อพาร์ตเม้นต์ของเพเรลมานอยู่ตรงหน้าบันไดอาคาร
“อพาร์ตเม้นต์รกไปหน่อยนะ”
เพเรลมานวางของลงและหยิบกุญแจออกมา
แม้ว่าลู่โจวจะเตรียมใจมาบ้างแล้วแต่หลังจากที่ประตูเปิดออก เขาก็ยังประหลาดใจกับสภาพที่เห็นอยู่ดี
เสื้อผ้าและของใช้ประจำวันถูกโยนลงบนโซฟา ขณะที่ขยะและอาหารเหลือกระจัดกระจายไปทั่วอพาร์ตเม้นต์
ลู่โจวมีนิสัยชอบทิ้งเสื้อผ้าไว้รอบบ้าน แต่โชคยังดีที่มีเสี่ยวไอค่อยเก็บกวาดให้
มันชัดเจนอยู่แล้ว… เขาคือเพเรลมาน คนที่อุทิศชีวิตของเขาให้คณิตศาสตร์ และไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ไม่แปลกใจเลยที่คนเรียกเขาว่านักวิชาการประหลาด
อัลเบิร์ตเดินข้างๆ ลู่โจว เขาพึมพำเบาๆ “คิดว่านักคณิตศาสตร์จะเจ้าระเบียบเสียอีก”
ลู่โจวไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
ชูลทซ์อธิบายด้วยความกระอักกระอ่วน
“ปกติแล้วก็เป็นแบบนั้น แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่ บางคนก็ไม่สนใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของตัวเอง พวกเขาเลือกที่จะใช้เวลากับคณิตศาสตร์มากกว่า”
“ผมอิจฉาคนพวกนี้จัง แต่การใช้ชีวิตแบบนั้นไม่เข้ากับผม ตั้งแต่ที่ผมเริ่มเดินทางเข้าสู่วงการคณิตศาสตร์ เวลาส่วนใหญ่ก็เสียไปกับงานที่ไม่มีความหมาย…”
เพเรลมานวางของและพูด “พวกคุณอยากดื่มอะไรกันไหม ผมมีแค่น้ำเปล่าและชา แต่ผมออกไปซื้อให้ได้”
ลู่โจวไม่อยากรบกวนเขามากไปกว่านี้ เขาจึงรีบพูดขึ้น
“น้ำเปล่าก็ได้ครับ”
ชูลทซ์พยักหน้าและพูด “ผมก็เหมือนกัน”
ครุกแมนและอัลเบิร์ตพยักหน้า ดังนั้นเพเรลมานจึงยิ้มและพูดขึ้น
“เอางั้นก็ได้”
หลังจากนั้นไม่นานแก้วกระดาษห้าแก้วก็ถูกวางลงบนโต๊ะ เพเรลมานหยิบน้ำแร่และเทลงในแก้วของแต่ละคน
ทุกคนดูประหลาดใจแต่เพเรลมานก็ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากที่ดื่มน้ำแล้วเขาก็มองไปที่ชูลทซ์และพูด
“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ ผมไม่เห็นรู้เลยว่าคุณจะมา”
ชูลทซ์ “ผมจะมาเยี่ยมเพื่อนเก่าไม่ได้หรือไง”
“ผมไม่ต้องการให้ใครมาเยี่ยม ผมอยู่คนเดียวได้…
ชูลทซ์ดูผิดหวังเล็กน้อย แต่เพเรลมานก็จ้องไปที่ลู่โจวทันที
เพเรลมานมองเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อๆ แต่ก็พูดอย่างตรงไปตรงมา
“ผมเคยอ่านงานของคุณ คุณเข้าใจทฤษฎีกลุ่มและระนาบเชิงซ้อนได้ดีเลยนะ โดยเฉพาะวิธีการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติก แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจที่สุดคือตอนที่คุณนิยามพีชคณิตซับซ้อนกลุ่ม X บนพื้นที่โปรเจกต์ที่ซับซ้อน CP^(n+r) ตอนที่คุณทำวิจัยข้อคาดการณ์ของซัลลิแวน ผมไม่รู้เลยว่าคุณคิดเรื่องนั้นได้อย่างไร”
ทอพอโลยีและทอพอโลยีเชิงอนุพันธ์เป็นหัวข้อที่เพเรลมานสนใจทั้งคู่ ในทางกลับกันเขาไม่ได้สนใจสมมติฐานเสมือนของรีมันน์
แม้ว่าหัวข้อแมนิโฟลด์เชิงอนุพันธ์จะไม่ได้เป็นที่นิยม แต่ข้อคาดการณ์ของซัลลิแวนกลับเป็นปัญหาโด่งดัง
เพเรลมานเคยทำวิจัยเรื่องข้อคาดการณ์ของซัลลิแวนมาบ้าง แต่เขาก็พิสูจน์ข้อคาดการณ์นั้นไม่ได้เสียที
ผลที่ตามมาคือเขาเกือบจะลืมการคาดการณ์นี้ไปแล้ว จนกระทั่งเขาได้อ่านวิทยานิพนธ์ของลู่โจวที่ตีพิมพ์ในวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี ที่ลู่โจวได้พิสูจน์การคาดการณ์
มันทำให้เขาประหลาดใจ
“…โอ้ ข้อคาดการณ์ของซัลลิแวนเหรอ”
ลู่โจวยิ้มและพูด “…ต้องขอบคุณวิทยานิพนธ์ที่ถูกตีพิมพ์โดยศาสตราจารย์เครชในวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี 1999 งานวิจัยของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผม แน่นอนว่ามันน่าจะเป็นเพราะว่าผมไม่ได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับปัญหานี้โดยเฉพาะ ผมก็เลยมองเห็นปัญหาจากอีกมุมมองหนึ่ง”
ก่อนหน้านั้นเขายังตอบคำถามของเฉินหยางในเรื่องข้อคาดการณ์ของฮอดจ์อยู่เลย ถ้าไม่ได้บรรณาธิการของวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี เขาคงไม่มีทางรู้ว่าปัญหาที่เขากำลังศึกษาอยู่คือตัวแทนของปัญหาแมนิโฟลด์เชิงอนุพันธ์
ทั้งเพเรลมานและชูลทซ์ดูประหลาดใจตอนที่ได้ยินว่าลู่โจวไม่ได้วิจัยเฉพาะเรื่องแมนิโฟลด์เชิงอนุพันธ์
โชคยังดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าลู่โจวใช้เวลาแค่วันเดียวในการแก้ปัญหานี้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงกลิ้งไปกับพื้นแล้ว
เพเรลมานจิบน้ำและพูด
“โชคดีจัง แต่ผมคิดว่ามันไม่ได้อยู่ที่โชคทั้งหมด เอาล่ะ คุณมาที่นี่เพื่อถามคำถามผมเหรอ”
ลู่โจวสังเกตเห็นความคาดหวังในสายตาของเขา แล้วอยู่ดีๆ เขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วน
ชูลทซ์ก็เหมือนกัน เขามาที่นี่เพราะเขาไม่มีอย่างอื่นให้ทำ อย่างน้อยชูลทซ์ก็เป็นเพื่อนของเพเรลมาน ลู่โจวมาที่นี่โดยไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาเลย
แต่การพูดแบบนั้นต่อหน้าเพเรลมานนับว่าเป็นเรื่องเสียมารยาท
เพราะสุดท้ายแล้วเพเรลมานก็ไม่ใช่สัตว์ในสวนสัตว์ เขาคงไม่ชอบให้คนมารบกวน
แล้วฉันต้องทำอย่างไร
บอกความจริงกับเขาเหรอ
ลู่โจวกังวลเล็กน้อยว่าเพเรลมานจะโกรธถ้าเขาบอกความจริงกับเพเรลมาน
อยู่ดีๆ เขาก็นึกอะไรดีๆ ออก เขานึกถึงปัญหาที่เขาถกเถียงกับเฉินหยางเกี่ยวกับข้อคาดการณ์ของฮอดจ์
“ผมขอยืมกระดาษได้ไหม”
“แน่นอน ผมมีเยอะเลย”
เพเรลมานลุกขึ้นไปหยิบปากกาและกระดาษ
ลู่โจวเขียนปัญหาบนกระดาษและยื่นให้เพเรลมาน
“นี่นะเหรอ
“ขอผมดูหน่อย” เพเรลมานหยิบกระดาษขึ้นมาและจ้องมองไปที่สมการ เขาพูด “คุณกำลังทำวิจัยข้อพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์เหรอ”
ลู่โจวพูด “ประมาณนั้น”
แต่นั่นไม่ใช่คำโกหก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำวิจัยการคาดการณ์โดยตรง แต่คนที่ทำงานกับเขาทำวิจัยเรื่องนี้ เขาจึงได้ศึกษาเรื่องนี้ด้วย
โชคยังดีที่เพเรลมานเชื่อลู่โจว เขาพยักหน้าและพึมพำ
“เข้าใจแล้ว ข้อคาดการณ์ของฮอดจ์ หลังจากที่ผมอ่านเอกสารของคุณ ผมรู้สึกเสมอว่าข้อพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์สามารถนำมาปรับใช้กับปัญหาอื่นได้…”
ชูลทซ์มองลู่โจวด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“…คุณเริ่มทำวิจัยของข้อคาดการณ์ของฮอดจ์ตั้งแต่เมื่อไหร่”
ลู่โจวยิ้มเจื่อน
“ก็แค่งานอดิเรกครับ”
ชูลทซ์ “…”
เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ เพเรลมานก็ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น เขานั่งลงบนโซฟาเงียบๆ จมอยู่กับความคิดของตัวเอง
อัลเบิร์ตรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขามองไปที่กระดาษและเห็นสมการที่ดูน่าสับสน เขายอมแพ้และนั่งลงเหมือนเดิม
ครุกแมนที่นั่งใกล้ๆ เขาไม่พยายามแม้แต่จะอ่านสมการด้วยซ้ำ เขานั่งดื่มน้ำเงียบๆ
ลู่โจวมองไปที่ชายรัสเซียที่กำลังจมอยู่กับความคิดและพูดขึ้น
“…จริงๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องตอบผมตอนนี้ก็ได้ คุณส่งอีเมลมาให้ผมก็ได้”
“…ครับ ไม่ใช่ว่าคำถามนี้จะตอบได้ด้วยคำเพียงไม่กี่คำสักหน่อย” เพเรลมานพึมพำ เขาวางกระดาษลงและพูดกับอัลเบิร์ตและครุกแมน “แล้วพวกคุณล่ะ คุณมีคำถามอะไรไหม”
ครุกแมนถอนหายใจและกระแอมออกมา เขาพูดจริงจัง “เรากำลังทำโปรเจกต์งานวิจัยชิ้นใหญ่อยู่ แต่มันเกี่ยวข้องกับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเกินความสามารถของเรา”
แตอัลเบิร์ตก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
นักฟิสิกส์ยืนขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่ปลาบปลื้ม
“สุภาพบุรุษ คุณคิดว่าอนาคตสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำหรือไม่”
อพาร์ตเม้นต์เล็กๆ นั่นเงียบลงทันที
……………………….