ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 172

ตอนที่ 172

ตอนที่ 172 ฟิวชั่น

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกับเหล่าเฟลอร์อย่างสนุกสนานแล้ว เจสันก็เข้า ไปในห้องของเขาเพื่อทดสอบสิ่งที่เขารอมาเป็นเวลานาน

เขาต้องการหลอมรวมตนเองเข้ากับสายใยวิญญาณและพยายามแสดงส่วนต่างๆ ของสายใยวิญญาณบนร่างกายของเขา

ก่อนหน้านี้ เจสันคิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากกว่าที่อาร์เทมิสจะเป็นสายใยวิญญาณตัวแรกของเขาที่จะสร้างความแข็งแกร่งเข้ากับร่ากายของเขา แต่ที่น่าแปลกใจคือสกอร์พิโอนั้นดันสามารถเพิ่มพลังทางกายภาพให้กับเจสัน

อาจเป็นไปได้เนื่องเจสันได้ถ่ายทอดความเจ็บปวดบางส่วนให้กับตัวเองเพื่อปกป้องสัตว์ร้ายของเขาจึงทําให้สกอร์พิโอได้เสริมพลังทางกายภาพให้แก่เจสัน

อาร์ทิมิสนั้นอิจฉาความสําเร็จของสกอร์พิโอและต้องการเป็นสายใยวิญญาณเดียวของเจสันแต่ถึงแม้อาร์เทมิสจะรู้สึกไม่ชอบที่มีคู่แข่งแต่ความสัมพันธ์ของมันและเจสันยังคงแน่นแฟ้น

เมื่อความสัมพันธ์ของอาร์เทมิสกับเขาแน่นแฟ้นมามากตั้งแต่แรก ดังนั้นเจสันจึงมั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเขากับอาร์เทมิสนั้นแน่นแฟ้นมากกว่าเขาและสกอร์พิโอ

ดังนั้น เจสันจึงคาดว่าจิตวิญญาณของเขาจะเชื่อมต่อกับอาร์เทมิส ในขณะที่เขาเข้าสู่โลกแห่งวิญญาณขณะที่อาร์เทมิสนอนอยู่บนเตียงด้วยอาการงอนๆ

ภายในโลกแห่งวิญญาณ เจสันเห็นสกอร์พิโอวิ่งเข้ามาหาเขา

เมื่อสัมผัสกับสกอร์พิโอ เขาสัมผัสได้ถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นที่เชื่อมต่อ เมื่อเขาเริ่ม ทดสอบหลายสิ่ง

ความรู้เกี่ยวกับการเสริมพลังวิญญาณของเขานั้นน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย เนื่องจากเขาไม่เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน

สิ่งเดียวที่เขารู้เกี่ยวกับมันคือคําที่ทิลล์บอกกับเขา และมันก็ไม่มีอะไรพิเศษ

เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ําว่าควรมุ่งความสนใจไปที่สิ่งใดเพื่อดึงพลังด้านกายภาพของสกอร์พิโอออกมาบนร่างกายของเขา

อะไรคือการรวมพลังวิญญาณในการเสริมความแข็งแกร่ง

เจสันถามตัวเอง ขณะที่เขาพยายามนึกถึงคําพูดของทิลล์นอกเหนือจากการสันนิษฐานไปเองของเขาเอง

การประสานวิญญาณที่เสริมความแข็งแกร่งคือความเชื่อมโยงที่ชัดเจนอย่างยิ่งระหว่างผู้ผูกพันธะกับพันธะวิญญาณ ถือได้ว่าเป็นทั้งสองจิตวิญญาณนั้นรวมกันเป็นสิ่งเดียว ซึ่งช่วยให้ผู้ผูกพันธะหลอมรวมกับสายใยวิญญาณของเขา เผยให้เห็นส่วนต่างๆ บนร่างกายเช่นปีกกรงเล็บและอื่นๆ

เมื่อเขานึกถึงคําเหล่านี้ เจสันก็ยิ่งสับสนมากขึ้น

นี้หมายความว่าสกอร์พิโอนั้นอยู่ในตัวฉันและไม่สามารถอยู่ได้ถ้าฉันตาย? แล้วในทางกลับกันล่ะ? ฉันจะตายถ้าสกอร์พิโอตาย? และฉันสามารถแสดงพลังของสกอร์พิโอได้ในระดับใด? มันมีขนาดเพียง 80 เซนติเมตร ซึ่งหมายความว่าฉันไม่สามารถนําเกราะของมันมาปกคลุมร่างกายของตัวเองได้ หรือฉันทําได้… ฉันจะสามารถแสดงสิ่งใดนอกจากเกราะของมันได้ ก้ามและเหล็กในของมันล่ะ? ฉันจะแสดงออกมาไดยังไง

มีคําถามที่ยังไม่ได้คําตอบจํานวนมากเกินไป แต่ตอนนี้ไม่มีใครสามารถตอบคําถามได้ซึ่งทําให้ เขาต้องค้นหาคําตอบที่เป็นไปได้ด้วยตัวเขาเอง

เจสันพยายามสอนสกอร์พิโอด้วยบางสิ่งที่เขาควรลอง เจสันออกจากโลกวิญญาณ

เขายืนขึ้นเพื่อรอบางสิ่งที่จะเกิดขึ้น ขณะที่เขาเริ่มทดสอบบางอย่างกับสกอร์พิโอ

แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายนาที ซึ่งทําให้เจสันสงสัยว่าเขาทําผิดพลาดหรือไม่

ฉันต้องให้ตัวสกอร์พิโอเต็มใจที่จะมอบพลังให้หรือเปล่านะ

เมื่อคิดว่านี่อาจเป็นวิธีแก้ปัญหา เจสันพยายามเข้าสู่โลกวิญญาณเพียงบางส่วน ทดสอบว่าเขาสามารถจัดการเปิดพลังได้หรือไม่

ทันใดนั้น เขาสังเกตเห็นบางอย่างในจิตใจของเขา ที่ซึ่งโลกวิญญาณถูกวางไว้ จุดสีทองขนาดเล็กที่เจสันแทบมองไม่เห็นว่ามันกําลังส่องประกาย

โดยมุ่งความสนใจไปที่จุดนั้น เจสันคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการเปิดประตูระหว่างเขากับโลกแห่งวิญญาณ ขณะที่จุดสีทองเริ่มขยายขนาดขึ้น ทําลายกําแพงระหว่างผู้ผูกพันธะกับพันธะวิญญาณ

มันเจ็บปวดแต่ก็ทนได้ เมื่อเขาเข้าสู่โลกแห่งวิญญาณเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้

จากภายในโลกแห่งวิญญาณ เขาเห็นเพียงสกอร์พิโอที่ค่อยๆ เข้าใกล้ประตูสีทองขนาดใหญ่ที่จู่ๆ และจู่ๆ พวกเขาทั้งสองก็ไปปรากฏอยู่ที่ไหนสักแห่ง

และเช่นเดียวกันสกอร์พิโอหายตัวไป เมื่อร่างกายของเจสันเริ่มคันขึ้นและรู้สึกแปลกๆ อย่างมากในขณะที่แกนมานาของเขามีขนาดเพิ่มขึ้นและร่างกายของเขาก็เริ่มที่จะแข็งแกร่งขึ้น

 เกิดอะไรนะ? 

ไม่มีความเจ็บปวดจากการขยายของโลกวิญญาณ และรู้สึกเหมือนว่าเขาถูกแทรกซึมโดยบางสิ่งที่คุ้นเคยแต่ก็เป็นความรู้สึกที่แปลก

เมื่อออกจากโลกวิญญาณ เจสันมองตัวเองด้วยดวงตามานา ในขณะที่เขาสแกนร่างกายของเขา

เขาเข้าใจในทันทีว่าขนาดของร่างกายและแกนมานาของเขาได้รับระดับที่พิ่มขึ้นเป็นผู้ชํานาญลําดับที่ 8 และยิ่งกว่านั้นอีก ในขณะที่บางสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในแกนมานาของเขาทําให้เขาตกใจ

แม้ว่าเจสันจะไม่เข้าใจว่าสกอร์พิโอเข้าสู่แกนมานาของเขาอย่างไร เพราะมันเชื่อมโยงกับทุกสิ่งในร่างกายของเขา

 มันทํางานยังไง

เจสันถามตัวเอง ขณะที่เขารู้สึกว่าสกอร์พิโอสามารถทําทุกอย่างที่มันต้องการภายในร่างกายของเขา

ทุกคนได้รับการวิวัฒนาการจากสายใยวิญญาณสูงเช่นฉันหรือเป็นเพราะจิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของฉันด้วย

เขาไม่รู้แน่ชัด แต่มันไม่สําคัญสําหรับตอนนี้

เจสันยิ้มแห้งๆ ต้องการทดสอบบางอย่างที่อาจเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขาได้สัก 23 อย่าง

เจสันได้ส่งความคิดของเขาไปยังสกอร์พิโอที่อยู่ภายในแกนมานาของเขา ในขณะที่คิดถึงมันเจสันรู้สึกคันที่ก้นกบ ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่ว

ทันใดนั้นกางเกงยีนส์ของเขาที่ด้านหลังก็ปูดขึ้น และมีเสียงขาดจากบางสิ่งบางอย่าง

เจสันวิ่งไปที่กระจกในห้องของเขา รู้สึกถึงบางสิ่งที่เติบโตจากก้นกบของเขาด้วยความเร็วที่ช้ามากขณะที่เขามองกระจกด้วยความตกใจ

 แม่เจ้า! 

เจสันอุทานด้วยเสียงที่เกือบจะเหมือนเด็กเมื่อเห็นหางแมงปองที่มีเหล็กในสีฟ้าอมเขียวงอกออกมาจากหลังส่วนล่างของเขา ซึ่งมีขนาดประมาณครึ่งเมตร

แม้ว่ามันจะดูเท่มาก แต่เจสันก็สังเกตเห็นข้อเสียในทันที

ใช้เวลานานมากในการที่จะงอกออกมา และเขาคิดว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับการรวมพลัง วิญญาณที่มีขนาดน้อยเกินหรือเพราะเป็นการทดลองครั้งแรกของพวกเขา

หลังจากที่เขาพยายามเร่งการงอกของหาง ความเร็วในการเติบโตก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังคงใช้เวลานาน และเจสันสรุปว่าเป็นเพราะความผูกพันของพวกเขายังไม่มั่นคงอย่างสมบูรณ์ และเวลาที่เขาทั้งสองได้ใช้ร่วมกันน้อยนั้นมาก

ดังนั้น เจสันจึงมั่นใจว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

มีข้อเสียเพียงสองประการกับความสามารถในการฟิวชั่นที่เจสันสังเกตเห็นในทันที

ในขณะที่ผสมร่างกับสกอร์พิโอ พลังงานและโภชนาการที่ต้องการเพื่อให้เหล็กในนั้นเติบโตนนดูค่อนข้างสูง ในขณะที่สกอร์พิโอเองก็ไม่สามารถต่อสู้เคียงข้างเขาได้ ในระหว่างการฟิวชั่น

และมันยังต้องการสารอาหารอย่างมากในการที่จะเจริญเติบโตบนร่างกายของเจสัน ซึ่งหมายความว่าเจสันจะไม่สามารถใช้งานได้บ่อยๆ ตามที่ต้องการ และต้องจํากัดการใช้งาน

เจสันเริ่มเล่นด้วยความสามารถที่ได้รับมาใหม่ของเขาในการแสดงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วยพลังด้านกายภายของสกอร์พิโอ เจสันจดบันทึกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาสามารถทําได้เนื่องจากกลยุทธ์การต่อสู้ที่หลากหลายปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเขา

ถึงกระนั้น เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งเจสันล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความอ่อนเพลียขณะที่สกอร์พิโอออกมาจากแกนมานาเพื่อกลับไปยังโลกแห่งวิญญาณ

และเมื่อสกอร์พิโอได้อออกจากแกนมานาของเจสัน จึงทําให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพจึงลดลงสู่ระดับของผู้ชํานาญขั้นที่ 7 อย่างที่เคย

คําถามในใจของเขาไม่ได้ลดลงและดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มขึ้นเมื่อเขาอยากรู้เกี่ยวกับประตูทองและข้อกําหนดในการจัดตั้งการหลอมรวมพลังวิญญาณ

มันเป็นแค่บ่ายวันอาทิตย์เท่านั้น เจสันกระโดดขึ้นและลุกออกจากเตียงเพราะเขามีหลายสิ่งที่ต้องทํามากเกินไป ดังนั้นเขาจึงหยิบอาหารออกมากินก่อนจะวิ่งออกไปโดยที่ไม่ได้สนใจใครเลยแม้แต่เดียว

 

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

จากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต

ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา

คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม

ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย

ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน