ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1126 หนีความรับผิดชอบ

ตอนที่ 1126 หนีความรับผิดชอบ

เมื่อลู่โจวมอบความรับผิดชอบในการสำรวจวอยด์เมมโมรี่ให้กับกลุ่ม ‘เกมเมอร์’ เขารู้สึกว่าในที่สุดเขาก็เป็นอิสระจากการถูกยิงจนตายเสียที ในที่สุดเขาก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิม

แม้ว่าเขาจะอยากรู้ว่าทำไมออราเคิลของศาสตราจารย์เลนจึงส่งผลต่อชะตากรรมของจักรวรรดิได้ แต่เขารู้ดีว่ามันต้องใช้เวลา

นี่ยังไม่พูดถึงการทดลองทางฟิสิกส์ที่สำคัญไม่แพ้กันรอเขาอีกในหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าอีกด้วย

เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่โจวได้ขอให้หวังเผิงขับรถพาเขาไปที่อาคารคณะเพื่อไปเยี่ยมบ้านของผู้เฒ่าถัง

ลู่โจวเคาะประตู ผู้เฒ่าถังเห็นลู่โจวที่ประตูหน้าของเขาและตกใจ

 ทำไมถึงมาอยู่นี่ล่ะ? ฉันไม่ได้บอกให้คุณโทรหาฉันก่อนเหรอ? 

ลู่โจวยิ้มและพูดว่า  ผมมาที่นี่ได้ ไม่มีปัญหา 

ในฐานะครูคนก่อนของเขาลู่โจวมีความเคารพต่อผู้เฒ่าถังเป็นอย่างมาก

ถ้าเขาไม่ได้เจอกับผู้เฒ่าถัง เส้นทางสู่ความสำเร็จของเขาอาจไม่ราบรื่นอย่างนี้

แม้ว่าเขาจะแซงหน้าศาสตราจารย์ถังในด้านวิชาการไปมาก แต่เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณสำหรับบทเรียนของศาสตราจารย์ถังตลอดเวลา

 ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้… เข้ามาสิ  ผู้เฒ่าถังมองลู่โจวที่ยืนอยู่ที่ประตูหน้าของเขาและพูดว่า  ฉันไม่มีอะไรทำทั้งวัน ฉันเลยอยากจะออกไปข้างนอกและคุยกับคุณด้วยน่ะ จริงๆ ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่หรอก คุณควรใช้เวลาอ่านหนังสือและสอนนักเรียน ไม่ใช่มาเยี่ยมชายชราอย่างฉัน 

 ไม่เป็นไรครับ ผมกะจะมาอยู่แล้ว  ลู่โจวถอดรองเท้าแล้วพูดว่า  พอพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว… เมื่อวานคุณพูดถึงเรื่องอะไรเหรอครับ? 

ผู้เฒ่าถังยิ้มอย่างเชื่องช้า

 เอาล่ะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ นั่งก่อน ฉันจะรินชาให้แล้วเราค่อยคุยกัน… 

ผู้เฒ่าถังเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลู่โจว

หลังจากฟังจบ ลู่โจวก็งงงัน

การเดาของลู่โจวนั้นถูกต้อง

ว่าเหตุผลที่ผู้เฒ่าถังนั้นทำท่าทีลึกลับตอนโทรมาก็เพราะต้องการให้เขาช่วย

 มันจำเป็นต้องตีพิมพ์หนังสือเหรอครับ? นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนยุค 50 หรือ 60 ทำกันหรอกเหรอ? 

 แน่นอนสิ ถ้าเราปล่อยโอกาสนี้ไป คนอื่นอาจจะคว้ามันไว้ก่อน  ผู้เฒ่าถังกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กระฉับกระเฉง เขาพยายามที่สุดเพื่อเกลี้ยกล่อมลู่โจว  และเราไม่ต้องการอะไรจากคุณมากเกินไป ไม่ใช่ว่าตำราจะเขียนคนเดียวสักหน่อย! ฉันได้คุยกับผู้เฒ่าฉินแล้ว เราจะรวบรวมกลุ่มนักวิชาการรุ่นเยาว์จากแผนกคณิตศาสตร์ที่จะช่วยเขียนหนังสือเล่มนี้ให้ 

 ถ้างั้นก็เชิญทำได้เลย ตามสบายครับไม่ต้องรอ! มันจะได้ไม่ลำบาก! 

ลู่โจวไม่สนใจที่จะถ่ายทอดความรู้ของเขา รวมถึงการที่จะสร้างโรงเรียนแห่งความคิดด้วย

การวิจัยเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุข

ถ้ามันสร้างคุณค่าให้กับสังคมได้ก็ดี เมื่อบุคคลสร้างคุณค่าได้เพียงพอ สังคมก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี

ส่วนเรื่องอื่นๆ นั่นเป็นเรื่องรองลงมา

แต่หลังจากที่ลู่โจวคิดถึงคำพูดของผู้เฒ่าถัง เขาก็ตระหนักว่าผู้เฒ่าถังมีเหตุมีผลแล้ว

โอกาสนี้ค่อนข้างไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะเขาไม่มีปัญหาเรื่องความสำเร็จทางคณิตศาสตร์อยู่แล้ว ไม่ว่าเด็กในอนาคตจะสร้างความก้าวหน้าทางคณิตศาสตร์ได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่านักคณิตศาสตร์ในอนาคตทำงานหนักกันแค่ไหน ไม่เกี่ยวว่าเขาจะเขียนหนังสือวิชาการหรือไม่ก็ตาม

แต่อย่างที่ผู้เฒ่าถังบอก แม้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลสำหรับเขาเป็นการส่วนตัว แต่นี่เป็นโอกาสทองสำหรับแผนกคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจินหลิง

หนังสือเล่มนี้สามารถสร้างได้ทั้งโรงเรียนแห่งความคิดเลยทีเดียว

และในอนาคตอันไกลโพ้นนั้น ผู้คนจะเผยแพร่หลักคำสอนของลู่โจวให้มันมีอิทธิพลต่อผู้คนมากขึ้น

หลังจากที่ลู่โจวออกจากอพาร์ตเมนต์ของผู้เฒ่าถัง เขาก็ไปที่มหาวิทยาลัยจินหลิง

ระหว่างทางเขาได้คิดเกี่ยวกับวิธีการเขียนหนังสือวิชาการรวมถึงการทำงานร่วมกับคณบดีฉินเพื่อค้นหานักวิชาการรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถมาทำงานร่วมกัน

ลู่โจวบังเอิญชนเฉินหยางตรงบันไดของอาคารแผนกคณิตศาสตร์

ทันได้นั้นลู่โจวก็เกิดไอเดียขึ้นมา เขาเดินขึ้นไปแล้วถามว่า  สวัสดีตอนเช้า ทำอะไรอยู่น่ะ? 

 ผมเพิ่งมาจากโรงอาหารครับ  เฉินหยางกล่าวขณะรอให้ลู่โจวตามเขาทัน จากนั้นเขาก็พูดว่า  แล้วคุณล่ะ? 

 ผมไปบ้านอดีตอาจารย์ที่เคยสอนมาน่ะ  ลู่โจวกล่าว  คุณเคยอ่านบทความของผมเกี่ยวกับทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ไหม? 

เฉินหยางพยักหน้า

 …เคยครับ ทำไมเหรอ? 

 ผมอยากจะขออะไรหน่อย  ลู่โจวยิ้มและพูดว่า  ผมมีงานให้ทำ 

เฉินหยางทำหน้าจริงจังและพูด

 โปรดบอกมากได้เลยครับ 

 ไม่ต้องกังวลไป มันไม่ยาก และมันควรจะง่ายสำหรับคุณด้วยซ้ำ  ลู่โจวยิ้มให้เฉินหยางและกล่าวว่า  เรื่องก็คือมหาวิทยาลัยจินหลิงวางแผนที่จะเผยแพร่… ทฤษฎีของหนังสือคณิตศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ และทฤษฎีบทที่เกี่ยวข้องบางส่วนเท่านั้น 

เฉินหยางขมวดคิ้วและพูดว่า  ทฤษฎีคณิตศาสตร์? 

 ใช่ หนังสือเล่มนี้จะยาวหน่อย เรายังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับจำนวนเล่ม บางทีอาจจะมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา  ลู่โจวกล่าว เขาไม่ได้จงใจบอกเฉินหยางว่าเขาคิดชื่อหนังสือขึ้นมาเมื่อกี้ เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม  และคุณที่มีความสามารถเช่นนี้ หลังจากคิดดีแล้ว ผมตัดสินใจที่จะมอบหมายงานอันรุ่งโรจน์นี้ให้คุณ!

 แน่นอนว่า ถ้าคุณไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร เพราะการเขียนหนังสือก็ไม่ใช่เรื่องง่าย— 

 ผมตกลง 

เมื่อเห็นว่าเฉินหยางตกลงได้ง่ายแค่ไหน ลู่โจวก็แทบรู้สึกผิด

ผู้ชายคนนี้โดนหลอกง่ายเกินไป

ลู่โจวไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เขาเอื้อมมือออกไปตบไหล่เฉินหยาง

 ผมรู้ว่าผมเลือกคนที่ใช่แน่ๆ… ขอบคุณนะ 

พวกเขาเดินขึ้นบันไดจนถึงทางเดิน

ลู่โจวกล่าวอำลา และเริ่มเดินไปที่ห้องทำงานของเขา

อย่างไรก็ตาม เขาได้ยินเสียงจากด้านหลัง

 เดี๋ยวก่อน 

ลู่โจวหันกลับมาและพูดว่า  ว่าไง? 

จู่ๆ เฉินหยางก็จำบางอย่างได้ และเขาก็พูดว่า  ผมพยายามค้นคว้าวิธีที่คุณใช้ในการพิสูจน์ส่วนที่สองของข้อคาดการณ์มาตรฐานของก็อตเท็นดิ๊ก 

ลู่โจวขมวดคิ้วและพูดว่า  แล้วมีการค้นพบใหม่มั้ย? 

 …ประมาณนั้นครับ 

เฉินหยางพยักหน้าและพูด

 ผมคิดว่าผมมีไอเดียบางอย่าง…เกี่ยวกับข้อคาดการณ์ของฮ็อดจ์น่ะครับ 

……………………………

 

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท