ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 108

ตอนที่ 108

เจสันพักสูดหายใจ เนื่องจากการที่เขาต่อสู้กับก็อบบลินในระยะประชิดทำให้เจสันได้พลังงานไปมากและร่างกายเกิดความตึงเครียด และหากเจสันพลาดเพียงครั้งเดียวอาจจะทำให้ตายได้ และพวกก็อบบลินก็มีจำนวนที่มากกว่า

เจสันเก็บซากก็อบลินทั้งหมดและเก็บอาวุธและอุปกรณ์ของพวกมัน แล้วเมื่อตรวจดูเจสันก็พบว่าอาวุธของพวกมันส่วนใหญ่เป็นของพวกนักล่า และเจัสนก็ประหลาดเมื่อเห็นว่าสัญลักษณ์บนอาวุธนั้นคืออักษรรูนจริงๆ และเป็นแบบที่เจสันไม่เคยเห็นมาก่อนในหนังสือเตรียมสอบของรูนมาสเตอร์

รูนเหล่านี้เจสันไม่รู้จัก แต่เจสันก็สามารถเอาของพวกนี้ไปขายได้ราคาสูงทีเดียว อักษรรูนพวกนี้น่าจะเป็นอักษรสำหรับเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอาวุธเช่น เพิ่มความทนทาน ความแหลมคม และอื่นๆ

และยิ่งไปกว่านั้นเจสันมั่นใจว่ารูนมาสเตอร์คนอื่นๆ ก็ไม่รู้จักรูนเหล่านี้ และบางทีการขายรูนเหล่านี้อาจจะขายได้ราคาดี นอกจากนี้เจสันก็อยากรู้ว่าทำไมพวกก็อบบลินเหล่านี้ถึงสามารถใช้สลักอักษรรูนเหล่านี้ลงในอาวุธได้

บางอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้หินมานาหรือแกนสัตว์ร้ายระดับสูงในการสลักอักษร หลังจากเก็บทุกอย่างแล้ว เจสันมั่นใจว่าเขาสามารถสร้างรายได้มากมายจากสิ่งของเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งภารกิจ หรือการเอาของพวกมันไปขาย

ปัญหาเล็กๆ มีเพียงอย่างเดียวคือเจสันหาลูกธนูบางลูกไม่เจอและบางลูกก็หักเมื่อเจาะเข้ากระดูกของก็อบบลิน เจสันมีลูกธนูเพียง 100 ลูก และไม่คิดว่าพวกมันจะหมดเร็วขนาดนี้

และการขวางมีดก็พอที่จะสกัดการเคลื่อนไหวได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถจัดการพวกมันได้และมีดบางส่วนที่ขวางออกไปก็ได้หายไปเช่นกัน และเจัสนไม่ต้องการที่จะเสียเวลาในการตามหาลูกธนูและมีดขวาง เจสันจึงเดินตามหาพวกก็อบบลินต่อไป

*

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจสันก็ได้พบก็อบบลินกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง และเจสันก็สังเกตว่าเจสันไม่ได้พบกับสัตว์ตัวอื่นๆ เลย นอกจากก็อบบลินทำให้เจสันรู้สึกว่ามันเป็นสัญญาณที่ไม่ดี

สัตว์ร้ายอาจจะหลบซ่อนพวกก็อบบลิน หรือไม่พวกมันก็อาจถูกพวกก็อบบลินฆ่าไปแล้ว หรืออาจจะถูกจับเอาไปเป็นสัตว์เลี้ยง เมื่อเจสันได้นึกถึงนิทานที่มีก็อบบลินไรเดอร์ ที่ขี่สัตว์ร้ายและต่อสู้

แต่ข้อดีในสถานการณ์นี้คือ เจสันไม่ต้องระวังสัตว์ร้ายตัวอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ความว่าเจสันจะลดการป้องกันตัวลง เมื่อมองดูก็อบบลินอีกกลุ่ม เจสันพบว่ากลุ่มนี้เล็กกว่ากลุ่มก่อนหน้า แต่ในกลุ่มนี้มีก็อบบลินจอมเวทย์อยู่ถึง 2 ตัว

เจสันหยิบลูกธนูออกมาและยิงไปที่ก็อบบลินจอมเวทย์ตัวหนึ่ง และเจสันก็ยิงลูกธนูออกไปอีก 2-3 ลูก ไปที่ตัวเดิมเพื่อฆ่ามันให้ตายอย่างสมบูรณ์ แต่เจสันสัมผัสได้ถึงมานาที่ผันผวนแปลกๆ รอบๆ ก็อบบลินจอมเวทย์

ก็อบบลินจอมเวทย์ทั้ง 2 ตัว มันอยู่ในขั้นพลังที่ตื่นขึ้นในระดับกลาง ลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยก่อขึ้นในใจของเจสัน ขณะที่ยิงธนูออกไปธนูนั้นแม่นยำและน่าจะเจาะกระโหลกของก็อบบลินได้ แต่ก่อนที่ลูกธนูจะเจาะเข้าไป รูนสว่างก็ปรากฏขึ้นและมันได้เบี่ยงลูกธนูของเจสันออกไป

ลูกธนูลูกแรกได้ถูกเบี่ยงออกไป และความผันผวนของมานาก็ลดลงในขณะที่ลูกที่สองได้ทำลายรูนที่พวกมันสร้างขึ้น และลูกที่สามก็พุ่งเข้าไปเจาะทะลุก็อบบลินจอมเวทย์

ลูกดอกลูกสุดท้ายที่โดนเป้าหมาย เนื่องจากเป็นเพราะรูนที่ทำให้ลูกธนูที่ 2 ลูกไม่สามารถโจมตีก็อบบลินได้ !!

และลูกศรลูกสุดได้ก็ไม่สามารถสังหารก็อบบลินได้ ทำได้เพียงแค่สร้างบาดแผลเท่านั้น มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและจอมเวทย์ก็อบลินอีกตัวก็ได้มองหาต้นตอของทิศทางลูกศร

ดูเหมือนว่ามันจฉลาดกว่าพวกก็อบบลินทั่วไป เจสันสามารถถูกพบแทบจะในทันที เมื่อมันพบเจสัน เจสันก็ตัดสินที่จะยิงธนูออกไปอีกลูกเพื่อฆ่าให้ได้สักตัวก่อน

มีก็อบบลินเกือบ 20 ตัวที่อยู่ห่างจากเจสัน 100 เมตร และเจสันก็ต้องสู้คนเดียว เนื่องจากอาร์เทมิสยังพัฒนาไม่เสร็จและสกอร์พิโอก็อ่อนแอเกินกว่าจะต่อสู้

เป้าหมายแรกของเจสันได้ตายลงไป และสิ่งที่เจสันกังวลคือก็อบบลินจอมเวทย์ที่ยังเหลืออยู่ เนื่องจากมันสามารถโจมตีโดยใช้เวทย์มนต์ใส่เจสันได้

เจสันได้ยิงธนูติดต่อกันในรวดเดียว เพราะต้องการที่จะสังหารก็อบบลินธนูทั้ง 4 ตัวที่อยู่ในกลุ่ม เมื่อเห็นมนุษย์ก็อบบลินจอมเวทย์ก็ได้ออกคำสั่งให้ที่เหลือโจมตีเจสัน

ความเร็วในการยิงธนูของเจสันเพิ่มขึ้น เนื่องจากรูนป้องกันที่ก็อบบลินจอมเวทย์สร้างขึ้น ทำให้เจสันไม่สามารถจัดการพวกมันได้ในทันที เมื่อเจสันถูกพวกมันเห็น การฆ่าพวกมันให้ไวที่สุดนั้นคือสิ่งจำเป็น เจสันได้เสริมมานาเข้าไปในลูกธนู ก่อนที่พวกมันจะเริ่มตอบโต้ เจสันก็ได้ฆ่าก็อบบลินธนูไปแล้ว

และก็มีลูกไฟพุ่งเข้ามาหาเจสัน เจสันได้ยิงธนูตอบกัลบแต่ลูกธนูมีความเร็วช้ากว่าลูกไฟ แต่เมื่อมันกระทบกันก็เกิดการระเบิดขึ้น เมื่อเกิดการระเบิดเจสันตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจุดยืน แรงระเบิดไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับฝั่งไหนเลย

เจสันขวางมีดออกไปและพุ่งเข้าหาทหารก็อบบลินที่ เมื่อก็อบบลินจอมเวทย์จะยิงลูกไฟอีกลูกใส่เจสัน ก็พบว่าเจสันอยู่ท่ามกลางพรรคพวกของมัน มันจึงหยุดร่ายเวทย์

และเจสันได้ยิ้มขึ้นเพราะเจสันคิดไว้แล้วว่ามันจะไม่ฆ่าพรรคพวกของมัน และเมื่อเจสันเห็นมันหยุดร่ายเวทย์ก็เป็นไปตามที่สิ่งที่เขาคิด แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เจสันก็ได้สังเกตว่าก็อบบลินจอมเวท์กำลังดูดซับมานารอบๆ ตัวของมัน และตอนนี้เจสันได้เห็นลูกไฟจากมือของมัน และมันมีขนาดใหญ่กว่า 2 เท่าจากลูกแรก

และมันก็ปล่อยลูกไฟลูกนั้นออกมา เจสันจึงใช้เทคนิคไร้น้ำหนักขั้นสูงสุดในทันที เพื่อที่จะหลบหนีออกจากบริเวณนั้น ลูกไฟพุ่งไปและเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง เจสันประหลาดใจมากที่ก็อบบลินจอมเวทย์สามารถสร้างลูกไฟที่รุนแรงขนาดนี้ได้ แต่มันก็ดูอ่อนแรงลงหลังจากที่ใช้

และรูนป้องกันที่มันวางไว้ก็ดูอ่อนแอลง ยังมีทหารก็อบบลินที่เหลือรอดจากแรงระเบิด เจสันจึงจัดการพวกมันที่เหลือ เจสันตัดสินใจผิดเมื่อเห็นว่ามันฆ่าพรรคพวกของตัวเองมากมายเพียงเพื่อที่จะฆ่ามนุษย์คนเดียว เจสันได้บลิงค์ไปหาก็อบบลินจอมเวทย์ที่เหลือเป็นตัวสุดท้ายย

ดูเหมือนรูนป้องกันจะสามารถทำอะไรบ้างอย่างได้ เพราะเจสันไม่คิดว่ามันจะสามารถป้องกันการโจมระยะไกลได้เพียงอย่างเดียว แต่อย่างไรก็จอมก็อบบลินจอมเวทย์ก็หมดพลัง และเจัสนก็ไม่กลัวการโต้กลับของมัน

เมื่ออยู่ห่างกับมัน 2 เมตร มันก็พยายามโจมตีเจสัน แต่ัมนก็ไม่มีประโยชน์เจสันได้ขวางมีดไปที่ข้อต่อของมัน ทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เจสันสังเกตเห็นสร้อยคอของมันสลักรูนป้องกันเอาไว้ และเจสันไม่เคยเห็นรูนรูปแบบนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตามรูนนี้สามารถป้องกันได้แค่การโจมตีระยะไกล และเจสันก็จัดการพวกมันได้ และเอาของของพวกมันมาทั้งหมด การฉีดมานาเข้าไปในรูนที่กำลังจะหมดพลัง มันเริ่มส่องแสงขึ้นและมานาของเจสันก็ถูกใช้จนหมด

เจสันคิดว่าการที่ก็อบบลินสามารถสลักอักษรรูนประเภทต่างๆ ได้ นั้นแสดงว่าก็อบบลินรูนมาสเตอร์นั้นต้องมีความรู้อย่างมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับต่ำก็ตาม

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

จากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต

ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา

คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม

ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย

ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท