ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1038 กองทุนปกป้องสิทธิ์การแช่แข็งผู้ป่วยโรคร้ายแรง

ตอนที่ 1038 กองทุนปกป้องสิทธิ์การแช่แข็งผู้ป่วยโรคร้ายแรง

ขั้นตอนการแช่แข็งพักตัวประสบความสำเร็จ

ด้วยความช่วยเหลือจากแบคทีเรียดาวอังคาร เวร่าได้รอดชีวิตจากโซนอุณหภูมิอันตรายได้สำเร็จ และได้ไปถึงจุดเหมาะสมสำหรับการพักตัว

แม้ว่ากระบวนการที่เสี่ยงนี้ไม่ได้รับรองทางคลินิก มันกลับประสบความสำเร็จ

แต่มันเร็วเกินไปที่จะฉลอง มันมีงานอีกเยอะที่ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงและทีมของเขาต้องทำ

จริงๆ แล้ว สิ่งนี้ก็เป็นความรับผิดชอบของลู่โจว เขาเป็นหัวหน้าตัวจริงของโปรเจกต์แล้วก็ยังเป็นคณบดีของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง

มันยากที่ทางสาธารณะจะย่อยข้อมูลทั้งหมดนี้ในครั้งเดียว ท้ายที่สุดแล้วแม้แต่ในชุมชนวิชาการ เทคโนโลยีพักตัวแช่แข็งเป็นประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และล้ำสมัย

ไม่ว่าผู้ป่วยจะตื่นได้ในอนาคต การเรียกบุคคลว่ามีชีวิตอยู่เมื่อหัวใจหยุดเต้นก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันอยู่

แล้วมันยังมีประเด็นจริยธรรมและศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวด้วย

นักวิชาการจ้างจงจี้และนักวิชาการจาก โรงพยาบาล 301 ได้แนะนำให้ลู่โจวเปิดเผยเทคโนโลยีแช่แข็งมนุษย์เป็นขั้นตอน

ถึงแม้ว่าความเห็นของมวลชนจะไม่ส่งผลต่อโรงพยาบาล 301 หรือลู่โจว การใช้วิธีที่นุ่มนวลกว่าเป็นเรื่องที่ดี

มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปักกิ่ง

ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงกำลังจะพูดเรื่องชีววิทยาการแช่แข็งโดยใช้สคริปต์ที่เตรียมมาอย่างดี

ถึงแม้ว่าชีววิทยาการแช่แข็งเป็นสาขาที่ค่อนข้างไม่ได้รับความนิยม ผู้คนจำนวนมากยังเข้าร่วมการเลคเชอร์

ชาวต่างชาติหลายคนจากยุโรปและอเมริกาบินมาเพื่อการบรรยายครั้งนี้โดยเฉพาะ

มีสองสถาบันวิจัยชั้นนำในด้านนี้ ที่แรกคือ ‘ห้องพักตัวอุณหภูมิต่ำ’ ที่พัฒนาร่วมกันระหว่างนาซ่า จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และสเปซเอ็กซ์ อีกที่หนึ่งคือห้องแล็บชีววิทยาแช่แข็งที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง

เนื่องจากทั้งสองโปรเจกต์เกี่ยวข้องกับด้านการบินและอวกาศ จีนที่ได้เปรียบในการแข่งขันด้านนี้ได้ถูกมองว่าเป็นที่หนึ่งในเทคโนโลยีนี้

ห้องแล็บชีววิทยาการแช่แข็งแห่งสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงไม่ได้เผยแพร่งานในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุผลที่การบรรยายครั้งนี้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

ท้ายที่สุดแล้วสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงที่นำโดยนักวิชาการลู่จะไม่ประกาศต่อสาธารณะจนกว่าจะมีความก้าวหน้าในการวิจัยครั้งใหญ่

ผู้คนสัมผัสได้ว่ามีเรื่องใหญ่กำลังจะถูกเปิดเผย…

คาเฟ่ใกล้กับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ของมหาวิทยาลัย

ลู่โจวสั่งคาปูชิโนและนั่งที่มุมปลีกวิเวก

เนื่องจากเขาแต่งตัวเหมือนกับนักศึกษาคนอื่นรอบมหาวิทยาลัย ไม่มีใครจำเขาได้

แต่เมื่อเฉินยู่ซานแต่งตัวจัดเต็มเดินเข้ามา เธอดึงดูดความสนใจทั้งผู้ชายและผู้หญิงอีกหลายคน

“นายจะต้องไปเข้าร่วมบรรยายในอีกสักพักใช่ไหม?” เฉินยู่ซานถามว่า “นี่ฉันรบกวนนายหรือเปล่า?”

ลู่โจวส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่เป็นไร อย่างไรฉันก็ไม่เข้าใจชีววิทยาการแช่แข็งอยู่แล้ว ฉันรู้เกี่ยวกับเคมีเล็กน้อย แต่ฉันห่างไกลจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญ…มีอะไรเหรอ?

“ไม่มีอะไร” เธอพูดในขณะที่ดื่มกาแฟ เธอพูดต่อ “ฉันแค่คิดว่า…นายรู้เรื่องเคมีมากกว่าเล็กน้อย…นายถ่อมตัวเกินไป”

สิ่งที่เธออยากจะพูดจริงๆ คือความถ่อมตัวของลู่โจวทำให้เธออารมณ์เสีย

แต่ลู่โจวไม่รู้ว่าเธอรู้สึกแบบนั้น

ลู่โจวคิดว่าเธอกำลังชื่นชมเขา เขาจึงยิ้มให้เธอ

มันเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาได้ยิ้มในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

“ขอบคุณ…เอ่อ เธอทำนั่นแล้วใช่ไหม?”

“ใช่ ฉันจะไม่ทำให้นายเสียเวลาที่มีค่า” เฉินยู่ซานหยิบกองเอกสารออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะในขณะที่เธอพูดว่า “จากคำขอของนาย ฉันได้สมัครกองทุนป้องกันสิทธิ์การแช่แข็งไว้ที่หนึ่งร้อยล้านหยวน

“เงินทุนจะถูกควบคุมโดยผู้จัดการมืออาชีพ และแหล่งการลงทุนส่วนใหญ่จะเน้นด้านการผลิตอาหาร การทำเหมือง ค้าปลีก และส่วนอื่นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าซึ่งเหมาะกับการลงทุนระยะยาว…ในอีกแง่หนึ่ง 20% ของรายรับประจำปีจะถูกใช้เพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน ค่าบำรุงสถานที่ และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น และส่วนที่เหลือจะถูกฝากไว้ในกองเงินทุนเพื่อให้มีเงินไหลเวียนได้ดี”

“เมื่อวันเลิกแช่แข็งที่ตกลงไว้มาถึงทางองค์กรจะจ่ายให้กับผู้ที่ตื่นขึ้นหนึ่งครั้งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการรักษาและเงินใช้ชีวิตพื้นฐาน”

“จำนวนซื้อขั้นต่ำคือเงินหนึ่งล้านหยวน ผู้ประเมินจะประเมินว่าแรงจูงใจของผู้ซื้อตรงกับเกณฑ์จากทรัพย์สิน อาชีพ สถานะทางสังคม และสุขภาพ…สิ่งที่มีไว้เพื่อรับประกันว่าเทคโนโลยีถูกใช้อย่างถูกต้อง…นี่เป็นสรุปคร่าวๆ”

โดยทั่วไปสิ่งนี้มีค่าเท่ากับเงินประกันบำนาญที่จ่ายครั้งเดียวในอีกห้าสิบปีหรือนานกว่านั้น และมีเพียงผู้ป่วย ‘ร้ายแรง’ ที่สามารถซื้อกองทุนนี้ได้

สำหรับสาเหตุที่ก่อตั้งกองทุนนี้ขึ้นมา…

เป็นเพราะว่าลู่โจวรู้ว่าอะไรอาจเกิดขึ้น ถ้าเขาไม่ได้ทำแบบนี้

ผลที่ตามมาของการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดนั้นเลวร้าย แต่การยับยั้งไม่ให้ประดิษฐ์เทคโนโลยีนี้หรือทำให้มันเข้าถึงได้แค่คนที่มีอำนาจไม่กี่คนนั้นน่าสะพรึงยิ่งกว่า

เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ เหมือนที่นักวิชาการจ้าวจงจี้พูดไว้ เทคโนโลยีนี้อาจทำให้คนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เพราะโรคร้ายสามารถมีโอกาสได้ชีวิตใหม่ ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องดี

“ขอบคุณนะ”

หลังจากที่ปัดผมตัวเองอย่างแผ่วเบา เฉินยู่ซานพูดต่อ “ด้วยความยินดี แล้วเรื่องเวร่าเป็นอย่างไรบ้าง? พวกนายได้…”

ลู่โจวพยักหน้า

“เธออยู่ในสภาวะพักตัวแล้ว”

บรรยากาศเงียบสนิทไปชั่วครู่

เฉินยู่ซานมองดูรถนอกหน้าต่างและถอนหายใจเบาๆ

“มันจะเป็นการเดินทางที่ยาวนานแต่…มันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเธอ”

ลู่โจวพยักหน้าเงียบๆ และไม่ได้พูดอะไรตอบไป

เฉินยู่ซานไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไร หลังจากที่นิ่งไปชั่วครู่เธอเปลี่ยนเรื่องโดยกะทันหันและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“ว่าไปแล้ว นายจะทำอะไรต่อ? จะกลับไปจินหลิงไหม?”

ลู่โจวใช้ความคิดและตอบไปว่า “ฉันอยากพักผ่อนช่วงฤดูร้อนที่บ้านเกิด แล้วกลับไปที่จินหลิงเมื่อปีการศึกษาภาคฤดูร้อนเริ่มขึ้น”

งานของเขาที่ปักกิ่งเสร็จเกือบหมดแล้ว หลังจากการบรรยายที่นี่จบลงเขาอยากกลับไปที่บ้านเกิดของตัวเอง เขาจะใช้เดือนสิงหาคมทั้งเดือนที่นั่นแล้วกลับไปมหาวิทยาลัยจินหลิงเมื่อเทอมหน้าเริ่มขึ้น

เหตุผลแรกคือเขาต้องการพักผ่อนสักพักและเยี่ยมครอบครัว

อีกเหตุผลคือการหลีกหนีสปอตไลท์

ดูเหมือนว่าหลังจากข่าวเทคโนโลยีการพักตัวแช่แข็งถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เขาจะกลายเป็นประเด็นพูดคุยของสาธารณชนอย่างแน่นอน ถ้าเขาอยู่ที่ปักกิ่งหรือจินหลิงในช่วงนั้นเขาก็คงไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้อย่างสงบ

ดูเหมือนว่าเฉินยู่ซานรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งนี้ เธอพูดแซวเล่นว่า “นายยังมีพักร้อนอีกเหรอ?”

ลู่โจวพูดตอบ “ทำไมฉันจะไม่มีล่ะ? ศาสตราจารย์…ก็เป็นอาจารย์เหมือนกัน ทำไมพวกเราจะไม่มีพักร้อนล่ะ?”

เฉินยู่ซานยิ้มและพูดว่า “โอเค คงงั้นล่ะ แต่นายแก้สมมติฐานของรีมันน์ได้ นายสมควรได้พักจริงๆ “

ลู่โจวมองดูเธออย่างเซอร์ไพรส์และพูดว่า “เธอรู้เรื่องนี้ด้วย?”

เฉินยู่ซานอดไม่ได้ที่จะกลอกตาและพูดว่า

“ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไรล่ะ! ฉันดูข่าวนะ! อย่าคิดว่าฉันเป็นพวกนักธุรกิจไร้จิตวิญญาณ ฉันเห็นนายบนปกเหรินเหรินเดลี่ จริงๆ แล้ว ฉันอยากถามนายว่ารู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ขึ้นปกเหรินเหรินเดลี่?”

ฉันบนปกเหรินเหรินเดลี่น่ะเหรอ?

เมื่อลู่โจวได้ยินแบบนี้เขามีสีหน้าเซอร์ไพรส์ขึ้นมาทันที

แต่เขาไม่ได้เซอร์ไพรส์

ท้ายที่สุดแล้วเขาปรากฏตัวในสื่อใหญ่แทบทุกสำนักในโลก

เฉินยู่ซานใช้หลอดคนเครื่องดื่มระหว่างที่เธอพูดว่า

“เฮ้อ ฉันรู้ว่านายเก่งคณิตศาสตร์ แต่ฉันไม่นึกว่านายจะเก่งได้ขนาดนี้…”

ลู่โจวพูดตอบว่า “…คุณเพิ่งรู้เหรอ?”

ทันใดนั้นเฉินยู่ซานสงสัยขึ้นมาทันที “นายคิดว่ามีผู้กำกับคนไหนที่อยากเปลี่ยนเรื่องของนายเป็นภาพยนตร์ไหม? เหมือนกับเรื่อง ‘บิวตี้ฟูลมายด์’ จะว่าไปแล้ว ช่วงที่ผ่านมาที่ฉันไปอเมซอน ฉันเห็นใครคนหนึ่งขายชีวประวัติส่วนตัวของนาย…”

หัวใจของลู่โจวตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

“…ชีวประวัติส่วนตัว?”

“มันไม่ใช่ชีวประวัติศาสตร์ส่วนตัวของนายขนาดนั้น มันเป็นเหมือนสมุดบันทึกมากกว่า ฉันจำได้ว่าชื่อของมันคือ ‘ศาสตราจารย์ลู่ที่ฉันรู้จัก’ ผู้เขียนเป็นศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ชาวบราซิล และดูเหมือนว่าเขาเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซาเปาโล”

เมื่อได้ยินว่าชายคนนี้มาจากบราซิล ลู่โจวแทบสำลักกาแฟออกมาทันที

“เขาชื่อฮาร์ดี้ใช่ไหม?!”

ลู่โจวดูเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เฉินยู่ซานลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้า “หืม? นายอ่านมันหรือยัง? คุณซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ลู่โจว “…”

เวรเอ๊ย!

ฉันรู้จักไอ้งั่งคนนั้น!

ลู่โจวแทบอยากจะย้อนกลับไปเมื่อหกปีก่อนแล้วโยนเรซูเม่ของไอ้งั่งลงถังขยะ

การให้ไอ้งั่งเป็นหนึ่งในนักเรียนของเขาเป็นเรื่องเสียเกียรติ

“แต่เขาอ้างว่าเป็นหนึ่งในนักเรียนของนายจากพรินซ์ตัน…เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?” เฉินยู่ซานถามเขาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจในระหว่างที่เธอมองดูลู่โจวด้วยความอยากรู้

ลู่โจวพูดว่า “อย่าเชื่อสักคำที่ชายคนนั้นพูดนะ”

เฉินยู่ซานถอนหายใจ “โอเคครับ เอาจริงแล้ว ฉันคิดว่าบางเรื่องที่เขาเขียนค่อนข้างน่าสนใจ”

ลู่โจว “…”

ถึงเขาอยากรู้อย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจ แต่เพื่อสภาพจิตใจของเขา เขาขอไม่รับรู้ต่อไป

………………………..

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท