ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 657 การรวมตัวของไฟฟ้าแก่ / ตอนที่ 658 คำตอบอยู่ในมือ

ตอนที่ 657 การรวมตัวของไฟฟ้าแก่ / ตอนที่ 658 คำตอบอยู่ในมือ

ตอนที่ 657 การรวมตัวของไฟฟ้าแก่

ณ มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด

ด้านในออฟฟิศ

ศาสตราจารย์ไบรอันทำความสะอาดร่างกายและนั่งลงที่โต๊ะ เขามองแผ่นกระดาษในมือพร้อมสูดลมหายใจเข้า เขามองที่ตากล้องและพยักหน้า

“เริ่มได้เลย”

ตากล้องไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ส่งสัญญาณตอบ

ศาสตราจารย์ไบรอันมองกล้องและเงียบไปครู่หนึ่ง

“ผมขาดความรับผิดชอบมากๆ ที่ไปกล่าวหานักวิชาการคนอื่น ในเรื่องของความเข้าใจผิดและความเห็นต่างที่เกิดขึ้น ผมจะเป็นคนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดเอง”

เขาขมวดคิ้วและนิ่งไปครู่หนึ่ง

“ผมอยากจะขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผมและศาสตราจารย์ลู่”

“ผมรู้ว่าคำขอโทษคงแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ผมก็อยากจะขอให้คุณให้อภัย”

การขอโทษไม่ใช่เรื่องง่าย

โดยเฉพาะกับคนที่ทะนงตัวและเย่อหยิ่งอย่างเขา

แต่ว่าไบรอันเปลี่ยนไปแล้ว

เขาใช้เวลาหนึ่งเดือนในการทำวิจัยกาลอวกาศทิรัส-ยูคลิเดียน เขาไม่เพียงแค่เติบโตขึ้นทางด้านวิชา แต่นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปด้วย

แม้ว่ามันจะน่าอายขนาดไหน…

แต่สิ่งสำคัญคือการที่ศาสตราจารย์ลู่ให้ความรู้ทางด้านฟิสิกส์กับไบรอัน โดยที่ไบรอันไม่รู้ตัว

วีดีโอนี้ไม่ใช่แค่เพียงวีดีโอขอโทษ

แต่ไบรอันยังบอกลาตัวตนเดิมของเขาอีกด้วย

วีดีโอนี้สั้นมากๆ ความยาวน้อยกว่าห้านาที

หลังจากที่วีดีโอถูกอัปโหลดลงยูทูป จำนวนผู้เข้าชมก็น้อยมากๆ จนน่าขำ

ซึ่งเป็นเพราะเหตุการณ์ที่ไบรอันหมิ่นประมาทลู่โจวในเดลีเมลผ่านมานานเป็นเดือนทำให้ไม่มีใครถกเถียงเรื่องนี้กันอีกแล้ว ถึงแม้ว่าเดลีเมลจะตั้งใจประโคมข่าวนี้มากแค่ไหน คนก็สนใจแค่ดราม่าที่เกิดขึ้นอยู่ดี พวกเขาไม่สนว่าความจริงคืออะไรด้วยซ้ำ…

ไบรอัน คาโร นั้งอยู่ที่โต๊ะตอนที่อัปโหลดวีดีโอเสร็จ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มเขียนอีเมลเพื่อที่จะส่งให้ลู่โจว

สองวันหลังจากนั้น ลู่โจวดูวีดีโออยู่ที่ออฟฟิศที่แผนกคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยจินหลิง

“สุดยอด…ศาสตราจารย์ คุณทำได้อย่างไรคะ”

จ้าวหวนนั่งดูวีดีโออยู่ที่โต๊ะของเธอ สีหน้าแสดงความเลื่อมใสและไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น

เธอคิดไม่ออกเลยว่าลู่โจวทำให้คนหน้าไม่อายขอโทษด้วยความจริงใจได้อย่างไร…

แต่การที่เรียกไบรอันว่าคนน่าไม่อาย ก็ดูจะเกินไปหน่อย

ในสายตาเธอนั้น ศาสตราจารย์ไบรอันเป็นคนน่าไม่อาย

“ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” ลู่โจวปิดวีดีโอและพูดเฉยๆ “เขาพูดของเขาเอง”

ถ้าไบรอันไม่ทำแบบนี้ สายงานวิชาการของเขาคงจบลง

ตอนนี้เขายอมรับสถานการณ์ของตัวเอง ทำให้สามารถออกมาจากทางตันที่เผชิญและก้าวต่อไปในสายอาชีพนักวิชาการ

ลู่โจวไม่ได้อธิบายอะไรให้ผู้ช่วยจ้าวฟัง เขาหันกลับมาจดจ่อกับวิทยานิพนธ์ของตัวเองต่อ

ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่ปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นได้รับการแก้ไข แต่วิทยานิพนธ์ของลู่โจวยังไม่ได้รับการประเมินครั้งสุดท้าย เพราะสถาบันวิจัยฟิสิกส์ทฤษฎีระดับชาติกำลังศึกษาวิทยานิพนธ์ของลู่โจวอย่างละเอียด ส่วนลู่โจวเองก็ไม่หยุดที่จะทำงาน

เขาเคยบอกว่าเขาจะตอบคำถามทุกคนภายในสิ้นเดือนนี้

ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความราบรื่น

และใกล้จะสำเร็จแล้ว…

วันทั้งวันผ่านไป

ลู่โจวยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมปากกาในมือ เขาจับกองกระดาษที่ร่างไว้ด้วยความรู้สึกพอใจ

ทฤษฎีแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มของเขา…

ในที่สุดก็เสร็จเสียที

ลู่โจวใช้เวลาทั้งวันในการทำงาน และตอนนี้เขาค่อนข้างหิว เขาวางวิทยานิพนธ์ที่ร่างไว้บนโต๊ะและตั้งใจจะออกไปหาอะไรกินข้างนอก

หานเมิ่งฉีเดินไปที่โต๊ะลู่โจวอย่างร่าเริงพร้อมวิทยานิพนธ์วัสดุศาสตร์ทางคำนวณที่เพิ่งพิมพ์ออกมาหมาดๆ ในมือและพูด “ฉันทำงานที่คุณสั่งเสร็จแล้วนะ”

ลู่โจวมองดูวิทยานิพนธ์ของเธอและพยักหน้า “โอเค วางไว้ตรงนั้นเลย”

หานเมิ่งฉีวางวิทยานิพนธ์ไว้ที่มุมโต๊ะและสังเกตเห็นเอกสารที่ลู่โจวเขียน เธอถามด้วยความอยากรู้ “คุณกำลังเขียนอะไรอยู่เหรอ”

“เปล่า” ลู่โจวยืนขึ้นและยิ้ม เขาพูดเฉยๆ “ผมแค่สรุปงานที่เพิ่งทำเมื่อไม่นานมานี้”

ปี 2020 เป็นปีที่น่าตื่นเต้นของโลกฟิสิกส์ทฤษฎี

ภายในเวลาไม่ถึงปี ปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นได้รับการแก้ไข การค้นพบควอนตัมหยาง-มิลส์ทำให้เกิดยุคของทฤษฎีเกจ

ไม่เพียงแค่นั้น

ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่างานวิจัยทางฟิสิกส์ที่มีคุณค่าเป็นสิบปีประสบความสำเร็จในปีนี้ โปรเจกต์งานวิจัยที่โลกต้องตะลึงกำลังจะเกิดขึ้น

สามวันหลังจากที่ศาสตราจารย์ไบรอันโพสต์วีดีโอขอโทษ ลู่โจวโพสต์วิทยานิพนธ์เรื่องที่สองบน arXiv

หัวข้อมีเพียงไม่กี่คำ

[ทฤษฎีปฏิกิริยาไฟฟ้าแก่! ]

ทันที่ที่วิทยานิพนธ์ถูกเผยแพร่บน arXiv ทำให้วงการฟิสิกส์ถึงกับสั่นสะเทือน

แน่นอนว่าไม่มีใครสงสัยในความสามารถของลู่โจว คนที่สามารถไขปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้น และเป็นคนเดียวกันที่ที่คนทั้งโลกหวังว่าเขาจะสามารถรวมแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มกับแรงแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าด้วยกันได้ นักฟิสิกส์หลายคนไม่คิดว่าจะได้เห็นวิทยานิพนธ์ของลู่โจวบน arXiv

ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือนครึ่ง ลู่โจวขัดเกลาทฤษฎีของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ และรวมแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มกับแรงแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าด้วยกัน

เราไม่ควรเรียกลู่โจวว่าอัจฉริยะด้วยซ้ำ

เพราะจริงๆ แล้วคำว่าอัจฉริยะก็ใช้กับมนุษย์คนหนึ่ง

แต่ลู่โจวคือเทพ…

นอกจากสถาบันวิจัยจีน ก็ไม่มีสถาบันวิจัยระดับโลกที่มีชื่อเสียงสถาบันไหนที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับงานที่เพิ่งถูกเผยแพร่นี้ คนส่วนใหญ่เลี่ยงที่จะตอบคำถามจากนักข่าวหรือไม่ก็เลือกตอบสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย

แต่งานนี้สำคัญมากๆ ขนาดนักฟิสิกส์ระดับสูงเองยังต้องระวังเป็นพิเศษ

ถ้าวิทยานิพนธ์นี้ถูกต้อง มันสามารถสร้างชื่อให้วงการฟิสิกส์ในอีกสิบปีข้างหน้า

ในทางกลับกัน ถ้าเกิดวิทยานิพนธ์นี้ไม่ถูกต้อง แต่วงการวิชาการอนุมัติวิทยานิพนธ์นี้เพราะความสะเพร่า มันจะทำให้งานวิจัยฟิสิกส์ทฤษฎีเสื่อมถอยไปเป็นสิบปี

…………………………………..

ตอนที่ 658 คำตอบอยู่ในมือคุณ

ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สำนักงานใหญ่กรุงเซิร์น

วิทเทนนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาในร้านกาแฟ เขากำลังอ่านวิทยานิพนธ์พลางดื่มกาแฟดำ

คนที่นั่งใกล้ๆ เขาก็คือเจฟฟ์

ชายสูงวัยเท้าแขนบนโต๊ะขณะกำลังรอให้วิทเทนอ่านวิทยานิพนธ์นี้ให้จบ

ในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสถาบันเคลย์ พวกเขาคือคนที่ต้องตัดสินใจว่าจะรวมสมการหยาง-มิลส์ไว้ในโจทย์รางวัลมิลเลนเนียมหรือไม่ และพวกเขานี่เองคือคนที่ตั้งโจทย์นี้ขึ้นมา

ปัญหานี้เป็นปัญหาฟิสิกส์ข้อสุดท้ายของโจทย์มิลเลนเนียม เจฟฟ์คิดว่าคงไม่มีใครในศตวรรษนี้สามารถไขมันได้ เขาไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้

หลังจากนั้นพักหนึ่ง ในที่สุดวิทเทนก็อ่านวิทยานิพนธ์มาถึงหน้าสุดท้าย

เจฟฟ์สังเกตเห็นจึงถาม “เสร็จแล้วเหรอ”

“ใกล้แล้ว”

“ผมอยากรู้ว่าคุณว่าอย่างไร”

“เขาเร็วกว่าที่ผมคิดไว้” วิทเทนวางวิทยานิพนธ์ลงและมองปฏิทินในโทรศัพท์ เขายิ้มและพูด “41 วัน เขาน่าจะเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้”

เจฟฟ์ถอนหายใจและพูด “คุณอยากแนะนำอะไรเพิ่มเติมไหม นอกจากเรื่องความเร็ว”

“น่าเสียดายที่ผมคิดได้แค่เรื่องเดียวตอนนี้” วิทเทนถอนหายใจและนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาพูดต่อ “เรายังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนสำหรับวิทยานิพนธ์เรื่องที่แล้วของเขา”

วิทเทนอดเสียใจไม่ได้

วงการฟิสิกส์นานาชาติยังคงถกเถียงกันเกี่ยวกับข้อสรุปวิทยานิพนธ์เรื่องก่อนหน้านี้ของลู่โจว

นี่เป็นครั้งแรกที่วิทเทนได้เห็นงานวิจัยที่รวดเร็วยิ่งกว่าบทสรุปจากวงการฟิสิกส์นานาชาติ ราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังไล่ตามลู่โจวอยู่…

“อีกสักครู่จะมีการประชุมที่ห้องประชุมหมายเลข 1 เกี่ยวกับวิทยานิพนธ์บน arXiv…ผมจะพูดถึงเรื่องนี้ตอนที่ประชุม แต่ผมว่าถึงแม้ผมไม่พูดคนอื่นก็ต้องพูดอยู่ดี” วิทเทนพูด เขามองนาฬิกาและพูดต่อ “อีกอย่าง เราต้องสรุปเรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นให้จบภายในสิ้นเดือนนี้”

เจฟฟ์พยักหน้า

“ผมเห็นด้วย”

ขณะที่เซิร์นกำลังเตรียมจัดการสัมนาเกี่ยวกับปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้น สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงตอนนี้ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว

คนส่วนใหญ่เตรียมตัวเลิกงานกลับบ้าน แต่ไฟในห้องทดลองสถาบันฟิสิกส์ยังคงสว่างอยู่

โดยเฉพาะห้องทดลองที่อยู่สุดทางเดิน

นักวิจัย 12 คนนั่งอยู่ในห้องขนาด 30 ตารางเมตร โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยเอกสารงานวิจัยสูงกว่าหนึ่งฟุต ทุกคนต่างดูเหนื่อยล้า

นี่คือศูนย์วิจัยที่ใหญ่ที่สุดของจีนสำหรับเทคโนโลยีฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อ คนที่นี่ส่วนใหญ่เคยใช้งานเครื่องสเตลล่าร์เรเตอร์ และความชำนาญของพวกเขามีตั้งแต่ด้านฟิสิกส์พลาสมาไปจนถึงฟิสิกส์วิศวกรรม

อย่างไรก็ตาม แค่นี้มันยังไม่พอ

โปรเจกต์ถูกจัดทำมาเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว แต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้าเลย

เชิ่งเซี่ยนฟู่มองท้องฟ้ามืดดำนอกหน้าต่าง เขาเดินไปที่เครื่องทำกาแฟและกลับมาที่โต๊ะพร้อมกาแฟร้อนๆ

เขาเจอเอกสารจากสถาบันอะคูสติกและกำลังจะทำรายงานการวิจัยขอวันนี้ให้เสร็จ อยู่ดีๆ ใครบางคนก็เปิดประตูห้องทดลองออกมา คนคนนี้เดินตรงเข้ามาในห้องทดลอง

เชิ่งเซี่ยนฟู่ดูสับสน เขามองไปที่ลู่โจวแล้วหันกลับมามองเอกสาร

“มันคืออะไรเหรอครับ…”

“เอกสารที่ต้องทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ความจริง มันคือฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อ” ลู่โจวมองห้องทดลองที่เลอะเทอะและพูด “อีกอย่างคำถามที่คุณถามผมก่อนหน้านี้ ในที่่สุดผมก็หาคำตอบที่ชัดเจนให้คุณได้แล้ว

“อุณหภูมิสูงไม่ใช่เงื่อนไขเดียวที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาฟิวชั่น ยังมีเงื่อนไขอื่นด้วย ตราบใดที่เราระบุความสัมพันธ์ระหว่างแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ เราก็จะหาวิธีการได้”

ลู่โจวหยิบปากกาบนโต๊ะและเขียนสมการบนไวท์บอร์ด

เชิ่งเซี่ยนฟู่มองดูไวท์บอร์ด คิ้วของเขาค่อยๆ ขมวด

“นี่มันอะไรกัน?”

ลู่โจวยิ้มและอธิบาย “สูตรที่เกี่ยวข้องกับแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

“ดูเหมือนว่าแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงสนามแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถรวมตัวกันได้ภายใต้กรอบความคิดเชิงทฤษฏีของควอนตัมหยาง-มิลส์ หนึ่งเดือนที่แล้วผมยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่ตอนนี้ผมสามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักฐานทางคณิตศาสตร์”

เชิ่งเซี่ยนฟู่ตกใจ

“คุณ…ทำได้เหรอ?! “

ถ้าเขาจำไม่ผิดลู่โจวเพิ่งจะไขปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นเมื่อเดือนที่แล้ว

ลู่โจวคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูด “ครับ ก็ประมาณนั้น”

แม้ว่าวงการฟิสิกส์ทฤษฎีจะยังไม่ยอมรับงานวิจัยปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นของเขา แต่มันไม่ได้มีผลกับงานวิจัยปฏิกิริยาไฟฟ้าแก่ของเขาเลย

อีกอย่างระบบไฮเทคยอมรับงานวิจัยที่เขาทำและให้เกรด S กับเขา ลู่โจวมั่นใจกับความสามารถทางคณิตศาสตร์ของตัวเองมากๆ

คำพูดของลู่โจวดังก้องในหัวของเชิ่งเซี่ยนฟู่ ราวกับเพิ่งโดนฟ้าผ่า

เขากลืนน้ำลายและพูด “แต่…คุณวางแผนจะนำทฤษฎีนี้ไปใช้กับงานวิจัยของเราอย่างไร”

การนำข้อสรุปในทฤษฎีไปปรับใช้กับปัญหาในทางปฏิบัติ บางครั้งก็ยากยิ่งกว่าการคิดค้นทฤษฎีเองเสียอีก ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะกับงานฟิสิกส์ทฤษฎี ปกติแล้วการนำฟิสิกส์ทฤษฎีมาประยุกต์ใช้จะเกิดขึ้นประมาณร้อยปีหลังจากที่ทฤษฎีถูกค้นพบ แม้ว่าลู่โจวจะสามารถรวมแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มกับแรงสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้สำเร็จ เชิ่งเซี่ยนฟู่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาสามารถนำทฤษฎีนี่มาปรับใช้กับฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อได้จริงๆ

“นี่คือเหตุผลที่ผมมาที่นี่” ลู่โจวเคาะกองเอกสารและพูด “ผมต้องการให้คุณช่วยตรวจสอบการคาดเดาของผมหน่อย”

เชิ่งเซี่ยนฟู่เปิดเอกสารดูผ่านๆ และเหลือบเห็นเนื้อหาด้านใน

“นี่มัน…”

ลู่โจวพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ใช่ มันคือปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์”

ลู่โจวเป็นผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาขั้นสูง เขารู้ดีว่าเชิ่งเซี่ยนฟู่กำลังหาอะไรอยู่

ลู่โจวรู้ว่าเชิ่งเซี่ยนฟู่ได้ข้อมูลอะไรมาจากศาสตราจารย์เฉินเหว่ยจงที่สถาบันอะคูสติก รวมไปถึงแบบจำลองต่างๆ ที่เชิ่งเซี่ยนฟู่ทิ้งไป

วงการฟิสิกส์ไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนเรื่องแหล่งที่มาของปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์ บางคนคิดค้นทฤษฎีระเบิดภายในอากาศ หรือทฤษฎีจุดแตกหักของพันธะเคมี อย่างไรก็ตามทฤษฎีที่ดูจะน่าสนใจที่สุดที่สามารถนำมาใช้อธิบายปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์คือทฤษฎีปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น

ลู่โจวมองหน้าเชิ่งเซี่ยนฟู่และพูด “ผมรู้ว่าคุณเคยพลาดมาแล้วหลายครั้ง คุณอาจคิดอยากยอมแพ้…ผมแค่อยากจะบอกว่างานวิจัยของคุณจริงๆ แล้วไม่ได้ไร้ประโยชน์เลย คุณแค่ยังไม่เจอวิธีการที่เหมาะสมเท่านั้นเอง”

เชิ่งเซี่ยนฟู่ส่ายหน้า

“ผมลองมาทุกวิธีแล้ว มีอะไรที่ผมต้องทำอีก”

ลู่โจวมองดูเอกสารกองโต

“คำตอบของคำถามคุณอยู่ในเอกสารพวกนี้”

…………………………………………

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท