เช้าวันเสาร์ เจสันตื่นขึ้นมาอย่างตื่นเต้น และวันนี้เจสันเข้าสู่ป่านอกเมืองไซโรเพื่อทดสอบความแกร่งและทักษะการล่า และพิจารณาว่าสัตว์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในป่าส่วนมากจะเป็นสัตว์วิเศษและมีพลังความแข็งแกร่งในระดับสูง
แต่เจสันก็ไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับพวกมัน สิ่งเดียวที่เจสันกังวลคือก็อบบลินที่บุกรุกเขตป่าและกลุ่มของพวกมันมาขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
บนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้เผยแพร่ถึงการรวบรวมก็อบบลินจอมเวทย์ และมันเริ่มที่พยายพันธุ์เพื่อจะโจมตีเมืองไซโร ในขณะที่คนอื่นๆ กล่าวว่า ราชาก็อบบลินกำลังจะสร้างอาณาจักรของมันในบริเวณใกล้ๆ
แต่มันยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือ แต่เมื่อพิจารณาถึงการรวมตัวของพวกมัน ข่าวลืมอาจจะกลายเป็นจริงก็เป็นได้
ข่าวลือนี้น่ากลัว เพราะไม่เพียงแต่ความสามารถในการต่อสู้ขั้นสูงของพวกก็อบบลินระดับสูง และราชาก็อบบลินถือได้ว่าเฉลี่ยวฉลาดและแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ก็อบบลิน และพวกมันอาาจะวางแผนบางอย่าง
ก็อบบลินเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว ถึงแม้พวกพวกก็อบลลินระดับล่างๆจะไม่มีความแข็งแกร่ง แต่พวกมันก็มีความสามารถในการขยายพันธุ์ได้เร็วกว่าพวกกระต่ายเสียอีก
ถ้าก็อบบลินตัวผู้เหลือรอด เผ่าพันธุ์ทั้งเผ่าของมันจะสามารถเติมโตได้อีกครั้ง มนุษยชาติพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำลายล้างพวกมัน แต่ก็ไม่สามารถกวาดล้างได้หมดและพวกมันก็เริ่มที่จะต่อต้านมนุษย์มากขึ้น
เจสันพบปัญหาในภารกิจมากมายในกระดานภารกิจของโรงเรียนซึ่งเชื่อมโยงกับสมาคมนักล่าและรัฐบาล เนื่องจากเขาออกภารกิจส่วนใหญ่ให้กับทางโรงเรียน
โรงเรียนใหญ่ 3 แห่ง จะยอมรับภารกิจเหล่านี้และให้รางวัลเป็นคะแนนเลซซึ่งมีค่าสำหรับเด็กนักเรียน ด้วยการแลกเปลี่ยนนี้โรงเรียนจะยังคงมีกำไร และรางวัลของภารกิจในการจัดการก็อบบลินนั้นสูงมาก ทำให้เจสันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
เพื่อค้นดูรายละเอียด เจสันก็พบว่าการจัดการทหารก็อบบลิน 40 ตัว จะให้คะแนนเลช 1 คะแนน และจัดการก็อบบลินจอมเวทย์ 5 ตัว ก็จะได้รับคะแนนเลช 1 คะแนน
เป็นเรื่องยากที่จะได้พบกับก็อบบลินชั้นสูงหรือก็อบบลินกลายพันธุ์ที่ได้ปลุกพลังขึ้น และยิ่งหายากกว่านั้นคือฮอบก็อบบลินที่ได้รับการวิวัฒนาการ
การล่าก็อบบลินประเภทนี้ 1 ตัว จะได้รับคะแนนเลช 1-5 คะแนน ซึ่งเทียบเท่ากับเงิน 20,000 – 100,000 เครดิต เมื่อพิจารณาจากราคาทั่วไปของสัตว์ที่
โดยปกติแล้วก็อบบลินไม่ได้มีค่าอะไรมากและราคาปกติของก็อบบลินจะอยู่ที่ 100 เครดิต ในขณะที่อาวุธและอุปกรณของพวกมันนั้นมีค่ามากกว่าซากของมัน
เจสันได้รับภารกิจนั้นมาทำ และเมื่อเวลา ตี 5 เจสันได้เรียกรถรับส่งและหลังจากที่ออกกำลังกายและอาบน้ำเสร็จ ภายในรถรับส่ง เจสันก็ได้ฝึกเทคนิคนรกสวรรค์ขั้น 2 อย่างปกติ เจสันได้คำนวณว่าการเพิ่มพลังวิญญาณของเขานั้นอยู่ที่ 25% ในแต่ละวัน
เมื่อรถรับส่งมาถึงหน้าโดม เจสันได้ลงจากรถและเดินออกไปนอกโดม เจสันจำช่วงเวลาที่เขาอ้วกออกมาเมื่อตอนที่ล่าสัตว์ครั้งแรก แต่หลังจากฆ่าสัตว์ร้ายมามากมายและได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะต่างๆ ทำให้เจสันสามารถที่จะจัดการกับพวกมันได้ด้วยการใช้กุลยุทธิ์และอาวุธต่างๆ
ถึงแม้ความสามารถในปัจจุบันของเจสันจะไม่สามารถจัดการสัตว์ร้ายที่ตื่นขึ้นในระดับกลางได้ แต่เจสันก็สามารถวางและหาวิธีที่จะสามารถเอาชนะได้
เจสันได้ตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องใช้แล้ว และก็เดินออกไปจากโดม ภายนอกโดมที่มีมานาที่หนาแน่นทำให้เจสันต้องค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับความหนาแน่นของมานาภายนอก
และเจสันคิดว่าหากขเามีเงินมากพอ เขาจะสร้างแท่นรวบรวมมานาไว้ที่บ้านของพวกเฟลเลอร์ เมื่อเดินผ่านป่าระดับสองดาวในเขตนอกเมือง เจสันใช้เวลาไม่นานก็ได้พบกว่ากลุ่มก็อบบลิน ด้วยความประหลาดใจ เพราะเมื่อครั้งก่อนที่เจสันมาพวกมันส่วนมากอยู่กลุ่มละ 5-6 ตัว
แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มนี้จะมีก็อบบลินถึง 30 ตัว และอาวุธของพวกมันก็ดูดีขึ้นกว่าครั้งก่อน แต่ดูเหมือนว่ามัจะมาจากนักล่าคนอื่นๆ ที่พลาดท่าให้กับพวกมัน ถึงแม้บางตัวจะยังใช้อาวุธหินที่เก่าแต่มันก็มีความแหลมคมกว่าครั้งก่อน
‘พวกก็อบบลินมีรูนมาสเตอร์ หรือ ช่างตีเหล็กเหมือนมนุษย์รึเปล่านะ’
เตสันถามกับตัวเอง
แม้ว่าอาวุธส่วนใหญ่จะดูค่อนข้างไม่สมบูรณ์ แต่มันยังมีการลงอักษรรูนด้วยสีแปลกๆ
‘ทำไมพวกชนชั้นสูงถึงไม่ทำอะไรกับพวกก็อบบลินพวกนี้ หากพวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เมืองไซโรอาจจะไม่สามารถต้านทานกองกำลังของพวกมันไหว’
โชคดีที่เจสันอยู่ห่างจากพวกมันมากกว่า 50 เมตร เจสันได้เฝ้ามองพวกมันและในกลุ่มของมันก็มีก็อบบลินธนูไม่กี่ตัว แต่ตอนนี้กลุ่มนี้กลับไม่มีก็อบบลินจอมเวทย์
ความสามารถในการยิงธนูของเจสันเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนที่ผ่านมา และเจสันก็สามารถโจมตีสัตว์ร้ายระดับวิวัฒนาการระดับต่ำได้ แม้ว่าจะต้องใช้พลังอย่างมากในการจัดการ
แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเจสันอยู่ในระดับผู้ชำนาญแล้ว เจสันจึงมั่นใจที่จะเอาชนะพวกก็อบบลินที่อยู่ตรงหน้าได้ เจสันหยิบธนูออกมาและยิงไปที่พวกก็อบบลินตรงหน้า
แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเจสันเพิ่มขึ้นเป็นระดับนักเวทย์แล้ว เขาจึงมั่นใจที่จะเอาชนะพวกทหารก็อบลินที่อยู่ตรงหน้าเขาได้
เขาหยิบธนูออกมาแล้วเคาะลูกศรแรกที่สายธนูก่อนจะดึงกลับโดยเล็งไปที่ก็อบลินที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตรจากเขา
ฟุ๊บ……ฟุ๊บ…..ฟุ๊บบบ
ลูกศร 3 ลูกพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและเพื่อไม่ให้เสียเวลาเจสันก็ได้ยิงธนูลูกต่อไป ลูกศรลูกแรกเจาะเข้าไปที่หัวของพวกมัน
ลูกศรสามลูกพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และเจสันก็ประหลาดใจกับลำดับที่แม่นยำและราบรื่นซึ่งเขาทำให้สมบูรณ์แบบในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาปักลูกศรต่อไปเพื่อยิงต่อไปอย่างรวดเร็วและลูกที่ 2 – 3 ได้เจาะทะลุหัวใจและท้องของก็อบบลินธนู
ก่อนที่พวกก็อบบลินจะรับรู้ถึงความเสียหายที่ได้รับ ลูกศรอีกลูกก็ได้ฆ่าพวกของมันไป 2-3 ตัว ก็อบบลินทหาร 2-3 ตายลง ในขณะที่ก็อบบลินธนูได้ตายหมด ก็อบบลินที่เหลือไม่สามารถหาต้นตอของลูกธนูได้ พวกมันต้องใช้เวลาสักพักในการค้นหาตัวของเจสัน เมื่อพวกมันพบ พวกมันได้คำรามออกมาและมันได้พุ่งเข้าใส่เจสัน
เจสันได้เก็บธนูและตอนนี้เจสันรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากการเสียเปรียบจากจำนวน ในขณะที่เจสันได้ขว้างมีดออกไปเพื่อสกัดการเคลื่อนไหวของพวกมัน
ยังเหลือก็อบบลินที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอีก 10 ตัว เมื่อพวกมันเข้าใกล้เจสันในระยะ 5 เมตร เจสันก็หยิบกิช 2 เล่ม ออกมาและใช้เทคนิคผสมผสานระหว่างเทคนิคไร้น้ำหนักและวีโพนรี่ไนท์ เจสันบิลงค์ไปที่หน้าของก็อบบลินตัวหนึ่ง ทำให้พวกมันตกตะลึงเป็นอย่างมาก
พวกมันจะแทงหอกใส่เจสัน เแต่เจสันอยู่ใกล้เกินกว่าที่พวกมันจะใช้หอกได้ เจสันแทบไม่ต้องออกแรงมากในการฟันไปที่คอของมัน เมื่อฟันคอมันเสร็จเจสันได้บลิงค์ไปอยู่่กับก็อบบลินอีกตัว ทำให้พวกมันหวาดกลัว เ
เจสันสามารถจัดการพวกมันได้ด้วยท่าทางที่สง่างามในขณะที่ดวงตาสีทองของเขาเปล่งประกายไปด้วยชีวิตชีวา