ในใจกลางของถ้ำมีโลงศพขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้มะฮอกกานี เพียงแต่ทาสีดำ สิ่งที่ทำให้กันเนอร์และดาเรียสตกตะลึงคือ โลงศพที่ถูกล่ามโซ่อย่างหนาแน่นและโซ่เงินและกุญแจที่ล็อคขนาดใหญ่
เมื่อมองดู ดาเรียสและกันเนอร์ก็เดินเข้าไปใกล้กับโลงศพ พวกเขามองละสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสำรวจถ้ำเล็กๆ ที่แตกแยกออกไป แต่ก่อนที่จะไปสำรวจถ้ำเล็กๆ ดาเรียสก็ได้ตรวจสอบโลงศพนั้นก่อน
โลงศพแปลก – เบ็ดเตล็ด
ความทนทาน: ?/?
คำอธิบาย : โลงศพที่แผ่พลังแห่งความชั่วร้ายและความตายออกมาอย่างน่าตกใจ ไม่แนะนำให้เข้าใกล้
ดาเรียสรู้สึกเย้ยหยันกับการวิเคราะห์ด้วยทักษะปกติ ที่เขาไม่ค่อยพอ ดาเรียสจึงเปิดใช้การวิเคราะห์ของคลาสไอเท็มแมนเซอร์ของเขา และเขาตัดสินใจว่าเขาจะไม่ใช่ยุ่งกับทักษะการวิเคราะห์จากอินสเป็ท อีกเลย
โลงศพของลอร์ดดาร์ม – เหตุการณ์
ความทนทาน: 1,000,000/1,000,000
คำอธิบาย : พื้นที่ผนึกของลอร์ดดาร์มแวมไพร์ผู้ชั่วร้าย ถ้ำแห่งนี้ถูกทิ้งร้างโดยมนุษย์และสัตว์ประหลาดมานานหลายทศวรรษ อย่าอยู่ใกล้ๆ โลงศพนานเกินไป ไม่เช่นนั้นวิญญาณที่หลงเหลือของเจ้าของอาจชักจูงให้คุณเปิดผนึกเขาด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามที่จำเป็น
รายละเอียดกิจกรรม: การเปิดผนึกโลงศพจะเปิดใช้งานการอัพเกรดครั้งแรกของระบบซูพรีม (จะเปลี่ยนจากระบบพิเศษเป็นชื่อนี้แทนนะครับ ) และ ‘เควส’ รวมถึงเมนู ‘อีเว้นต์’ จะพร้อมใช้งาน จนกว่าการอัพเกรดนี้จะเสร็จสิ้น รายละเอียดของกิจกรรมจะไม่สามารถแสดงได้
ดาเรียสได้บอกกล่าวรายละเอียดนี้ให้กับกันเนอร์ได้รู้ เมื่อสำรวจถ้ำเรียบร้อย ทั้งสองก็ออกจากถ้ำ เมื่ออกไปด้านนอกทั้งคู่ก็ใช้ท่อนไม้มาปิดทางเข้าถ้ำเอาไว้ จากนั้นพวกเขาก็เดินจากไป
*
*
*
ดาเรียสกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องนอนของเขา และอ่านหนังสือเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองในอาณาจักรอันดราโต ในขณะที่กันเนอร์ฝึกยิดกล้ามเนื้อและออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการซิทอัพและวิดพื้น
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเพิ่มกล้ามเนื้อได้ด้วยวิธีนี้ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เขากระฉับกระเฉงเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อกันเนอร์กำลังออกกำลังอย่างสบายๆ ดาเรียสก็ได้มองดูเขา
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่ดาเรียสได้ผู้ติดตามคนแรกของเขามา และทั้งคู่ก็แข็แกงร่งแกร่งขึ้นอย่างมาก ดาเรียสได้สร้างคู่มือทักษะมากมายสำหรับกันเนอร์ เพื่อที่เขาจะได้ใช้ประโยชน์จากันเนอร์ ในขณะที่ดาเรียสได้เพิ่มรายการเพลงลงในแท็ปเล็ต
ดาเรียสได้สร้างคัมภีร์ปลุกพลังขึ้นมา 8 ม้วน ซึ่งทำให้เขาไม่มี CP เหลือที่จะสร้างม้วนเทเลพอร์ตเพิ่มหรือสิ่งอื่นๆ นอกเหนือจากทักษะ 2-3 อย่าง
บ้าจริง ถ้าไม่มีคู่มือเปล่าของฟอลโด ดาเรียสคงไม่สามารถสร้างสกิลให้ตัวเองได้ด้วยซ้ำ ดาเรียสแม้จะได้อัพเลเวลเพิ่มขึ้นมาถึง 3 เลเวล และกันเนอร์ได้มา 5 เลเวล แต่นั้นก็ยากเกินที่จะหาศัตรูที่แข็งแกร่งที่จะให้ค่า EXP มาพอสำหรับการแบ่งกัน
ในขณะที่เลเวลของกันเนอร์และดาเรียสก็ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น และที่ราบสีเขียวก็ไม่ได้เป็นถิ่นที่อยู่ของมอนเตรอ์ที่มีระดับสูงๆ
ดาเรียสตั้งหน้าตั้งตารอที่จะโตมตีเมืองและเข้าดันเจี้ยน ความสามารถในการต่อสู้ของเขาและกันเนอร์จะสามารถผ่านมันไปได้
ดาเรียสถอนหายใจและปิดหนังสือลง อารมณ์ที่จะอ่านหนังสือของเขาหายไป ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากร่างกายเด็กๆ หรือสิ่งต่างๆ ที่เขาจะร่วมรวมความรู้ได้ในอนาคต เขาเริ่มกระสับกระส่ายในขณะที่รอฟอลโดที่กำลังจะดำเนินตามแผน
ดาเรียสเลือกที่จะดูกันเนอร์ที่กำลังออกกำลังกาย จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าถี่ๆ และประตูห้องของพวกเขาก็เปิดออก เผยให้เห็นพอร์เทียก็เหงื่อซกและหวาดกลัว ซึ่งตื่นตระหนกเกินกว่าจะสังเกตว่าดาเรียสและกันเนอร์นั้นสวมใส่เพียงแค่กางเกง
“ท่านดาเรียส ท่านต้องหลบหนี กลุ่มโจรทั้ง 3 กำลังโจมตีหมู่บ้าน พร้อมกับพวกสัตว์ประหลาด ” พอร์เทียกล่าวอย่างตื่นตระหนก
ดาเรียสและกันเนอร์มองดูก่นอที่จะแต่งตัวให้เหมาะสม พอร์เทียเพิ่งจะสังเกตเห็นในสิ่งนี้และทำให้เธอหน้าแดงแล้วหันหลังหนี
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินเสียงของความโกลาหลจากภายนอก ทำให้เธอนึกถึงเหตุผลที่เธอเข้ามาและความหวาดกลัวก็ก่อขึ้นใหม่อีกครั้ง
“ท่านดาเรียส รีบหน่อยเถอะค่ะ มีทางหนีลับที่พ่อของฉันได้สร้างเอาไว้ ฉันจะพาท่านไปที่นั้น”
ดาเรียสหยุด คิ้วของเขาขมวดขณะที่เขาหันไปหาพอร์เทีย และดวงตาของเขาได้เป็นประกายในแบบที่พอร์เทียไม่เคยเห็นมาก่อน
“เธอพูดจริงงั้นหรอ เธอจะพาฉันไปที่เส้นทางหลบหนีที่พ่อเธอสร้างขึ้นาสำหรับครอบครัวเธอโดยเฉพาะ?”
พอร์เทียหยุดชั่วครู่และพยักหน้า และสับสนว่าทำไมดาเรียสถึงไม่พอใจที่เธอจะหาทางหนีให้เขา
“เอ่อ… ใช่ค่ะ ?”
ดาเรียสแต่งตัวเสร็จและกอดอกด้วยสีหน้าที่ดูสนุกสนาน
“และพ่อกับพี่ชายเธอละ”
พอร์เทียชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นดังนั้นดาเรียสก็ถอนหายใจและถามเธออีกครั้ง
“อื้ม ความคิดแรกของเธอในเหตุการณ์แบบนี้เธอกลับไม่ได้คิดถึงพ่อกับพี่ชายของเธอ แต่กลับคิดถึงแต่คนแปลกหน้าอย่างฉันยังหรอ ทำไมกัน ?”
พอร์เทียเงียบ เธอรู้ดีว่าทำไมเธอถึงคิดถึงดาเรียสก่อน แต่เธออายเกินกว่าจะพูดออกมาแะลเกรงว่าขุนนางหนุ่มผู้นี้จะผลักไสไล่ส่งเธอ และสิ่งที่ดาเรียสถามก็เป็นคำถามที่น่าอึดอัดใจ
ในขณะเดียวกันดาเรียสก้ได้ดึงสติเธอให้เธอได้นึกถึงครอบครัวของเธอก่อน แทนที่จะเป็นคนแปลกหน้าและเธอควรคิดให้มากกว่านี้เกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขา พอร์เทียนั้นรู้ดีว่าถ้าเธอพูดเหตุผลออกไปว่าทำไมถึงนึกถึงดาเรียสเป็นคนแรก เธอก็จะไม่เหลือศักดิ์ศรีเลย
ดาเรียสและกันเนอร์มองหน้ากันและยิ้ม และดาเรียสได้เดินไปจับไหล่พอร์เทีย
“พอร์เทีย เธอเข้ามานั่งที่โซฟาภายในห้องนี้ก่อน รอฉันที่นี่ และหากมีอะไรเดียวฉันจะพาเธอหนีเอง”
ดวงตาของดาเรียสเป็นประกาย และพอร์เทียก็พบว่าตัวเองถูกดูดเข้าไปในลูกแก้วคริสตัล
“รอฉันก่อนนะ ฉันจะจัดการพวกที่คุกคามหมู่บ้านของเธอและฉันจะกลับมาพร้อมกับชัยชนะ”