พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 3

บทที่ 3

บทที่ 3 ประธานกรรมการ

รุ่งเช้าวันต่อมา รพีพงษ์ล้างจานเสร็จก็ขับรถคัน เก่าๆ ของที่บ้านไปยังอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์

หน้าอาคารสำนักงานอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ หลังจากเขาจอดรถไว้ข้างทางเรียบร้อย เขาก็เดิน เข้าไปข้างใน อสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์เป็นบริษัท ชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เชี่ยวชาญในการ พัฒนาชุมชน โครงการที่พวกเขาได้พัฒนาล้วนเป็น โครงการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น คนที่มาซื้อที่อยู่ อาศัยกับพวกเขา ถ้าไม่ใช่คนรวยก็คือคนใหญ่คนโต

ยังเดินไม่ทันถึงหน้าประตูสำนักงาน ก็มีผู้หญิง คนหนึ่งสวมเครื่องแบบพนักงานแต่งหน้าหนา เดิน เข้ามาหาเขา เธอมองเขาคล้ายกำลังประเมินแล้ว ถามขึ้นว่า “หยุดก่อน นายคือคนที่มาซ่อมท่อประปา ใช่ไหม นายเข้าไปทางประตูที่อยู่ด้านหลังนั่น ทางนี้ คือทางที่เข้าไปยังห้องโถงที่ใช้ในการซื้อขายของ เรา”

รพีพงษ์มองเธอด้วยสายตากระอักกระอ่วนแล้ว พูดขึ้นมาว่า “ผมมาหาคนที่นี่ ไม่ได้มาซ่อมท่อประปา”

ผู้หญิงคนนั้นมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็น เขาสวมเสื้อผ้าตามแผงขายเสื้อผ้า ก็แค่ผู้ชาย ธรรมดาทั่วไป เธอแสดงแววตาดูถูกออกมา

ขณะนั้นเอง หญิงสาวก็เบิกตาโพลง แล้วพูด ด้วยความตกใจว่า “รพีพงษ์? นายคือรพีพงษ์เหรอ” เขาอึ้งไปแล้วมองไปยังหญิงสาว จากนั้นจึงถาม ออกไปว่า “คุณรู้จักผมเหรอ”

ผู้หญิงคนนั้นรีบยิ้มทันที “ฉันคือราศรี เพื่อน สมัยมัธยมปลายของนายไง นายลืมแล้วเหรอ”

รพีพงษ์ คิดอยู่ครู่ใหญ่ ก็มีภาพคนคนหนึ่งลอย เข้ามาในหัว ก็พูดออกมาว่า “ฉันจำได้แล้ว ราศรี ตอนนั้นเรายังนั่งข้างๆ กัน”

ที่แท้คนที่อยู่ตรงหน้าคือเพื่อสมัยมัธยมปลายข องเขา แค่พวกเขาไม่ได้เจอกันสองสามปี อีกอย่าง เธอก็แต่งหน้า แล้วก็สวยขึ้นอีกด้วย เขาจึงจำเธอไม่ ได้

หลังจากที่ราศรีจำเขาได้ ท่าทางของเธอก็แปร เปลี่ยนไปทันที จากท่าที่ดูถูกก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยน เป็นท่าทีเยาะเย้ย

ในตอนนั้นเธอเยาะเย้ยว่าเขาเป็นเด็กกำพร้ามา โดยตลอด ต่อมาเขาได้แต่งเข้าไปในตระกูล ฉัตรมงคล ก็กลายเป็นที่ล้อเลียนของคนในเมืองริ เวอร์เธอมักจะนำเรื่องนี้ไปพูดเป็นเรื่องตลกกับเพื่อน ร่วมงานบ่อยๆ

เธอมองรพีพงษ์แล้วพูดขึ้นว่า “ได้ยินว่านายเป็น ลูกเขยที่แต่งเข้าไปในบ้านผู้หญิง เหอะ ฉันว่าแล้วว่า นายคงจะทำอะไรไม่ได้ความ ไม่คิดว่าจะพูดถูก จริงๆ ตอนนี้นายโด่งดังในเมืองริเวอร์มากเลยนะ ขนาดเพื่อนร่วมงานของฉันยังรู้ว่านายเป็นไอ้สวะ เต็มตัว น่าตลกสิ้นดี”

สีหน้าของรพีพงษ์หม่นลงทันที เขาไม่คิดว่าการ ที่ได้เจอหน้าเพื่อน เรื่องที่อีกฝ่ายทำเป็นสิ่งแรกคือ การเยาะเย้ยเขา

“ใช่สิ นายมาทำอะไรที่นี่เหรอ นายอย่าบอกฉัน นะว่าจะมาซื้อห้อง พวกเราขายแต่คฤหาสน์อะไร ทำนองนั้น ระดับนาย ถึงแม้จะพยายามทั้งชีวิต ก็ยัง ไม่พอให้ซื้อกระเบื้องปูพื้นเลย” เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้า คือคนที่ขึ้นชื่อว่าสวะอย่างรพีพงษ์ เธอก็พูดอย่าง ไม่มีความเกรงใจ

“ฉันมาหาผู้จัดการใหญ่” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

ราศรีแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “พอเถอะ นายอย่ามา แสร้งทำเป็นที่นี่อีกเลย นายยังไม่หยุดพูดยกยอตัว เอง มันเป็นพฤติกรรมที่น่าเอือมระอา แถมยังอยาก พบผู้จัดการใหญ่”

“ฉันว่านายคงจะไม่เคยเห็นอะไรหรูๆ สินะ ถึง อยากมาดูของหรูๆ ในบริษัทของเรา ฉันจะบอกให้ นะ คฤหาสน์ที่นี่ นายดูไปก็ซื้อไม่ได้หรอก กลับกัน มันจะยิ่งทำให้นายรู้ว่าตัวเองมันไร้ค่าแค่ไหน ฉันว่า นายรีบกลับไปเถอะ สภาพแบบนาย รปภ.จะมาลาก นายออกไปนะ”

“ฉันต้องเข้าไปทำงานแล้ว ขี้เกียจคุยกับคนไร้ ค่าอย่างนาย”

พูดจบ เธอก็เดินเข้าไปข้างใน

รพีพงษ์พูดอะไรไม่ออก การที่เขามาที่นี่ก็เพื่อ มาพบผู้จัดการใหญ่ของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ อีกทั้งยังมาดำเนินการส่งมอบ ไม่คิดว่าจะโดนราศรี ดูถูกแบบนี้ เธอไม่ให้โอกาสเขาได้พูดด้วยซ้ำ

ช่างเถอะ เขาก็ไม่อยากสนใจผู้หญิงแบบนั้น สรุปแล้วสถานะที่ต่างกัน วิสัยทัศน์ก็ต่างเช่นกัน

ราศรีเดินออกไปไม่นาน ชายสวมสูทที่ดูฉลาด

และมีความสามารถก็เดินผ่านมา เมื่อเขาเห็นรพีพงษ์ เขาก็รีบลุกลี้ลุกลนเข้ามาทำความเคารพ “คุณรพี คุณคงจะเป็นคุณรพี สินะครับ ขอโทษที่ให้รอนาน ครับ ผมชื่อนรธีร์ เป็นผู้จัดการใหญ่ของ อสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ เรียนเชิญคุณไปที่ห้อง ทำงานของผมเลยครับ”

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วเดินตามนรธีร์ เข้าไปใน อาคารสำนักงานโดยผ่านทางเดินเฉพาะของผู้มี ตำแหน่งสูง ในขณะที่ขึ้นลิฟต์ นรธีร์เหลือบมองรพี พงษ์ เขาพบว่าคนหนุ่มคนนี้เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น เสื้อผ้าที่สวมก็ดูไร้ราคา

แต่ทว่าเขาก็ไม่กล้าดูถูกรพีพงษ์แม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เขาคือคนที่กุมอสังหาริมทรัพย์ฟ้า อนงค์เอาไว้

วันนั้นตอนที่ชายชรามาและใช้เงินสองเท่าใน การซื้อที่นี่ ช่วงเวลาเพียงพริบตาเดียวเขาก็ซื้อที่นี่ไว้ เรียบร้อย เขาซื้อที่นี่เพียงเพื่อมอบเป็นของขวัญให้ กับคุณชายเท่านั้น

เอาธุรกิจเป็นของขวัญเนี่ยนะ นรธีร์เพิ่งจะเคย เจอเป็นครั้งแรก ดังนั้นเขาไม่สามารถจินตนาการถึง ความน่ากลัวของชายชราคนนั้นได้เลย

และรพีพงษ์ก็คือคุณชายที่ชายชราคนนั้นพูด ถึง แม้เขาจะดูธรรมดาทั่วไป นรธีร์ก็ไม่กล้าสบ ประมาทเขา

ทั้งสองเข้ามาในห้องทำงาน นรธีร์เอาเอกสาร สองสามฉบับให้เขาเซ็น จากนั้นก็ยื่นกุญแจให้กับ เขา แล้วพูดว่า “คุณรพี ต่อจากนี้ไป คุณคือประธาน กรรมการของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ นี่คือกุญแจ ของวิลล่าฟ้าอนงค์ เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึง สถานะของคุณ โปรดเก็บเอาไว้ให้ดี”

รพีพงษ์รับกุญแจเอาไว้แล้วพยักหน้า “หลังจาก นี้คุณก็ช่วยผมดูแลที่นี่ต่อไป ผมมาที่นี่เพื่อจะบอก คุณว่า หลังจากนี้ตระกูลฉัตรมงคลจะมาซื้ออาคาร สำนักงานที่นี่ เมื่อถึงตอนนั้นคุณแค่ทำตามที่ผมบอก อย่าสะเพร่าเป็นพอ”

นรธีร์รีบยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานวางใจได้เลย ครับ ผมจะจำเรื่องนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจ ถ้าเป็นความ ต้องการของประธาน เราสามารถให้อาคาร สำนักงานกับพวกเขาได้อย่างไม่มีปัญหา”

รพีพงษ์ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ถึงแม้ว่าเขา จะสามารถให้อาคารสำนักงานกับอารียาได้จริงๆ แต่ เขาไม่มีความคิดแบบนี้ ครั้งนี้เขาอยากให้คนอื่น

เปลี่ยนวิธีการมองอารียา ดังนั้นเขาจึงจะช่วยเรื่องนี้ อย่างเงียบๆ

“ประธานอยากให้ผมพาไปดูห้องโถงการซื้อ ขายของที่นี่ไหมครับ ที่นั่นมีคฤหาสน์แบบใหม่ล่าสุด ถ้าคุณชอบ คุณสามารถไปอยู่ที่นั่นตอนไหนก็ได้” นรธีร์เอ่ยขึ้นมา

รพีพงษ์คิดสักพัก เขาก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องทำอยู่ แล้ว ไปเรียนรู้สภาพการทำงานของที่นี่ไว้คงจะดี เขาจึงตอบตกลงนรธีร์

ทั้งสองมาถึงชั้นหนึ่ง ขณะนั้นเองนรธีร์ก็รู้สึก ท้องไส้ปั่นป่วน เขาพูดกับรพีพงษ์ด้วยสีหน้า กระอักกระอ่วน จากนั้นก็รีบวิ่งไปห้องน้ำ ปล่อยให้ รพีพงษ์เดินเข้าไปดูในห้องโถงก่อน

รพีพงษ์ไม่ได้ว่าอะไร เขาเดินเข้าไปดูในห้อง โถง แล้วมองโมเดลจำลองสิ่งก่อสร้างพวกนั้น ที่อยู่ อาศัยและคฤหาสน์ของที่นี่สร้างได้สวยงามเป็น อย่างมาก วิลล่าฟ้าอนงค์เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง ของเมืองริเวอร์ โมเดลจำลองสิ่งก่อสร้างวิลล่าฟ้า อนงค์ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องโถง

รพีพงษ์ก้าวเข้าไปตรงกลางห้องโถง ขณะนั้น

เองคนที่ยืนอยู่ในห้องโถงอย่างราศรีเห็นเขา เธอ ขมวดคิ้วขึ้นทันที จากนั้นเธอก็ตะโกนออกมาอย่าง ไร้มารยาท “รพีพงษ์ ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือไงให้ นายรีบออกไปจากที่นี่ ที่นี่ไม่เหมาะกับคนไร้ค่า อย่างนาย ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท