ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1004 ม่านเหล็กกำลังเกิดขึ้น

ตอนที่ 1004 ม่านเหล็กกำลังเกิดขึ้น

หลังจากที่วางสายลู่โจวจัดกระเป๋าเดินทางต่อ แต่จอภาพเล็กๆ ข้างๆ เขากะพริบ

เสี่ยวไอ [เจ้านาย ตอนที่กำลังวิดีโอคอลอยู่ ดูเหมือนว่าจะมีคนสอดแนมนะ ( ́◔‸◔’)]

ลู่โจว […สอดแนมเหรอ]

เสี่ยวไอ [ใช่! ตอนที่ข้อมูลของวิดีโอคอลถูกส่งไปที่อเมริกาเหนือ ไอพีแอดเดรสที่รับมีมากกว่าหนึ่ง เสี่ยวไอส่งชุดข้อมูลรหัสไปที่ไอพีและกำลังได้รับคำตอบ มีคนมากกว่าหนึ่งคนกำลังฟังพวกคุณอยู่]

แปลว่าเรากำลังถูกสอดแนมใช่ไหม

“อ้อ เข้าใจแล้ว…”

แม้ว่าลู่โจวคิดไว้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้น แต่เขาก็ยังตกใจอยู่ดี

ไม่กี่ปีก่อนตอนที่เขากลับมาที่พรินซ์ตัน สภาพแวดล้อมในวงการวิชาการเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาไม่คิดว่ามันจะเสื่อมโทรมไวขนาดนี้

ดูเหมือนว่าการที่เขากลับประเทศจีนเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว

ถ้าต้องอยู่พรินซ์ตันต่ออีกปี เขาต้องมีปัญหาแน่ๆ โดยเฉพาะกับเอฟบีไอ

เสี่ยวไอ [เสี่ยวไอเจอผู้บุกรุกแล้ว เสี่ยวไอควรติดตั้งประตูหลังเลยไหม]

ลู่โจวพูดทันที “ไม่ ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องที่เราควรกังวลอยู่แล้ว”

การแฮคเซิร์ฟเวอร์เป็นเรื่องง่าย

แต่การแฮคเซิร์ฟเวอร์ของอเมริกันเป็นเรื่องที่เสี่ยง

ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่ามีสิ่งที่น่าสงสัยถูกติดตั้งในคอมพิวเตอร์ของพวกเขา ลู่โจวคงไม่เป็นอะไร แต่นักศึกษาของเขาคงอยู่ไม่สุขแน่

แม้ว่าลู่โจวจะมั่นใจในความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของตัวเอง แต่เมื่อเป็นเรื่องของการแฮคข้อมูลหรือการปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัล เอฟบีไอและซีไอเอคือราชา

แม้แต่เสี่ยวไอเองก็จัดการกับพวกเขาไม่ได้

การแฮคเซิร์ฟเวอร์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร แต่มันเป็นความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่า

ลู่โจวนึกถึงสถานการณ์ของเหว่ยเหวินและเงียบไปสักพัก เขาหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้อำนวยการหลี่จากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักร และอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เขาฟังคร่าวๆ

สำหรับนักวิชาการอเมริกาแล้วเรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่

แต่มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศจีน

ถ้าพวกเขาสามารถคิดนโยบายที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดพนักงานเก่งๆ พวกเขาก็สามารถคว้าโอกาสนี้ได้และจะมีนักวิชาการจีนมากมายที่พร้อมจะกลับมาประเทศจีน

ดูเหมือนว่าเหว่ยเหวินกำลังอธิบายว่าลัทธิแม็คคาร์ธีกำลังรุ่งเรือง และเสรีภาพทางวิชาการกำลังโดนท้าทาย

ลู่โจวรู้สึกไร้พลัง

ต้นเดือนกันยายน

สายการบินจากปักกิ่งไปรัสเซีย

ลู่โจวขึ้นเครื่องและมองดูหวังเผิงเก็บกระเป๋าเดินทางในช่องเก็บสัมภาระ เขาบังเอิญเจอกับบุคคลค่อนข้างที่จะพิเศษ

บุคคลคนนี้ก็นั่งเฟิร์สคลาสเช่นกัน

ทั้งคู่สบตากัน

อย่างน้อยลู่โจวก็ทักทายก่อนพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตร

“บังเอิญจังเลยนะครับ”

ราวกับว่าหวังซื่อเฉิงกลับมาสู่ความจริงอีกครั้ง ปากของเขากระตุกขณะที่ยิ้ม

“…โอ้ใช่ บังเอิญอะไรขนาดนี้…ฮ่าฮ่าฮ่า”

แปลกจริงๆ

เราไม่เพียงแค่ขึ้นเครื่องลำเดียวกัน เรายังได้นั่งติดกันอีกด้วย!

ทำไมตอนที่ขึ้นเครื่องจึงไม่เห็นเขานะ

ถ้าเขารู้ว่าลู่โจวก็ขึ้นเครื่องลำนี้ เขาคงคืนตั๋วและนั่งไปกับเที่ยวบินอื่นแน่ๆ

เปลี่ยนที่นั่งตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว หวังซื่อเฉิงลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะนั่งใกล้ลู่โจว

หลังจากที่พนักงานบนเครื่องทำการแนะนำการโดยสาร เขารัดเข็มขัดและปิดตา รอเครื่องบินขึ้น

เขาคิดว่าเขาจะได้หลับอย่างสบายใจตลอดการเดินทาง แต่ลู่โจวก็เริ่มพูดกับเขาก่อน

“นักวิชาการหวัง คุณไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อเข้าร่วมประชุมเหรอครับ”

“ครับ” หวังซื่อเฉิงพูด เขาไม่ได้อยากสนทนาเท่าไหร่นัก แต่เขาก็อดที่จะพูดไม่ได้ “ทาง IMU ขอให้ผมทำการรายงาน 45 นาที ผมก็เลยตัดสินใจไป”

หวังซื่อเฉิงอายุมากเกินกว่าจะทำงานวิจัยคณิตศาสตร์จึงเป็นเรื่องน่าประทับใจที่สมาพันธ์คณิตศาสตร์ระหว่างประเทศยังเชิญให้เขามาทำการรายงาน

มันแสดงให้เห็นว่าวงการคณิตศาสตร์นานาชาติยังไม่ลืมผลงานการวิจัยของเขาทำให้ชายสูงวัยมีความสุข

ลู่โจวยิ้มและพูด “โอ้ ยินดีด้วยนะครับ”

หวังซื่อเฉิงมองหน้าของลู่โจวแล้วรู้สึกรำคาญ

ตอแหลจริงๆ !

ใครๆ ก็รู้ว่านายทำการรายงาน 60 นาที

ก็แค่แสร้งทำเป็นถ่อมตัวใช่ไหมล่ะ

ฮ่าฮ่า ฉันไม่ให้โอกาสนายทำแบบนั้นหรอก!

หวังซื่อเฉิงจงใจที่จะไม่ถามว่าลู่โจวมาทำอะไรที่งานประชุม ICM เขายิ้มและเปลี่ยนเรื่อง

“แล้วคุณล่ะ งานวิจัยสมมติฐานของรีมันน์ของคุณไปถึงไหนแล้ว”

ลู่โจวดูเศร้าเล็กน้อย

“โชคร้ายไปหน่อยครับ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย”

โชคร้ายจริงๆ นั่นแหละ

เขายุ่งมาตลอดทั้งปี แทบจะไม่มีเวลาทำวิจัยสมมติฐานของรีมันน์เลยด้วยซ้ำ ถ้าเขาเลือกใช้เวลาทั้งหมดมาทำวิจัยสมมติฐานของรีมันน์ เขาก็อาจจะคิดค้นทฤษฎีดีๆ ขึ้นมาบ้างก็ได้

แต่คำพูดของลู่โจวเป็นเหมือนข่าวดีสำหรับนักวิชาการหวัง

ฮ่าๆ!

เกิดเป็นนายนี่โชคร้ายจัง

แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่แก้ปัญหาสมมติฐานของรีมันน์ไม่ได้ แต่ลู่โจวก็คุยอวดต่อว่าถ้าเขาแก้สมมติฐานของรีมันน์ไม่ได้ เขาก็คงไม่ทำรายงาน 60 นาที

ฉันตั้งตารอการรายงานของนายอยู่นะ

หวังซื่อเฉิงแสร้งทำเป็นประหลาดใจขณะที่พูด

“โอ้ จริงเหรอ ผมได้ยินมาว่าคุณจะไม่มีทางทำการรายงานที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เว้นเสียแต่ว่าคุณจะทำผลงานที่โดดเด่นออกมา ผมคิดว่าคุณจะแก้สมมติฐานของรีมันน์ได้เสียอีก แต่เดาว่าคงทำไม่ได้สินะ น่าเสียดายจริงๆ “

หวังซื่อเฉิงจงใจจะยั่วโมโห

แต่การแสดงของเขาดูเหมือนจะดีเกินไป ลู่โจวจึงไม่รู้สึกขุ่นเคืองแม้แต่น้อย

ลู่โจวถอนหายใจและพูด “ครับ น่าเสียดายจริงๆ ผมก็ไม่ได้ตั้งจะมาหรอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้”

“…ทำไมล่ะ”

เพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง หวังซื่อเฉิงรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เพิ่งพูดไป

อย่างที่คิดไว้ ลู่โจวยิ้มจนแก้มปริ

ยิ้มแบบนี้…

ช่างคุ้นตาสำหรับเขาจริงๆ

“ครับ” ลู่โจวเกาหัวเก้ๆ กังๆ และพูด “พวกเขาอยากมอบรางวัลให้ผม”

หวังซื่อเฉิง “…”

…………………………

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท