ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 805 การพบปะครั้งแรกที่ไม่น่าพึ่งประสงค์

ตอนที่ 805 การพบปะครั้งแรกที่ไม่น่าพึ่งประสงค์

ผ่านมาแล้วยี่สิบสี่ชั่วโมงหลังจากคณะกรรมการโคจรรอบดวงจันทร์ได้ประกาศแผนการรับมือ

เมื่อแผนถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของคณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์ ทั้งโลกรู้สึกพึงพอใจกับแผนนี้

การประชุมฉุกเฉินของสหประชาชาติถูกจัดขึ้นที่นิวยอร์ก บรรดาตัวแทน นักการเมืองระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญรายใหญ่จากประเทศต่างๆ ได้เข้าร่วมการประชุม

ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น รองผู้ช่วยเลขาธิการเอเลียสสันลุกขึ้น เขาเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ด้วยน้ำเสียงขึงขัง สิ่งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของการประชุม

“เรารู้เกี่ยวกับชีวิตนอกโลกน้อยมากมานานแล้ว พวกเราเชื่อว่าพวกเราไม่ใช่ดาวเคราะห์ดวงเดียวในกาแล็กซีที่โชคดี แต่พวกเราก็ยังไม่เคยได้รับหลักฐานอะไรว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่นอกโลก

มันชัดเจนแล้วว่างสิ่งนั้นได้เปลี่ยนไป จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักบินโครงการแอรีส เรารู้ว่าเราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในระบบสุริยะ

แต่การติดต่อกันครั้งแรกนั้นไม่ได้ออกมาดีที่สุดเสมอไป ผมเชื่อว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง แบคทีเรียจากดาวอังคารนั้นแข็งแรง มันสามารถเอาตัวรอดกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิหลายร้อยดีกรี และมันยังทนต่อการแผ่รังสีเบื้องหลัง

เราสามารถเห็นได้ว่าการมาถึงของพวกมันจะส่งผลกระทบที่ไม่อาจคาดเดาได้ต่อระบบนิเวศของเรา

ผมอยากย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นวิกฤตระดับโลก การแก้ปัญหานี้ไม่ควรเป็นความรับผิดชอบของแค่ประเทศเดียว มันควรเป็นความรับผิดชอบของมนุษยชาติ!

ขอบคุณครับ”

ผู้เข้าร่วมประชุมปรบมือดังทั้งห้อง

รองผู้ช่วยเลขาธิการเอเลียสสันพยักหน้าและนั่งลงช้าๆ

หลังจากที่พูดเปิด การประชุมสถานการณ์ฉุกเฉินของสหประชาชาติได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

ตัวแทนหลายคนได้พูดความเห็นในมุมมองของตัวเองในเรื่องการรับมือกับวิกฤต

ยกตัวอย่างเช่น ข้อเสนอของสหรัฐอเมริกาคือจัดตั้งพื้นที่ปิดโดยสมบูรณ์ในทะเลทรายโซโนรัน นักบินอวกาศจะถูกกักตัวที่นั่นและจะมีการสังเกตสภาพร่างกาย

ตัวแทนคนอื่นเสนอให้ถามความเห็นนักบินอวกาศว่าพวกเขายินดีที่จะสละตัวเองเพื่อมนุษยชาติไหม ถึงแม้ว่านักบินอวกาศสองคนจากสามคนเป็นชาวอเมริกัน มันก็จะเป็นวิธีการที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าชาวอาณานิคมเสียชีวิต ปัญหาทั้งหมดจะถูกแก้ไข พวกเขาสามารถวิจัยตัวอย่างแบคทีเรียที่เหลือได้อย่างช้าๆ

แต่ทุกคนรู้ว่ามันเป็นแผนที่เกิดขึ้นไม่ได้จริง

นอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว อีกประเทศที่ได้รับความสนใจมากที่สุดระหว่างการประชุมคือจีน

ท้ายที่สุดแล้ว ชาวอาณานิคมอยู่ที่ปราสาทจันทรา ไม่ว่าการตัดสินใจของสหประชาชาติจะออกมาแบบไหน พวกเขาก็ต้องพึ่งให้จีนดำเนินการ

ตัวแทนจีนลุกขึ้นและพูดอย่างใจเย็นและเชื่องช้า

“จุดยืนของพวกเราชัดเจน

ก่อนที่จะยืนยันว่าแบคทีเรียไม่เป็นความเสี่ยงต่อระบบนิเวศของโลก เราไม่สามารถอนุญาตให้นักบินอวกาศกลับโลกได้

ข้อเสนอของเราถูกประกาศโดยคณะกรรมการโคจรรอบดวงจันทร์ เราจะสร้างสถานีวิจัยบนดวงจันทร์ นักบินอวกาศจะปลอดภัยที่นั่น”

“แล้วพวกคุณวางแผนจะรับประกันความปลอดภัยของชาวอาณานิคมทั้งสามได้อย่างไร?” ตัวแทนสหรัฐอเมริกาพูดขึ้น ตัวแทนสหรัฐอเมริกาลุกขึ้นและพูดอย่างเกรี้ยวกราด “การเจอสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำในระยะยาวจะส่งผลกระทบที่ไม่คาดคิดต่อร่างกายมนุษย์! คุณไม่คิดว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหรอครับ?”

ตัวแทนจีนโต้ตอบทันที “คุณคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนไหมก่อนที่จะส่งพวกเขาไปดวงจันทร์?”

มีเสียงกระซิบกระซาบเกิดขึ้นในห้องประชุม

ตัวแทนสหรัฐอเมริกาเปิดปากจะพูดแต่เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

พวกคนจีนพูดถูก

พวกคนอเมริกันไม่มีสิทธิจะอ้างว่าตัวเองศีลธรรมสูง

ถ้าพวกเขาพิจารณาปัจจัยพวกนี้ล่วงหน้าก่อนที่จะรีบส่งยานอวกาศ BFS อย่างเร่งรีบ พวกเขาคงไม่เจอปัญหาเยอะขนาดนี้

ตัวแทนจีนมองดูตัวแทนสหรัฐอเมริกาและพูดว่า “ไม่ใช่แค่นี้ เรายังมีทางแก้ให้ปัญหาของพวกคุณ

เรายินดีต้อนรับทุกประเทศให้มีส่วนร่วมกับความสนใจร่วมกันของมนุษยชาติ เพื่อรับประกันว่าสถานีดวงจันทร์สามารถดำเนินการด้วยงบประมาณเพียงพอ ในขณะเดียวกัน พวกเรายังต้อนรับนักวิชาการจากทุกประเทศเพื่อร่วมกันศึกษาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร!”

หลังจากที่โต้เถียงกันดุเดือด สหประชาชาติก็ตัดสินใจใช้ทางแก้ของจีนในที่สุด

ท้ายที่สุดแล้ว จีนมีสิทธิ์มีเสียงในการตัดสินประเด็นนี้

ถึงแม้ว่าสหประชาชาติจะเลือกทางแก้ปัญหาอื่น จีนก็จะปฏิเสธที่จะทำตามทางแก้นั้น “เพื่อผลประโยชน์โดยรวมของชุมชนนานาชาติ”

นอกจากนี้ เมื่อดูผลโหวต ประเทศส่วนใหญ่เห็นด้วยกับทางแก้ของจีน

สิ่งนี้เป็นเพราะว่าชื่อเสียงของจีนในด้านเทคโนโลยีการบินและอวกาศ…

ส่วนครึ่งหลังของการประชุมเน้นเป็นหลักที่งบประมาณการวิจัย นักวิจัยที่เข้าร่วม รวมไปถึงสถาบันวิจัยที่เข้าร่วม

การประชุมมีตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงบ่ายสามโมง

การประชุมฉุกเฉินสิ้นสุดลงในที่สุด

หลังจากผู้อำนวยการโอเวนส์แห่งองค์การอวกาศยุโรปได้พูดคุยอย่างรวดเร็วกับผู้อำนวยการนาซาคาร์สัน เขาเดินออกจากตึกสหประชาชาติและมุ่งตรงไปที่ลานจอดรถ

รองผู้อำนวยการเฟอร์เรียนแห่งองค์การอวกาศยุโรปเดินตามหลังเขา จู่ๆ เฟอร์เรียนพูดขึ้นมาว่า “ท่าน”

โอเวนส์ไม่ได้หยุดพูด เขาถามอย่างสบายๆ ว่า “มีอะไรเหรอ?”

เฟอร์เรียนเงียบไปสักพักและพูดต่อ “1.2 พันล้านยูโร…ท่านคิดว่ามันคุ้มไหมครับ?”

“มันคุ้มหรือไม่คุ้มก็ไม่สำคัญ วิกฤตครั้งนี้ต้องถูกจัดการโดยชุมชนนานาชาติ” โอเวนส์นิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดเสริม “จากมุมมองที่ปฏิบัติได้จริง การได้เข้าร่วมการพัฒนาดวงจันทร์ของจีนและมีส่วนร่วมในการวิจัยชีวิตบนดาวอังคารมีความสำคัญอย่างมาก

1.2 พันล้านยูโรคุ้มค่าอย่างแน่นอน”

ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ภายในปราสาทจันทรา

ชาวอาณานิคมทั้งสามอยู่ภายในแคปซูลใช้ชีวิต จ้าวชูเซวียนจัดให้ตรวจร่างกายพวกเขาเป็นกิจวัตร

ทราวิสตรวจเลือดเสร็จและนั่งลงบนเตียง ข้อมือของเขาช้ำจากอุปกรณ์เก็บเลือดไร้แรงโน้มถ่วง เขาเริ่มพูดกับนักวิจัยชาวจีน…

“เฮ้ สถานการณ์ของเราเป็นไงบ้าง? อย่างน้อยก็บอกเราหน่อย…คุณเจออะไรที่ร่างกายพวกเราบ้าง? เรามีสิทธิ์ที่จะรู้”

จ้าวชูเซวียนกรอกฟอร์มและพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณมีสภาพร่างกายแข็งแรงดี อย่าคิดมากเกินไปเลย เพราะว่ามันมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนเยอะ เราต้องใช้เวลาเพื่อตรวจทุกอย่างอีกรอบ ผมสัญญาว่าเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น คุณสามารถกลับบ้านได้”

ทราวิสทำสีหน้าอย่างเสียไม่ได้และพูดตอบ “โอเคเลย…คุณให้ผมใช้อินเทอร์เน็ตได้ไหม? ผมสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ใช่ไหม?”

“ค่าแบนวิทธ์ที่นี่ราคาแพงมาก ผมเกรงว่าผมไม่สามารถให้คุณใช้ได้ แต่เครื่องเล่นเกมของคุณจะมาถึงในไม่ช้า” จ้าวชูเซวียนพลิกฟอร์มและถามว่า “คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?”

ทราวิสตอบ “ทุกอย่างดีมาก เยี่ยมเลย แต่การที่อยู่ในสภาพแวดล้อมไร้น้ำหนักเป็นเวลานานมันไม่สบาย ผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อกำลังหดลง”

จ้าวชูเซวียนพูดตอบ “มันเป็นแค่ภาพลวงตา กระดูกและกล้ามเนื้อของคุณอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบ แล้วก็มันมีเคบินพิเศษในปราสาทจันทราที่สามารถจำลองสภาวะแรงโน้มถ่วงของโลก ถ้าคุณรู้สึกไม่สบาย คุณไปอาบน้ำได้นะ”

เขานิ่งไปชั่วครู่และพูดต่อ “จะว่าไปแล้ว เมื่อคืนคุณนอนไปกี่ชั่วโมง?”

ทราวิสคิดอยู่สักพักแล้วพูดตอบ “แปดชั่วโมง มันไม่มีอะไรให้ทำนอกจากนอน”

“แปดชั่วโมงใช่ไหม?” จ้าวชูเซวียนพูดระหว่างที่เขาบันทึกข้อมูล เขาขมวดคิ้วและถามว่า “คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?”

“ผมบอกแล้ว ผมรู้สึกสบายดี มันแค่ไร้น้ำหนัก” ทราวิสลุกขึ้นจากเตียงและพูดว่า “การตรวจเสร็จแล้วใช่ไหม? หยุดกวนผมเสียที ผมจะไปหากาแฟดื่ม ชีวิตที่นี่น่าเบื่อจริง”

จ้าวชูเซวียนพูดตอบ “ที่นี่มีกาแฟให้ไม่จำกัด แต่มันเป็นแบบเดียวหมดเลย…ว่าแต่ คุณรู้สึกง่วงบ้างไหม?”

“ผมรู้สึกง่วงเล็กน้อยอยู่ตลอด” ทราวิสตอบ “การบินในอวกาศมันน่าเบื่อ ที่นี่ไม่มีแม้แต่บาร์ รู้สึกเหมือนติดคุกเลย”

เขาลอยผ่านนักวิจัยชาวจีนไปทางประตูเล็ก

จ้าวชูเซวียนขมวดคิ้วระหว่างที่มองดูทราวิสลอยไป

สิ่งที่เขาเดานั้นถูกต้อง

แบคทีเรียขนาดเล็กจากดาวอังคารซับซ้อนกว่าที่เขาคิดไว้…

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท