ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 917 ทำให้ใครโกรธ

ตอนที่ 917 ทำให้ใครโกรธ

ตลอดทั้งเช้าคำที่ลู่โจวพูดมีเพียงคำว่า ‘คนต่อไป’ อย่างเดียว

ตั้งแต่ที่เขาค้นพบความสามารถของเสี่ยวไอ เขาก็อดเล่นสนุกนิดๆ ไม่ได้

เขาจะส่งรายงานที่สแกนแล้วเข้าโทรศัพท์ไปให้เสี่ยวไอแปลงข้อความและพารามิเตอร์เป็นกราฟิกที่เรียบง่าย ด้วยความช่วยเหลือจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม ไม่มีช่องโหว่ใดที่จะพลาดสายตาลู่โจวไปได้

แน่นอนว่าเหตุผลที่ทำอย่างนั้นก็ไม่ใช่เพราะคอมพิวเตอร์ควอนตัมมันทรงพลังแต่เพียงอย่างเดียวหรอก แต่เหตุผลหลักๆ ก็คือรายงานพวกนี้มันห่วยแตก ขนาดที่คอมพิวเตอร์ปกติยังหาจุดผิดพลาดได้เลย

ถ้าคนพวกนี้ตั้งใจทำรายงานมากกว่านี้ ลู่โจวก็จะไม่สามารถหาจุดผิดพลาดเจอได้จากแค่ใช้ลางสังหรณ์ทางวิศวกรรมเพียงอย่างเดียวแล้ว

แต่…

พวกคนพรีเซนต์ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องนี้ไม่รู้เลยว่ามีอะไรกำลังรอพวกเขาอยู่

นอกจากคนพรีเซนต์ไม่กี่คนที่ให้คำแนะนำที่ใช้ได้จริงแล้ว ไอเดียส่วนใหญ่ของคนที่เสนอมาจะถูกปัดตกในทันที

งานสัมมนาทั้งงานกลายเป็นโชว์แสดงเดี่ยวของลู่โจว

มันมากเสียจนตอนการรายงานครั้งสุดท้ายก่อนช่วงพักกลางวัน เมื่อลู่โจวยกมือขึ้นมา คนพรีเซนต์ก็ก้มหัวตัวเองลงแล้วเดินออกไปจากห้อง

ด้วยเหตุนี้ทำให้การประชุมระยะเวลาสองวันก็เกือบเสร็จสิ้นลงในเวลาครึ่งวัน

คนที่อยู่ในงานต่างตกตะลึง

ทั้งคนพรีเซนต์และผู้ฟัง…

ในเมื่อการประชุมภาคเช้าสิ้นสุดลงแล้ว ข่าวลือเรื่อง ‘การฆาตกรรมหมู่’ ของลู่โจวก็แพร่ไปทั่วผู้เชี่ยวชาญฟิสิกส์และการบินและอวกาศ

ณ เวลาอาหารกลางวัน

ศาสตราจารย์คลิทซิ่งถือจานอาหารพูนจาน ขณะที่เขานั่งตรงข้ามลู่โจวแล้วถามอย่างสงสัยใคร่รู้ว่า “ผมได้ยินเรื่องการประชุมเมื่อเช้ามา คุณทำได้อย่างไรน่ะ?”

ลู่โจวที่วางชามข้าวเนื้อบาร์บีคิวไว้ตรงหน้าถามว่า “ทำอะไรนะครับ?”

“ไม่ต้องมาทำไขสือน่า คุณก็รู้ว่าผมกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่” ศาสตราจารย์คลิทซิ่งยิ้มแล้วพูดว่า “พรีเซนต์รูปพวกนั้นในรายงานสดได้ ฟังดูเจ๋งมากเลย!”

อ้อ เขาคุยเรื่องนี้อยู่สินะ

ลู่โจวคิดแป๊บหนึ่งก็บอกว่า “มันก็โอเคนะครับ คือแบบ ผมปล่อยให้รายงานห่วยแตกพวกนั้นมาทำให้พวกเราเสียเวลาไม่ได้หรอก”

ศาสตราจารย์คลิทซิ่งรู้ดีว่าลู่โจวกำลังทำอะไร เขาจึงถามต่อไป “หยุดเปลี่ยนประเด็นได้แล้ว ผมอยากจะรู้ว่าคุณทำได้อย่างไร? บอกผมไม่ได้เลยเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร”

ลู่โจวถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาว่า “ไม่ใช่ว่าบอกไม่ได้นะ แต่ผมไม่รู้จะบอกอย่างไรเนี่ยสิ”

ศาสตราจารย์คลิทซิ่ง “ขอลองเดาได้ไหม?”

ลู่โจวตอบว่า “ได้เลยครับ”

ศาสตราจารย์คลิทซิ่งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ขอเดาว่า…คุณมีทีมวิศวกรทำงานอยู่เบื้องหลัง ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำแบบจำลอง พอคุณส่งรายงานพวกนี้ไปให้ พวกเขาก็จะวิเคราะห์รายงานแล้วสร้างแบบจำลองขึ้นมา…เดี๋ยวนะ ที่พูดมามันดูไม่สมจริงเลยนี่นา”

ศาสตราจารย์คลิทซิ่งเพิ่งรู้ตัวว่าการคาดเดาของเขามันตลกไปหน่อย

ทีมวิศวกรรมแบบไหนกันที่สามารถสร้างแบบจำลองออกมาได้ในเวลาไม่ถึงสิบนาที?

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักฟิสิกส์เชิงอนุภาค เขาก็รู้เรื่องวิศวกรรมนิดหน่อย เพราะเขามักจะคุยกับวิศวกรเรื่องการทดลองฟิสิกส์ของอนุภาคอยู่บ่อยๆ

ประสบการณ์บอกเขาว่าแบบจำลองไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ภายในเวลาไม่กี่นาที แล้วยิ่งเป็นภาพองค์ประกอบแบบนั้นแล้วด้วย…

แต่ลู่โจวก็พูดขึ้นทันทีว่า

“ก็ทำนองนั้นล่ะครับ คุณทายถูกแล้ว”

ศาสตราจารย์คลิทซิ่งทวนคำด้วยความไม่เชื่อ “ผมถูกแล้วเหรอ? คุณแน่ใจแล้วนะ?”

ลู่โจวตอบว่า “ใช่ คุณทายถูกแล้วแหละ”

ฉันไม่อยากให้เขาทายต่อไปเรื่อยๆ ฉันยอมรับเลยก็แล้วกัน

เอาจริงๆ แล้ว ในทางเทคนิคเขาก็ทายถูกนะ

เสี่ยวไอที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ควอนตัมก็นับเป็นทีมวิศวกรได้อยู่

จะว่าไปแล้ว คงจะต้องขอบคุณคลิทซิ่งแล้วที่คิดคำตอบนั้นขึ้นมาได้ เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรเหมือนกัน

ลู่โจวได้ตัดสินใจแล้ว

ถ้ามีคนมาถามว่าฉันทำได้อย่างไร ฉันก็เอาคำตอบคลิทซิ่งมาตอบเลยก็แล้วกัน

ศาสตราจารย์คลิทซิ่งไม่ได้คาดคิดว่าลู่โจวจะตอบรับทันที เขาเลิกสนใจเรื่องนี้แล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องฟิสิกส์ของอนุภาคแทน

แต่ทันใดนั้น ก็มีคนโทรมาหาลู่โจว

“ผมต้องรับสายนี้”

คลิทซิ่งยิ้มแล้วบอกว่า “เชิญเลยครับ”

ลู่โจวยืนขึ้นแล้วรับโทรศัพท์ เขาเดินเข้าไปในพื้นที่ที่จัดแยกไว้

เขากำลังจะกล่าวทักทาย แต่คณบดีฉินพูดก่อนว่า

“นี่คุณไปทำให้ใครโกรธมาหรือเปล่า?”

ทำให้ใครโกรธเหรอ?

ลู่โจวรู้สึกงงนิดหน่อย

เขากำลังจะตอบปฏิเสธ แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกเรื่องที่เขาทำให้คนจำนวนมากโกรธได้ อย่างเช่นเรื่องเมื่อเช้านี้ที่เขาเพิ่งทำให้คนหลายสิบคนโกรธไปหยกๆ

“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงใคร…คุณบอกผมมาเลยไม่ได้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น?”

คณบดีฉิน “เว็บไซต์กับเซิร์ฟเวอร์ของฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยจินหลิงเราถูกแฮกน่ะสิ!”

ลู่โจวนิ่งไปครู่หนึ่งและพูดออกมาว่า “อะไรนะ? แฮกเหรอครับ? มันโดนหนักหรือเปล่า?”

ลู่โจวไม่แปลกใจเลยสักนิด อย่างมากเขาก็สับสนนิดหน่อย

เซิร์ฟเวอร์ของมหาวิทยาลัยมันแย่ขนาดพวกนักศึกษาเลือกเวลานี้มาทำให้ล่มเลยเหรอ

ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขาสับสนน่ะเหรอ

ใครกันนะที่เบื่อขนาดมานั่งแฮกเซิร์ฟเวอร์มหาวิทยาลัยได้? แฮกไปแล้วจะได้อะไร?

คณบดีฉินทักว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็มีความเสียหายอยู่แต่ไม่มากนัก พวกเราเสียเอกสารไปบ้าง แต่ข้อมูลเกรดของพวกนักศึกษายังอยู่ดี”

“โอเค ดีแล้วล่ะครับ…” ลู่โจวเอามือตบหน้าอกตัวเองเบาๆ แล้วพูดขึ้นมาในทันทีว่า “เดี๋ยวนะ แล้วเซิร์ฟเวอร์มหาวิทยาลัยถูกแฮ็กมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะครับ?”

คณบดีฉินนิ่งไปพักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจแล้วบอกความจริงว่า

“เพราะมีรูปของคุณโผล่บนเว็บไซต์น่ะสิ ลองคิดดูนะ คุณไปทำให้ใครโกรธมาบ้าง?”

ลู่โจว “…?!”

……………………

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท