บทที่ 30 คุณยังมีผมอยู่
ะ พอได้ยินคำพูดของ นภทีป์ ทั้ง ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ต่างก็ตกตะลึงขึ้นมาทันที
“อินทัช .ถูกไตรทศจัดการแล้ว ? ” ธายุกร แทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง
เป็นไปได้ยังไง เมื่อวานนี้อินทัช ยัง….” สีหน้าของ ชรินทร์ทิพย์ดูเหลือเชื่อ
จากที่เขาเห็น คนใหญ่คนโตในเมืองริเว อร์ อย่างอินทัชอยู่ดี ๆ จะมาถูกจัดการไปได้
ยังไง
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็แสดงว่าเมื่อวานนี้ อารียา ก็ยังไม่ได้ถูกอินทัช จัดการอย่างนั้น
สินะ
” ชิ พวกแกสองคนนี้มันเลวจริง ๆ คิดร้ายต่อ อารียา ยังไม่พอ ยังคิดจะบีบให้เขาหมด หนทางอีก แล้วยังกล้าวิ่งมาฟ้องฉัน อยาก ให้ฉันไล่เขาออกไปจากตระกูลฉัตรมงคล จากที่ฉันเห็นฉันคิดว่าคนที่ควรถูกไล่น่ะมัน พวกแกต่างหาก ! ” เสียงของ นภทีป์ สั่นขึ้น มาเล็กน้อย
ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์สบตากัน หลัง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปคุกเข่าข้าง ๆ นภทีป์ ทันที ” คุณปู่ครับ พวกเราสำนึกผิดแล้ว อย่าไล่
พวกเราออกไปเลยนะครับ ครั้งหน้าผมไม่
กล้าทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว ”
ใบหน้าทั้งสองเต็มไปด้วยความเสียใจ เหมือนน้ำตากำลังจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขาตอนนี้ล้วนมา ะ ะ จากตระกูลฉัตรมงคลทั้งนั้น ถ้าหากว่าพวก เขาถูกไล่ออกจากตระกูลฉัตรมงคล จริงเกรงว่าพวกเขาคงไม่อาจมีชีวิตต่อไปได้
” พวกแกมาอ้อนวอนฉันทำไม ? คนที่ถูก พวกแกทำร้ายคือฉันรีไง ? ” นภทีป์ พูดด้วย น้ำเสียงเย็นชา
ะ ทั้งสองคนเข้าใจความหมายของ นภทีป์ เป็นอย่างดี ในสถานการณ์เช่นนี้ คงมีแต่ จะต้องจำใจกัดฟันยอมรับความผิดไปก่อน
ทั้งสองหันหน้ากลับไปทาง อารียา ใน ขณะที่ยังคุกเข่าอยู่โดยที่ไม่ได้คิดเรื่องอะ ไรทั้งนั้น ในตอนแรกพวกเขาต้องการที่จะไล่ อารียา ออกไป แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ต้องมาคุกเข่าขอโทษเธอ
พี่สาว ผมสำนึกผิดแล้ว ผมยอมรับผิด ผมขอโทษ หลังจากนี้ผมไม่กล้าจะทำแบ บนี้กับพี่แล้ว พี่ให้อภัยผมเถอะ ” ธายุกร พูดขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
ชรินทร์ทิพย์พูดตาม ธายุกร ต่อสองสาม ประโยค ถึงแม้ว่าพวกเขากำลังพูดขอโทษ อยู่ แต่กลับดูไม่มีความจริงใจเลยแม้แต่ นอย
อารียา รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อเธอเห็นทั้งคู่ กกำลังคุกเข่าให้เธอ
ไม่ว่าพวกเขาจะจริงใจหรือไม่ แต่ผลลัพธ์ ในครั้งนี้ก็ถือว่าอารียา ชนะแล้ว
เมื่อเธอมองดูคนทั้งคู่คุกเข่าขอความ เมตตาจากเธออยู่ที่พื้น ใจเธอก็รู้สึกสดชื่น ขึ้นมามาก
” อารียา พวกเขาสองคนลุ่มหลงต่อสิ่งไม่ ดีไปชั่วขณะ ดังนั้นพวกเขาถึงได้ทำสิ่งที่ผิด พลาดไป พวกเขาคุกเข่าขอโทษคุณแล้ว คุณสามารถให้อภัยพวกเขาได้หรือไม่ พวก เขาทั้งคู่ล้วนเป็นสมาชิกในตระกูลฉัตรมงคลอย่าทำให้มันวุ่นวายไปมากกว่านี้ เลย ” นภที่ป์ ช่วยพูดให้กับ ธายุกรและ ชริน ทร์ทิพย์
พอเห็น นภทีป์ แค่ให้พวกเขาคุกเข่า ขอโทษเธอ ก็จะให้เธอให้อภัยพวกเขาแล้ว ในใจเธอก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที
อีกอย่างถ้าหาก ธายุกร ทำแผนของเขา สำเร็จละก็ ชีวิตของเธอก็อาจจะถูกทำลาย ไปแล้วก็ได้
การลงโทษ ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์แบ บนี้ถึงว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ
” คุณปู่ท่ำแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะคะ ” 11 อารียา พูดขึ้นพร้อมกับเม้มริมฝีปากของเธอ นภทีปัถอนหายใจแล้วพูดว่า ” อารียา
คุณต้องเข้าใจความลำบากใจของปู่ด้วยนะธายุ เป็นหลานชายคนโตของตระกูลฉัตร มงคล เขาจะต้องสืบทอดทรัพย์สินของ ตระกูลฉัตรมงคล ในอนาคต ปู่ไม่สามารถ จะขับไล่เขาออกจากตระกูลได้จริง ๆ ”
” ส่วนเจน เธอคือคนที่ถูกเพื่อนคนหนึ่ง ของ ธายุถูกใจ ฉันได้ตรวจสอบแล้วว่าวัตถุ โบราณคราวที่แล้ว น่าจะส่งมาจากตระกูล ลัดดาวัลย์ แห่ง เกียวโต ”
” ตระกูลลัดดาวัลย์ แห่ง เกียวโตเป็นถึง ตระกูลชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่ ตระกูลฉัตรมงคล อย่างเราเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็เหมือนมดตัว หนึ่งเท่านั้น ถ้าพวกเขาถูกใจเจน ละก็ ถ้า มีอะไรผิดพลาดขึ้นมา มันจะเป็นอันตรายต่อ ตระกูลของเราในอนาคตอย่างแน่นอน ”
เมื่อ ชรินทร์ทิพย์ได้ยินคำพูดของ นภทีป์ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นทันที แล้วเธอก็พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ” คุณปู่คะ คนที่ให้ วัตถุโบราณนั่นมา เป็นตระกูลลัดดาวัลย์ แห่ง เกียวโต จริงเหรอคะ ? ”
” เงียบปาก ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะ พูด ” นภที่ ป์ ตะคอกขึ้น
รีบเก็บปากเก็บคำทันที แต่ในใจกลับรู้สึก ยินดีเป็นอย่างมาก ถ้าหากคนที่ชอบเธอเป็น ตระกูลลัดดาวัลย์ แห่ง เกียวโต จริง นภทีป์ ก็คงไม่มีทางไล่เธอออกจากตระกูลได้
” ที่ฉันทำอยู่ก็เพื่อเธอทั้งนั้นอย่าทำให้ ส่งนันนะ เรื่องมันวุ่นวายเลย ถ้าตระกูลลัดดาวัลย์จะ ขอเจน แต่งงานจริง ๆ มันก็เป็นผลดีต่อเธอ ด้วยนะ” นภทีป์ พูดต่อ
” ชิถ้าในอนาคตฉันได้แต่งงานกับตระกูล ลัดดาวัลย์ผลดีสักนิดฉันก็จะไม่แบ่งให้เธอ” ชรินทร์ทิพย์พีมพำในใจ
%3D ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่มีวันขอเธอแต่ งงานหรอก ” ในตอนนี้ รพีพงษ์ พูดขึ้นมา หนึ่งประโยค
นภทีป์ ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขึ้นอย่างเย็น ชา ” ยังไม่ถึงเวลาที่คุณจะพูด ถ้าพูดขึ้นมา อีกคำ ก็ไสหัวออกไปเลย ”
รพีพงษ์ เบะปาก ไม่ว่าตระกูลลัดดาวัลย์ กำลังจะทำอะไร ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะชอบผู้ หญิงอย่างชรินทร์ทิพย์เขาก็แค่พูดความจริง ออกมาเท่านั้น
ชรินทร์ทิพย์มองไปที่ รพีพงษ์อย่างเชือด เฉือน เธอรู้สึกว่าที่ รพีพงษ์ พูดแบบนี้เพราะ เขาอิจฉาเธอ
แค่เพราะตอนนี้เธอตกอยู่ในสถานกา รณ์ที่เลวร้าย เธอจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
” ถ้าจะเป็นแบบนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับการ ตัดสินใจของคุณปู่ล่ะค่ะ ” อารียา ถอนหาย ใจออกมาอย่างไรก็ตามสถานะของเธอ ในตระกูลฉัตรมงคล ก็ไม่ได้ดีไปกว่า ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์
” ฉันจะให้ ธายุกร ลงไปทางใต้ไปฝึกกับ อาสามสักช่วงหนึ่ง พวกเธอน่าจะรู้ดีว่านิสัย เหน่ง ของอาสามเป็นยังไง เท่านี้ก็นับเป็นการลง โทษเขาแล้ว ” นภทีป์ พูด ขึ้น %3D
ใบหน้าของ ธายุกร ห่อเที่ยวลงทันที แน่ นอนว่าเขารู้ดีว่านิสัยของอาสามเป็นยังไง ถ้าเขาไปจริง ๆ ละก็ไม่แน่ว่าอาจจะถูกทุบ ตีทุกวันก็เป็นได้แต่นี่ถือเป็นการตัดสินใจ ของ นภทีป์และเขาก็ไม่กล้าที่จะคัดค้าน
” ส่วน ชรินทร์ทิพย์จะต้องถูกกักบริเวณ อยู่ที่บ้านเป็นเวลาสามเดือน ให้เธอตั้งใจเรียนรู้ซะบ้างว่าอะไรคือการมีการศึกษา ถ้าหากไม่ได้รับการอนุญาตจากฉัน ห้าม ออกไปไหนเด็ดขาด ”
ชรินทร์ทิพย์ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่เต็มใจอยู่ บ้าง แต่ถ้าให้พูดอีกที นี่ก็ถือว่าเป็นบท ลงโทษที่เบาที่สุดแล้ว
” และสำหรับอารียา ฉันจะให้เงินเดือน เธอเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า เลื่อนตำแหน่งอีก หนึ่งตำแหน่ง นับว่าเป็นการชดใช้ให้เธอ
พอแล้วนะ”
ค่ะ คุณปู่ ” อารียา ไม่มีทางเลือกจึงได้ แต่ยอมรับมันไป
หลังจากพูดจบ นภทีป์ ก็จ้องเขม่นไปที่ ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์หนึ่งที่ ก่อนจะเดิน กลับขึ้นชั้นบนไป
ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ลุกขึ้นยืน จากนั้ นก็มองไปที่ อารียา ด้วยความยินดี
” ต่อให้เธอจะเอาหลักฐานของพวกฉัน ไปได้แล้วยังไง ในตระกูลฉัตรมงคล เธอ อย่าคิดเลยว่าจะเอาชนะฉันได้ ” ธายุกร พูดขึ้นมาอย่างได้ใจ
“ชิฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ลองจินต อาการถึงฉันที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลลัด ดาวัลย์ แห่งเกียวโต ดูสิ และหลังจากนี้อาจ จะได้เป็นนายใหญ่แห่งตระกูลลัดดาวัลย์ ในอนาคตฉันรู้สึกดีกว่าเธอเยอะเลย” ชรินทร์ทิพย์ก็พูดขึ้นมาอย่างได้ใจอีกเช่นกัน
อารียา ไม่อยากเห็นหน้าสองคนนี้อีกแล้ว เธอจึงหันหลังกลับแล้วเดินออกไป
รพีพงษ์รีบเดินตามเธอออกไปอย่าง รวดเร็ว พอถึงด้านนอก อารียา ก็หยุดเดินพร้อมกับทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
” พวกเขาพูดถูก ในตระกูลฉัตรมงคล ไม่มีทางที่ฉันจะเอาชนะพวกเขาได้” อารียา พูดขึ้นพร้อมกับร้องไห้ออกมา
ถ้าอย่างนั้นเราก็จะเป็นศัตรูกับตระกูล ฉัตรมงคล ถ้าเราไม่ต้องพึ่งพาตระกูลฉัตร มงคลเราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา ” รพี พงษ์ พูดขึ้นเบา ๆ
อารียา เงยหน้าขึ้นมอง รพีพงษ์ก่อนจะ พูดว่า ” เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าฉันเป็นศัตรู กับตระกูลฉัตรมงคล จริง ๆ ชีวิตฉันก็คง จะไม่เหลืออะไรเลย ”
” คุณยังมีผมอยู่ ” รพีพงษ์ พูดขึ้นมาอย่าง เด็ดเดี่ยว
อารียา ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ ในตอนนี้เองที่ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกได้จริง ๆ ว่า รพีพงษ์ เพียงคนเดียวก็สามารถต่อต้านต้น ทุนของชีวิตเธอที่มีตระกูลฉัตรมงคล ได้
ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่า รพีพงษ์ แค่พูดไปเฉย ๆ แต่แค่เขาพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ทำให้ เธอมีความสุขมากพอแล้ว
เธอลุกขึ้นจากพื้น นวดที่ดวงตาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า ” ฉันไม่เป็นไรแล้ว เรากลับ กันเถอะ ”
รพีพงษ์ พยักหน้ารับพร้อมกับเดินออก
ไปพร้อมเธอ
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ เขาก็พร้อมที่ จะยืนอยู่ข้างกาย อารียา เสมอ ต่อให้จะต้อง เป็นศัตรูกับทั้งโลกก็ตาม !