพื้นฐาน และผู้วิเศษในระดับผู้ผจญภัยจะสามารถใช้สกิลต่างในระดับที่มากกว่าพื้นฐานแต่ก็ยังอ่อนแอในแง่ของพลังจิต
อันที่จริงม้วนคัมภีร์การปลุกพลังต้องใช้พลังจิตในการเขียน ซึ่งเป็นเหตผลว่าทำไมผู้วิเศษระดับสูงขึ้นไปเท่านั้น จึงเขียนได้ และผู้วิเศษระดับมาสเตอร์ที่มีพลังจิตเต็มรูปแบบ สามารถเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ สามารถลอยตัว เทเลพอร์ต และความสามารถอื่นๆ ทางจิตอื่นๆ
เดเมียนที่มีระดับสติปัญญาถึง 50 ทำให้เดเมียนสามารถปลดล็อคพลังจิตได้ในขั้นเริ่มต้น
“ฉันไม่เคยรับใครเป็นศิษย์มาก่อน มันต้องมีพิธีอะไรหรือเปล่าระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ที่ไม่มีทางการของเราสองคน”
ดาเรียสถามอย่างตื่นเต้น
ฟอลโดถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยิ้มขึ้น
“ไม่มีอะไรที่คุณต้องกังวล อาจารย์ ต่อจากนี้ฉัน ฟอลโด การิสัน และคนที่อยู่ใต้อาณัติของฉันก็จะให้การสนับสนุนอาจารย์อย่างเต็มในทุกๆ เรื่อง”
ฟอลโดที่กำลังทำธนู ดาเรียสยอมรับในข้อต่างๆ หลังจากนั้นดาเรียสก็เริ่มอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับแผนที่ 3 และ 4 ของเขา ที่จะเริ่ม
ฟอลโดที่กำลังยิ้ม เมื่อได้ยินแผนคร่าวๆ ของดาเรียส ใบหน้าของฟอลโดก็เคร่งขรึม ยิ่งฟัง ฟอลโลยิ่งสั่นเมื่อตระหนักว่าเขาเพิ่งได้ให้คำมั่นสัญญาณกับบุคคลที่อันตรายอย่างมาก
หลังจากที่ดาเรียสพูดจบ เขาก็จบการสนทนาว่า
“ดูก่อนว่าแผนจะสำเร็จหรือไม่ นอกจากนี้แสดงคลังไอเท็มให้ฉันดูด้วย ว่านายนั้นมาไกลขนาดไหนแล้ว”
ฟอลโดลุกขั้นและพยักหน้าอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน และหวั่นไหวกับความคิดของดาเรียส
อันที่จริงดาเรียสยังคงหาทางที่จะครอบครองเฟาสต์ และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรกับลูกศิษย์ ดาเรียสจะต้องจัดการด้วยการรับผ่านสกิลแบรนด์ แต่ดาเรียสไม่คิดจะทำกับฟอลโด เพราะไม่ต้องการให้เขาทำงานภายใต้เงามืด และคิดว่าจะให้ฟอลโดนั้นเป็นเสมือนมือขวา
ด้วยเหตุนี้ ดาเรียสจึงคิดว่าเขาต้องได้เห็นสิ่งที่ฟอลโดมีอยู่ ว่าเขานั้นจะสามารถสอนหรือทำอะไรกับฟอลโดได้บ้าง เนื่องจากความสามารถของการวิเคราะห์ของดาเรียส ไม่สามารถมองเห็นสกิลของฝ่ายที่เป็นมิตรหรือเป็นกลางได้
เพราะเมื่อมาถึง ฟอลโดก็มีสถานะเป็นกลาง และตอนนี้เขาก็มีสถานะเป็นมิตรแล้ว ถ้าเขามีสถานะเป็นศัตรูมาก่อนสิ่งต่างๆ ก็จะง่ายขึ้น
ดาเรียสและฟอลโดเดินผ่านทางเข้าลับที่ด้านหลังของตู้และมุ่งหน้าลงไปยั้นด้านล่าง ในห้องลับนี้มีขนาดใหญ่เท่ากับชั้นแรกของคฤหาสน์ทั้งหลัง
ดาเรียสเห็นหนังสือมากมาย และพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือ และมีแม้แต่อุปกรณืเล่นแร่แปรธาตุและอุปกรณืสำหรับการทดลองทางแป้นพิมพ์
ฟอลโดจะเป็นศิษย์ระดับสูง เขามีเงินมากพอที่จะสามารถมีทุกอย่างเป็นของตัวเอง ในขณะคนอื่นๆ ต้องดิ้นรน ด้วยเหตุนี้พรสวรรค์ด้านเวทย์มนต์ของเขาจึงอยู่ในระดับรองกว่าระดับสติปัญญาที่มีค่าสูงสุดของเขา
แต่การที่จะมาเป็นศิษย์อย่างไม่เป็นทางการของดาเรียส นั้นไม่ใช่ทางเลือกที่สะดวกสบายมากนัก
ดาเรียสมองไปรอบๆ และเดินหาสกิลที่ฟอลโดได้รวบรวมไว้ ดาเรียสสุ่มหยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งและตรวจสอบ
คาถาชำระล้าง – เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ความทนทาน: 2/5
คำอธิบาย: เป็นการชำระรูปลักษณ์ภายนอกของเป้าหมาย ไม่วา่จะเป็นร่างกายหรือเสื้อผ้า
ใบหน้าของดาเรียสรู้สึกตกตะลึงและสับสน เขาได้เรียนรู้เวทย์มนต์ระดับพื้นฐานที่มือใหม่ทุกคนควรจะมี แต่เขาไม่คิดว่ามันจะมีสกิลอะไรแบบนี้
ไม่น่าแปลกใจที่การพัฒนาเลเวลของมอใหม่หลายคนนั้นเป็นเรื่องยาก หากไม่มีอาจารย์หรือคนคอยดูแล หากไม่มีนักเวทย์ที่ชำนาญคอยชี้แนะเหล่ามือใหม่เกี่ยวกับวิธีการใช้เวทย์มนต์และสกิลต่างๆ อย่างเช่นฟอลโดที่ต้องพึ่งพาหนังสือเวทย์มนต์เหล่านี้ เพื่อที่จะอัพเลเวล นั้นคือสิ่งที่ยากลำบาก