พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 24

บทที่ 24

บทที่ 24 ลงมือจัดการกับคุณ

คนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในนั้นมองหน้ากันไม่คาดคิดว่าจะเกิดการ เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้

ไตรทศเดินออกมาจากกลุ่มของคนชุดดำแล้วไปหยุดที่ ตรงหน้า รพีพงษ์ ก่อนจะถามขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า ” พี่รพี

ไม่เป็นไรใช่มั้ย ?”

รพีพงษ์ พยักหน้ารับ ” ไม่เป็นไร”

เมื่ออินทัช เห็น ไตรทศสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ก่อนหน้า นี้พวกเขาเคยมีความขัดแย้งกันมาก่อนแล้ว หรือว่าที่เขามา ในครั้งนี้จะมาเพื่อแก้แค้น ?

แต่ว่าผู้ชายคนนี้เวลาอื่นกลับไม่มา ทำไมถึงเลือกโผล่ออ กมาเวลานี้กันนะ?

” ไตรทศคุณพาคนมาที่นี่ทำไมเยอะแยะเหรอ ? “อินทัช เหลือบตามองอีกฝ่าย พลางคิดในใจว่าคงไม่ได้มาหาเขา เพื่อดื่มชาเป็นแน่

” ทำอะไรนะเหรอ ? ก็มาลงมือจัดการคุณไง ” ไตรทศตอ บกลับด้วยน้ำเสียงเดียวกับที่อินทัช ตอบ อารียา

ใบหน้าของอินทัชกระตุกเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็น ชาว่า ” ไตรทศเรื่องคราวที่แล้วผมก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก คุณคงไม่ได้เป็นคนจิตใจคับแคบขนาดที่จะยกเรื่องนี้ ขึ้นมาเพื่อจะมาสู้กับผมหรอกนะ ? ”

ไตรทศยิ้มเยาะก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า ” ใครเขา จะมาเพราะเรื่องก่อนหน้านั้นกันล่ะ ผมมาที่นี่เพื่อมาจัดการ คุณแทน พี่รพี ต่างหาก ! ”

” พี่รพี ? “อินทัช มีสีหน้างงงวยปรากฏขึ้น จากนั้นในใจ เขาก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปมอง รพีพงษ์” คุณหมายถึงผู้ชายคนนี้อย่างนั้นเหรอ ? ”
ถูกต้อง ” ไตรทศตอบกลับมาอย่างเด็ดขาด

ใบหน้าของ อารียาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เธอเคย ได้ยินชื่อของ ไตรทศมาก่อน และเขาก็เป็นหนึ่งในสามราชัน ฟ้าแห่งเมืองริเวอร์แห่งเมืองริเวอร์ด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเขา จะเรียก รพีพงษ์ ว่า พี่รพี

” ไตรทศไม่ใช่ว่าสมองคุณได้รับการกระทบกระเทือน หรอกนะ ผู้ชายคนนี้น่ะได้ชื่อว่าเป็นขยะไปทั่วทั้งเมืองริเวอร์ คุณยอมที่จะมาสู้กับผมเพื่อเขาอย่างนั้นเหรอ ? “อินทัช พูด ขึ้นด้วยสีหน้าเหมือนเห็นผี

คุณอยากตายรึไง ? ” เมื่อเห็นอินทัชพูดถึง รพีพงษ์ เช่น นั้น ไตรทศก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที

อินทัช หัวเราะขึ้นมาเสียงดังก่อนจะพูดว่า ” ไดตรทศคุณอย่าคิดว่าผมโง่ไปหน่อยเลย รพีพงษ์ มันก็แค่ขยะไร้ค่าที่ถูก ตระกูลฉัตรมงคล เลี้ยงไว้ไม่ต่างจากหมา คุณบอกว่าคุณ จะทำเพื่อเขาอย่างนั้นเหรอ ต่อให้คุณฆ่าผมให้ตายยังไง ผมก็เชื่อหรอก ? ”

” อย่างนั้นคุณก็ตายซะเถอะ ! ไตรทศกำลังจะก้าวออก ไปข้างหน้าเพื่อจะได้ลงมือกับอินทัช แต่กลับถูก รพีพงษ์ ขวางไว้ก่อน

คุณพา อารียา ออกไปด้านนอกก่อนดีกว่า อย่าให้เธอ

ต้องมาเห็นเรื่องพวกนี้เลย ” รพีพงษ์ พูดขึ้น

ไตรทศจ้องไปที่อินทัช อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้ รพี พงษ์ หลังจากนั้นก็หันกลับมาพา อารียา เดินออกไปด้าน

นอก

อินทัชมอง รพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพูดขึ้นอย่าง เย็นชา ” ไอ้โง่ ไตรทศเขาขอให้แกมาแสดงละครกับเขาใช่ ะ มั้ย ? อย่างแกเนี่ยนะ จะมีค่าพอให้เขาเรียกแกว่าพี่รพี ? ”

ในฐานะหนึ่งในสามราชันฟ้าอินทัช รู้สึกว่าการที่ ไตร ทศเรียกขยะอย่าง รพีพงษ์ ว่าพี มันดูเหมือนกับเป็นการลด คุณค่าของเขาลงมา

II เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว อีกเดี่ยวก็จะถึงเวลาตายของ คุณสักที ” รพีพงษ์ พูดข้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
” โธ่เอ๊ย นี่แกแสดงละครจนติดใจรึไง ถ้าไม่ใช่ เพราะไตรทศ แกยังจะกล้าพูดกับฉันแบบนี้รึเปล่า ? รอให้ ฉันจัดการ ไตรทศให้เรียบร้อยก่อนเถอะ ฉันจะทำให้แกได้ เห็นถึงความเก่งกาจของฉัน !

รพีพงษ์ เบะปากเบา ๆ ก่อนจะเลิกสนใจเขา

ห่างออกไปไม่ไกลพนักงานสองคนก็ยังคงแอบดูอยู่ ใน ตอนแรกพวกเขาคิดว่า รพีพงษ์ คงต้องตายแน่ ๆ แต่กลับไม่ มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น

” นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ผู้ชายที่พาคนพวกนี้เข้ามาเมื่อรู่ ดูเหมือนจะเป็น ไตรทศไม่ใช่รึไง ”

ใช่แล้วเขานั่นแหละ คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าสองในสามราชัน ฟ้าจะอยู่กับพวกเราที่นี่ วันนี้นี่มันผิดปกติจริง ๆ อีกอย่างนาย เห็นท่าทางของเขาที่ปฏิบัติต่อ รพีพงษ์เมื่อครู่รึเปล่า เขา เรียก รพีพงษ์ว่า พี่รพี ไม่แน่ว่า รพีพงษ์ อาจจะไม่ธรรมดา อย่างที่เราคิดไว้ก็ได้นะ ”

” ฉันว่านายคิดมากเกินไปแล้วล่ะ รพีพงษ์ น่ะเขาก็แค่ขยะ ไร้ค่า ฉันเดาว่าเขาแค่ร่วมมือกับ ไตรทศชั่วคราวเท่านั้นล่ะ พอไตรทศใช้งานเขาเสร็จก็คงจะเตะเขาทิ้งไป หลังจากนั้น อินทัช ก็คงไม่ปล่อยเขาไว้อย่างแน่นอน ฉันนึกภาพที่น่าเวท นาของเขาออกเลยล่ะ ”

ที่พูดมาก็ถูก ฉันว่าสุดท้ายแล้วคนที่ชวยที่สุดคงจะเป็นรพีพงษ์ นั่นแหละ คนไร้ค่าอย่างเขาฉันแทบจะทนมองต่อ ไปไม่ไหว ”

หลังจากนั้นไม่นาน ไตรทศก็เดินกลับเข้ามา เขาจัดคน ของเขาสองสามคนให้ออกไปป้องกัน อารียาให้เธอรอได้ อย่างสบายใจมากขึ้น

พอ รพีพงษ์ เห็น ไตรทศเดินกลับเข้ามา เขาจึงเอ่ยปาก ถามขึ้นว่า ” จัดการเสร็จรึยัง ? ”

” เสร็จแล้วครับ รับประกันได้เลยว่าพี่สะใภ้จะต้อง ปลอดภัยหายห่วงแน่นอน ” ไตรทศตอบกลับ รพีพงษ์ พยักหน้ารับ ในเมื่อ อารียา ปลอดภัยดีแล้วเขา

ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีกต่อไป

คำพูดในตอนนั้นของอินทัชทำให้ รพีพงษ์ โกรธมากและ แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยอินทัช ไปง่าย ๆ แน่

” ไตรทศคุณคิดว่ามันสมควรมั้ย คุณอยู่ที่นี่แล้วเรียกขยะ แบบนั้นว่าพี่ ต้องการให้ผมรู้สึกรังเกียจรีไง คุณอยากลดตัว ลงไปอยู่ระดับเดียวกับมันแต่ผมไม่อยาก. “อินทัช เริ่ม เอ่ยปากพูด

รพีพงษ์ ตรงเข้าไปหาเขาทันทีพร้อมกับยกกำปั้นของเขา

ขึ้นมา
อินทัช เห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นด้วยความรังเกียจว่า ” แก แก %3D คิดจะทำอะไร ? แกคงไม่นึกว่า…”

พูดยังไม่ทันจบ กำปั้นของ รพีพงษ์ ก็โดนเข้าที่หน้าของอิ

นทัช อย่างจัง

อินทัช เป็นถึงหนึ่งในสามราชันฟ้าของโลกมืดแห่งเมือง

ริเวอร์ ถึงแม้ว่าเขาจะยังด้อยกว่า ไตรทศอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่

ว่าคนธรรมดาที่ไหนจะเทียบกับเขาได้

แต่เมื่อครู่นี้เขามองไม่เห็นด้วยซ้ำว่ากำปั้นของ รพีพงษ์

นั้นพุ่งออกมาได้อย่างไร

เร็วเกินไปแล้ว !

อินทัช รู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าเป็นสีดำและพร่ามัวก่อนที่เขา

จะเอนไปด้านหลัง

ลูกน้องของเขารีบเข้ามาพยุงทันที มิฉะนั้นเขาอาจจะล้ม ลงไปกองกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นมาอีกก็เป็นได้

อินทัช คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นขยะไร้ค่าอย่างที่คนอื่น พูดถึงจริงหรือ ? ทำไมหมัดของเขาถึงได้ทรงพลังมากขนาด นี้ แม้แต่หมัดของตัวเขาเองหากปล่อยออกไป ก็เกรงว่าอาจ จะไม่ได้มีพลังมากขนาดนี้ก็เป็นได้

เขากลับมายืนมั่นคงเหมือนเดิมก่อนจะถ่มน้ำลายลงไปที่ พื้น พร้อมกันตะโกนขึ้นว่า ” ไอ้บ้าเอ๊ย ฆ่ามันเดี๋ยวนี้ ! ”
คนของอินทัชรีบพุ่งเข้าหา รพีพงษ์ ทันที และคนของ ไตรทศก็พุ่งเข้าไปเช่นเดียวกัน นั่นส่งผลให้ไม่มีคนของอิน ทัชคนใดสามารถเข้าใกล้ รพีพงษ์ได้เลย

” พี่รพี ต้องการให้ผมช่วยรึเปล่า ? ” ไตรทศเอ่ยถามขึ้น

มันก็แค่สัตว์เลื้อยคลานตัวหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากฉันยัง ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณอยู่ เกรงว่าคุณคงจะเรียกผม ว่าพี่ไม่ได้แล้วล่ะ ” รพีพงษ์ ตอบ

ใบหน้าของ ไตรทศเต็มไปด้วยความชื่นชม รพีพงษ์ไม่ จำเป็นต้องเสแสร้งเขาก็มีความหล่อเหลาออกมาอย่างเป็น ธรรมชาติ

II ให้ตายเถอะอย่างแกเนี่ยนะ จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน ?

อินทัช พุ่งเข้าหา รพีพงษ์ อย่างรวดเร็วกะว่าจะเอาคืนหมัด เมื่อครูนี้

รพีพงษ์ ยกมือขึ้นและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแต่กลับให้ ความรู้สึกเชื่องช้า เช่นเดียวกับปรมาจารย์ที่ฝึกฝนศิลปะการ ต่อสู้มาเป็นเวลาหลายปีอย่างในโทรทัศน์ เขาสามารถ ควบคุมความเร็วและความแข็งแกร่งได้อย่างไร้ที่ติ

เขาคว้าหมัดของอินทัช ไว้ได้ และด้วยทักษะของเขาหมัด ของอินทัช ถูกลดแรงลงไปเกินกว่าครึ่ง ไม่มีทางที่จะพุ่ง เข้าไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
เป็นไปได้ยังไงกัน ! “อินทัช ร้องขึ้นด้วยความประหลา

ดูใจ

และอีกวินาทีต่อมา รพีพงษ์ ก็กดเขาลงกับพื้นเสียแล้ว รูปร่างของอินทัช ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่า รพีพงษ์ ถึงสอง เท่า แต่ในวินาทีที่ รพีพงษ์ หยุดหมัดของเขาไว้ได้ ทำให้เขา รู้สึกว่าร่างกายของเขามันเหมือนกับไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป

” คุณจะยอมรับผิดรียัง ? ” ใบหน้าของ รพีพงษ์ นิ่งสงบ และในน้ำเสียงของเขาก็ดูเหมือนกำลังพิจารณาอยู่

” ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นฉัน จะ.. “อินทัช พยายามขัดขืนอย่างเต็มที่แต่มันก็ไร้ประโยชน์

รพีพงษ์ ไม่ได้สนใจกลับพูดต่อว่า ” ความผิดของคุณก็คือ

การที่คุณคิดร้ายต่อผู้หญิงของผมยังไงล่ะ ”

เสียงคนร้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงของบางอย่างถูกหัก พริบ ตาเดียวแขนของอินทัช ก็ถูกรพีพงษ์ หักเสียแล้ว

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท