ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 761 สมควรโดน / ตอนที่ 762 สะดุดตา

ตอนที่ 761 สมควรโดน / ตอนที่ 762 สะดุดตา

ตอนที่ 761 สมควรโดน

ลู่โจวคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนง่ายๆ

เขาสามารถขำไปกับทุกเรื่องและไม่เคยเอาคำพูดใครเก็บมาฝังใจ

ดังนั้นตอนที่อ่านบล็อกที่วิจารณ์เขา เขาก็ไม่ได้คิดจริงจัง

และเห็นด้วยกับความเห็นของผู้เขียนบางส่วนด้วยซ้ำ การจะบูชาใครโดยไม่ลืมหูลืมตาเป็นเรื่องที่อันตรายในสายงานวิชาการ คนควรที่จะสนใจและจริงจังกับความเห็นของคนทุกคน

ลู่โจวรู้ดีว่าเขาเองไม่ได้ตัดสินใจถูกเสมอไป ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์พลังงานฟิวชั่นควบคุมได้ หรือสกายโกลว์ พลังของความสามัคคีต่างหากที่เป็นบทบาทสำคัญ

แต่…

นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกความเห็นมีประโยชน์ไปหมด

ความเห็นบางความเห็นก็เป็นแค่คำวิจารณ์ที่มาจากความอิจฉาล้วนๆ

เพราะแบบนี้เขาจึงหัวเราะให้กับความเห็นในอินเทอร์เน็ตและไม่ใส่ใจกับมัน

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจ…

แต่ก็มีบางคนที่สน

เพราะสุดท้ายแล้วชื่อเสียงของเขาก็ไม่ได้สำคัญกับแค่ตัวเขาคนเดียว

เซี่ยงไฮ้

อาคารตลาดหลักทรัพย์ไห่เฟิง

โดยปกติแล้วเหอเหยียนไม่มีประชุม เขาถือกระเป๋าเอกสารผ่านห้องเล็กๆ และตรงไปที่ออฟฟิศของตัวเอง

ทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้เย็นๆ เสียงฝีเท้าวุ่นวายก็ดังขึ้นนอกประตู

เหอเหยียนขมวดคิ้วและกำลังจะยืนดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นเองประตูออฟฟิศก็ถูกผลักเปิดออก

กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามา โดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเป็นคนนำ พวกเขาเดินเข้ามาเต็มห้อง

ดวงตาของเหอเหยียนเบิกกว้าง เขาเอื้อมมือจับเก้าอี้และยืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว

แต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าชั้นนี้คือชั้นที่ 20 ไม่มีทางหนีได้แน่ๆ เขาก็เลยปล่อยมือจากเก้าอี้และนั่งลงอีกครั้ง

“ผมก็แค่นักธุรกิจธรรมดา ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลย ทุกคนมาที่นี่ทำไมครับ?”

เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่อายุมากกว่าคนอื่นยิ้มเยาะและพูด “ยังไม่ทำอะไรผิดกฎหมายอย่างนั้นเหรอ คุณเหอ คุณนี่ขี้ลืมจังเลยนะ เราจะมาที่นี่ทำไมถ้าคุณยังไม่ได้ทำอะไร”

เหอเหยียนรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาที่เขาทะลุขั้วหัวใจ ความกังวลเข้ามาในหัว

“…ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร”

เขาเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็ง แม้จะรู้ดีว่าหนีไม่ได้แต่ก็ยังยืนกรานคำเดิม

ตราบใดที่เขาไม่ยอมรับ เขาก็อาจมีโอกาสรอดจากเหตุการณ์แย่ๆ นี้ได้

เขาอาจจะติดสินบนหรือไม่ก็โทษคนอื่นแทน

อย่างน้อยหัวหน้าของเขาที่ปักกิ่ง คนที่สั่งให้ทำเรื่องนี้ ก็คงไม่อยากเห็นเขาจบลงแบบนี้…

ใจของเหอเหยียนนั้นเต้นเร็ว หวังเผิงมองเหอเหยียนด้วยความสงสาร เหอเหยียนเหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำตะเกียกตะกายเพื่อจะมีชีวิตรอด

เหอเหยียนกลืนน้ำลายและพูด

“อะไร ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร”

“เหอเหยียน! “

เหอเหยียนตกใจกลัวที่หวังเผิงตะโกนชื่อเขา เขารู้สึกราวกับว่ามีสำลีมาจุกอยู่ที่คอหอย แม้พยายามที่จะเถียงแต่ก็พูดอะไรไม่ออก

“ตามประมวลกฎหมายอาญาของสาธารณรัฐประชาชนจีน คุณถูกแจ้งข้อหา 12 ข้อหา รวมไปถึงข้อหาจารกรรม ข้อหาหมิ่นประมาท ขัดขวางเศรษฐกิจและการเงินของตลาดหลักทรัพย์ ปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และใช้ข้อมูลภายในเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ ข้อหาทั้งหมดถูกนำขึ้นศาล และศาลเป็นผู้ออกหมายจับ จึงเห็นชอบที่จะให้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ…”

หวังเผิงหยิบเอกสารออกมา เขาจ้องไปที่ตาของเหอเหยียนและพูดอย่างไร้ความรู้สึก “นี่คือเอกสารอ้างอิง กรุณาให้ความร่วมมือในการสอบสวนครั้งนี้”

“ผมไม่รู้…”

หลังจากที่เห็นว่าเหอเหยียนกำลังจะเถียงอีกรอบ เจ้าหน้าที่อีกคนโบกมืออย่างฉุนเฉียว

“หุบปาก พาตัวเขาไป! “

เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหลายคนเดินเข้ามา พวกเขาจับแขนของเหอเหยียนและดึงเขาให้ลุกจากเก้าอี้

ตอนที่เหอเหยียนถูกดึงตัวออกจากออฟฟิศ เขาไม่ใจเย็นอีกแล้ว เขาเริ่มตะโกนจนสุดกำลังและกรีดร้อง “คุณไม่มีสิทธิมาจับผม! ผมเป็นพลเมืองอเมริกา ผมต้องการส่งตัวข้ามแดน ผมต้องการทนาย เวรเอ๊ย อย่ามาจับผม”

หลังจากที่เห็นเหอเหยียนเสียศูนย์ขนาดนี้ หวังเผิงเกือบจะรู้สึกสงสารเขาแล้ว

ในฐานะที่เป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมด เหอเหยียนมีบทบาทที่สำคัญกับเรื่องนี้แต่เขาก็เป็นเพียงแค่ทหารแนวหน้าเท่านั้น

เหอเหยียนยังคงหวังว่าออฟฟิศที่ปักกิ่งจะปกป้องเขา แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหัวหน้าเขาจะปล่อยให้เขาตายจริงๆ หรือเปล่า…

ถึงแม้ว่าหวังเผิงจะรู้สึกเห็นใจขนาดไหน แต่อย่างไรเสียศาลก็ต้องจับกุมเขาอยู่ดี

“เราติดต่อทนายให้คุณแล้ว เขาจะมาเจอคุณที่ศูนย์กักกัน” หวังเผิงนิ่งไปสักพักและพูด “เพื่อนเก่าของคุณ สวี่กุ๊ย ก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน ผมมั่นใจว่าเดี๋ยวคุณก็ได้เจอเขา”

ในเวลาเดียวกัน ณ สนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้

สวี่กุ๊ยเดินผ่านระบบรักษาความปลอดภัยสนามบิน

สวี่กุ๊ยมองไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินตรงมาที่เขา เขารู้ทันทีว่าไม่มีทางที่จะหนีได้ เขาจึงวางกระเป๋าเดินทางและยิ้ม

“ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้ขึ้นเครื่องสินะ”

เจ้าพนักงานสูงวัยเลิกคิ้ว

“โอ้ คุณรู้อยู่แล้วเหรอ”

สวี่กุ๊ยยิ้มและพูด “อย่างไรเสียผมก็ต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำ”

เจ้าพนักงานสูงวัยจ้องหน้าสวี่กุ๊ยและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “ผมไม่รู้หรอกนะว่าใครที่ทำให้คุณกล้าทำเรื่องแบบนี้! “

ปล่อยความลับของประเทศให้กองกำลังต่างชาติรู้…

มันไม่ได้ต่างกับการเป็นกบฏหรอก

สวี่กุ๊ยจ้องมองไปที่ดวงตาคู่นั้นและยิ้มขึ้นมา

“ฮ่าฮ่า”

เจ้าพนักงานสูงวัย “คุณยิ้มทำไม”

“คุณคิดจริงๆ เหรอว่าผมเป็นคนเดียวที่ทำเรื่องพวกนี้ ผมก็แค่เป็นคนเดียวที่โดนจับได้” สวี่กุ๊ยยื่นมือออกไป สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังขณะที่พูดอย่างใจเย็น “มาสิ ใส่กุญแจมือเลย”

เจ้าพนักงานสูงวัยจ้องหน้าสวี่กุ๊ยและเงียบไปสักพัก

เขาทำงานนี้มาหลายปี เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่อะไร

แต่…

เขาไม่มีความเห็นใจให้กับคนที่ทรยศประเทศตัวเอง

เขามองไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มและสั่ง “จับเขา”

แม้ว่าผู้ต้องสงสัยจะไม่ได้ขัดขืน แต่พวกเขาก็ต้องใส่กุญแจมืออยู่ดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มพยักหน้าและเดินตรงไปที่สวี่กุ๊ย

“โอเคครับ”

เหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นในอะพาร์ตเมนต์ที่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร

ชายผิวซีดอีกคนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี เขาถูกตำรวจสองคนลากตัวออกมาจากอะพาร์ตเมนต์

เขามีส่วนน้อยที่สุดในเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาไม่คู่ควรกับทีมรักษาความปลอดภัยระดับชาติด้วยซ้ำ แค่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรก็เพียงพอแล้ว

เมื่อเทียบกับเหอเหยียน ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ไห่เฟิง การจับกุมประธานของดีปสเปซเบากว่าเยอะเลย ถ้าลู่โจวต้องการแจ้งความเขาข้อหาหมิ่นประมาท เขาก็อาจจะเป็นตัวอย่างให้ใครหลายคนและถูกจับขังประมาณสองอาทิตย์

ชายผิวซีดแสดงสีหน้าเสียใจ เพื่อนบ้านต่างมองดูเขาตอนที่เขาถูกนำตัวขึ้นรถตำรวจ

คนไม่อยากเชื่อว่าชายที่ยิ่งใหญ่แบบเขาที่ปากดีเฉพาะในอินเทอร์เน็ต จะเรียนจบแค่ปริญญาตรี

อินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่มหัศจรรย์ สถานที่ที่ใครๆ ก็สามารถเสแสร้งว่าเป็นคนอื่น

แต่อินเทอร์เน็ตก็เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครซ่อนตัวได้เหมือนกัน

ไม่มีคำว่านิรนามในโลกของอินเทอร์เน็ต

…………………………………..

ตอนที่ 762 สะดุดตา

แผนการปล่อยสถานีอวกาศไม่เปลี่ยนแปลง

ปราสาทจันทราจะถูกส่งไปยังวงโคจรของการบินดวงจันทร์สิ้นเดือนนี้

หลังจากที่องค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนโพสต์ลงในเว่ยป๋อ การวิพากษ์วิจารณ์สุดตึงเครียดก็เกิดขึ้นในอินเทอร์เน็ต

ปราสาทจันทราก็ปกติดี

ความผิดพลาดทางการออกแบบเป็นแค่ข่าวลือ

ตอนนี้คนที่เคยเยาะเย้ยประเทศจีนว่าทะเยอทะยานเกินตัวก็ไม่มีอะไรพูดต่อ

ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ข่าวลือ

โมดูลหลักไม่ได้มีปัญหาเลย ส่วนกำหนดการปล่อยสถานีอวกาศก็ยังเหมือนเดิม

รายการทอล์คโชว์ที่เคยล้อเลียนระบบทำความเย็นของปราสาทจันทราก็อยู่ในจุดที่กระอักกระอ่วน

พิธีกรในรายการทอล์คโชว์พวกนั้นที่ตอนแรกจะพูดเรื่องนี้ต่อ ก็ต้องเปลี่ยนสคริปต์ใหม่หมด

นิวยอร์กไทมส์ดูเหมือนจะอยู่ในจุดที่น่ากระอักกระอ่วนมากที่สุด

แม้ว่าโลกของสื่อจะมีหลักจริยธรรมอยู่เพียงน้อยนิด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ส่งผลต่อความมั่นคงของนิวยอร์กไทมส์มากทีเดียว

เพราะพวกเขาคือคนแรกที่ปล่อยข่าวนี้ออกไป

แถมยังพาดหัวข่าวปลอมอีกด้วย

ณ ตึกนิวยอร์กไทมส์

ดุ๊คถูกหัวหน้าของเขาเยาะเย้ย เขาเดินกลับมาที่ออฟฟิศพร้อมความหวังที่พังทลาย

คามิลนั่งกระสับกระส่ายบนโซฟาขณะที่มองไปรอบๆ ด้วยความกังวล

“เราไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายนะ เรื่องนี้ดูไม่ชอบมาพากลอย่างไรไม่รู้ บางทีพวกเขาอาจจะหลอกเราอยู่ก็ได้”

โพสต์ขององค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนบนเว่ยป๋ออาจไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ ผู้มีอำนาจของจีนอาจจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้และพยายามปั่นหัวคนอยู่ พวกเขาอาจจะสั่งการให้สถาบันวิจัยพูดแบบเดียวกัน

เพราะเรื่องคล้ายๆ กันนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน

คามิลเป็นนักข่าวต่างประเทศมานานกว่าหนึ่งปี เธอเข้าใจกลยุทธ์ของประเทศจีนเป็นอย่างดี…

ดุ๊คมองคามิลและพูดอย่างหงุดหงิด

“มันใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว พวกเขาจะหลอกไปเพื่ออะไร”

คามิลไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

เขาพูดถูก ตอนนี้ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว

ถ้าพวกเขากุเรื่องขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่มีเวลามากพอที่จะแก้ปัญหาอยู่ดี

หลังจากที่เห็นว่าคามิลไม่มีอะไรจะพูด ดุ๊คจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง

“…สิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือหวังว่าจรวด BFR จะนำระบบช่วยชีวิตลงจอดได้อย่างปลอดภัย มันจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากผู้คนและทำให้พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้”

คามิลถามอย่างลังเล “ฉันคิดว่ายังแก้ไขเรื่องปราสาทจันทราได้ ถ้าเกิด…”

ก่อนที่คามิลจะพูดจบ ดุ๊คโบกมือและขัดเธอ

“ไม่ต้องสร้างข่าวอะไรแล้ว เราควรจะโฟกัสที่อเมริกาก่อน”

คามิลกลืนน้ำลายและพยักหน้าอย่างประหม่า

“โอเคค่ะ”

เธอไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถึงออฟฟิศใหม่หรือผู้ช่วยส่วนตัวด้วยซ้ำ…

หลังจากที่เห็นว่าดุ๊คว้าวุ่นใจขนาดไหน เธอจึงเลือกที่จะเงียบ

เธออธิษฐานในใจเงียบๆ

พระเจ้า ขอให้จีนกุเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ เถอะ…

ถ้าปราสาทจันทราถูกปล่อยสำเร็จ หายนะก็จะเกิดขึ้นกับนิวยอร์กไทมส์

ไม่เพียงแค่ผู้อ่านจะไม่พอใจ แต่พวกเขาจะกลายเป็นตัวตลกในอุตสาหกรรมสื่อ

แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นคนเดียวที่พาดหัวข่าวปลอม…

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูอีเมล

เธอรอแหล่งข่าวจากจีนตอบกลับแต่ไม่มีการตอบกลับใดใดทั้งสิ้น

ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวของเธอจะมีปัญหา

เธอรู้สึกราวกับว่าเรื่องเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น

คำวิพากษ์วิจารณ์ที่แสนตึงเครียดไม่ได้หมดไปทันที แต่เพราะหน่วยงานหลายแห่งปฏิเสธเหตุการณ์นี้ ทำให้เรื่องนี้ไม่เป็นกระแสอีกต่อไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดสิ้นเดือนก็กำลังจะมาถึง

ทั้งสตาร์สกายเทคโนโลยีและองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนไม่ได้ผิดคำสัญญา

สื่อนอกหลักๆ อย่างเช่นเหรินเหรินเดลี่ตีพิมพ์รูปปราสาทจันทราที่กำลังถูกย้ายเข้าไปในยานอวกาศ

หลังจากที่รูปถ่ายถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็แห่กันมาวิจารณ์ด้วยความตื่นเต้น

[พระเจ้า ใครบอกว่าปราสาทจันทราจะไม่ได้บิน]

[สื่อมวลชนไร้ศีลธรรม สงครามคีย์บอร์ดทำให้ฉันคิดว่าสถานีอวกาศปราสาทจันทราล้มเหลวแล้ว]

[ศาสตราจารย์ลู่นี่บ้าจริงๆ !]

[ฉันเดาว่าในอนาคตก็ต้องมีบางคนพูดว่าแม้ว่าปราสาทจันทราจะอยู่ในอวกาศแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี]

[เส้นทางของพวกเราคือทะเลของดวงดาว!]

[…]

คนทั้งประเทศตั้งหน้าตั้งตารอการปล่อยยานอวกาศในครั้งนี้

ในที่สุดกำหนดการก็มาถึง

รถถ่ายทอดสดจากสื่อหลายสำนักขับเข้ามาที่จุดปล่อยสถานีอวกาศ

ส่วนคนที่ไม่ใช่สื่อมวลชนจะต้องขับรถไปชายขอบเมืองจินหลิงบริเวณนอกจุดตรวจ พวกเขาตั้งใจว่าจะมองจากไกลๆ ด้วยกล้องชนิดพิเศษ

ยานอวกาศสกายโกลว์เคลื่อนตัวออกจากจุดปล่อยอย่างช้าๆ และพุ่งทะยานสู้ท้องฟ้าหายลับไปจากสายตาของผู้ชม

ลู่โจวยืนอยู่ที่หอบัญชาการ เขามองสกายโกลว์ที่ค่อยๆ หายไปจากสายตา เขากลับไปหาโฮ่วกวงและถาม “อีกนานแค่ไหนกว่าที่ระบบการเดินทางวงโคจรของการบินโลก-ดวงจันทร์จะถูกเชื่อมต่อ”

โฮ่วกวงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เทคโนโลยีนี้เหมาะสมมาก แต่ถ้าเราใช้ระบบขับเคลื่อนคล้ายกับของสกายโกลว์ เราก็ต้องรอจนถึงปีหน้า”

“ปีหน้า…” ลู่โจวมองไปที่ลูกเรือภาคพื้นดินที่กำลังยุ่งกับงานและถาม “แล้วสตาร์ไลท์ล่ะ”

โฮ่วกวง “เรากำลังจะทดสอบสิ้นเดือนนี้ แต่เพราะกำหนดการปล่อยปราสาทจันทราก็เลยถูกเลื่อนไปอีกหนึ่งอาทิตย์”

ลู่โจว “แปลว่าการทดลองครั้งต่อไปเกิดขึ้นในอีกหนึ่งอาทิตย์”

โฮ่วกวงพยักหน้าและพูด “ใช่ครับ”

ลู่โจวพยักหน้าและยิ้มมุมปาก

ถ้าการทดสอบสตาร์ไลท์ประสบความสำเร็จ ระบบการขับเคลื่อนด้วยเครื่องขับดันพลังไอออนจะก้าวขึ้นอีกหนึ่งระดับ

ลู่โจวโล่งใจที่ได้เห็นเทคโนโลยีของตัวเองมีชีวิตขึ้นมา

เขาได้พิสูจน์แล้วว่าความพยายามของตัวเองคุ้มค่าแค่ไหน

………………………………………………

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท