พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 10

บทที่ 10

บทที่ 10 นิทรรศการวัตถุโบราณ

ธายุกรเบิกตาโพลง เขาพูดเกรี้ยวกราดออกไปโดยไม่คิด “แกพูดอะไรไร้สาระ นั่นมันก็แค่การพูดเล่นเท่านั้น เธอซื้อตึก ได้สำเร็จแล้วยังไง ฉันต้องคุกเข่าขอโทษเธอจริงๆ ด้วยเหรอ คนไร้ประโยชน์อย่างแกอย่าเอาเรื่องล้อเล่นนี้มาทำให้เป็น เรื่อง”

รพีพงษ์หรี่ตาลง เสียงของเขาเริ่มเยือกเย็น เขาพูดเสียง ดังว่า “สิ่งที่พนันกันเอาไว้ คุณเองไม่ใช่หรือไงที่บอกว่าเป็น เครื่องรับประกันให้คุณปู่ ตอนนี้คุณแพ้ แล้วดันมาบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่น หรือว่าคุณคิดว่าคุณปู่เป็นตัวตลก”

ธายุกรกระวนกระวายแล้วพูดว่า “แกอย่ามาพูดใส่ร้ายฉัน ฉันจะคิดว่าคุณปู่เป็นตัวตลกได้ยังไง”

“ไม่เห็นคุณปู่อยู่ในสายตาสักนิด ให้คุณปู่เอาการเดิมพัน เป็นเครื่องรับประกัน คุณอยากจะผิดสัญญาก็ทำได้อย่างนั้น เหรอ นี่ไม่เรียกว่าเห็นคุณปู่เป็นตัวตลกแล้วจะเรียกว่าอะไร หรือว่าคุณคิดจะอยู่เหนือคุณปู่แล้วทำให้คนในตระกูลทุก คนฟังคุณ” รพีพงษ์ถามซักไซ้

ธายุกรหน้าซีดเผือด เขาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะพูดใส่ร้าย เขาขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็ไม่รู้จะตอบโต้กลับไปอย่างไรคุมคนในตระกูล สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่คนในตระกูล กล้ามาดูถูกอำนาจของเขา ดังนั้นหลังจากที่เขาได้ฟังสิ่งที่รพี พงษ์พูด เขาก็จ้องเขม็งไปที่ ธายุกร

คนในตระกูลกำลังจดจ้องมา ถ้าเขาเอาเรื่องเดิมพันนี้เป็น เพียงเรื่องล้อเล่น วันข้างหน้าอำนาจที่เขามีในฐานะผู้นำตระ กูลก็คงจะหมดลงไปเช่นกัน

“ธายุยอมรับสิ่งที่ตัวเองพนันเอาไว้เถอะ ลูกผู้ชายกล้า ทำต้องกล้ารับ ในเมื่อแกแพ้แล้ว ก็ควรจะรักษาสัญญา ผู้ชายในตระกูลไม่เคยทำเรื่องผิดสัญญาที่ไร้ยางอายแบบนี้” นภทีป์เอ่ยขึ้น

“แต่ว่า คุณปู…ธายุกร ยังคงไม่ยอม

“ไม่ต้องแต่แล้ว ไปคุกเข่าขอโทษเธอซะ อย่ามาทำให้ทุก คนเสียเวลา” นภทีป์พูดเสียงแข็ง

ธายุกรรู้ว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องปรึกษาใครแล้ว เขาทำได้ เพียงมอง รพีพงษ์ด้วยสายตาเคียดแค้น จากนั้นก็เดินไปตรง หน้าอารียา

อารียาเชิดหน้าขึ้น เธอรู้ดีว่าช่วงเวลาสำคัญนี้เป็นสิ่งที่รพี พงษ์ทำเพื่อเธอ เธอควรจะแสดงท่าทีที่ควรแสดงออกไป

ธายุกรคุกเข่าลงต่อหน้าของอารียา ภายใต้สายตาของ ทุกคนที่กำลังจดจ้องมา เขาก้มหัวแล้วพูดออกมาว่า”ขอโทษ”

“หวังว่านายจะจำมันเอาไว้นะ” อารียาพูดขึ้น

ธายุกรกัดฟันกรอด เขากำหมัดแน่น จากนั้นก็ลุกขึ้นมา ด้วยความโกรธและอับอาย เขามองอารียาด้วยแววตาเคียด แค้นแล้วเดินไปยืนข้างนภทีป์

วันนี้เป็นวันที่น่าอัปยศที่สุดของเขา

ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ความแค้นนี้ เขาจะต้องเอาคืนแน่

จู่ๆ ธายุกรก็เหมือนคิดอะไรออก เขาแสยะยิ้มออกมาแล้ว พูดกับนภทีป์ “คุณปู่ครับ ช่วงนี้คุณปู่กำลังหาที่จัดแสดงวัตถุ โบราณของคุณปู่อยู่ไม่ใช่เหรอครับ ในเมื่ออารียาซื้อตึกได้ ในราคาห้าล้าน อย่างนั้นก็แสดงว่าเธอมีความสามารถมาก ผมล่ะนับถือและเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ”

“อย่างนั้นก็ให้เธอยืมวิลล่าฟ้าอนงค์เป็นสถานที่จัดแสดง วัตถุโบราณสิครับ แบบนี้จะได้แสดงให้เห็นว่าคุณปู่อยู่ใน ระดับไหน”

ชรินทร์ทิพย์ที่อยู่อีกด้านก็รู้ทันทีว่าธายุกรคิดจะทำอะไร เธอกลอกตาไปมาแล้วพูดเสริม “ใช่ค่ะคุณปู่ วัตถุโบราณ พวกนั้น เป็นของจริงทั้งหมด ในเมือจะจัดแสดงก็ต้องหา สถานที่ดีๆและเหมาะสม ดูแล้วในเมืองริเวอร์ก็คงจะมีแต่วิลล่าฟ้าอนงค์ที่เหมาะสมที่สุด เธอสามารถซื้อตึกได้ใน ราคาห้าล้าน ยืมวิลล่าฟ้าอนงค์มาเป็นสถานที่จัดแสดงเธอ ทำได้แน่นอน อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ให้เธอจัดการเลยสิคะ”

อารียาได้ยินคำพูดของทั้งสองคนก็โกรธขึ้นมาทันที เธอ คิดไม่ถึงว่าธายุกรจะตอบโต้กลับมารวดเร็วขนาดนี้ แถมยัง ให้เธอไปยืมที่ของวิลล่าฟ้าอนงค์

การที่เธอซื้อตึกนั่นได้ในราคาห้าล้านก็เพราะว่าไปร่วมกิจ กรรมทันพอดี แต่ทว่าวิลล่าฟ้าอนงค์เป็นที่พักของประธาน บริษัท เธอจะเอาปัญญาที่ไหนไปขอยืมสถานที่เพื่อจัดแสดง วัตถุโบราณของคุณปู่

นภทีป์เป็นคนทะนงตน สิ่งที่เขาชอบที่สุดคือวัตถุโบราณ แถมยังคิดว่าสมบัติของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีเลิศ

เขาอยากจัดนิทรรศการวัตถุโบราณมานานแล้ว อีกทั้งยัง ต้องหาสถานที่จัดแสดงที่ดูดีมีระดับจะได้ทำให้เขาดูมีหน้า

มีตา

เมื่อได้ยินธายุกรกับชรินทร์ทิพย์พูดเช่นนั้น เขาจึงคิดว่ามี เพียงวิลล่าฟ้าอนงค์เท่านั้นที่เหมาะสมกับสิ่งของล้ำค่าของ

เขา

ชายชราหันไปมองอารียาเขายิ้มแล้วพูดว่า “อารี ในเมื่อ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว แกก็คิดๆ ดูหน่อยละกันว่าต้องใช้เวลากี่วัน ในการยืมวิลล่าฟ้าอนงค์ แกเพิ่งซื้อตึกจากพวกเขา ฉันเชื่อว่าเขาคงจะให้ยืม”

อารียารีบพูดขึ้นมาว่า “วิลล่าฟ้าอนงค์ คือสมบัติส่วนตัว ของประธานบริษัท เขาคงจะไม่ให้ยืมหรอกค่ะ”

“จะไม่ให้ยืมได้ยังไงล่ะ เราเพิ่งสนับสนุนธุรกิจของเขา อีกอย่างตระกูลเราก็ไม่ใช่ตระกูลธรรมดาๆ ประธานของอ สังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ ต้องให้แกยืมแน่นอน ปู่เชื่อในความ สามารถของแก เรื่องนิทรรศการวัตถุโบราณ ก็ยกให้แกจัด การเลยละกัน” นภทีป์พูดสั่ง

ธายุกรกับชรินทร์ทิพย์ ยิ้มออกมาด้วยความสะใจ พวก เขามองออกว่านภทีปจะคิดว่าวิลล่าฟ้าอนงค์สามารถยืมได้ ง่ายๆ ดังนั้นพวกเขาก็เลยโยนให้อารียา

“วิลล่าฟ้าอนงค์ เป็นสมบัติส่วนตัวของประธานอสังหาริ มทรัพย์ฟ้าอนงค์ จนถึงวันนี้ฉันก็ยังไม่เคยเห็นเขาให้ใครยืม เลย ครั้งนี้ฉันว่าเธอต้องหาวิธีแล้วล่ะ” ธายุกรพูดแล้วแสยะ ยิ้ม

อารียากำลังคิดจะอธิบายกับนภทีป์ จู่ๆ มือถือของเธอก็ สั่น เธอหยิบมันขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นข้อความที่นรธีรผู้ จัดการใหญ่ของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ส่งมา

วันนี้ตอนที่ทำเรื่องซื้อตึก พวกเขาได้แลกเบอร์ติดต่อกันไว้

เมื่อเห็นข้อความที่นรธีร์ส่งมา เธอก็อึ้งไปทันที
“คุณชรินทร์ทิพย์ เมือตอนเช้าผมลืมบอกคุณว่าประธาน ของเราได้ยินมาว่าคุณท่านตระกูลฉัตรมงคลกำลังหาสถานที่ จัดแสดงวัตถุโบราณ ถ้าคุณต้องการ ประธานของเราเป็นเจ้า ของวิลล่าฟ้าอนงค์ เขาสามารถให้คุณยืมสถานที่ได้ ถือว่า

เป็นการขอบคุณที่คุณสนับสนุนกิจการของเรา”

เรื่องที่นภทีปจะจัดนิทรรศการวัตถุโบราณไม่ใช่ความลับ อะไร แค่สอบถามก็รู้แล้ว

แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์จะยอมให้เธอยืม

เธอหันหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงไปทางรพีพงษ์ ก็เห็น ว่าเขากำลังยิ้มแบบมีเลศนัย ๔ ๘ ๘

ธายุกรเห็นว่าเธอกำลังยืนอึ้งอยู่ก็แสยะยิ้มออกมา “อารี ยา เรื่องวิลล่าฟ้าอนงค์เธอต้องรีบจัดการนะถ้าทำให้นิทรร ศการของคุณปู่ต้องล่าช้า เธอก็จะกลายเป็นคนผิด”

อารียาเงยหน้าขึ้นแล้วปรายตามองธายุกร จากนั้นก็หัว เราะออกมา

“ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้วล่ะค่ะ”

“ฉันยืมวิลล่าฟ้าอนงค์ได้แล้ว!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท