ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 733 วิเคราะห์องค์ประกอบ

ตอนที่ 733 วิเคราะห์องค์ประกอบ

ตั้งแต่ที่มีการจัดตั้งสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงขึ้นมา ตึกทดลองก็มีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากบรรยากาศทางวิชาการที่ไปในทางผ่อนคลายและจำนวนของเงินทุนที่ได้ ทำให้สถาบันประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้มีความสามารถจำนวนมากจากต่างประเทศ

สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงเคยเป็นสถาบันเอกชนเล็กๆ ที่มีเพียง 4 สถาบันย่อยหลักๆ อันได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ วัสดุเชิงคำนวณ และวิทยาการสารสนเทศ ด้วยความที่ได้ผู้มีความสามารถคนใหม่ๆ มา ทำให้สถาบันค่อยๆ พัฒนาไปเป็นสถาบันใหญ่ที่มีสาขาหลายรูปแบบมาก

หลังจากที่ระยะที่สองและระยะที่สามของสถาบันวิจัยจบลง ทีมของสถาบันก็แยกตัวออกสถาบันเก่าไปจัดตั้งสถาบันวิจัยของตัวเองขึ้นมาแทน

อย่างเช่น สถาบันชีวเคมีก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันวัสดุเชิงคำนวณ

หลังจากที่ลู่โจวได้ให้ตัวอย่างเศษผ้ากับยางสวี่ เขาก็นำหลอดทดลองทั้งสองหลอดไปยังห้องแล็บวิเคราะห์องค์ประกอบในสถาบันชีวเคมี เขาพบคนที่กำลังทำงานอยู่ เป็นสวี่เหวินห่าวนั่นเอง

“ศาสตราจารย์ลู่? โอ้ เข้ามาก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมหาอะไรให้ดื่ม…คุณอยากดื่มอะไรบ้าง? พวกเรามี…”

“ไม่เป็นไร” ลู่โจวตอบ ในขณะที่ตัวเองก็มองว่าสวี่เหวินห่าวมีท่าทางตื่นเต้นมากแค่ไหน ลู่โจวยิ้มแห้งๆ แล้วบอกว่า “ผมมีหลอดทดลองบางหลอดที่อยากให้คุณช่วยวิเคราะห์องค์ประกอบให้หน่อย หวังว่าจะไม่ได้ไปรบกวนงานของคุณนะ”

สวี่เหวินห่าวส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เลยครับ ผมเพิ่งทำการทดลองเสร็จเนี่ย ถ้าคุณมีตัวอย่างอะไรให้ผมตรวจ บอกผมได้เลย!”

สำหรับนักวิจัยมือใหม่อย่างเขาแล้ว เขารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ช่วยเหลือผู้ได้รางวัลโนเบล

ยังไม่นับว่าธีสิสอะไรก็แล้วแต่ที่มีชื่อลู่โจวปรากฏอยู่บนนั้นจะถือเป็นการอวยพรอีกด้วย!

ลู่โจวรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าจะกระตือรือร้นเกินไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

ลู่โจวบังเอิญสังเกตเห็นตัวอย่างบางตัวที่วางอยู่บนโต๊ะทดลอง เขาเลิกคิ้วขึ้น

“นี่มันอะไรกัน?”

สวี่เหวินห่าวมองไปที่ตัวอย่างแล้วก็รู้ได้ในทันทีว่าลู่โจวกำลังพูดถึงอะไร เขายิ้มแล้วตอบคำถาม “อ้อ มีตัวอย่างชิปคาร์บอนที่ส่งมาจากสถาบันวัสดุเชิงคำนวณน่ะครับ พวกเขาขอให้ผมช่วยวิเคราะห์องค์ประกอบให้ ผมก็เลยยุ่งๆ กับมันอยู่”

ชิปคาร์บอนเหรอ?

มีร่องรอยความประหลาดใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของลู่โจว

มันผ่านมาสองปีแล้ว เขาแทบจะลืมโปรเจกต์นี้ไปแล้วด้วยซ้ำ

เขายังจำได้ว่า หลังจากที่เขาเดินทางออกจากอเมริกาไปไม่นาน สถาบันวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณจินหลิงก็ร่วมมือกับเป่าเซิ่งกรุ๊ปในการพัฒนา วัสดุตัวนำยวดยิ่ง SG-1 ด้วยการพัฒนามุมทับซ้อนของแกรฟีน

ในการประชุมที่แคลิฟอร์เนียเมื่อปีที่แล้ว เป่าเซิ่งกรุ๊ปก็ได้สาธิตเทคโนโลยีตัวนำยิ่งยวดในการประชุมฟิวชั่นที่ควบคุมได้ สิ่งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับบริษัทวิจัยฟิวชั่นต่างชาติจำนวนมาก และเป่าเซิ่งกรุ๊ปก็ได้รับคำสั่งสินค้าจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

ก่อนที่ลู่โจวจะออกจากอเมริกา เขาบอกหัวหน้าของเป่าเซิ่งกรุ๊ปแล้วว่าการวิจัยชิปซิลิคอนกำลังเข้าสู่ภาวะคอขวด ถึงแม้อินเทลและควอลคอมม์จะยังพัฒนาเทคโนโลยีชิปซิลิคอนต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาก็ยังต้องเจอข้อจำกัดจากกฎฟิสิกส์ของซิลิคอนอยู่ ถ้าหากประเทศจีนอยากจะชิงตำแหน่งในวงการชิปคอมพิวเตอร์มา พวกเขาจะต้องตามหาวัสดุอื่นที่นำมาใช้แทนซิลิคอนได้

สารกึ่งตัวนำแกรฟีนเป็นหนึ่งในวัสดุที่เป็นไปได้

แกรฟีนมีคุณลักษณะแทบจะทุกอย่างที่จำเป็นต่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อเสียเดียวของมันคือต้องหาแถบช่องว่างพลังงานที่เหมาะสมให้ได้ อย่างไรก็ตาม แถบช่องว่างพลังงานก็สามารถมีการปรับเปลี่ยนได้โดยเปลี่ยนแปลงที่ตัวมุมทับซ้อนของแกรฟีน

ถึงแม้บอสของเป่าเซิ่งกรุ๊ปจะสัญญาว่าจะเริ่มวิจัยชิปแกรฟีน แต่ก็ไม่เห็นเขาทำอะไรเสียที

ซึ่งลู่โจวก็ไม่ได้โทษอะไรเขามากนัก เพราะไม่ว่าอย่างไร บอสของเป่าเซิ่งกรุ๊ปก็แค่อยากโฟกัสกับวัสดุ SG-1 และหาเรื่องเลื่อนตำแหน่งเท่านั้น

ยังไม่นับว่าการวิจัยสารกึ่งตัวนำแกรฟีนยังเพิ่มจะเริ่มอีกด้วย อาจจะใช้เวลาเป็นหลายปีหรืออาจจะหลายสิบปีกว่าที่เทคโนโลยีชิปแกรฟีนจะประสบความสำเร็จ ถึงแม้เป่าเซิ่งกรุ๊ปจะใช้เงินจำนวนมากไปกับการวิจัยเทคโนโลยีนี้ พวกเขาก็อาจจะไม่ได้รับกำไรอะไร

ดังนั้นแล้ว สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงจึงเป็นฝ่ายที่ทำโปรเจกต์นี้แทน

โปรเจกต์นี้ได้รับเงินทุนส่วนหนึ่งมาจากเงินทุนวิจัยวิทยาศาสตร์ของรัฐ ส่วนเงินทุนที่เหลือได้จากสตาร์สกายเทคโนโลยี

สุดท้ายแล้ว ถ้าพวกเขาอยากได้สิทธิบัตรของเทคโนโลยีนี้จริงๆ พวกเขาก็ต้องร่วมมือมากกว่านี้

ลู่โจวรู้สึกสนใจ เขาจึงถามว่า “แล้วตอนนี้โปรเจกต์ไปถึงไหนแล้วล่ะ?”

สวี่เหวินห่าวเกาหัวตัวเองด้วยท่าทางเจื่อนๆ แล้วตอบว่า “ผมไม่แน่ใจเรื่องความคืบหน้านะครับ แต่ได้ยินมาว่าทีมของศาสตราจารย์หยางพัฒนาวิธีการเตรียมสารกึ่งตัวนำแกรฟีนได้แล้ว แต่การสังเคราะห์ก็ยังไม่ถือว่าใช้ได้คงที่…ผมได้ยินศาสตราจารย์หยางบ่นหลายรอบเลยล่ะครับ ว่าถ้าเกิดคุณช่วยเขา ปัญหานี้ก็คงจะแก้ได้ไปนานแล้ว”

ลู่โจวกระแอม

“ที่นายพูดถึงมันคือเรื่องนานมาแล้วนะ…ผมไม่ใช่พระเจ้า จะให้ทำอะไรได้ล่ะ…”

สวี่เหวินห่าวรีบพูดแก้ “ผมไม่ใช่คนพูดนะครับ ศาสตราจารย์หยางต่างหาก”

“โอเค จะอะไรก็ช่างเถอะ” ลู่โจวส่ายหัวแล้วหยิบหลอดทดลองทั้งสองหลอดออกมาจากกระเป๋าของเขา เขาวางลงบนชั้นวางหลอดทดลองที่ว่างเปล่าซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะทดลองแล้วพูดขึ้นว่า “ผมมีตัวอย่างอยู่สองอันตรงนี้ อยากให้คุณช่วยวิเคราะห์องค์ประกอบให้หน่อย”

หลอดทดลองอันหนึ่งมีตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหารแบบเหลวอยู่

หลังจากที่ลู่โจวดึงผลิตภัณฑ์เหลวนั้นออกมาจากมิติระบบ เขาก็ดื่มมันไปครึ่งหนึ่ง รู้สึกว่ามันจะรสชาติดีมากทีเดียว มันรสชาติเหมือนโยเกิร์ตผสมกับน้ำมะนาว แต่ก็ข้นกว่าน้ำมะนาวทั่วไป

จริงๆ แล้วรสชาติมันไม่สำคัญหรอก ส่วนที่สำคัญคือ หลังจากที่เขาดื่มไปได้ครึ่งขวด เขาก็รู้สึกอิ่มมาก

ลู่โจวสงสัยเรื่องของสารอาหารในผลิตภัณฑ์ เขาจึงนำผลิตภัณฑ์เหลวที่เหลืออยู่มาใส่ในหลอดทดลองตัวอย่าง

ถ้าเขาสามารถหาสูตรที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหารแบบเหลวนี้ได้ มันก็สามารถนำไปใช้เป็นอาหารอวกาศได้

ส่วนอีกหลอดทดลองหนึ่งก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากสิ่งที่เหลืออยู่ในกระป๋องโค้กแห่งอนาคต

ในอดีต ลู่โจวไม่มีวิธีในการตรวจสอบของพวกนี้ แต่ตอนนี้เขาทำได้แล้ว เขาไม่มีทางทิ้งโอกาสในการทดลองครั้งนี้ไปแน่ๆ ทุกครั้งที่เขาดื่มโค้ก เขาก็รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา ส่วนผสมของมันอาจจะเป็นสิ่งน่าสนใจได้…

หรือจริงๆ เขาอาจจะคิดมากไป

อย่างเช่น บางทีผู้ผลิตอาจจะแค่เพิ่มทอรีนกับคาเฟอีนไปนิดหน่อย…

สวี่เหวินห่าวมองไปทางหลอดทดลองทั้งคู่แล้วยิ้มออกมา

“ไม่มีปัญหาครับ คุณต้องการตอนไหนเหรอ?”

“เอาให้เร็วที่สุดที่คุณทำได้ ส่งรายงานกับตัวอย่างที่เหลือมาที่ออฟฟิศผมด้วยนะ…”

โทรศัพท์ในกระเป๋าลู่โจวเริ่มสั่น

“ผมขอรับโทรศัพท์ก่อน”

สวี่เหวินห่าวเริ่มประจบลู่โจวทันที เขาพูดว่า “ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผมจะเริ่มทำการตรวจเดี๋ยวนี้เลย!”

ลู่โจวพยักหน้าแล้วตอบกลับไปว่า “โอเค ขอบใจนะ!”

ลู่โจวหันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากห้องแล็บ เขารับโทรศัพท์ในขณะที่กำลังเดินไปตรงสุดทางเดิน

“สวัสดีครับ?”

เขาได้ยินเสียงของผู้อำนวยการหลี่ดังมาจากโทรศัพท์

“นี่ผมเอง คุณเป็นอย่างไรบ้าง?”

ลู่โจวบอกได้จากการฟังเสียงว่าผู้อำนวยการหลี่กำลังอารมณ์ดี เห็นได้ชัดว่าการไปดวงจันทร์สำเร็จเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรและองค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

แต่ลู่โจวก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาจึงยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “ผมสบายดีครับ มีอะไรเหรอ?”

“คุณมีเวลามาปักกิ่งไหม?”

ลู่โจว “ปักกิ่ง? ให้ไปทำไมเหรอครับ?”

“ทำไมน่ะเหรอ?” ผู้อำนวยการหลี่แล้วบอกว่า “ก็เพื่อให้รางวัลเธออย่างไงล่ะ”

……………………………………

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท