ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1024 คำถามแห่งศตวรรษ

ตอนที่ 1024 คำถามแห่งศตวรรษ

ประตูเปิดออกพร้อมเสียงเอี๊ยดอ๊าด

บรรยากาศเงียบของหอประชุมชวนให้เสียวสันหลังวาบ

ห้องบรรยายดูมีสภาพความวุ่นวายจากเหตุเมื่อวาน กระดาษถูกวางทิ้งกระจายไว้บนพื้น แม้แต่เก้าอี้ที่คนชนล้มยังนอนอยู่ที่พื้น

ลู่โจวคิดไปถึงเมื่อวาน เหตุการณ์นั้นทำให้ใจเขาวูบลง…

เมื่อเห็นว่าลู่โจวมองดูห้องบรรยายด้วยสายตาว่างเปล่า ผู้ช่วยไม่อยากรบกวนเขา แต่ว่าผู้ช่วยนึกถึงอาหารที่กินไปครึ่งหนึ่ง เขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึกและพูดว่า “ถ้าคุณอยากอยู่ที่นี่ต่ออย่าลืมปิดประตูทีหลังด้วยนะครับ คุณอยากได้กุญแจไหม?”

“อืม”

ลู่โจวหยิบกุญแจมาแล้วพยักหน้า เขาพูดว่า “ผมจะเอามันไปคืนศาสตราจารย์เฮลเกอร์ โฮลเดน คุณไปเถอะ”

ศาสตราจารย์เฮลเกอร์ โฮลเดนเป็นเลขาธิการของสมาพันธ์คณิตศาสตร์นานาชาติ และเป็นหนึ่งในผู้คนหลักที่รับผิดชอบในคณะกรรมการจัดการการประชุม เขารับผิดชอบการจัดตารางใช้งานสถานที่และรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ผู้ช่วยรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินว่าลู่โจวจะไปพูดกับเฮลเกอร์ โฮลเดนด้วยตัวเอง ผู้ช่วยได้หันหลังกลับและเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร

บรรยากาศที่ห้องบรรยายทำให้ลู่โจวรู้สึกเศร้าซึม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคราบเลือดบนไวท์บอร์ด

เขาไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไป

หลังจากผู้ช่วยออกไปลู่โจวเดินเข้าห้องบรรยายและเปิดไฟ เขาปิดประตูและเดินไปทางเวที

เขาเจ็บปวดที่ต้องเห็นคราบเลือดแห้งบนไวท์บอร์ด

แต่สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุดคือบรรทัดสมการบนไวท์บอร์ด

ในฐานะนักคณิตศาสตร์ที่เชี่ยวชาญ เขารู้ดีว่าความพยายามและการตั้งใจทำงานจำเป็นที่จะสร้างผลการวิจัยพวกนี้ เขาจะต้องใช้เวลาสองสามสัปดาห์ในการเขียนพวกมันขึ้นมา

ลู่โจวไม่รู้ว่าเวร่าสามารถรอดชีวิตปีที่ผ่านมาโดยมีโรคร้ายถ่วงเธออยู่ได้อย่างไร

แต่หลังจากที่เห็นการคำนวณพวกนี้ ลู่โจวเข้าใจในที่สุดว่าทำไมเธอถึงปิดบังมันจากเขา

บางทีเมื่อเธอรู้เกี่ยวกับอาการของตัวเอง เธอไม่สามารถรักษาได้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นมันไม่มีเหตุผลที่เธอจะปกปิดเรื่องนี้…

ท้ายที่สุดแล้วอาการเริ่มต้นของมะเร็งนั้นใกล้เคียงกับโรคทั่วไปหลายโรค ไม่ใช่แค่นั้น เธอไม่ได้มีสุขภาพดี มันยากที่จะตรวจเจอมะเร็งจากการตรวจร่างกายปกติ

และเมื่ออาการปรากฏขึ้น…

มันสายไปแล้ว

นั่นเป็นสาเหตุการเสียชีวิต 70% ของผู้ป่วยมะเร็ง

แต่…

“…ทำไมต้องเป็นเธอด้วยล่ะ?”

นี่เป็นคำสาปของผู้ได้รับรางวัลเหรียญฟิลด์เหรอ?

ลู่โจวมองดูการคำนวณบนไวท์บอร์ดและสูดลมหายใจเข้าลึก ตาของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่

ความเป็นไปได้ที่จะได้รับยารักษามะเร็งจากการแก้ข้อสมมติฐานรีมันน์นั้นน้อยเกินไป แต่การแก้ข้อสมมติฐานรีมันน์จะช่วยทำให้อารมณ์ของผู้ป่วยดีขึ้นและอาจจะทำลายเซลล์มะเร็ง

ลู่โจวไม่เคยแก้ไขปัญหาโดยการพึ่งรางวัลระบบ

คุณค่าที่แท้จริงของระบบไฮเทคไม่ใช่รางวัลแต่เป็นตัวภารกิจเอง!

จากคำสั่งของระบบ หลังจากที่เขาทำภารกิจปัจจุบันสำเร็จเขามีตัวเลือกที่จะทำภารกิจโซ่ต่อหรือเลือกภารกิจสุ่มสามภารกิจ ภารกิจสุ่มพวกนั้นมักเกี่ยวข้องกับปัญหาที่เขาเจออยู่ในตอนนั้น

โดยทั่วไปภารกิจพวกนี้เป็นเหมือนเครื่องมือแนะนำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มันวิเคราะห์ทั้งสถานะทางสังคมของลู่โจว ทรัพยากร และสภาพแวดล้อม และให้ภารกิจเขาที่มีโอกาสทำสำเร็จสูงสุด

มันมีโอกาส 90% ที่จะมีภารกิจเกี่ยวกับมะเร็งปรากฏขึ้น

ถึงแม้ว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องชีววิทยา การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สถาบันเพื่อการวิจัยขั้นสูงอาจจะช่วยเขาได้

ไม่ใช่แค่นั้น เขามีเงินมากมหาศาล

เงินเป็นพลังพิเศษในตัวมันเอง

โดยเฉพาะในมือของนักวิทยาศาสตร์ที่รู้วิธีการใช้เงิน

เมื่อรวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน เขามีโอกาสค่อนข้างสูง

ถ้าทั้งหมดนี้ล้มเหลว…

นั้นก็หมายความว่าโปรเจกต์วิจัยนี้เกินขีดความสามารถของเทคโนโลยีมนุษย์ในปัจจุบัน

ลู่โจวสูดหายใจเข้าลึกและพยายามเพ่งสมาธิ

“งานของคุณยังไม่สำเร็จ”

“ผมจะทำมันให้สำเร็จแทนคุณ…”

ลู่โจวใจเย็นลงโดยสมบูรณ์แบบ เขาอยู่ในสภาวะทำงานโฟลว

นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาสามารถอุทิศตัวเองให้กับปัญหาเดียว

เขารู้สึกแบบนี้ครั้งแรกเมื่อเขาเข้าร่วมการประชุมวิชาการพรินซ์ตันเมื่อหลายปีก่อน

ตอนนั้นเขาต้องพึ่งพาระบบเพื่อเข้าสู่สภาวะโฟลวแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาทำสมาธิแค่ 10 วินาที

ทันใดนั้นตัวเลขและตัวอักษรบนไวท์บอร์ดดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมา สมการเป็นเหมือนโน้ตบนแผ่นโน้ตดนตรีได้กลายเป็นซิมโฟนีแห่งคณิตศาสตร์

มันไม่มีผู้ชม

มันไม่มีแม้กระทั่งนักดนตรี

แต่ลู่โจวสามารถได้ยินดนตรีในหูอย่างชัดเจน มันดูเหมือนกับว่าเขาเดินทางย้อนเวลากลับไปที่ห้องเรียนห้องนั้นที่พรินซ์ตัน

“เข้าใจแล้ว…”

ลู่โจวมองดูการคำนวณบนกระดานและพยักหน้าอย่างเงียบๆ

การคำนวณที่เขียนอย่างไม่เป็นระเบียบบนไวท์บอร์ดเป็นส่วนหนึ่งในการวิจัยที่ยังไม่สำเร็จและยังไม่ได้เผยแพร่

เรื่องส่วนใหญ่บนไวท์บอร์ดเป็นเพียงคอนเซปต์และไอเดีย ภาพ และก็สมการ มันต้องใช้ความเคี่ยวกรำในด้านคณิตศาสตร์เพื่อถ่ายทอดคอนเซปต์อย่างเต็มรูปแบบต่อผู้รับชม…

แต่เวร่าเป็นลูกศิษย์ของลู่โจว เขาจึงสามารถถอดรหัสได้

ไม่ใช่แค่นั้น เขาอยู่ในสภาวะโฟลว

“…ส่วนขยายของ [ζ(z)]-1/2[ζ(z)]-1/2=Σnαnn^-z ถูกตัดออก และแนะนำชุดของ φ(z)=Σnβnn^, โดยใช้จำนวนอินติเกรดผันของสูตร”

“ไม่แปลกใจที่การวิจัยของฉันติดคอขวด ความสนใจถูกมุ่งไปที่เครื่องมือคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนอย่างวิธีการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกและพยายามแนะนำแมนิโฟลด์ที่แตกต่างเข้าไปในพื้นที่ซับซ้อน ฉันละเลยสิ่งที่เป็นพื้นฐานไป”

ไม่แปลกใจที่เฉินหยางที่เขาขโมยตัวมาจากศูนย์คณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยเหยียนได้ช่วยพัฒนาธีสิสของลู่โจวได้อย่างมาก

ลู่โจวไม่ได้รู้สิ่งนี้ แต่เขาได้ทำความผิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแวดวงคณิตศาสตร์ซึ่งมันเป็นความผิดที่ ‘หลักฐานเป็นเรื่องเล็กน้อย’ มันเหมือนกับการสร้างตึกสูงโดยมีรากฐานที่ไม่ถูกต้อง

“ฉันทำพลาดไปครั้งใหญ่ ถ้าฉันไม่ได้หยุดสอน ฉันคงไม่ทำผิดพลาดครั้งนี้…แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาอ้าง”

“แล้วก็เวร่า ไอเดียของคุณแปลกใหม่ แต่มันมีบางปัญหาอยู่ในรายละเอียด เหมือนกับที่คุณเลือกค่าของ N ในสมการที่ 8 และเมื่อคุณแนะนำแมนิโฟลด์ความต่างเข้าในพื้นที่แอบสแตรกระดับซับซ้อน

ฉันจะทำแบบนี้แทน…”

มันมีไวท์บอร์ดหลายกระดานในห้องบรรยาย

ลู่โจวเดินไปยืนตรงหน้าไวท์บอร์ดว่างเปล่าและหยิบปากกาขึ้นมา เขาเริ่มย้ายความคิดเข้าไปที่ไวท์บอร์ด

มันเหมือนกับว่ากาลเวลาได้หยุดนิ่ง

ไม่มีอะไรในโลกนี้สำคัญอีกต่อไป

มันเป็นความสงบก่อนพายุเข้าโหม

และพายุลูกใหญ่กำลังก่อตัว…

ลู่โจวยืนอยู่ในห้องบรรยายเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง

ถ้าเขารู้สึกหิว เขามีสารอาหารที่สามารถกินได้จากในพื้นที่ระบบ

ถ้าเขารู้สึกเหนื่อย เขาสามารถกินยาเสริมพลังได้

เขาติดอยู่ในเขาวงกตนี้มานานเกินไป มันเป็นสิ่งที่เขาเข้าใกล้ที่สุดในการหลบหนีออกไป

ถ้าเขายอมแพ้ตอนนี้…

ใครจะไปรู้ว่าเขาจะเข้าใกล้มันได้ขนาดนี้อีกตอนไหน

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ลู่โจวไม่รู้ว่ามันผ่านไปแล้วกี่วัน ความสนใจของเขาโฟกัสอย่างเต็มที่กับไวท์บอร์ดที่เต็มไปแล้วหนึ่งโหล

ในที่สุดลู่โจวเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

สายตาของลู่โจวเบิกกว้างและขยายออก

เขาไม่ได้โห่ตะโกนหรือกรีดร้อง

เขารู้สึกนิ่งสงบดั่งก้อนหิน

เขารู้สึกโล่งอก

“เข้าใจแล้ว…

ไม่แปลกใจว่าทำไมสิ่งนี้ถึงสร้างปัญหาให้ผู้คนมากว่าหนึ่งร้อยห้าสิบปี

มันไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ได้ด้วยแค่พรสวรรค์และความรู้”

ใครจะไปคิดว่ากระดาษแปดแผ่นจากสถาบันปรัสเซียนแห่งวิทยาศาสตร์จะได้ปั่นป่วนนักวิชาการยอดเยี่ยมหลายคน

โจทย์คณิตศาสตร์นับไม่ถ้วนได้อนุมานว่าข้อสมมติฐานของรีมันน์เป็นจริงได้กลายเป็นทฤษฎีบท

ผ่านมาอีกหนึ่งร้อยห้าสิบปี ในวันนี้มีใครบางคนตอบคำถามของรีมันน์ได้ในที่สุด

ใช่แล้ว ศาสตราจารย์รีมันน์ถูกต้อง

ลู่โจวหลับตาและสูดลมหายใจเข้าลึก

จากนั้นเขามองดูกล้องรักษาความปลอดภัยที่มุมห้องบรรยายและพูดว่า

“เสี่ยวไอ

จัดการสิ่งบนกระดานให้เรียบร้อย

อัปโหลดมันขึ้น arXiv”

เขารู้ว่าเสี่ยวไอดูเขาอย่างเงียบๆ ตลอดช่วงวันที่ผ่านมา

เขารู้ว่าเสี่ยวไอเป็นสาเหตุที่ทำให้ประตูห้องบรรยายไม่ถูกเปิดออก เสี่ยวไอสามารถสร้างอีเมลปลอมและเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

มีกลุ่มข้อความปรากฏขึ้นที่โทรศัพท์ตามที่คาดไว้

[ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้านาย!]

หลังจากนั้นลู่โจวหยิบขวดยาเสริมพลังงานมาจากพื้นที่ระบบและดื่มมัน

เขาไม่ได้นอนหลับมาแล้วสามวัน และเขาไม่เร่งรีบที่จะนอนหลับ

เขานั่งบนโพเดียมและจ้องมองไวท์บอร์ดทั้งแปด

เขาแค่อยากนั่งที่นี่และฟังเสียงหัวใจของตัวเอง…

จากนั้นเขาจะตัดสินใจขั้นต่อไป

……………………………………………………………….

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท