ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ – ตอนที่ 38-1 ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

ตอนที่ 38-1 ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ – ตอนที่ 38-1 ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
หลังจากที่ต้องอดหลับอดนอนเพื่อเขียนความในใจลงไปในกระดาษวาดรูปนั้น ในที่สุดรูแฮก็ได้ส่งมอบมันให้แก่กโยซึลเสียที เขาแอบนำจดหมายฉบับหนานี้มาด้วยทุกครั้งที่ตนมายังวังเหนือ แล้วในที่สุดทบจดหมายนี้ก็ได้ถูกยื่นออกไปให้กโยซึล

“ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับพระชายา กระหม่อมก็ได้เขียนความรู้สึกและความทรงจำเอาไว้ในนี้อย่างตรงไปตรงมา ทรงเคยถามใช่หรือไม่ ว่าเหตุใดกระหม่อมจึงไม่บอก เหตุใดถึงได้หลอกลวง ในจดหมายนี้มีคำตอบทั้งหมดนั่นขอรับ รวมถึงความรู้สึกเล็กน้อยของกระหม่อม ที่พระชายาคงไม่น่าจะทรงสนพระทัยด้วย”

กโยซึลขมวดคิ้วมุ่น นางเอาแต่จ้องมองไปยังทบกระดาษหนานั่นอย่างเคร่งเครียด ส่วนรูแฮเองก็เอาแต่จ้องมองกโยซึลที่มีทีท่าเช่นนั้น

แม้สีหน้าเคร่งเครียดเช่นนั้น สำหรับเราก็ยังดูน่าเอ็นดูหรือนี่ อาการหนักเสียแล้ว

แม้จะคิดว่านางดูเคร่งเครียด แต่รูแฮก็หลุดขำออกมา “จะทรงรับไว้หรือไม่ขอรับ”

“ม ไม่เพคะ!”

กโยซึลตอบออกไปอย่างรีบร้อน จากนั้นก็เม้มริมฝีปากของตน สีหน้าของนางแสดงออกถึงความเขินอายกับการพูดออกไปโดยไม่ทนคิดและกำลังต่อว่าตัวเองอยู่

“ถ้าทรงต้องการให้มันกับเรา เราย่อมเห็นความตั้งใจ จะรับมันไว้ก็ได้”

เป็นการพยายามพูดอ้อมๆ รูแฮพยายามอย่างมากที่จะไม่หัวเราะออกมา กโยซึลขบฝีปากของตนเบาๆ ปลายนิ้วที่ค่อยๆ ยื่นออกไปอย่างช้าๆ นั้น คล้ายกับความเร็วของการผุดขึ้นมาของใบอ่อนของต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิ หลังจากลังเลอยู่นานสองนาน ในที่สุดกโยซึลก็สัมผัสจดหมายด้วยปลายนิ้วของนาง

ในชั่ววินาทีนั้นรูแฮก็รู้สึกได้ถึงความวูบวาบที่ปลายนิ้วของเขา ความวูบวาบนั้นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว ความคิดที่ว่าการได้ดื่มน้ำเย็นที่มีน้ำแข็งลอยอยู่ในหน้าร้อน แล้วรู้สึกสดชื่นนั้นเป็นเช่นนี้หรือไม่ ผุดขึ้นมาแวบหนึ่ง ร่างกายที่หนาวเหน็บในช่วงฤดูหนาว เมื่อได้เข้าไปในห้องที่มีเตาผิงให้ความอบอุ่น มันจะให้ความรู้สึกเช่นนี้หรือไม่ ไม่สิ ไม่ว่าจะยกสถานการณ์แบบใดมาเปรียบ มันก็เทียบกันไม่ได้อยู่ดี มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาด ที่มีทั้งความสุขและความโล่งใจผสมกันอยู่ จนไม่สามารถอธิบายได้ มันยากนักที่จะเอื้อมมือออกไป ทว่าเมื่อมือของกโยซึลสัมผัสกับจดหมายนั้น นางก็รีบคว้ามันมากอดไว้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเป็นการหลบเลี่ยงไม่ให้ใครรู้

“ต้องทรงอ่านทั้งหมดอย่างละเอียดนะขอรับ”

รูแฮเอ่ยกำชับในขณะที่ไม่อาจเก็บซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ได้ แม้จะเป็นเพียงการรับจดหมายเอาไว้ แต่หน้ากโยซึลก็ดูแดงขึ้นมาก รูแฮที่เห็นหน้าแดงๆ นั้น ก็อยากที่จะแกล้งหยอกเย้า แต่ความตึงเครียดที่แทบจะปะทุออกมา มีอยู่มากพอแล้ว เขาจึงต้องล้มเลิกความคิดไม่เข้าท่านั้นไปเสีย

หากตนเผลอทำสิ่งใด แล้วเกิดล้ำเส้นเกินกว่าที่กโยซึลจะรับได้ขึ้นมา จะไม่เป็นการดี ท่าทางผ่าเผยและบึ้งตึงที่มาพร้อมความหน้าแดงของนางนั้น ดูน่าเอ็นดูนักสำหรับรูแฮ แต่เขาก็ยังอยากเห็นหน้าโยซึล

มากยิ่งขึ้น กโยซึลยังคงเขินและ เม้มปากไปมาราวกับกระต่าย

“ทรงเขียนทั้งหมดเลยหรือไม่เพคะ”

“ทั้งหมดหรือขอรับ”

“กระดาษน่ะเพคะ แค่สงสัยว่าทรงเขียนเต็มทุกหน้ากระดาษหรือไม่” คำถามนั้นค่อนข้างจะน่าประหลาดใจ แม้รูแฮจะไม่เข้าใจคำถามแต่เขาก็ตอบกลับไปอย่างซื่อตรง

“ขอรับ กระหม่อมอดหลับอดนอน และเติมเต็มกระดาษนี้อย่างช้าๆ ด้วยความพิถีพิถันเลยขอรับ”

“ดูเหมือนว่าจะทรงรวบรวมจดหมายที่ที่ผ่านทรงไม่สามารถเขียนสิ่งใดลงไปได้ไว้ทั้งหมดสินะเพคะ”

กโยซึลคาคคะเนความหนาของจดหมาย นางถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว กโยซึลยิ้มออกไปอย่างอ่อนหวานแกมหยอกล้อ

“ที่ว่าที่ผ่านมานั้น แสดงว่าจดหมายของกระหม่อมมาช้าเกินกว่าที่พระชายาคาดหวังไว้ใช่หรือไม่ขอรับ” รูแฮจะไม่อาจเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำพูดนางได้ จึงได้ลองคาดเดาออกไป กโยซึลรู้สึกวกระวนกระวาย จนเม้มริมฝีปากไปมา

“ค คาดหวังหรือ ทรงตรัสว่าตัวเราคาดหวังอะไรกันหรือ” กโยซึลจงใจพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม นางยกใบหน้าขึ้น แสร้งทำเป็นขึงขัง

“เราเพียงแค่ไม่อาจปฏิเสธความตั้งใจของฮวางเซจาได้เท่านั้น ไม่ได้มีความหมายอื่นใดซ่อนอยู่ ดังนั้นขอทรงอย่าได้คาดหวังอะไรลมๆ แล้งๆ”

“แน่นอนขอรับ ตัวกระหม่อมเองเพียงต้องการแก้ไขความเข้าใจผิดของพระชายา กระหม่อมไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเช่นกันขอรับ” เขาตอกกลับท่าทีของนาง แต่การที่รูแฮตอบเช่นนั้น ทำให้กโยซึลไม่อาจซ่อนสีหน้าที่มีทั้งความผิดหวังและงุนงง

“เช่นนั้นโล่งอกไปทีเพคะ”

กโยซึลขบเม้มและคลายริมฝีปากสลับกันไปมา นางพยายามรั้งมือที่เอาแต่จะไปสัมผัสจดหมายไม่หยุด จนทำให้เกิดเสียงกระทบกับกระดาษดังกรอบแกรบ เห็นดังนั้นรูแฮจึงพูดเสริมเชิงล้อเล่นออกไปว่า

“ขอโปรดอย่าโยนมันทิ้งไปนะขอรับ”

“จะไม่มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นแน่นอน”

“ขอบพระทัยขอรับ”

“แม้กระดาษเปล่าที่ไม่ได้เขียนอะไรไว้เลย เราก็ยังเก็บไว้ ดังนั้นขออย่าได้เป็นกังวล”

“ว่าอย่างไรนะขอรับ” รู้สึกเหมือนว่าบทสนทนาของเขาทั้งสองจะไม่ได้ในทิศทางเดียวกัน ทว่า

กโยซึลเองไม่ได้ให้โอกาสรูแฮในการไตร่ตรอง นางรีบหันหน้าหนีไป

“ถ้าเช่นนั้น เราขอตัวก่อน”

“ขอทรงดูแลตัวเองด้วยนะขอรับ”

รูแฮเฝ้ามองกโยซึลเดินจากไป จากนั้นก็เอียงศีรษะ หลังจากเฝ้ามองนางเดินจากไป เขาก็เดินทางกลับวังในที่สุด และระหว่างทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังวังใต้ของตนนั้น รูแฮก็ไม่อาจก้าวเดินอย่างสบายใจได้เลย เขาตกอยู่ในห้วงความคิดที่ลึกซึ้ง พลางก้าวเดินไปโดยใช้ความรู้สึกเคยชินนำทาง

“กระดาษเปล่าอะไรกัน” รูแฮบ่นพึมพำอยู่ซ้ำๆ คำที่ออกมาจากปากของกโยซึลนั้นติดตรึงอยู่ในหัวของเขา “ทรงเก็บรวบรวมอะไรเอาไว้กัน”

แม้เขาจะนั่งลงในห้องบรรทมแล้ว แต่ก็ยังคงยังครุ่นคิดถึงคำที่กโยซึลพูดออกมา รูแฮพูดทวนคำนั้นซ้ำไปซ้ำมา คำพูดของนางนั้นคือรหัสลับที่ยากยิ่ง ยากกว่าการอ่านพระธรรมให้เข้าใจ ยากกว่าการอ่านตีความข้อกฎหมายที่ยากนักของฝ่ายตุลาการ หรือแม้แต่ปัญหายุ่งยากในการบริหารราชการก็ยังง่ายกว่า หลังจากตรึกตรองอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็ตีความออกมาได้หลายทาง

“หรือเป็นการให้คำมั่นว่าจะไม่ทิ้งสิ่งใดง่ายๆ กัน”

อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้ แต่คำพูดของกโยซึลยังติดตรึงในหัวของเขาอย่างประหลาด ยกตัวอย่างเช่น การพูดและแสดงสีหน้าราวกับเป็นการบอกใบ้สิ่งใดให้แก่รูแฮอะไรประมาณนั้น แล้วเขาก็นึกถึงสายตาที่ส่งมาให้อย่างรวดเร็วราวกับต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง และก็นึกถึงรอยยิ้มเชิงหยอกล้อของนางที่เกิดพร้อมกับการเม้มปากไปมา ปนไปกับแก้มที่แดงของนาง

“พระชายาก็ทรงมักจะทำอะไรแปลกๆ อยู่แล้ว”

รูแฮสรุปอย่างนั้น ไม่แน่ว่าอาจเป็นเรื่องที่ตนคิดมากไปก็ได้ บางทีคำตอบที่ง่ายที่สุดอาจเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

“พระชายาช่างทำให้กระหม่อมคิดไม่ตกกับเพียงการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของพระองค์เสียจริง”

รูแฮหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี เขาปล่อยผ่านคำพูดที่ไม่อาจเข้าใจได้ของกโยซึลไปได้ในที่สุด รูแฮคิดว่ากโยซึลมักจะทำอะไรประหลาดๆ พลางหัวเราะไปด้วย

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

มีคำสั่งขอตัว อูรึม องค์หญิงหนึ่งเดียวแห่งราชอาณาจักรฮวากุกที่เงียบสงบให้มาอภิเษกสมรสกับ ฮวางแทจา องค์รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งมหาจักรวรรดิมกกุกที่ขึ้นชื่อเรื่องการแย่งชิงอำนาจ

แม้การอภิเษกนี้องค์หญิงอูรึมจะไม่เต็มใจไปแต่ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ กระนั้นชายคนแรกที่เธอได้พบเมื่อมาถึงมหาจักรวรรดิมกุกนั้นกลับไม่ใช่ฮวางแทจา แต่เป็นองค์รัชทายาทอันดับสาม รูแฮ ผู้เป็นน้องชายร่วมสายเลือดของเขา

เมื่อคู่ครองไม่ใช่คนที่รัก และคนที่รักไม่อาจเป็นคู่ครอง เรื่องราวรักสามเส้าของเขาและเธอสามคนในครั้งนี้จะลงเอยกันอย่างไร…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท