ตอนที่ 665 เขาจัดการทั้งหมดคนเดียว
ปัญหาเกี่ยวกับ R(φ) ค่าคงที่คู่ควบไม่ใช่ปัญหาที่ยากเย็นอะไร เพียงแค่ต้องใช้การคิดเชิงนามธรรม…อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ลู่โจวคิด
แม้ว่าปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่ยาก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะถามคำถามแบบนี้เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกตเห็นถึงปัญหานี้ตั้งแต่ต้น
ลู่โจวคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูด
“ค่าเจาะจงเดี่ยว m ของ M รวมกับสัจพจน์ของไวต์แมน ทำให้เกิดพื้นฐานทางทฤษฎีวิธีกระจายสองรูปแบบ นั่นก็คือตัวดำเนินการคลื่นและสเกตเตอริงเมตริกซ์ เมื่อนำวิธีกระจายทั้งสองวิธีมาใช้ เราสามารถสรุปได้ว่าเลขสัมประสิทธิ์ของอนุภาคจะเกิดขึ้นตามลำดับ”
หลัวเหวินเซวียนรีบหยิบปากกาและเริ่มเขียนบนไวท์บอร์ด
สมการแต่ละบรรทัดถูกเขียนด้วยความประณีตจนเต็มไวท์บอร์ด
ปัญหานี้คลี่คลายลง วิทเทนหยุดขมวดคิ้วและกลับมายิ้มได้ ชายสูงวัยที่มีจมูกโค้งงอพยักหน้า
เสียงกระซิบจากผู้ชมค่อยๆ เงียบลง
หลัวเหวินเซวียนสูดลมหายใจเข้าและหยุดเขียน
“นี่คือคำตอบของสเปกตรัมอนุภาคเดี่ยว…มีคำถามอีกไหมครับ”
ชายสูงวัยยิ้ม
“ไม่มีแล้วครับ”
เมื่อผู้คนที่เข้าชมเริ่มปรบมือ หลัวเหวินเซวียนก็รับรู้ถึงบรรกาศแห่งความชื่นชมและกำลังใจ
หลัวเหวินเซวียนวางปากกาบนโต๊ะพร้อมถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เขายิ้มและสมองของเขาก็กลับมาทำงานอีกครั้ง
เขาฟังเสียงปรบมือที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนอดยินดีกับมันไม่ได้
ศาสตราจารย์ลู่นี่บ้าจริงๆ
ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยฉันไว้
แต่…
เขากลายเป็นคนที่โอ้อวด
หลังจากนั้นนักวิชาการที่เข้าชมพากันถามคำถาม หลัวเหวินเซวียนตอบคำถามเหล่านั้นทีละข้อ เมื่อไหร่ก็ตามที่หลัวเหวินเซวียนมีปัญหา ลู่โจวก็จะเป็นคนให้ข้อมูลแทน
หลังจากเสียงปรบมือรอบสุดท้ายสิ้นสุดลง การรายงานก็มาถึงช่วงสุดท้าย
หลังจากที่หลัวเหวินเซวียนเดินลงจากเวที ชายสูงวัยที่มีจมูกโค้งงอเดินเข้ามาหาเขาพร้อมไม้เท้าในมือ
“เป็นการรายงานที่เยี่ยมมาก”
ชายสูงวัยมองหลัวเหวินเซวียนและยิ้มใจดี ทำให้ริ้วรอยบนหน้าของเขายิ่งเด่นชัดขึ้น
จริงๆ แล้วหลัวเหวินเซวียนไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น เขาเกาหัวด้วยความประหม่าเพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่ตอบคำถามของชายสูงวัยก็คือลู่โจว
“ครับ ก็ดีครับ”
“ก็ดีเหรอ? ไม่ มันเยี่ยมมากเลย” ชายสูงวัยยิ้มและพูด “อีกอย่างถ้าคุณเจอศาสตราจาร์ลู่ ช่วยฝากขอบคุณเขาด้วยนะ ผมไม่คิดเลยว่าการรวมตัวของแรงจะเกิดขึ้นก่อนที่ผมจะไปสวรรค์ ก่อนหน้านี้ผมก็ยังเป็นห่วงสายงานฟิสิกส์ทฤษฎี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าผมคงกังวลไปเอง”
หลัวเหวินเซวียนตอบอย่างสุภาพ “ผมจะบอกเขาว่าคุณขอบคุณเขา ผมขอถามชื่อคุณได้ไหมครับ”
ชายสูงวัยใส่หมวก
“ปีเตอร์ ฮิกส์”
เขายิ้มให้หลัวเหวินเซวียน และหันหลังเดินกลับไป
ฮิกส์!
หลัวเหวินเซวียนจ้องมองฮิกส์ที่เดินผ่านไป เขาใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะสติจะกลับมา
เขาคิดอยู่แล้วว่าชายสูงวัยคนนี้หน้าตาคุ้นๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นฮิกส์
ก็สมควรแล้วที่เขาจำฮิกส์ไม่ได้เพราะชายสูงวัยคนนี้หายไปจากวงการฟิสิกส์ตั้งแต่ปี 2013 ส่วนรูปทั้งหมดที่มีก็ถ่ายนานมากแล้ว หลัวเหวินเซวียนไปที่เซิร์นในปี 2014
‘ฉันน่าจะขอลายเซ็นเอาไว้’ หลัวเหวินเซวียนพึมพำกับตัวเอง
แต่ฮิกส์ก็เดินไปไกลแล้ว
…
เสียงปรบมือที่ห้องบรรยายเซิร์นดังก้องไปทั่ววงการฟิสิกส์ ก่อนหน้านี้วงการฟิสิกส์นานาชาติยังคงถกเถียงกันเรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้น แต่การโต้แย้งทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว
สามวันหลังจากการรายงานที่เซิร์น สถาบันคณิตศาสตร์เคลย์มีการแถลงการณ์ ผู้อำนวยการสถาบันเคลย์ ศาสตราจารย์เจฟฟ์ประกาศว่าเขาได้รับการพิจารณาจากเซิร์น และกล่าวว่าบอร์ดที่ปรึกษาสาขาวิทยาศาสตร์กำลังหาเวลาที่เหมาะสมในการมอบรางวัลมิลเลนเนียมพร้อมเงินรางวัล
อีกอย่างการคุยโทรศัพท์กับลู่โจวระหว่างการรายงานเป็นเรื่องที่คนในวงการฟิสิกส์พากันพูดถึง
สามวันหลังการรายงานสิ้นสุดลง 20.00 นาฬิกาตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์
ที่ประเทศจีน ตอนนี้เป็นเวลาช่วงบ่าย
หลัวเหวินเซวียนนั่งอยู่ที่โซฟาของโรงแรมใกล้ๆ เซิร์นขณะโทรหาลู่โจว
“ผมว่าจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย”
“ทำไมเหรอ”
“เอ่อ ผมวางแผนจะไปฝรั่งเศส เพื่อไปหาแรงบันดาลใจ” หลัวเหวินเซวียนพูดด้วยท่าทีที่อึดอัด “คือว่าผมไม่มีเงินแล้ว คุณช่วยโอนเงินมาให้ผมหน่อยได้ไหม เดี๋ยวผมจะจ่ายคืนทีหลัง”
ลู่โจวได้ยินเสียงน้ำไหลจากปลายสาย เขายิ้มแล้วส่ายหัว
“ไม่ต้องยืมหรอก ศาสตราจารย์คาร์สัน ประธานบอร์ดที่ปรึกษาสาขาวิทยาศาสตร์ส่งอีเมลหาผมทั้งวัน ถ้าคุณไปฝรั่งเศส คุณช่วยไปรับเงินรางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์ที่สถาบันแห่งฝรั่งเศสให้ผมหน่อยนะ ผมจะแบ่งเงินครึ่งหนึ่งให้คุณ”
หลัวเหวินเซวียนเกือบจะตกโซฟา
“หมายความว่าอย่างไร! ครึ่งหนึ่ง…”
ลู่โจวพูดด้วยทาทีเรียบเฉย “ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างคุณก็ช่วยผมได้เยอะ ผมควรแบ่งเงินรางวัลให้คุณอยู่แล้ว”
จริงๆ แล้วลู่โจวได้เงินเงินทุนเพื่อวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายร้อยล้าน เงินแค่ล้านเดียวไม่มีความหมายอะไรกับเขา เขาก็แค่อยากได้ประกาศนียบัตรจากสถาบันเคลย์เท่านั้น
เพราะท้ายที่สุดแล้วไม่มีอะไรที่ถือเป็นเกียรติเกินไป ประกาศนียบัตรนี้มีแค่เจ็ดใบเท่านั้น มันจึงควรค่าแก่การสะสม
แต่หลัวเหวินเซวียนไม่เห็นด้วย และเถียงลู่โจว
“ปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นเป็นสุดยอดปัญหารางวัลมิลเลนเนียม ผมทำไปแค่ 10% เท่านั้น เงินรางวัลไม่ใช่ของผม ผมไม่อยากได้! ” หลัวเหวินเซวียนดูลังเล เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูด “ผมไปงานประกาศรางวัลแทนคุณได้นะ แต่ผมไม่เอาเงินแน่ๆ ”
ลู่โจว “…”
……………………………………….
ตอนที่ 666 การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่!
หลัวเหวินเซวียนยืนยันที่จะไม่รับข้อเสนอจากลู่โจว เขาบอกว่าเขาจะนำเช็คจากสถาบันเคลย์กลับไปให้ลู่โจว
ลู่โจวไตร่ตรองมาอย่างดีและรู้สึกว่าจริงๆ แล้วเขายังคิดน้อยไปหน่อย ดังนั้นเขาจึงไปที่ออฟฟิศการเงินของสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงและจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้หลัวเหวินเซวียน 100,000 ดอลลาร์ เขาหวังว่าหลัวเหวินเซวียนจะมีช่วงเวลาดีๆ ที่ย่านโคมแดง
หลัวเหวินเซวียนไม่ปฏิเสธเงินก้อนนี้และลาพักร้อนยาวหนึ่งเดือน
ดูเหมือนว่าหลัวเหวินเซวียนวางแผนที่จะใช้เงินทั้งหมด…
แต่ลู่โจวไม่สนใจ
คนมากมายพากันมาแสดงความยินดีกับเขาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
บ้างก็เป็นนักศึกษาและเพื่อนร่วมงานจากพรินซ์ตัน บางคนก็เป็นคนที่เคยเจอที่การประชุมทางวิชาการต่างๆ และเพื่อนสนิทของเขาก็มาแสดงความยินดีด้วย
เพื่อนสนิทอย่างเถาเจ๋อเซวียน
ลู่โจวเคยทำงานร่วมกับเถาเจ๋อเซวียนสมัยที่เขายังทำวิจัยข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค และยังคงติดต่อกันอยู่ตลอด เขาทั้งคู่เป็นนักคณิตศาสตร์ที่เก่งในหลายๆ ด้านจึงมีเรื่องให้คุยกันเยอะ
ระหว่างที่คุยโทรศัพท์กันอยู่ เถาเจ๋อเซวียนพูด “ยินดีด้วยนะ แก้โจทย์ปัญหารางวัลมิลเลนเนียมได้อีกแล้ว สถาบันเคลย์น่าจะอัปเดตคำถามบ้าง บอกผมได้ไหมว่าปัญหาต่อไปที่คุณจะทำคืออะไร”
ลู่โจว “ผมน่าจะหยุดทำวิจัยคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ไปสักพัก และจะจดจ่อกับคณิตศาสตร์ประยุกต์มากกว่า”
เถาเจ๋อเซวียน “อย่างเช่นการเดินทางไปดวงจันทร์เหรอ”
ลู่โจว “นั่นก็ใช่”
เถาเจ๋อเซวียน “ฟังดูน่าตื่นเต้นจัง ภรรยาผมทำงานที่นาซา เธอเล่าเรื่องที่ทำงานให้ผมฟังบ่อยๆ ซึ่งมันแตกต่างกับสิ่งที่ผมศึกษามา ถ้าคุณทำได้จริงๆ อย่าลืมเว้นที่นั่งให้ผมสักที่นะ ผมยังไม่เคยไปดวงจันทร์เลย”
ลู่โจวพูดเย้าแหย่ “ถ้าผมทำได้จริงๆ ผมจะจัดการรายงานวิชาการบนดวงจันทร์เลย”
หลังจากที่วางสาย ลู่โจวลุกจากเก้าอี้ออฟฟิศและกำลังจะไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหาร แต่ทันทีที่หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ามันก็ดังขึ้นอีกรอบ
ลู่โจวมองไปที่โทรศัพท์ เห็นว่าเชิ่งเซี่ยนฟู่โทรมา เขาจึงรับสายทันที
“สวัสดีครับ?”
“ศาสตราจารย์ครับ…”
เสียงของเชิ่งเซี่ยนฟู่ฟังดูแปลกๆ ลู่โจวจึงรึบถามทันที “มันระเบิดอีกแล้วเหรอ มีใครบาดเจ็บไหม แล้วเครื่องมือที่ผมยืมมาไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
เชิ่งเซี่ยนฟู่อ้าปากค้างและพูด “คุณหมายความว่าอะไร ระเบิดอีกแล้ว เราไม่ได้ทำระเบิดกันนะ คุณต้องพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”
ลู่โจว “…”
จริงๆ แล้วพลังงานฟิวชั่นน่ากลัวกว่าระเบิด
แต่…
อย่างน้อยพวกเขาก็ปลอดภัยดี
ลู่โจวถึงกับพูดไม่ออก เขาพูด “แล้วทำไมคุณต้องทำเสียงแบบนั้นด้วย”
เชิ่งเซี่ยนฟู่จับจมูกและพูด “ก็ผมตื่นเต้น”
ลู่โจว “ตื่นเต้นเหรอ? ”
“ครับ…” เชิ่งเซี่ยนฟู่พยักหน้าขณะถือโทรศัพท์ เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ผมคิดว่า…เราทำได้แล้ว”
โทรศัพท์เงียบเสียงไปชั่วขณะ
ลู่โจวพยายามตั้งสติและสูดลมหายใจเข้า
“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ เราจะได้คุยกันต่อหน้า”
ลู่โจววางสายและโทรหาหวังเผิง
“ช่วยมารับผมที่แผนกคณิตศาสตร์”
หวังเผิงตอบคำเดียว
“โอเคครับ”
หลังจากขับรถเป็นเวลายี่สิบนาที รถคันดำพร้อมธงสีแดงจอดตรงทางเข้าสถาบันวิจัย
หลังจากที่ลู่โจวลงจากรถ เขาเดินผ่านจุดตรวจและตรงไปที่มุมตึก
จากเหตุการณ์ครั้งก่อน ห้องทดลองฟิวชั่นควบคุมได้ถูกย้ายจากมุมตึกไปที่โกดังชั่วคราวที่อยู่ข้างสถาบัน หลังจากนั้น คนก็พยายามไม่เข้าใกล้โกดังอีกเลย
ลู่โจวเดินไปที่ทางเข้าห้องทดลอง ก่อนที่จะเขาจะเปิดประตู เขาได้ยินคนส่งเสียงเชียร์มาจากด้านใน
“เกิดอะไรขึ้น” ลู่โจวรีบเดินเข้าไปในห้องทดลองและเห็นเชิ่งเซี่ยนฟู่ที่กำลังดีใจจนเหลือล้น ลู่โจวถามเชิ่งเซี่ยนฟู่ทันที “เกิดอะไรขึ้น”
“วิธีการใช้โลหะเหลวเป็นสารละลาย จากข้อมูลการทดลองตอนที่เราใช้ของเหลวลิเธียมเป็นสารละลาย เราสามารถใช้ความดันเสียงกับฟองผ่านอุปกรณ์อีมิสชั่นเหนือเสียง ระดับการยุบตัวของฟองก็เสถียรขึ้น” เชิ่งเซี่ยนฟู่พูดด้วยความตื่นเต้น ไหล่ของเขาสั่นเทาเพราะอะดรีนาลีนที่เอ่อล้นออกมา
หลังจากที่ลู่โจวได้ยินว่าความคิดของเขาประสบผลสำเร็จ เขาก็อดยิ้มไม่ได้
แต่สิ่งที่เขาอยากรู้จริงๆ คือมันสำเร็จได้อย่างไร
“แล้วทำไมรอบที่แล้วเราถึงทำไม่ได้”
เชิ่งเซี่ยนฟู่ตอบด้วยความตื่นเต้น “ครั้งที่แล้วเราพยายามเพิ่มพลังเครื่องกำเนิดสัญญาณอัลตร้าโซนิค แต่อัตราฟลูเอ็นซ์นิวตรอนไม่ได้สูงขึ้นตาม ต่อมาเราก็พบว่าปัญหาจริงๆ คือแก๊สดิวเทอเรียม”
ลู่โจว “แล้วพวกคุณทำอย่างไรต่อ”
“เราอุ่นแก๊สให้ร้อนขึ้น”
ลู่โจวพูดทันที “คุณเพิ่มความร้อนและทำให้แก๊สแตกตัวเหรอ”
สีหน้าของเชิ่งเซี่ยนฟู่เต็มไปด้วยความสุขขณะที่พูด “ใช่ครับ”
ลู่โจวพยักหน้า เหมือนลู่โจวจะไม่ค่อยมั่นใจกับสิ่งที่พวกเขาทำเท่าไหร่นัก
พวกเขาเพิ่มความร้อนและทำให้แก๊สดิวเทอเรียมแตกตัว หลังจากนั้นก็ฉีดของเหลวลิเธียมผ่านช่องทางอากาศ แม้ว่าอุณหภูมิที่ผ่านการการแยกตัวเป็นไอออนจะสูงไม่กี่พันองศา แต่เทียบกับอุณหภูมิหลายสิบล้านองศาขณะที่ฟองเกิดการแตกตัวไม่ได้เลย แก๊สที่เป็นไอออนขยายตัวขึ้นขณะเคลื่อนตัวไปที่ของเหลวลิเธียมทำให้พื้นผิวสูงขึ้น แปลว่าการถ่ายทอดพลังงานโดยเสียงของฟองใหญ่ขึ้น
ดังนั้น ขณะที่ฟองกำลังยุบตัว อุณหภูมิก็จะสูงขึ้น ซึ่งตรงกับเงื่อนไขฟิวชั่นดิวเทอเรียม-ทริเทียม
ศาสตราจารย์หลี่ชางเซี่ยที่ยืนข้างๆ เชิ่งเซี่ยนฟู่พูดด้วยความตื่นเต้น “เราหาวิธีทำให้ฟิวชั่นควบคุมได้เสถียรได้แล้ว เรากำลังจะเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีฟิวชั่นของโลก”
“ครับ”
ลู่โจวจ้องมองภาชนะสีดำที่วางอยู่กลางห้องทดลอง เขาอดที่จะหลงใหลไปกับมันไม่ได้
การออกแบบตัวผลักดันผลกระทบฮอลล์ได้รับอิทธิพลมาจากเศษซากหมายเลข 3 อีกอย่าง เครื่องCNC ประเภท 5 แกนติดตั้งอยู่ที่หอประชุมกระสวยอวกาศ เสี่ยวไอทำหน้าที่ดูแลด้านการผลิต และตอนนี้พวกเขาก็สามารถจัดการกับปัญหาฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อได้แล้ว ก็ไม่มีอุปสรรคอะไรมาขัดขวางแผนการของเขาอีกต่อไป
แน่นอนว่าเครื่องปฏิกรณ์ฟองอากาศไม่ยุ่งยากเลย ทั้งประสิทธิภาพของพลังงานและกำลังไฟฟ้ายังน้อยกว่าแมกเนติกคอนไฟน์เม้นท์ของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผางกู่ เนื่องจากเครื่องนี้ไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ค่าใช้จ่ายจึงสูงมาก
แต่ว่าอุปกรณ์พลังงานฟิวชั่นขนาดย่อแบบนี้ไม่ถูกใช้ในการผลิตพลังงานจำนวนมากอยู่แล้ว เรื่องเงินจึงไม่ค่อยสำคัญ
เพราะความหนาแน่นของพลังงานและประโยชน์ที่ได้มีมากกว่าแบตเตอรี่ฟิวชั่นดั้งเดิม ทำให้มันมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
การออกแบบตัวผลักดันผลกระทบฮอลล์ได้รับอิทธิพลมาจากเศษซากหมายเลข 3 ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอวกาศเช่นเดียวกับตอนที่ดินปืนมีบทบาทต่ออุตสาหกรรมทหาร
จะไม่เป็นการกล่าวเกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าการค้นพบของพวกเขาสามารถเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ…
………………………………..