ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1133 การประชุมที่อัปมงคล

ตอนที่ 1133 การประชุมที่อัปมงคล

 นี่ไม่ใช่การประชุมด้วยซ้ำ! ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยในการประชุมครั้งนี้! 

 นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ! 

 ใครก็ได้ บอกเขาหน่อย! 

 มันจะเละแน่ ถ้าเขาไม่ฟังอะไร ฉันบอกเขาไปหลายครั้งแล้วว่าเซิร์นได้ค้นคว้าเกี่ยวกับคุณลักษณะสูงสุด 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์ตลอดทั้งปี! โอ้ เขาอยากจะเสียเวลากับเรื่องนี้อีกครั้งเหรอ! 

 บางทีซีเอ็นเอ็นอาจจะพูดถูกว่าเขาเป็นวายร้ายแห่งวิทยาศาสตร์… 

การประชุมนี้กลายเป็นความโชคร้ายสำหรับใครบางคน

เริ่มกลุ่มคนเดินออกจากห้องประชุมด้วยความโกรธขณะที่พวกเขาบ่นเรื่องลู่โจวกันเสียงดังจนได้ยิน

ระหว่างรอลิฟต์ ศาสตราจารย์แฟรงก์ วิลกเซคได้สังเกตเห็นความโกรธบนใบหน้าของศาสตราจารย์วิทเทิล เขาจึงเดินไปหาและถามเขา

 เกิดอะไรขึ้นเหรอ? เพิ่งจะประชุมไปชั่วโมงเดียวเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมจบเร็วจัง? 

 การประชุมเหรอ? นั่นไม่ใช่การประชุมด้วยซ้ำ! 

ศาสตราจารย์วิทเทิลโบกมือและพูดเสียงดังว่า  ฉันจะกลับไปนิวยอร์กและไปบอกผู้คนที่สมาคมวิทยาศาสตร์บรูคเฮเวนว่าจีนทำอะไรไว้! พวกคนจีนกำลังใช้อำนาจในทางฟิสิกส์ที่ผิดทาง!  

แฟรงก์ วิลกเซคตะลึงเมื่อเห็นศาสตราจารย์วิทเทิลโกรธมากขนาดนี้

สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่ามีบางสิ่งที่เลวร้ายได้เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนหน้า ไม่อย่างนั้นศาสตราจารย์วิทเทิลจะไม่โกรธขนาดนี้… แต่วิทเทิลเองก็ไม่ใช่คนที่อัธยาศัยดีอยู่แล้ว

เขาจึงเริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในการประชุมกันแน่…

พวกเขาไล่คณะกรรมการออกเหรอ?

ไม่มีทาง?

ตามกฎของเมอร์ฟีแล้ว อะไรก็ตามที่อาจผิดพลาดได้ก็จะผิดพลาด

ศาสตราจารย์แฟรงก์ วิลกเซคได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากเพื่อนเก่าที่ทำงานที่เซิร์นมา เขาได้ยินเกี่ยวกับการประชุมนี้ และเริ่มรู้สึกกังวลใจ

สำหรับเขาแล้วลู่โจวไม่ใช่นักวิชาการที่ดื้อรั้นและโง่เขลาเหมือนคนอื่นๆ เขาคิดว่าศาสตราจารย์วิทเทิลและตัวแทนของคณะกรรมการคนอื่นๆ คงเข้าใจผิดในเจตนาของลู่โจวแน่ๆ

แต่ความจริงจะไม่โกหกเขา

อะไรทำให้ลู่โจวทำอะไรแบบนี้

แฟรงก์ วิลกเซคได้พบกับวิทเทนและชวนเขาดื่มกาแฟสักแก้ว

วิลกเซคได้พูดถึงการประชุมคณะกรรมการและถอนหายใจออกมา

 สถานการณ์ไม่ดี 

วิทเทนคิดว่าเขาจะพูดถึง ILHCRC ดังนั้นเขาจึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วพูด

 เหรอ? 

แฟรงก์ วิลกเซคจิบกาแฟแล้วส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก

 ความกลัวที่เลวร้ายที่สุดของผมได้กลายเป็นจริงแล้ว จากจุดเริ่มต้น ILHCRC ดูเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือกับผู้อื่นเลยสักนิด ซึ่งผมยอมรับว่าสถานะทางวิชาการของเขาอยู่เหนือคนส่วนใหญ่… แต่เขาไม่ควรที่จะทำตามใจตัวเองแบบนี้ 

หลังจากได้ยินแฟรงก์ วิลกเซค วิทเทนก็ยิ้มและพูดว่า  บางทีเขาอาจพบบางอย่างที่ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์ ที่เราหาไม่พบก็ได้ 

 เป็นไปไม่ได้หรอก เพื่อนเอ๋ย คุณรู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ เสียอีก  วิลกเซคส่ายหัวและพูดว่า  นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ผมได้ร่วมโปรเจกต์นี้กับเขาด้วยเลยนะ ตอนแรกผมเชื่อว่าเขาจะทำได้ ผมยังพยายามขออนุญาตจาก LHC ให้ทำการทดลองด้วย และเมื่อผมรู้ว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล ผมจึงแยกทางกับเขาไป เพราะผมรู้ว่าเส้นทางมันนี้เป็นไปไม่ได้! 

วิทเทนพูดว่า  แล้วทำไมคุณถึงยังคิดว่าเขายังจะทำแบบนี้ล่ะ? 

แฟรงก์ วิลกเซค  เพราะบางทีเขาอาจจะกลัวการทำผิดก็ได้มั้ง? หรือไม่ก็หยิ่งเกินไป? หรือหัวดื้อ? หรือต้องการโชว์พลังในวิชาฟิสิกส์? ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ แต่การทำวิจัยด้วยความคิดแบบนี้เป็นสิ่งที่ผิด 

วิทเทนยิ้มและส่ายหน้า

 ดูเหมือนคุณจะไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ สินะ 

ถ้านี่เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ลู่โจว บางทีวิลกเซคอาจจะถูก

แต่สำหรับนักวิชาการอย่างลู่โจวที่คอยแสวงหาแต่ความจริงแล้วนั้น การคาดเดาของเขาถือตื้นเกินไป

วิทเทนได้พบกับผู้คนมากมายในแวดวงวิชาการ

บางคนได้รับชื่อเสียง บางคนได้รับโชคลาภ แต่ลู่โจวเป็นคนพิเศษที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย…

เขาไม่ได้เฉยเมยต่อชื่อเสียง และโชคลาภใดๆ เขารู้สึกว่าประสบความสำเร็จเมื่อเขาได้รับรางวัลหรือรางวัล แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาใฝ่หาอยู่จริงๆ เพราะสิ่งที่ผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้าคือความอยากรู้อยากเห็นของเขาเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาลเท่านั้น

เขาคือบุคคลที่หายากและมีค่ามหาศาล

จากบรรดานักปราชญ์ที่วิทเทนเคยได้พบ…

ลู่โจวเป็นคนที่บริสุทธิ์ที่สุดในหมู่พวกเขาแล้ว

 โอ้?  แฟรงก์ วิลกเซคเลิกคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า  วิทเทน ผมรู้ว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา แต่ผมหวังว่าคุณจะมองเห็นความเป็นจริงบ้างนะ ในฐานะเพื่อนของเขา คุณควรเกลี้ยกล่อมเขาแทนที่จะช่วยให้เขาเดินผิดทาง 

 ผิดทาง? 

วิทเทนใช้ช้อนคนกาแฟของเขาเบาๆ เขายิ้มและพูดช้าๆ

 ถ้างั้นแล้วอะไรถูกต้องล่ะ? 

 เรารู้น้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของจักรวาลนี้เสียอีก ฟิสิกส์นั้นไม่มีถูกหรือผิด ถ้าพูดตรงๆ ก็คือมีแต่ความสมบูรณ์และความไม่สมบูรณ์เท่านั้นแหละ ตั้งแต่กำเนิดกลศาสตร์ควอนตัม เราก็ตระหนักดีว่า— 

แฟรงก์ วิลกเซค  หยุดอวดดีเลย ทำไมเราต้องไปเสียเวลากับสิ่งที่พิสูจน์แล้วใช้ไม่ได้ผลล่ะ? เซิร์นลงทุนไปหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อมันนะ ตอนนี้เรากำลังจะเสียเวลาอีกปีกับสิ่งที่ใช้ไม่ได้ผลเช่นเดิม! 

 แต่บางคนคิดว่ามันได้ผลนะ  วิทเทนมองไปที่ชายตรงหน้า และพูดอย่างใจเย็นว่า  อาจเป็นเพราะเขาค้นพบสิ่งใหม่ หรือบางทีเซิร์นคงไม่เข้าใจทฤษฎีของเขามากกว่า หรือบางทีนี่อาจเป็นสัญชาตญาณของเขา… ผมคิดว่านี่เป็นเหตุผลที่น่าจะสมจริงที่สุดแล้ว

 การสำรวจแบบจำลองมาตรฐานก็เหมือนกับการหาเข็มในกอหญ้า ในขณะที่ฟิสิกส์เป็นมากกว่าแบบจำลองมาตรฐาน ไม่ว่าเราจะไปในทิศทางไหน เราเสี่ยงเสมอ… แล้วทำไมเราถึงไม่ไว้ใจเขาล่ะ? เขาไม่เคยทำให้เราผิดหวังมาก่อนเลยนะ 

วิลกเซค  … 

คุณอยากให้ฉันเชื่อในตัวเขาเหรอ?

นั่นเป็นเรื่องที่ตลกดีนะ

 ผมรู้ว่าคุณกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่  วิทเทนยิ้มให้วิลเชคและพูดว่า  ดังนั้นอย่ากังวลไปเลย เพราะถ้าสุดท้ายมันไม่ได้ผล ผมจะพยายามเกลี้ยกล่อมเขาว่าเขาคิดผิดให้เอง…

 แค่เชื่อการตัดสินของเขาในตอนนี้ก็พอ 

…………………

 

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท