ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 811 อนุพันธ์กรดอะมิโน

ตอนที่ 811 อนุพันธ์กรดอะมิโน

วันต่อมา

ภายในเคบินทดลองที่ปราสาทจันทรา

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นยืนต่อหน้ากลุ่มนักวิจัย เขามีขอบตาดำชัดเจน สตีเฟ่นชูธีสิสในมือและพูดโดยไม่มีแรง

“ผมแน่ใจว่าคุณได้อ่านธีสิสนี้แล้ว…ผมจะไม่พูดซ้ำในสิ่งที่เขียนในธีสิส ผมแค่สงสัย ผมอยากรู้ว่าใครคือดอกเตอร์ซี?”

ผู้คนตรงหน้าเขาหกคนงุนงงกันหมด ศาสตราจารย์สตีเฟ่นพูดขึ้นอีกครั้ง

“ขอโทษนะ แต่ดอกเตอร์ซีต้องเป็นหนึ่งในเราเจ็ดคน…ไม่สิ หกคน เพราะว่าผมรู้ว่าผมไม่ได้เป็นคนเขียนมัน เอียน คุณใช่ไหม?”

เอียนมองดูธีสิสและส่ายหัว เขาพูดตอบว่า “ไม่ ไม่ใช่ผม ทำไมผมต้องเผยแพร่ธีสิสโดยไม่เปิดเผยตัวตนล่ะ? สิ่งนี้อาจจะเป็นการค้นพบระดับรางวัลโนเบล ทำไมคนเขียนถึงไม่อยากมีชื่อเอี่ยวด้วย?”

การรุกรานของแบคทีเรีย X-0172 ถือว่าเป็นวิกฤตการณ์ของระบบนิเวศระดับโลก ใครที่แก้ปัญหานี้ได้จะถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของมวลมนุษยชาติอย่างไม่ต้องสงสัย คนคนนั้นอาจจะไม่ได้รางวัลโนเบล แต่ก็จะถูกเสนอชื่ออย่างแน่นอน

ศาสตราจารย์เลสลี่ชำเลืองมองศาสตราจารย์จ้าวชูเซวียนและสบตามองเขา

“ตัว Z…นั่นไม่ใช่ตัวอักษรแรกของชื่อภาษาอังกฤษของคุณหรือ?”

“ลืมมันไปเลย” ศาสตราจารย์จ้าวส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่ใช่ผม…ทำไมถึงจะปกปิดตัวเองล่ะ?”

คนส่วนใหญ่ยินดีใส่ชื่อตัวเองลงธีสิสนี้ นักวิจัยเจ็ดคนไม่รู้ว่าทำไมบุคคลนี้ถึงตัดสินใจไม่เปิดเผยตัวเอง

นักวิจัยทั้งเจ็ดคนในเคบินทดลองจ้องมองหน้ากัน

ท้ายที่สุด ศาสตราจารย์เอียนยักไหล่และดูไม่ค่อยสบอารมณ์

“โอเค…ดูเหมือนว่าดอกเตอร์ซีไม่ใช่พวกเรา คนที่ยังสติดีก็อยากให้มีชื่อตัวเองเกี่ยวข้องกับธีสิสนี้”

“ไร้สาระเสียจริง” ศาสตราจารย์เลสลี่พูดด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ “ถ้าไม่สามารถเข้าถึงแบคทีเรีย X-0172 ได้ แล้วคนนั้นจะรู้เกี่ยวกับกลไกของสปอร์แบคทีเรียได้อย่างไร?”

เคบินทดลองอยู่ในความเงียบ

ศาสตราจารย์เลสลี่ไม่ใช่แค่คนเดียวที่ฉงนกับปัญหานี้

“มันฟังดูเพี้ยนนะ แต่เราน่าจะลองวิธีของดอกเตอร์ซีดูนะ…ไอเดียวิจัยของเราคือการหาวิธียับยั้งไม่ให้แบคทีเรีย X-0172 สร้างสปอร์ ถูกไหม?” ศาสตราจารย์เอียนมองดูธีสิสและยักไหล่ จากนั้นเขามองดูนักวิจัยคนอื่นในเคบินและพูดว่า “ดูเหมือนว่าดอกเตอร์ซีมีไอเดียเหมือนกับเรา”

จ้าวชูเซวียนพยักหน้าและพูดว่า “ผมคิดว่ามันคุ้มที่จะเสี่ยงนะ”

ศาสตราจารย์เลสลี่พยักหน้า “ฉันโอเค”

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นยืนพิงหน้าต่างและพูดว่า “มันวางแผนจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว”

ศาสตราจารย์เอียนดีดนิ้ว

“สี่คนเห็นด้วย ผลโหวตเกินครึ่ง…โอเค ตามนี้”

พูดด้วยทั่วไป การทำซ้ำการทดลองยากกว่าการทำการทดลองครั้งแรก

ผลการวิจัยที่สำคัญจำนวนมากในด้านชีววิทยาสมัยใหม่มาจากความบังเอิญ ถึงแม้ว่าจะสั่งน้ำยาชุดเดียวกัน อุปกรณ์จากผู้ผลิตเดียวกัน การทดลองอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันไป

ไม่ใช่แค่นั้น เทคโนโลยีโฟโต้ช็อปก็มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้านักศึกษาปริญญาตรีไม่สามารถทำซ้ำการทดลองได้ คนพวกนั้นก็มักจะตัดต่อรูปการทดลอง

ดังนั้น การทำซ้ำการทดลองได้เป็นหนึ่งในมาตรวัดที่สำคัญที่สุดของการทดลองที่มีค่า

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นเชื่อว่าข้อเสนอของดอกเตอร์ซีจะได้เรื่อง

เพราะว่าคำในธีสิส arXiv นี้สะท้อนกับความคิดวิชาการของเขา

“แบคทีเรีย X-0172 สามารถเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมโหดร้ายของดาวอังคาร มันยากที่จะฆ่ามันด้วยวิธีปกติ เราต้องหาจุดอ่อนของมัน”

“อะไรคือจุดอ่อนของมัน?”

“การที่มันเอาชีวิตรอดบนดาวอังคารได้ทำให้มันได้เปรียบในการเผชิญสภาพแวดล้อมรุนแรง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นข้อเสียเปรียบ

มันไม่ได้สู้กับจุลินทรีย์อื่นๆ เพื่อเอาชีวิตรอด ดังนั้น จุดอ่อนของมันคือความอ่อนแอต่อจุลินทรีย์อื่น

ดังนั้นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาคือการหาฟีโรโมนที่สามารถหลอกแบคทีเรีย X-0172…พระเจ้า ทำไมผมไม่คิดถึงเรื่องนั้น?”

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นพึมพำกับตัวเอง เขาจ้องมองเพดาน ตกอยู่ในภวังค์ความคิดตัวเอง

จริงๆ แล้ว นี่เป็นเพียงแค่ไอเดียวิจัย

ถ้าสตีเฟ่นมีเวลามากกว่านี้ เขาอาจจะนึกไอเดียวิจัยได้

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก

สิ่งที่ชวนฉงนคือถึงแม้ว่าดอกเตอร์ซีคิดไอเดียวิจัยนี้ ดอกเตอร์ซีคำนวณสูตรโมเลกุลของอนุพันธ์กรดอะมิโนที่บล็อกการก่อตัวของสปอร์ X-0172 ได้อย่างไร?

สิ่งนี้ถูกคำนวณได้ด้วยเหรอ?

ฉันคิดว่าสิ่งนี้ต้องถูกอนุมานจากการลองผิดลองถูกเป็นพันครั้ง?

สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เกินความเข้าใจของเขาในด้านชีวเคมี

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นมองดูโมเลกุลอนุพันธ์กรดอะมิโนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระหว่างที่เขาเกาเครา เขาไม่รู้เลยว่าดอกเตอร์ซีทำได้อย่างไร

ทันใดนั้น ประตูห้องทดลองถูกเปิดออก จ้าวชูเซวียนลอยเข้ามา

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นมองดูศาสตราจารย์จ้าวและถามว่า “ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง?”

จ้าวชูเซวียนตอบ “ผู้ป่วยทั้งสามถูกฉีดด้วยอนุพันธ์สังเคราะห์ที่คล้ายกรดอะมิโน เรากำลังสังเกตผลข้างเคียง”

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นถอนหายใจ

“ดูเหมือนว่าตอนนี้เราก็แค่ต้องรอ”

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

มันไม่มีดวงอาทิตย์ขึ้นหรือดวงอาทิตย์ตกที่สถานีอวกาศ และเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ศาสตราจารย์สตีเฟ่นยังหาวต่อไป เขาเริ่มจะเบื่อเล็กน้อย แต่ทันใดนั้น ประตูเคบินทดลองถูกเปิดออก

ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ศาสตราจารย์เลสลี่ลอยเข้ามาพร้อมสีหน้าตื่นเต้น เลสลี่พูดขึ้น

“เราสังเกตพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับเมตาบอลึซึมของชาวอาณานิคมคนที่ 1 และ 2! ปริมาณสปอร์ในเมตาบอไลต์ลดลงอย่างมาก! และไม่มีปฏิกิริยาแพ้เกิดขึ้นอีกด้วย!”

เธอสูดหายใจเข้าลึกและเสียงของเธอสั่นตอนที่เธอพูดด้วยความตื่นเต้น

“อนุพันธ์กรดอะมิโนได้ผล!

“เราทำได้แล้ว!”

…………………………….

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท