ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 611 คุณเขียนธีสิสฉบับนี้? (2) / ตอนที่ 612 เดือนเมษายนที่วุ่นวาย

ตอนที่ 611 คุณเขียนธีสิสฉบับนี้? (2) / ตอนที่ 612 เดือนเมษายนที่วุ่นวาย

ตอนที่ 611 คุณเขียนธีสิสฉบับนี้? (2)

ลู่โจวยืนยันแล้วว่าธีสิสได้เข้าสู่ขั้นตอนพิชญพิจารณ์ แล้วเขาปล่อยมันไว้ลำพัง เขาเริ่มเฟสต่อไปของการวิจัย

ในความเป็นจริง การพิสูจน์การมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์ที่มีหนึ่งเดียวเป็นแค่ขั้นตอนแรก เขายังห่างไกลจากการแก้ปัญหาทั้งหมด ก่อนที่เขาสามารถเริ่มวิจัยการมีอยู่และช่องว่างของหยาง-มิลส์ เขาต้องหาทางแก้ทั่วไปของสมการที่ซับซ้อนนี้

จากมุมมองด้านคณิตศาสตร์ การหาทางแก้ทั่วไปยากกว่าการหาข้อพิสูจน์ของทางแก้ทั่วไปอย่างแน่นอน การใช้ความรู้ของสมการนาเวียร์-สโตคส์นั้นไม่พอ

ลู่โจวไม่มีแผนที่จะพักผ่อนอีกครั้งก่อนที่เขาจะมีไอเดียในการแก้ปัญหานี้ เขาได้ค้นหาธีสิสของคนอื่นใน arXiv เพื่อดูว่าเขาหาแรงบันดาลใจจากวิจัยของคนอื่นได้หรือไม่

น่าเสียดายที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่หวัง

แม้ว่าสมการหยาง-มิลส์จะมีบทบาทสำคัญในด้านทฤษฎีเกจสมัยใหม่ มีคนจำนวนน้อยมากได้วิจัยทางแก้สมการความต่างบางส่วนทั่วไปที่ไม่เป็นเส้นตรง ถึงจะมีหลายไอเดียที่น่าสนใจ งานวิจัยก็ลงลึกไม่พอ

นี่หมายความว่าเขาต้องพึ่งตัวเองในการวิจัยส่วนนี้เช่นกัน…

วันพุธสุดท้ายในเดือนเมษายน…

ลู่โจวสอนวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณเสร็จแล้วเดินถือตำราเรียนออกจากห้องเรียน

เขานึกถึงสมการหยาง-มิลส์ระหว่างที่เดินไปบันได มีชายวัยกลางคนตะโกนเรียกชื่อเขาและวิ่งมาเข้ามาหา

“รอเดี๋ยวครับ ศาสตราจารย์ลู่”

ลู่โจวหยุดเดินแล้วหันตัวกลับ เขามีสีหน้าแคลงใจ

“คุณเป็นใคร?”

ศาสตราจารย์วัยกลางคนหอบแล้วยิ้มในระหว่างที่พูดว่า “ผมชื่อจางเฉี่ยงฉิง จากภาคฟิสิกส์…เราเคยเจอกันในคลาสฟิสิกส์ของผมครั้งก่อน”

“อ่อ” ลู่โจวนึกชื่อเขาได้ในทันที จากนั้นเขาพูดอย่างร่าเริง “ศาสตราจารย์จาง มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าลู่โจวยังจำเขาได้ จางเฉี่ยงฉงยิ้มประหม่าและพูดว่า “เรื่องมีอยู่ว่า คุณสอนนักเรียนผมเรื่องปฏิกิริยารุนแรงใช่ไหม? มีนักเรียนจำนวนมากรู้สึกโชคไม่ดีที่ไม่สามารถฟังเลคเชอร์ของคุณ กลศาสตร์ควอนตัมก็ยังเป็นวิชาปริญญาตรีที่ยากมาก และมันต้องใช้ความรู้ด้านคณิตศาสตร์ระดับหนึ่ง หัวหน้าภาคฟิสิกส์ได้หารือกัน และเราอยากจะถามว่าคุณพอมีเวลาว่างสอนกลศาสตร์ควอนตัมไหม”

“ได้เลย ไม่มีปัญหา” ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “วันเสาร์นี้ดีไหม?”

จางเฉี่ยงฉิงยิ้มและตอบ “ดีเลย! คณบดีบอกว่าเราสามารถทำได้ตามเวลาที่คุณต้องการ งั้นตกลงตามนี้! ในนามของภาคฟิสิกส์ ผมอยากขอขอบคุณ”

ลู่โจวตอบ “ไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก ผมชอบสอนอยู่แล้ว”

ถึงแม้ว่าการสอนนักศึกษาปริญญาตรีจะไม่สามารถแก้ปัญหาให้เขาได้โดยตรง มันช่วยให้เขาได้แรงบันดาลใจซึ่งเขาไม่สามารถหาได้จากการพักผ่อน

จางเฉี่ยงฉงยิ้มและพูดว่า “ท้ายที่สุดแล้ว คุณยุ่งกับงานวิจัย และคุณยังหาเวลามาสอนนักศึกษาปริญญาตรี เราซาบซึ้งใจมาก…”

“ลู่โจว!”

มีเสียงดังมาจากอีกฟากของโถง ซึ่งรบกวนบทสนทนานี้

ชายสองคนหยุดบทสนทนาแล้วมองไปที่ทิศทางของเสียงตะโกน พวกเขาเห็นนักวิชาการลู่ที่ใส่โค้ตสีเทาเดินตรงมาทางพวกเขา

ลู่โจวรู้สึกเซอร์ไพรส์ที่เห็นนักวิชาการลู่ เขากำลังจะทักทาย แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด ชายชราถามอย่างตื่นเต้นว่า “คุณเขียนธิสิสนี้ใช่ไหม?”

ลู่โจวอึ้งไป

“ธีสิสไหนครับ?”

นักวิชาการลู่ไม่ได้แม้แต่พักหายใจ “ข้อพิสูจน์การมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์!”

จางเฉี่ยงฉิงเกือบสำลักน้ำลาย

สมการหยาง-มิลส์?!

อะไรวะเนี่ย?

……………………………………………………

ตอนที่ 612 เดือนเมษายนที่วุ่นวาย

มันเป็นปลายเดือนเมษายน

มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในโลกวิชาการ

ในวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปีฉบับล่าสุด ธีสิสความยาวสี่สิบหน้าเรื่องข้อพิสูจน์การมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์ถูกตีพิมพ์

เมื่อข่าวนี้ได้รับการยืนยัน มันทำให้เกิดกระแสในแวดวงคณิตศาสตร์และฟิสิกส์นานาชาติ

สิ่งนี้เป็นที่โจษจันในฟอรั่มคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงนานาชาติ ‘แม็ทโอเวอร์โฟลว์’

[พวกคุณได้ยินไหม? การมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์ถูกพิสูจน์แล้ว?!]

[ฉันได้ยินมันเมื่อเช้านี้ แต่มันยังไม่ได้แน่ชัดใช่ไหม?]

[มันถูกโพสต์ที่วิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี แน่นอนว่ามันชัดเจนแล้ว ผู้รีวิวคือชาร์ล เฟฟเฟอร์แมน!]

[ยังอ่านมันไม่จบเลย แล้วฉันไม่ค่อยรู้เรื่องแอล-แมนิโฟลด์เท่าไหร่ ฉันอยากเข้าใจงานวิจัยปี 2018 เกี่ยวกับแอล-แมนิโฟลด์ ฉันจะศึกษาตรีโกณมิติเชิงอนุพันธ์ก่อน ช่างปวดหัวจริง…เอาเถอะ มันยากมากที่จะหาข้อผิดพลาดในธีสิสเบอร์ใหญ่แบบนี้ เราจะได้เห็นผลลัพธ์สุดท้ายหลังจากได้เห็นรายงานการประชุม]

เนื่องจากนักวิชาการอายุน้อยรุ่นใหม่ อย่างเถาเจ๋อเซวียนและชูลทซ์ ได้มีบัญชีของตัวเองบนเว็บไซต์นี้ หน้าติดเทรนด์ของแม็ก โอเวอร์โฟลว์ ได้สะท้อนเรื่องเป็นกระแสในตอนนี้ในแวดวงคณิตศาสตร์

ครั้งสุดท้ายที่การพูดคุยโด่งดังขนาดนี้เกิดขึ้นสองปีก่อน จากธีสิสห้าหน้าของเซอร์อติยาห์…

ฟอร์มวิชาการมืออาชีพไม่ใช่ที่เดียวที่แตกตื่น

ถึงคนส่วนมากไม่รู้กระทั่งวิธีเขียนสมการหยาง-มิลส์ คนพวกนี้ก็รู้เรื่องปัญหารางวัลมิลเลนเนียม

สองวันหลังจากธีสิสถูกปล่อยออกมา ข่าวนี้ปรากฏขึ้นในหลายช่องข่าวและดึงดูดความสนใจมหาศาลจากผู้คนทั้งในและนอกสายวิชาการ

เมื่อเทียบกับการพูดคุยที่มีเหตุผลในแม็ธ โอเวอร์โฟลว์ ประชากรในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์นั้นเปี่ยมไปด้วยอารมณ์มากกว่า

[ลู่โจว? ลู่โจวเป็นผู้เขียน? ถ้าผมจำได้ถูก เขาแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลกเมื่อสองปีก่อน!]

[สมการนาเวียร์-สโตคส์! หนึ่งในปัญหารางวัลมิลเลนเนียม! ฉันยังจำรายงานงานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติของเขาได้อยู่เลย!]

[ท้าปัญหารางวัลมิลเลนเนียมในช่วงเวลาสองปี…พระเจ้า เขาทำได้ยังไงกัน?]

[แล้วเขายังแก้ฟิวชั่นที่ควบคุมได้สำเร็จ?]

[ฮ่าๆ บางทีนี้คือพลังของนักคณิตศาสตร์เอเชีย?]

[บ้าไปแล้ว!]

[…]

นับตั้งแต่ที่ปัญหารางวัลมิลเลนเนียม มีคนท้าทายพวกมันไม่มีขาด

แต่ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ได้ผลลัพธ์มีค่าในเรื่องสมการหยาง-มิลส์

ถ้ามีใครสามารถพิสูจน์การมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์ด้วยวิธีการคณิตศาสตร์ มันคงใช้เวลาไม่นานที่มีใครสามารถหาทางแก้ทั่วไปได้

เพราะว่าเรื่องนี้มีผลกระทบสูง นิตยสารเนเจอร์ ซึ่งมักจะไม่สนใจงานวิจัยคณิตศาสตร์ ได้เลือกธีสิสนี้สำหรับส่วนไฮไลท์ 200 คำ สำหรับฉบับล่าสุด เนเจอร์ยังจัดส่วนหนึ่งของธีสิสไว้ที่ปกหน้า

ระหว่างการให้สัมภาษณ์นักข่าวจากไซเอินซ์ ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนพูดชื่นชมวิธีการคณิตศาสตร์ที่ใช้ในธีสิส

“มีไม่กี่คนที่สามารถได้มีความสามารถระดับสูงในคณิตศาสตร์มากกว่าสามด้าน ไม่เพียงแต่ว่าเขาสามารถทำมันได้ แต่เขายังบูรณาการสมการอนุพันธ์บางส่วน ตรีโกณมิติเชิงอนุพันธ์ และโทโพโลจี ไปเป็นเครื่องมือคณิตศาสตร์ใหม่”

นักข่าวถาม “คุณกำลังพูดถึงแอล-แมนิโฟลด์ที่มหัศจรรย์ใช่ไหม?”

เฟฟเฟอร์แมนตอบ “ถูกต้อง”

นักข่าวพูดต่อ “แต่บางคนคอมเมนท์ว่าถึงเขาจะพิสูจน์การมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์ เขาไม่ได้สร้างเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ใหม่ เขาเพียงแค่ใช้เครื่องมือที่เขาสร้างขึ้นตอนวิจัยนาเวียร์-สโตคส์อีกครั้ง…คุณคิดอย่างไรกับคอมเมนท์นี้?”

คุณค่าของโจทย์คณิตศาสตร์ไม่ได้ถูกสะท้อนในตัวโจทย์เอง แต่มันถูกสะท้อนในเครื่องมือคณิตศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นตอนแก้โจทย์

ถ้างานชิ้นนี้เพียงแค่พิสูจน์การมีอยู่ของสมการหยาง-มิลส์โดยใช้ภาษาคณิตศาสตร์และไม่สามารถเบิกทางให้หาทางแก้ทั่วไปได้ ถึงมันจะเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม มันก็จะไม่โดดเด่น

เฟฟเฟอร์แมนพูดตอบ “ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรม คุณค่าของข้อคาดการณ์คณิตศาสตร์ไม่ได้ถูกประจักษ์ในการสร้างเครื่องมือคณิตศาสตร์ใหม่ มันยังถูกประจักษ์ได้ในการทำให้เครื่องมือที่มีอยู่สมบูรณ์ หรือในคอนเซปต์คณิตศาสตร์นามธรรม

นักข่าวถามต่อ “คุณคิดว่าเขาทำให้ทฤษฎีแอล-แมนิโฟลด์แข็งแกร่งขึ้นไหม?”

เฟฟเฟอร์แมนตอบ “ถูกต้อง ทฤษฎีมักใช้เวลาห้าถึงสิบปีเพื่อเติบโต และมันต้องการการสะสมของบทเทียบและทฤษฎีบทนับไม่ถ้วน

“จากการคิดค้นแอล-แมนิโฟลด์ เขาได้สร้างสะพานเชื่อมระหว่างสมการอนุพันธ์บางส่วนและตรีโกณมิติเชิงอนุพันธ์ได้สำเร็จ และเขาได้แนะนำวิธีโทโพโลจี ถ้าผมต้องอธิบายมันในแบบคนทั่วไป เขาได้แปลงสมการเป็นวัตถุตรีโกณมิติที่อยู่ในพื้นที่พิเศษ”

นักข่าวถาม “มันนามธรรมเหลือเกิน คุณเจาะจงอีกได้ไหม?”

เฟฟเฟอร์แมนยักไหล่แล้วพูดว่า “มันเหมือนกับการวาดเส้นองค์ประกอบบนภาพที่ไม่ปกติ หลังจากที่ผ่านการแปลงสภาพแบบพิเศษ สิ่งที่ซับซ้อนในตอนแรกกลายเป็นเรียบง่าย”

นักข่าวพูดต่อ “แต่ผมสังเกตว่ามีไม่กี่คนใน arXiv ที่ได้ติดตามการวิจัยด้านนี้ ถึงแม้ว่าความเห็นของผมอาจจะได้ข้อมูลผิดพลาดมา แต่ถ้าเรื่องนี้สำคัญจริงๆ ทำไมไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจมัน?”

เฟฟเฟอร์แมนตอบ “คำตอบมันง่ายมาก คุณไม่สามารถคาดหวังให้ทฤษฎีอายุสองปีเป็นเรื่องกระแสหลักในโลกวิชาการ โกรเตนดีกก็ยังทำสิ่งนี้ไม่ได้ ลืมเรื่องการศึกษาทฤษฎีเชิงลึกไปเลย แม้แต่การศึกษาทฤษฎีนี้ก็ใช้เวลาพอสมควร…นอกจากนี้ มันยังมีขีดแบ่งในการศึกษาทฤษฎีนี้ที่ระดับหนึ่ง”

นักข่าวพูดต่อ “งั้นคุณเห็นค่างานของเขา?”

เฟฟเฟอร์แมนตอบ “ใช่ครับ ผมเชื่อว่าทุกคนที่เข้าใจธีสิสนี้อย่างแท้จริงจะเห็นด้วยกับผม”

นักข่าวถามต่อ “อีกหนึ่งคำถาม มันไม่เกี่ยวกับสมการหยาง-มิลส์ และแน่นอนว่าคุณปฏิเสธที่จะตอบได้”

เฟฟเฟอร์แมนยิ้มและพูดว่า “ถามมาได้เลย”

นักข่าวถาม “คุณคิดว่าเขาสามารถเป็นนักคณิตศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในศตวรรษนี้ได้ไหม?”

มันเป็นคำถามที่ยากมาก

ท้ายที่สุดแล้ว ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเพิ่งเริ่มขึ้น

เฟฟเฟอร์แมนจ้องตานักข่าวแล้วคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาพูดว่า “มันขึ้นอยู่กับว่าการคาดคะเนของรีมันน์จะถูกแก้ได้ในศตวรรษนี้หรือไม่ ถ้าไม่…”

เขานิ่งไปชั่วครู่

“งั้นก็ไม่ต้องสงสัยว่าเขาแก้ได้”

………………………………………………………

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท