พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 18

บทที่ 18

บทที่ 18 น่าขำ

ข้างนอกกำแพงของวิลล่าฟ้าอนงค์ มีคนรูปร่างผอมสอง คนกำลังเดินทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่ริมกำแพง

ทั้งสองคนมองไปรอบๆ ด้วยท่าทางที่ชำนาญ ดูก็รู้ว่าเป็น โจรมืออาชีพ

พวกมันเป็นคนที่ธายุกรสั่งให้อินทัชหามาให้ ใน เมืองริ เวอร์พวกมันขึ้นชื่อเรื่องการขโมยเป็นอย่างยิ่ง

“พี่ พี่ว่าข้างในจะมีการคุ้มกันอย่างหนาแน่นไหม ถึงแม้ว่า การเข้าไปขโมยวัตถุโบราณเราจะสามารถแฝงตัวเข้าไปกับ คนที่มาร่วมงาน แต่ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ” ชายรูปร่าง ค่อนข้างเล็กเอ่ยขึ้น

“มีลางสังหรณ์ไม่ดี แกไม่ได้ยินเหรอว่านิทรรศการนี้ อารี ยาคนในตระกูลฉัตรมงคลเป็นคนรับผิดชอบ แล้วตัวของอา รียาก็คือคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวะของเมืองนี้ พวกมันจัดงานนี้ ส่ด้ มันจะเอาปัญญาที่ไหนไปเชิญคนที่เก่งๆ มาล่ะ”

“แต่ผมสงสัยว่า พวกมันคงคิดไม่ถึงว่าวัตถุโบราณจะถูก ขโมย แล้วความผิดนี้ก็จะไปตกอยู่กับรพีพงษ์ คงไม่มีใคร มาเฝ้าวัตถุโบราณให้พวกมันหรอก”

เมื่อได้ยินดังนั้น ชายคนนั้นก็พยักหน้า “ใช่ ในตระกูลฉัตรมงคลจะมีใครเก่งล่ะ ตอนนี้พวกเรากลัวแค่ลูกน้องของ

ไตรทศ ดูแล้วตระกูลฉัตรมงคลคงไม่มีปัญญาไปใช้คนของ

ไตรทศหรอก ยิ่งไปกว่านั้นไอ้สวะรพีพงษ์ก็เป็นคนรับผิดชอบ งานนี้” พวกมันไม่กังวลอีกแล้ว พวกมันแฝงตัวเข้าไปในวิลล่าฟ้า

อนงค์ แล้วเข้าไปในงาน

อารียากับรพีพงษ์กำลังทานข้าวเที่ยงอยู่ในปราสาท เขา จ้างเชฟมิชลินสามดาวชื่อดังชาวฝรั่งเศสมาปรุงอาหารให้

พวกเขา

หลังทานเข้าเสร็จ อารียาเก็บสร้อยคอหัวใจวีตัส เพราะว่า สร้อยแพงขนาดนี้เธอไม่กล้าใส่ออกไปไหนมาไหน

ถ้าหากมันหายไปก็เท่ากับเงินสี่สิบห้าล้านหายไปด้วย

อีกทั้ง รพีพงษ์กำชับไม่ให้เธอพูดอะไรออกไป อย่าให้เรื่อง นี้เล็ดลอดออกไป นี่คือวิถีของผู้มีอำนาจ

ะ ทั้งสองออกมาจากปราสาทด้วยกัน จากนั้นก็เดินไปยัง

สวนดอกไม้

จนกระทั่งตอนนี้ อารียายังคิดว่าตัวเองฝันไป

หลังจากที่ทั้งสองอยู่ที่สวนดอกไม้ไม่นาน ก็เรียกสายตาผู้

คนได้ไม่น้อย

“ดูสิ อารียาออกมาแล้ว”
“ไอ้สวะรพีพงษ์ก็ออกมาด้วย แล้วเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ ล่ะ หรือว่าเขาไม่อยากให้ใครเห็นหน้า”

“พวกเธอเห็นไหม อารียา ตาแดงเหมือนเพิ่งร้องไห้มา

เลย”

ชรินทร์ทิพย์กับธายุกรก็เดินเข้าไปหา อารียา พวกเขาสัง เกตเห็นเหมือนกับว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้มา

ชรินทร์ทิพย์ตาเป็นประกายเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง

“ผู้หญิงต่ำตมคนนี้คงจะอยากจับเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ แต่เขาคงเห็นมันเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น นี่ก็คงโดนเฉดหัวทิ้ง มาสินะ”

“ฉันก็คิดว่าเจ้าของที่นี่ตั้งใจต้อนรับเธอจะเป็นเรื่องที่ดี สุดท้ายก็เผยธาตุแท้ออกมา ดูสารรูปของมันแล้วน่าจะร้อง ให้ซะนานเชียวล่ะ” ชรินทร์ทิพย์ พูดอย่างหนักแน่น

“ที่น้องพูดก็มีเหตุผล ฉันว่าเจ้าของที่นี่คงจะเจอรพีพงษ์ มันไม่โผล่หัวมาเลย แล้วนี่มันคงทนไม่ไหวเลยโผล่หัวมา ทำลายโอกาสดีๆ ของอารียา ไม่รู้ว่าอารียาจะหย่ากับมัน ไหม” ธายุกรก็เอ่ยขึ้นมาเช่นกัน

พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้คิดไปในทางอื่นเลย คิดตามแต่ที่ตัวเอง เข้าใจเท่านั้น

อีกอย่างรพีพงษ์ก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ยังไงก็ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์

ตอนที่ อารยากินข้าวกับรพีพงษ์ ชรินทร์ทิพย์ก็พูดให้ร้าย เธอไม่น้อย

แล้วนี่มาเห็นว่าเธอเหมือนร้องไห้มา คนจำนวนมากต่าง ก็พากันคิดว่าเธอเป็นแค่ของเล่นของเจ้าของที่นี่เท่านั้น

“น่าสงสารจัง อารียาคงอยากจะจับเจ้าของที่นี่ แต่น่า เสียดายที่เธอไปแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างรพีพงษ์เสีย แล้ว”

“ได้ยินมาว่าเจ้าของที่นี่เป็นคนซื้อสร้อยคอหัวใจวีตัส ไม่รู้ ว่าเขาเอาไปให้ใครเหมือนกัน” “แต่ไม่น่าจะใช่อารียา ที่เธอร้องไห้ ไม่แน่อาจจะเป็น

เพราะอยากได้สร้อยเส้นนั้นก็ได้นะ”

ชรินทร์ทิพย์กับธายุกรเดินเข้าไปหารพีพงษ์ ชรินทร์ทิพย์ พูดด้วยท่าที่ยโส “โอ้ พี่ร้องไห้มาเหรอคะ ทำไมล่ะคะ หรือว่า เจ้าของที่นี่เขารังเกียจที่พี่แต่งงานกับรพีพงษ์ เขาเลยเฉดหัว ส่ พี่ทิ้ง”

อารียาส่งเสียงหี่ในลำคอ เธอไม่ได้สนใจคำพูดของชริน ทร์ทิพย์

ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ารพีพงษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นคิด ดัง นั่นไม่ว่าใครจะพูดดูถูกเขาอย่างไร เธอก็จะไม่น้อยใจเด็ดขาด

ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกว่าคนพวกนี้ช่างน่าขำสิ้นดี

“อารียา เธอจำเรื่องวันนี้ไว้ให้ดี เพราะไม่ใช่แค่เธอจะโดน เจ้าของที่นี่เฉดหัวทิ้งงานครั้งนี้เธอก็ไม่สามารถทำมันออก มาได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนกัน คุณปู่จะต้องเฉดหัวแกกับ ไอ้สวะนั่นออกจากตระกูลแน่นอน”

ธายุกรแสยะยิ้มแล้วปรายตามองอารียา แววตาของเขา เต็มไปด้วยความพออกพอใจ

เขาวางใจในฝีมือลูกน้องของอินทัช ในฐานะหนึ่งในสาม ราชาแถบเมืองชลาลัย ชื่อเสียงของอินทัชไม่ใช่เพียงแค่การ คุยโม้โอ้อวดอย่างแน่นอน

ขอแค่ครั้งนี้ไม่มีคนของพิชญุตม์กับไตรทศเข้ามาจุ้นจ้าน เรื่องนี้จะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน

อีกอย่างรพีพงษ์กับอารียาจะมีปัญญาเชิญคนของพิชญ ตม์กับไตรทศมาเหรอ

แน่นอนว่าไม่

ธายุกรเพิ่งพูดจบ ความโกลาหลก็ดังมาจากที่ไม่ไกลจาก

สวนดอกไม้

ทุกคนต่างพากันหันไปมองยังต้นเสียง
“รีบวิ่งเร็ว เราโดนจับได้แล้ว พวกมันเตรียมการเอาไว้ แล้ว พวกเราสู้มันไม่ได้แน่นอน”

“พี่ไหนพี่บอกว่าพวกมันจะไม่จัดคนไปเฝ้าวัตถุโบราณไง ทำไมถึงมีคนรู้ว่าเราจะมาขโมยล่ะ”

“แกถามข้า แล้วข้าจะไปถามใครล่ะ โอ๊ย พี่ เบาๆ หน่อย”

คนของไตรทศจัดการได้ด้วยความรวดเร็วโดยแทบไม่ ต้องใช้ความพยายาม พวกเขากดพวกโจรที่มาขโมยวัตถุ โบราณลงบนพื้น

ทุกคนต่างพากันมามุงดูโจรทั้งสองคนที่ถูกกดลงพื้นด้วย ท่าทางแปลกใจ “นี่คือขโมยที่ขึ้นชื่อในเมืองริเวอร์นิ ทำไมพวกมันถึง

มาอยู่ที่นี่ได้”

“ยังจะต้องพูดอะไรอีกล่ะ ก็มาขโมยวัตถุโบราณไง”

“คิดไม่ถึงว่าอารียาจะฉลาดจัดคนไปเฝ้าวัตถุโบราณพวก

ะ นั้น”

หลังจากที่คนของไตรทศ จับหัวขโมยได้แล้ว จากนั้นก็ พาพวกมันมาหารพีพงษ์กับอารียา

“พูดความจริงออกมา ถ้าแกตุกติก ฉันจะหักขาแก!” ชาย ร่างกายกำยำเอ่ยขึ้นด้วยเสียงดัง จากนั้นก็หันไปหารพีพงษ์ “พี่รพีไอ้สองคนนี่มันจะมาขโมยวัตถุโบราณ แต่ถูกพวกเราจำได้ก่อน เราจะจัดการกับมันอย่างไรดีครับ”

ชายร่างกายกำยำคนนี้มีชื่อว่า พัชรพล เขาเป็นลูกน้องมือ หนึ่งของไตรทศ อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าของคนที่ไตรทศส่งมาที่ นี่

รพีพงษ์ปรายตามองสองคนที่อยู่บนพื้น จากนั้นเขาก็หัน ไปมองธายุกร แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณเพิ่งพูด ว่างานครั้งนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ พวกมันสองคนคือคนที่คุณ ส่งมาฉันไหม”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท