ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 101

ตอนที่ 101

เจสันตกตะลึงที่เห็นมาเข้าสู้ระดับผู้เชี่ยวชาญ 2 ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ทั่วไปในเด็กอายุ 16

เมื่อนึกถึงความสำเร็จของมาเลีย เจสันก็สแกนตัวเองและพบว่าการรวบรวมมานาและเทคนิคการดูดซับนั้นใช้ได้ผลดีอย่างแน่นอน เนื่องจากเจสันเองก็จะเข้าสู้ผู้ชำนาญได้ในเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

เจสันรู้ว่าการดูดซับมานาแบบพาสซีฟนั้นเป็นเพื่อเทคนิคขั้นพื้นฐานเท่านั้น และอาจจะมีการดูดซับมานาที่ดีกว่ามาก แต่เจสันไม่รู้

อย่างไรก็ตามตอนนี้เจสันไม่ได้สนใจเรื่องนั้น และเจสันก็มีเวลามากเกินพอทีจะพัฒนาตัวเอง

ขณะนี้เจสันและเกร็กกำลังยืนอยู่ในลานประลอง และทั่งคู่ก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องเล็กๆ ข้างๆ ลานประลอง เจสันตัดสินใจสวมชุดสำหรับการฝึก เพราะรู้ว่าการต่อสู้กับเกร็กนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร นอกจากนี้ ถ้าต้องการฝึกเทคนิคไร้น้ำหนัก ก็ต้องเกิดการปะทะกันอย่างมากพอสมควร

“ฉันได้เรียนรู้เทคนิคการต่อสู้แบบใหม่มา ในช่วง 2-3 วันนี้ ระวังตัวไว้นะเจสัน !!!”

เกร็กกล่าว และเจสนพบว่ามันน่าสนใจที่ทั่งคู่จะได้ฝึกเทคนิคใหม่ในการประลองนี้

ทั่งคู่มายืนตรงข้ามกันระยะห่าง 30 เมตร เมื่อสบตากัน ก็บ่งบอกถึงการเริ่มต้นในการต่อสู้ เจสันหมุนเวียนมานาตามคำอธบายของคู่มือ และเจสันรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายนั้นเบาลงอย่างมาก เจสันจึงเคลื่อนไหวก่อน และความเร็วของเจสันจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20 % ถ้าเชี่ยวชาญขั้นพื้นฐานของเทคนิคนี้

ความเร็วที่เพิ่มขึ้นของเจสันในตอนนี้เพิ่มขึ้น 10% และพุ่งเข้าหาเกร็ก เทคนิคใหม่ของเกร็กดูคล้ายกับ วีโพนรี่ไนท์ ของเจสัน แต่ดูแข็งแกร่งกว่า ขณะเจสันพุ่งใส่เกร้ก ทั่งคู่ก็หมุนเวียนมานาตามเทคนิคของตัวเอง

ความเร็วของเจสันทำให้เกร็กประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม เกร็กก็ไม่ได้มีเวลามาชื่อชมเจสันในตอนนี้ ขณะที่เจสันแทงกริชเข้าไปที่เกร็ก แต่เกร็กสามารถป้องกันได้และจับเจสันเหวี่ยงออกไป

เจสันรู้ว่าไม่ดีแน่หากสู้กับผู้ที่ใช้ถุงมือด้วยกริซ เพราะอาวุธของเจสันจะถูกทำลายได้งายกว่าในระหว่างการต่อสู้ และเจสันต้องเสริมกริชด้วยมานาอีกเพื่อป้องกันมันพัง

เกร็กได้ตอบโต้คืนเจสัน โดยใช้เวลาในช่วงสั้นๆ ที่เจสันไม่ได้ป้องกันตัว เจสันมองการโจมตีของเกร็กออกและกระโดดหลบไป โดยไม่โดนการโจมตีเลยสักนิด

เกร็กและเจสันรู้จักรูปแบบการต่อสู้ของกันและกันดี ในขณะที่เกร็กบลิงค์ไปที่ด้านหลังของเจสันพร้อมที่จะโจมตีอีกหมัด

เพื่อหลบการโจมตีของเกร็ก เจสันก้าวไปด้านหน้าและเอนตัวลงด้านล่างและหมุนตัวเข้าหาเกร็ก เกร้กประหลาดใจที่เจสันทำเช่นนั้นแทนที่จะหลบและหนีไปตั้งหลัก ในขณะที่เจสันได้สวนกริชเข้าไปที่หน้าท้องของเกร็ก

การต่อสู้สิ้นสุดทันทีและเกร็กก็หยุดหมัดกลางอากาศก่อนที่มันจะโดนเจสันและถอยหลังไป 2-3 เมตร ทั่งคู่ตกลงกันไว้ว่าหากคนใดคนหนึ่งถูกโจมตี การต่อสู้จะจบลง และคนที่ถูกโจมตีจะเป็นฝ่ายแพ้ และครั้งนี้เจสันชนะเกร็กครั้งแรก

เจสันดีใจมากที่ความเร็วของเขาได้เปรียบเกร็ก ขณะที่เจสันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และทำท่าทียกนิ้วขึ้นมาเพื่อแสดงคะแนน

“1:0”

การเห็นเช่นนั้นทำให้เกร็กหงุดหงิดเล็กน้อย ที่ประเมินความเร็วของเจสันต่ำไป นอกจากนี้เกร็กก็ไม่รู้ว่าเจสันได้เรียนรู้เทคนิคแบบใหม่มา ซึ่งทำให้เกร็กประหลาดใจ

เจสันได้ทดสอบทักษะ 2 ระดับในเวลาอันสั้น ซึ่งมันไม่ธรรมดาแม้แต่ในโรงเรียนแนวหน้า ในขณะที่เกร็กสงสัยว่าเจสันทำอย่างนั้นได้ยังไง แต่เกร็กก็ไม่ได้ไม่พอใจแบบจริงๆ จังๆ เขาแพ้เพราะการโจมตีที่ทำให้เกร็กประหลาดใจของเจสัน

“อีกรอบ 1 นะ !!”

เกร็กพูดอย่างมั่นใจก่อนจะกลับไปประจำตำแหน่ง

“เริ่ม !”

ทั่งสองคนพูดพร้อมกันและใครๆก็สามารถมองเห็นดวงตาที่เป็นประกายของทั้งสองคนได้ใน๘ระที่รอยยิ้มปรากฏบนหน้าของเด็กทั้งสองคน

แต่การต่อสู้เริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อทั้งคู่ได้ปรับเทคนิคที่ได้มาใหม่ให้เข้ากับรูปแบบการต่อสู้ของตัวเอง แต่ละรอบใช้เวลานานขึ้นและนานขึ้น ในขณะที่ทั่งคู่ปรับเปลี่ยนเทคนิคการต่อสู้ในแต่ละครั้ง เพื่อที่จะโจมตีเพื่อให้อีกฝ่ายประหลาดใจ

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็เป็นเวลาอาหารกลางวัน ทั่งคู่นอนอยู่บนพื้น เหงื่อที่ชุ่มตัวและกำลังหอบกัน และยิ้มให้กันอย่างภาคภูมิใจ

ก่อนหน้านี้ ความชำนาญของเทคนิคใหม่ของทั่งคู่แย่มากแต่ตอนนี้ด้วยทั่งคู่เริ่มเชี่ยวชาญเทคนิคนั้นแล้ว

“6:10……..ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันชนะแล้ววววววว”

เกร็กพูดพร้อมหยอกล้อเจสัน ขณะที่เจสันทำหน้าเจื่อนๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เจสันไม่เคยเอาชนะเกร็กได้ แต่ตอนนี้เจสันสามารถเอาชนะเกร็กได้ถึง 6 ครั้ง

หลังจากประลองกับเซรอน ทำให้เจสันมีประสบการณ์มากขึ้นและได้เสริมความเร็วจากเทคนิคไร้น้ำหนักทำให้ความแข็งแกร่งยิ่งเพิ่มขึ้น

เจสันใกล้เคียงกับผู้เชี่ยวชาญในขั้นพื้นฐานของเทคนิคไร้น้ำหนักแล้ว และมีความเร็วเกือบ 20 %

ทั้งคู่ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า เวลาตอนนี้ 13:00 น. และและทุกคนกำลังไปที่โต๊ะอาหาร

มาเลียเห็นทั่งคู่ซ้อมกันและไม่อยากรบกวน เนื่องจากทั่งคู่ดูเหมือนกับกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง และปรับเปลี่ยนเทคนิค

กาเบรียลลาที่กำลังมองเด็กๆ ได้โบกมือให้พวกเขามาทานอาหารกลางวัน เกร็กและเจสันใช้พลังงานมากเกินไปในการต่อสู้ ทำใหพวกเขากินอาหารกลางวันกันอย่างบ้าคลั่งเติมครั้งที่สอง ครั้งที่ 3 ด้วยความรวดเร็ว

คนอื่นๆ ที่เห็นเกร็กและเจสันกินอย่างตะกละกะลามก็ยิ้มอย่างประหลาดใจ แม้แต่มาร์คเองก็หลุดยิ้มออกมา ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ความนิ่งสงบของเขา

กลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จเจสันก็ล้างจานกับเกร็ก เมื่อล้างจานเสร็จเจสันก็ไปที่ห้องเพื่อฝึกเทคนิคนรกสวรรค์ขั้น 2 ตอนนี้ใช้เวลาน้อยลง โดยใช้เวลาเพียง 85 นาที และเจสันมั่นใจว่าเขาสามารถลดเวลาในการฝึกได้อีก จนเหลือ 60 นาที

มันจะทำให้เจสันมีเวลามากขึ้นในการฝึกเทคนิคอื่นๆ หรือการอ่านหนังสือ ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ในอนาคต

เจสันรู้สึกเหมือนเป็นหนอนหนังสือ เพราะเจสันชอบอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากได้รู้จัก พืชวิเศษ และสัตว์ต่างๆ ลักษณะสำคัญและเรื่องต่างๆ การกลายพันธุ์ของสัตว์ร้ายที่เกิดจากแรงกดดัน การกลายพันธุ์จากพันธุกรรม แร่หายาก อาวุธวิญญาณและมานาเผ่าอื่นๆ ที่มาจากนอกโลก และข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณและแกนมานา

ความกระหายในความรู้ของเจสันมันแทบจะไร้ขีดจำกัด และเจสันต้องใช้เวลาอ่านอย่างน้อย 6 ชั่วต่อวัน และตอนนี้ความรู้ต่างๆ ของเจสันก็นำหน้าเพื่อนคนอื่นๆ ไปแล้ว

ขณะที่อ่านหนังสือหลายเล่ม เจสันมักจะอ่านเกี่ยวกับนักเล่นแร่แปรธาตุ ช่างตีเหล็ก และรูนมาสเตอร์ เจสันพบว่า 3 อาชีพนี้น่าสนใจมาก อาจกล่าวได้ว่าอาชีพเหล่านี้มีความสำคัญพอๆ กับผู้สร้างสัตว์ร้ายต่างๆ

น่าเสียดายที่เจสันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับนักสร้างสัตว์ร้าย ในหนังสือ ทำให้เจสันรู้สึกเจื่อนเล็กน้อย

เจสันสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรหากเขาเป็นช่างตีเหล็ก นักเล่นแร่แปรธาตุ หรือรูนมาสเตอร์ หรือแม้แต่เป็นผู้ส้รางสัตว์ร้าย

อาชีพพวกนี้เป็นอาชีพที่ได้กำไรมากที่สุด เพราะมีความต้องการสูงมาก มันเป็นความฝันอันยาวนานของเจสันและเจสันก็ได้อ่านกระดานบทสนทนาของโรงเรียน และมีมีหัวข้อที่น่าสนใจมาก

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

จากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต

ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา

คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม

ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย

ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท