หลินมู่อวี่ควบม้าออกจากเมืองหลันเยี่ยนภายใต้แสงหมู่ดาวยามค่ำคืน
กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ไม่ว่าจะใช้ซื้ออาวุธ ม้า หรือแม้แต่การหาสมาชิกก็ต้องใช้เงิน และเงินเหล่านั้นได้มาจากการร่วมมือกับร้านค้าแห่งจักรวรรดิ หลินมู่อวี่มั่นใจว่าไม่มีผู้ใดในผืนแผ่นดินนี้สามารถสู้ฝีมือการปรุงโอสถและหลอมอาวุธของเขาได้!
อีกทั้งไม่ว่าจะต้องใช้เงินมากเพียงใด หลินมู่อวี่ยังคงเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าการก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดเป็นสิ่งจำเป็น ในแผ่นดินนี้งูใหญ่มักกินงูเล็กเสมอ หากไม่มีกองทัพส่วนตัว เขาคงไม่มีพลังอำนาจใดๆ
หลินมู่อวี่ใช้เวลาเกือบหนึ่งวันเต็มเดินทางกลับกองบัญชาการ จากนั้นจึงเข้านอนทันทีโดยไม่สนใจสิ่งใด
…
ห้าวันผ่านไปในพริบตาเดียว และทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ จีหยางและหลี่เฉียนซุนต่างปฏิบัติกับหลินมู่อวี่อย่างสุภาพ รวมทั้งส่งสุราและอาหารเลิศรสมาให้ทุกวัน และหลินมู่อวี่ก็รับมันไว้ ทว่าในใจเขารู้ดีว่ามันคงเป็นแบบนี้ไม่นาน จากนั้นจีหยางจะต้องใช้งานเขาแทบรากเลือดเป็นแน่ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น
เวลาพลบค่ำ ทหารเหรียญเงินนายหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพที่ด้านนอกประตู “ท่านราชทูตหลินหยาน ราชทูตใหญ่เชิญท่านเข้าร่วมงานเลี้ยงขอรับ!”
“อืม ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
“ขอรับ!”
เมื่อมาถึงโถงหลักก็พบว่าคนจำนวนไม่น้อยอยู่ที่งานเลี้ยง เนื่องจากมีทหารเหรียญทองและเหรียญเงินเสียชีวิตบางส่วนจากศึกครานี้ ดังนั้นจีหยางจึงแต่งตั้งทหารขึ้นมาใหม่ เหล่าทหารเหรียญเงินทั้งหมดมารวมตัวกันที่แห่งนี้ และมีคนอีกกว่ายี่สิบคนในโถงหลัก ทันทีที่หลินมู่อวี่มาถึงโถงหลัก เหล่าทหารเหรียญทองและเหรียญเงินประสานมือกล่าวด้วยความเคารพว่า “ท่านหลินหยานมาแล้ว!”
หลินมู่อวี่ประสานมือรับก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้จีหยางซึ่งจัดไว้ให้เขา
จีหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลินหยาน ในที่สุดเจ้าก็มา! ช่วงนี้การฝึกตนเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ยังไม่สามารถเลื่อนขั้นได้ขอรับ”
“ฮ่าๆ อดทนไว้ มิจำเป็นต้องกังวล”
“ขอบคุณที่ถามไถ่ขอรับท่านราชทูตใหญ่”
“ดื่มสิ เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปหากไม่เมา”
“ขอรับ!”
ทุกคนต่างดื่มให้พรแก่กัน และหลินมู่อวี่เป็นผู้ที่ได้รับมากที่สุด จากนั้นหลี่เฉียนซุนพลันปรบมือเรียกสาวๆ ออกมาเต้นระบำในโถงหลัก ซึ่งล้วนเป็นเหล่าสาวงาม อีกทั้งยังสาวใช้ส่วนตัวของราชทูตใหญ่จีหยางอีกด้วย
แม้ว่าจีหยางจะมีอายุมาก ทว่าก็ยังคงชื่นชอบสาวงามอยู่ จีหยางผู้เดียวก็มีสาวใช้กว่าสามสิบนางแล้ว ดังนั้นจึงเดาได้อย่างง่ายดายว่าเขาเป็นคนฟุ่มเฟือยมากเพียงใด
หญิงสาวเหล่านี้เพียงสวมใส่ชุดน้อยชิ้นเพื่อปกปิดพื้นที่สงวนเท่านั้น หลังจากเต้นระบำเสร็จก็แยกย้ายกันไปยกแก้วอวยพรกับทหารทั้งหลาย สาวใช้นางหนึ่งในชุดสีชมพูคุกเข่าลงข้างๆ หลินมู่อวี่ก่อนจะยกจอกสุราขึ้นพร้อมพูดว่า “ท่านหลินหยาน ดื่มอีกสักหน่อยสิเจ้าคะ…”
พูดจบเธอก็แสร้งเอาทรวงอกถูแขนหลินมู่อวี่อย่างไม่ตั้งใจ
หลินมู่อวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดสิ่งใด เธอสามารถทำได้มากเท่าที่ต้องการ ทว่าทักษะชีพจรวิญญาณได้หลอมฌานสัมผัสให้แข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นหลินมู่อวี่จึงไม่หวั่นไหวง่ายๆ สาวใช้พลันเผยยิ้มโปรยเสน่ห์และโผเข้าที่อ้อมแขนหลินมู่อวี่
นี่ยังถือว่าน้อย เมื่อหลินมู่อวี่มองไปรอบตัวก็พบกับฉากวาบหวิวมากมาย ทหารเหรียญทองและเหรียญเงินต่างให้เด็กสาวนั่งบนตักขณะลูบไล้บนเรือนร่าง และใบหน้าของพวกเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดง เหล่าทหารเพลิดเพลินไปกับสาวใช้ส่วนตัวของจีหยางอย่างเมามาย ทว่าหลินมู่อวี่เฝ้ามองเหตุการณ์อย่างสงสัย จีหยางใจดีถึงขนาดปล่อยให้ทหารเล่นกับสาวใช้ของเขาเชียวหรือ?
เห็นได้ชัดว่าไม่
ไม่ไกลออกไป หลี่เฉียนซุนกำลังพึมพำบางอย่างเงียบๆ ไม่มีใครรับรู้ว่าประตูเหล็กบานใหญ่ของกองบัญชาการปิดลงตั้งแต่เมื่อใด และพวกเขาถูกตัดขาดจากภายนอกอย่างสมบูรณ์
“ลางไม่ดีเลย…”
หลินมู่อวี่เต็มไปด้วยความระแวง ในที่สุดหลี่เฉียนซุนก็ใช้มนตราเพื่อควบคุมทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างนั้นเหรอ?”
จากนั้นหลี่เฉียนซุนลืมตาขึ้นพร้อมดวงตาลุกโชนที่จ้องมองเหล่าทหารเหรียญทอง ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ท่านทหารเหรียญทองเติ้งเที่ยชาน ท่านดื่มมากเกินไปแล้ว เช่นนั้นลองแสดงเพลงกระบี่ให้พวกเราได้เชยชมดีไหมขอรับ?”
ทหารเหรียญทองผู้นั้นผลักสาวใช้ไปด้านข้างทันที ก่อนจะชักกระบี่ออกมายืนตรงกลางโถง ดวงตาของเขาเลื่อนลอยขณะที่ตอบกลับว่า “ขอรับราชทูตหลี่!”
‘ฉัวะ!’
ปราณยุทธ์โคจรไปรอบกระบี่ขณะที่เขาร่ายรำอย่างรวดเร็ว ทำให้ปราณยุทธ์แผ่กระจายไปรอบตัว วิทยายุทธ์ของเขาไม่เลวเลย อีกทั้งกระบวนท่าก็สง่างาม ทว่าเมื่อหลินมู่อวี่แผ่ฌานสัมผัสไปรอบตัวชายผู้นั้น เขากลับไม่พบปฏิกิริยาใดๆ จากจิตวิญญาณในร่าง ราวกับว่าถูกหลี่เฉียนซุนควบคุมอย่างสมบูรณ์
ทักษะมนตรา!
หลี่เฉียนซุนเผยรอยยิ้มจางๆ พร้อมกล่าวว่า “ทุกท่านต้องสนุกกันให้เต็มที่ มิต้องกังวลต่อสิ่งใด แค่ปล่อยใจไปกับค่ำคืนนี้ก็เพียงพอ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
นี่ดูเหมือนจะเป็นคำสั่ง…ทันใดนั้น! ทหารเหรียญทองและเหรียญเงินเริ่มทำสิ่งที่ไร้ยางอาย หลายนายล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อผ้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตัก พวกเขาลูบไล้อย่างไม่สนสายตาใคร ทว่าใบหน้ากลับเผยความงุนงง ทหารเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมจากทักษะมนตราของหลี่เฉียนซุน ซึ่งไม่มีผู้ใดหลุดรอดไปได้ อีกทั้งทหารเหรียญเงินที่อ่อนแอบางรายอุ้มสาวใช้ขึ้นบนโต๊ะและเริ่มร่วมประเวณีต่อหน้าทุกคน ภายในโถงมีเพียงเสียงคนเมาหัวเราะและเสียงร้องกระเส่าของสาวใช้เท่านั้น
หลินมู่อวี่เท้าคางและเอียงลงบนโต๊ะราวกับคนเมา พลันบังคับปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณเพื่อทำให้จิตใจสงบและปลอดโปร่ง แม้มันจะไม่มีผลกับเขา ทว่าก็ค่อนข้างอันตรายหากเกิดขึ้น หากหลี่เฉียนซุนและจีหยางสังเกตเห็นว่าทักษะมนตราไม่มีผลกับหลินมู่อวี่ ทั้งสองคงไม่ฆ่าเขาทันทีเลยหรือ?”
ตามจริงความแข็งแกร่งของหลินมู่อวี่สามารถต่อกรกับจีหยางได้ ทว่าหากจีหยางและหลี่เฉียนซุนร่วมมือกัน หลินมู่อวี่คงไม่สามารถเอาตัวรอด มิต้องพูดถึงเหล่าทหารเหรียญทองและเหรียญเงินผู้อยู่ภายใต้การควบคุมเลย พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะหนี
“ท่านราชทูตหลินหยานเมาแล้วหรือเจ้าคะ?”
สาวใช้เคลื่อนตัวไปรอบๆ หลินมู่อวี่ราวกับอสรพิษผู้สง่างาม จากนั้นเธอขยับตัวขึ้นพร้อมพ่นลมหายใจอุ่นๆ ที่ใบหูและคอของเขา
จีหยางหรี่ตามองไปยังหลินมู่อวี่ก่อนจะกล่าวว่า “น้องหลินหยาน มิใช่ว่าเจ้าคอแข็งหรือ? ทว่าวันนี้เจ้าดื่มไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น…”
หลินมู่อวี่ยิ้มก่อนจะยกจอกสุราขึ้น “ท่านจีหยาง…ไชโย…”
“อื้ม!”
จีหยางพลันกระดกจอกสุราทันที
รสคมไหลบาดคอหลินมู่อวี่ก่อนจะรู้สึกเวียนศีรษะ จากนั้นเขาเริ่มทรงตัวไม่อยู่พร้อมคิดว่าแย่แล้ว! ในจอกสุรานี้มีพิษของหลี่เฉียนซุน พวกเขาไม่ยอมรามือเลย!
เสียงราชาปีศาจเจ็ดประทีปดังขึ้นจากทะเลจิต “หลินมู่อวี่ ไอ้เด็กโง่ หลงอุบายของพวกมันอีกแล้วรึ!”
หลินมู่อวี่นึกเสียใจขึ้นมา ก่อนจะปลดปล่อยปราณยุทธ์สงครามมากขึ้นเพื่อทำให้ฤทธิ์สุราหายไป เลือดในตัวเดือดพล่านทำลายพิษอย่างรวดเร็ว ด้วยสายเลือดมังกรที่มี…มันสามารถทนพิษชนิดนี้ได้อย่างไรกัน?
ราชาปีศาจเจ็ดประทีปจำเป็นต้องช่วยเจ้าเด็กนี่ควบคุมร่างกายอีกครั้ง และไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะต้องลงมือแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ราชาปีศาจพลันพูดอะไรไม่ออก…
“แย่แล้ว…ข้าดื่มมันมากเกินไป…”
จู่ๆ หลินมู่อวี่ก็ทรุดลงบนโต๊ะและหลับตาลง เขาแสร้งทำเป็นหมดสติ มิเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดพ้นจากวันนี้
“ท่านหลินหยาน…ท่านเมาสุราแล้วหรือ?”
หลี่เฉียนซุนลุกจากเก้าอี้และเดินไปด้านข้างหลินมู่อวี่ ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านดื่มมากเกินไปรึ?”
พูดจบหลี่เฉียนซุนก็วางฝ่ามือลงบนไหล่หลินมู่อวี่ จากนั้นก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณเข้าสู่ห้วงทะเลจิตของหลินมู่อวี่อย่างรวดเร็ว มันเป็นทักษะควบคุมจิตวิญญาณ!
หัวใจหลินมู่อวี่เย็นวาบขณะที่นอนฟุบอยู่ที่โต๊ะ เขาใช้ทักษะชีพจรวิญญาณอย่างรวดเร็วเพื่อย้ายฌานสัมผัสเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลจิต และสร้างภาวะการหมดสติขึ้นมาแทน
ทุกอย่างว่างเปล่า!
นั่นคือสิ่งที่หลี่เฉียนซุนสามารถมองเห็น พลังวิญญาณของเขาไม่สามารถมองทะลุจิตใจของหลินมู่อวี่ได้ มันมีเพียงความว่างเปล่าสีขาวโพลนเท่านั้น
ในทางตรงกันข้าม หลินมู่อวี่ปลดปล่อยฌานสัมผัสบางส่วนออกจากร่างกาย ก่อนที่จะไปถึงคนสองคนที่หลินมู่อวี่ต้องการตรวจสอบมากที่สุด หนึ่งคือหลี่เฉียนซุน อีกหนึ่งคือจีหยาง
ในสภาวะมึนงง หลินมู่อวี่ได้ยินเสียงเบาๆ ว่า “อี้…นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนจะแย่แล้วทว่าเขาก็ยังคงดูดี…มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลินมู่อวี่ตกตะลึงเล็กน้อย เสียงนี้มัน…ใช่เสียงในใจของหลี่เฉียนซุนหรือไม่? นี่เป็นทักษะอ่านใจหรือ?
เขาไม่คาดคิดว่าเมื่อถอนฌานสัมผัสทั้งหมดออกและจะมีผลเยี่ยงนี้ นี่ใช่ทักษะอ่านใจหรือไม่?
เมื่อหลินมู่อวี่พยายามอ่านใจจีหยาง ทว่ากลับไม่ได้ยินอะไรเลย…
หลินมู่อวี่พลันเพ่งสมาธิไปที่การรักษาสถานะมึนงงและว่างเปล่าเอาไว้ เนื่องจากเขาต้องแกล้งเป็นคนเมา และคนเมาที่แท้จริงจะไม่สนใจทักษะมนตราใดๆ นอกจากการนอน จีหยางและหลี่เฉียนซุนรู้สึกผิดหวังกับสิ่งนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าพิษได้ผลหรือไม่ จึงไม่สามารถโจมตีหลินมู่อวี่ได้
ผ่านไปครู่หนึ่งหลินมู่อวี่ก็ได้ยินเสียงบางอย่างแว่วเข้ามาในหู “ตำหนักกวางโศกา…ชางไป๋เฮ่อ…ตำหนักกวางโศกา…ชางไป๋เฮ่อ…ตำหนักกวางโศกา…ชางไป๋เฮ่อ…”
จีหยางมีความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณมากกว่าหลี่เฉียนซุนมาก หลินมู่อวี่จึงอ่านใจได้เพียงเล็กน้อย
…
ผ่านไปสองชั่วโมงหลินมู่อวี่ก็กรนออกมา
หลี่เฉียนซุนหันหลังกลับไปนั่งข้างจีหยางด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะส่ายหัวพร้อมกระซิบว่า “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น…พลังยุทธ์ของหลินหยานคงสูงมาก มากจนข้าไม่สามารถควบคุมพิษในร่างกายเขาได้”
“พิษหายไปหรือ?” จีหยางเอ่ยถาม
หลี่เฉียนซุนยังคงส่ายหัว “ข้าไม่รู้…”
“ไม่เป็นไร…”
จีหยางถอนหายใจแผ่วเบาและกล่าวว่า “เราค่อยหลอกล่อมันใหม่ในวันรุ่งขึ้น อย่าเสียเวลาเพียงเพราะพิษไม่ได้ผลเลย หลินหยานเป็นเพียงคนธรรมดาที่แสวงหาชื่อเสียงและโชคลาภ เราจะให้เขาทำภารกิจของวันพรุ่งนี้…อืม…ส่วนเรื่องอื่นข้าจัดการเอง”
“ขอรับพี่ใหญ่!”
หลินมู่อวี่รู้สึกร้อนผ่าวตลอดทั้งคืน…เขานอนไม่หลับ และยิ่งกว่าคือต้องแกล้งทำเป็นหลับ! เมื่อแสงอรุณของวันใหม่สาดแสง เหล่าทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินต่างถูกส่งกลับไปยังที่พัก หลินมู่อวี่เองก็ถูกหิ้วกลับโดยทหารฝึกหัดสองนาย…ในที่สุดเขาก็จะได้พักผ่อนเสียที!
………………..……………