พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 21

บทที่ 21

บทที่ 21 นำ อารียา มาชดใช้ให้แก่คุณ

” ไม่แข็งหรอก ผมชินแล้ว ”

อารียา ยังพูดไม่ทันจบประโยค รพีพงษ์ ก็พูดขัดขึ้นมาเสีย

ก่อน

แต่พอเขาพูดจบความหมายก็ดูแปลกไปเล็กน้อย ท่าทาง ของ อารียา เมื่อครู่นั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยากรู้ว่าพื้นนั้นแข็ง หรือไม่

11 เหรออย่างนั้นก็คุณนอนเถอะ

อารียา รู้สึกหมดคำจะพูดเล็กน้อย ในใจก็คิดว่า รพีพงษ์ ช่างเป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมาเสียจริง

เธอจึงล้มตัวลงนอนและไม่ได้สนใจ รพีพงษ์ ต่อ

ด้าน รพีพงษ์ ในใจรู้สึกเสียใจจนอยากจะตบหน้าตัวเอง แรง ๆ สักที

เมื่อสักครู่นี้เห็นได้ชัดว่า อารียา ต้องการให้เขาขึ้นไปนอ นบนเตียงด้วย แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำลายโอกาสอันยิ่ง ใหญ่นี้โดยตัวเขาเอง

เมื่อมองขึ้นไปยังส่วนเว้าโค้งอันสวยงามของ อารียา ที่นอนอยู่บนเตียง น้ำลายของ รพีพงษ์ก็แทบจะไหลออกมาแต่น่าเสียดายที่ตัวเขาเองนั้นได้ทำลายโอกาสที่ดีเช่นนี้ไป แล้วจะเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์

ทนต่ออีกสักหน่อยแล้วกัน วันนี้ท่าทางที่เธอมีต่อฉันเปลี่ ยนไปบ้างแล้ว โอกาสแบบนี้ยังมีอีกเยอะครั้งหน้าฉันจะไม่โง่ แบบนี้อีกแน่ ”

ะ ๘ ข รพีพงษ์ พิมพำเงียบ ๆ หลังจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนที่พื้น

แล้วหลับไป

ขณะเดียวกัน ณ คาราโอเกะแห่งหนึ่งในเมืองริเวอร์ อิน

ทัช กำลังโอบกอดหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งหน้าอย่างสะสวย เอาไว้ข้างกาย มืออีกข้างของเขาขยับลูบไปมาอย่างเจ้าเล่ห์ โจรสองคนที่มาขโมยของที่วิลล่าฟ้าอนงค์วันนี้ยืนอยู่ตรง

หน้าอินทัชด้วยความเคารพ

หนึ่งในนั้นมือของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล มือของพัชร พล นั้นถือว่าสาหัสมาก นิ้วทั้งสามของเขาถึงแม้ว่าจะ สามารถรักษาได้แต่ก็คงต้องทนทรมานกับอาการบาดเจ็บนี้ ไปอีกสักพัก ครั้งหน้าถ้าหากเขาจะขโมยของอีกเกร็งว่าคง เป็นไปได้ยากขึ้น

ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองถูกส่งตัวไปยังสถานีตำรวจแล้ว แต่การติดต่อพรรคพวกของอินทัช ในเมืองริเวอร์ นั้นไม่ใช่ เรื่องง่าย ดังนั้นทั้งสองคนจึงออกมาได้ในตอนบ่าย
” พูดแบบนี้แสดงว่าพวกแกถูกคนของ อารียา จับได้อย่าง นั้นเหรอ ? “อินทัช จ้องไปที่ทั้งสองแล้วเอ่ยถามขึ้น

ทั้งสองคนพยักหน้าพร้อมกันแล้วชายคนที่นิ้วหักก็พูดขึ้น ว่า ” คนที่ชื่อ อารียา บอกว่า รพีพงษ์ เป็นคนจัดหาคนมา โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปหามาจากไหน คิดไม่ ถึงว่าเขาจะเจอพวกเราได้ในคราวเดียวเลย

รพีพงษ์ ? ลูกเขยที่เป็นขยะไร้ประโยชน์ของตระกูลฉัตร มงคล อย่างนั้นเหรอ ? ” อินทัช เลิกคิ้วขึ้นถาม

ใช่ครับไอ้ขยะนั่น ธายุกร ต้องการให้ผมโยนความผิด ให้เขา แต่ใครจะไปรู้ว่าพอคนพวกนั้นเข้ามาก็จับผมหักนิ้ว เลย ผมเลยต้องจำใจบอกความจริงไป ” ชายคนที่นิ้วหัก ตอบกลับด้วยความโกรธ

อินทัช ผลักหญิงสาวที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาออกไป ก่อนจะพูดขึ้นด้วยใบหน้าและรอยยิ้มเยาะเย้ยว่า ” คิดไม่ถึง จริง ๆ ว่าไอ้ขยะนั่นจะกล้าเหยียบหัวฉันถึงขนาดนี้ ซ้ำยัง ซ้ายัง กล้ามาหักนิ้วลูกน้องของฉันอีกนี่มันไม่ได้เห็นฉันในสาย ตาเลยรึไง ”

” เจ้านายครับ ไอ้ รพีพงษ์ นั่นมันก็แค่คนขี้ขลาดตาขาว คนหนึ่งเท่านั้น ครั้งนี้เจ้านายต้องแก้แค้นให้พวกเรานะครับ ตระกูลฉัตรมงคล เองก็คงไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกเราเพ ราะไอ้ขยะนั่นหรอก ” ใบหน้าของทั้งสองคนตอนนี้เต็มไปด้วยความแค้น

อินทัช ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา ” ต่อให้ตระกูลฉัตรมงคล จะเป็นศัตรูกับฉัน ฉันก็ไม่เห็นพวก มันในสายตาหรอกนะ ”

“ติดต่อธายุกรเรียกมันให้เข้ามาเจอฉันเดี๋ยวนี้ ”

ทั้งสองคนตอบรับและรีบติดต่อหา ธายุกร ทันที ครึ่งชั่วโมงต่อมา ธายุกรซึ่งน่าจะได้นั่งครุ่นคิดพิจารณาตัว เองอยู่ที่บ้านกลับมาปรากฏตัวที่คาราโอเกะแทน

” พี่ทัช วันนี้ถือว่าโชคร้ายจริง ๆ ไม่รู้ว่าพวก อารียา กับ รพีพงษ์ไปตามเจ้าหน้าที่มาจากไหน ถึงได้เข้ามาจับคนของ เราไปหมดเลย ต่อหน้าคุณปู่เองผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีถึง จะทำให้สองคนนั้นตกที่นั่งลำบากได้ ” ธายุกรรีบโยนความ รับผิดชอบของตัวเองทันทีที่นั่งลง

โจรทั้งสองจ้องมอง ธายุกรด้วยความเคียดแค้น วันนี้ถ้า ไม่ใช่เพราะเขาละก็ พัชรพลอาจจะไม่โดนพวกนั้นหักนิ้วก็ เป็นได้

อินทัชถอนหายใจอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า ” อย่านึกว่า ฉันไม่รู้นะว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น นิ้วของลูกน้องฉันคงจะหัก เรขึ้น ไปอย่างเสียเปล่าไม่ได้เรื่องนี้นายคงต้องอธิบายอะไรสัก อย่างแล้วล่ะ ”
ธายุกร กลอกตาไปมา เขารู้ดีว่าถ้าเขาไม่ให้คำตอบที่น่า พอใจแก่อินทัช อินทัช ก็อาจจะจับเขาหักนิ้วด้วยก็ได้

พี่ทัช เรื่องวันนี้ทั้งหมดมันก็เป็นเพราะไอ้ขยะ รพีพงษ์ กับ อารียา นั่นแหละ พี่ก็รู้นี่ว่าผมมาขอยืมคนของพี่ก็เพื่อที่ จะเอาไปจัดการสองคนนั้น ใครจะไปรู้ว่าวันนี้จะดวงซวยเลย ทำให้ลูกน้องของพี่ทั้งสองคนต้องเดือดร้อนไปด้วย ” ธายุกร พูดขึ้น

อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันที่นี่นะ ลูกน้องฉันต้องไม่นิ้วหัก ไปอย่างเสียเปล่าแน่ นายต้องชดใช้คืนมาให้สาสมกับสิ่งที่ มันเกิดขึ้น ถ้าทำไม่ได้ละก็อย่าหวังว่าวันนี้จะได้ออกจากห้อง นี้เลย ” อินทัช พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ธายุกรกลอกตาไปมาอีกทีก่อนจะแสดงสีหน้าโหดเหี้ยม ขึ้นมา หลังจากนั้นก็โน้มตัวเข้ามากระซิบกับอินทัช ว่า ” พี่ ทัช หรือว่าให้ผมเอาตัวอารียา มาเป็นการชดใช้ให้พี่แทน ดีล่ะ พี่ว่าแบบนี้เป็นยังไง ”

” อารียา ? เธอไม่ใช่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องนายหรือไง ? “อินทัช ถามขึ้นมา

ลูกพี่ลูกน้องอะไรกันล่ะ ผมน่ะเห็นเธอขัดหูขัดตาตั้งแต่ แรกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอละก็ช่วงนี้ผมคงไม่ดวงซวยขนาด นี้ พี่ทัช มาจัดการเธอแทนผม ผมนี่ดีใจแทบไม่ทันเลย ”

พี่ทัช อย่าหาว่าผมพูดเลยนะ ถึงแม้ว่า อารียา จะแต่งงานกับ รพีพงษ์ มาหลายปีแล้ว แต่ รพีพงษ์ ก็ไม่เคยได้ สัมผัสเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้เธอก็ยังเป็นเหมือนเด็ก สาวตัวน้อย ๆ อยู่เลย ส่วนเรื่องความงดงามของเธอพี่ก็คง เคยได้ยินมาบ้างสินะ ถ้าเธอคนนี้ถูกโยนลงบนเตียงละก็ คงจะสวยงามจนต้องตะลึงไปเลยล่ะ ” ใบหน้าของ ธายุกร เต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขาไม่เคยคิดว่า อารียา เป็นคน ในครอบครัวเดียวกับเขาเลยแม้แต่น้อย

อินทัช ได้ฟังดังนั้นก็เกิดรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าก่อนจะพูด ขึ้นว่า ” อารียา คนนี้ก็ถือว่าสวยและมีเสน่ห์จริง ๆ นั่นแหละ อีกอย่างตัวฉันเองก็ชอบเด็กสาวอยู่ด้วย แถมยังแต่งงาน แล้วอีก ไอ้ รพีพงษ์ นี่มันขยะไร้ประโยชน์จริง ๆ ”

II แต่ว่านายมีปัญหาอยู่กับ อารียา ไม่ใช่รีไง นายจะทำให้ เธอยอมมาอยู่ข้างฉันได้ยังไงกัน “อินทัช ถามซ้ำขึ้นมารี กรอบ

” เหอะ ๆ พี่ทัช เรื่องแบบนี้มันเกี่ยวกับยอมหรือไม่ยอม ตรงไหน แค่ พี่ทัช สนใจละก็ ผมรับประกันเลยว่าจะเอา อา รียา มาให้พี่ให้ได้” ใบหน้าของธายุกร เต็มไปด้วยความชั่ว ร้าย ” อีกอย่างถ้า พี่ทัช ชอบอะไรที่มันเร้าใจละก็ จะทำต่อ หน้า รพีพงษ์ เลยก็ยังได้ ”

บนใบหน้าของอินทัช ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายแบบเดีย วกันขึ้นมา เขาเริ่มรินเหล้าให้กับ ธายุกร ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขา กำลังสนใจกับสิ่งที่ ธายุกร เสนอมา
” นายทำแบบนี้ไม่กลัวโดนปู่นายว่ารีไง ? ”

ธายุกร ชนแก้วกับอินทัช จากนั้นก็ดื่มเหล้าในแก้วจนหมด เกลี้ยง ก่อนจะพูดขึ้นว่า ” เดี๋ยวผมจะหาวิธีหลอกล่อให้ อา รียา ออกมา จากนั้นก็วางยาเธอพอเธอสลบไปก็ไม่มีทางรู้ แล้วล่ะว่าใครเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ ”

นายบอกว่าจะทำต่อหน้า รพีพงษ์ ด้วยไม่ใช่รีไง เรื่อง แบบนี้มีเหรอที่มันจะไม่เอาไปฟ้อง “อินทัช ถามขึ้นมา

” พี่ทัช พี่ประเมิน รพีพงษ์ สูงเกินไปแล้ว ในบ้านตระกูล ฉัตรมงคล เองก็แทบจะไม่มีที่ให้มันยืนอยู่แล้ว คำพูดที่มัน พูดออกมาคุณปู่เองก็ยังเชื่อไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ ” ธายุกร พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

หลังจากนั้นอินทัช ยิ้มออกมาอย่าพึงพอใจก่อนจะตบไหล่ ธายุกร เบา ๆ แล้วพูดว่า ” ใช้ได้นี่ไอน้องชาย เรื่องนี้มันชัก จะน่าสนใจขึ้นมาหน่อยแล้ว เอาตามที่นายว่าเลยละกัน

ธายุกร ยิ้มออกมาเหมือนกันก่อนจะพูดว่า ” เพื่อให้ พี่ทัช มีความสุขผมก็ต้องเอาใจใส่เป็นธรรมดาล่ะครับ ”

I ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็ถือว่าพวกเราตกลงกันเรียบร้อย ๘. แล้วนะ ถึงตอนนั้นนายก็หาวิธีล่อให้ อารียา ออกมา และให้ ฉันได้ลิ้มรสสาวงามที่มีชื่อเสียงของเมืองริเวอร์ สักทีละกัน “อินทัช เลียที่ริมฝีปากเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาด หวง
ธายุกร ตบหน้าอกตัวเองเบา ๆ อย่างภาคภูมิใจก่อนจะ พูดว่า ” ทุกเรื่องที่ผมทำ พี่ทัช สบายใจได้เลย พอถึงตอนที่ ผมล่อ อารียา ออกมาได้แล้วละก็ หลังจากนั้นทั้งหมดก็ขึ้นอยู่ กับพี่แล้วล่ะ “

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท