พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 32

บทที่ 32

บทที่ 32 ฝีมือการนวดของรพีพงษ์

อารียาจ้องไปที่หน้าของรพีพงษ์อย่างไม่เชื่อใจนัก มักจะ คิดว่ารพีพงษ์คอยจะแกล้งเธออยู่เรื่อย

“นายนวดเป็นหรอ ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อน” อารียา

เอ่ยปากถาม

“ฉันเรียนตอนว่างๆนะ เมื่อก่อนเธอไม่มองฉันด้วยซ้ำไป ถึงฉันจะเป็น ก็ไม่มีโอกาสบอกให้เธอรู้หรอก” รพีพงษ์พูด อย่างชื่อๆ

อารียาคิดไปคิดมาก็จริง จนถึงตอนนี้ เธอเองก็ไม่รู้ด้วย ซ้ำว่ารพีพงษ์ทำอะไรได้บ้าง

เมื่อก่อนทุกคนต่างก็ว่ารพีพงษ์ไร้ประโยชน์ ถึงเธอจะไม่ ได้คิดอย่างนั้น เวลาผ่านไป ก็คงจะรู้สึกเหมือนๆกัน ว่ารพี พงษ์ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง

“ถ้าเธอกลัวฉันทำมิดีมิร้ายกับเธอล่ะก็ อย่างนั้นช่างมัน เธอนอนเถอะ” รพีพงษ์เอ่ยปาก

“เดี๋ยว” อารียารีบพูด

เธอคิด ถ้ารพีพงษ์อยากจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆล่ะก็ คงจะ ทำไปตั้งนานแล้ว ในเมื่อเขาพูดเองว่านวดเป็น ลองสัก หน่อยก็ไม่เสียหายนี่นา อีกอย่างหลายวันมานี้เธอก็เหนื่อย มากจริงๆ

รพีพงษ์ได้ยินเสียงเรียกของอารียาให้เขารอก่อน ในใจก็ แอบยิ้ม ขอแค่ปลาติดเบ็ดยังไงก็หนีออกจากมือเขาไม่พ้น

เขาไม่ได้อยากจะฉวยโอกาสตอนนวดทำมิดีมิร้ายกับ อารียาเลยสักนิด เขายังไม่ถึงขั้นหื่นกระหายขนาดนั้น
เขาคิดแบบนี้ ก็เพราะว่ามั่นใจในฝีมือการนวดของตัวเอง มาก เขาเชื่อว่าถ้าอารียาแค่ได้ลองสักครั้ง อีกหน่อยจะต้อง ตกหลุมรักความรู้สึกนี้อย่างแน่นอน

เพียงแค่อารียาถอนตัวออกจากการนวดของเขาไม่ได้ แล้วล่ะก็ ในอนาคตถ้าคนสองคนอยากที่จะเขยิบเข้าไปอีก สักขั้น ก็ใกล้เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น

“อย่างนั้นนายก็ลองดู ถ้าดีฉันก็ว่าดี แต่ถ้ามือนายไปแตะ โดนส่วนที่ไม่ควรแตะล่ะก็ ฉันก็…ฉันก็จะตั้งตัวเป็นศัตรู กับนาย” อารียาอยากจะทำท่าทางให้ดูน่ากลัวสักหน่อย แต่ ก็พูดออกไปได้แค่ตั้งตัวเป็นศัตรู

รพีพงษ์รู้สึกว่าอารียาน่ารักสุดๆ ตัวเองได้มีภรรยาที่น่า รักขนาดนี้ เขานี่มันจะโชคดีเกินไปแล้ว

อารียานอนลงบนเตียง รอรพีพงษ์เข้ามานวดให้เธอด้วย ใจที่ยุ่งเหยิงปั่นป่วน

รพีพงษ์มองท่าทางของอารียาแล้ว ก็พูดขึ้น “ยื่นมือมาให้ ฉัน ผ่อนคลายร่างกาย ตอนแรกๆอาจจะเจ็บนิดหน่อยนะ”

อารียายื่นมือสองข้างของตัวเองให้รพีพงษ์ หลังจากที่รพี พงษ์จับมือเธอไว้ มือข้างหนึ่งก็นวดลงบนเอวของอารียา มือ อีกข้างหนึ่งดึงข้อมือของเธอไว้

นวดสุดแรงที่มี แกร็ก!

โอ้ย!

อารียาทนไม่ไหว ร้องออกมา ตอนแรกเธอรู้สึกเจ็บจริงๆ แต่ผ่านไปสักพัก….กลับรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก

อีตาหมอนี้ .. เก็มีดีเหมือนกันนี่นา

“เป็นยังไง แรงประมาณนี้ทนไหวไหม” รพีพงษ์ถามยิ้มๆ
อารียาพยักหน้าขึ้นลง ทั่วทั้งตัวรู้สึกผ่อนคลายไปหมด ยอมให้รพีพงษ์นวดตามสบาย

รพีพงษ์เห็นอารียาเริ่มผ่อนคลาย ก็เริ่มแสดงฝีมือจริงๆ ออกมา โชว์ทักษะการนวดทั้งหมดที่เคยเรียนออกมาใช้ อย่างเต็มที่

อารียารู้สึกเพียงแต่ว่า ร่างกายตัวเองอ่อนปวกเปียก ความปวดเมื่อยทั้งหมดจากการทำงานกลับหายไปได้อย่าง ไม่น่าเชื่อ สิ่งที่เข้ามาแทนที่ก็คือความสบายเนื้อสบายตัว

เนื่องจากรู้สึกสบายมาก สบายมากซะจนอารียาส่งเสียง ร้องแปลกๆออกมา..

“ฝีมือการนวดของนายสุดยอดขนาดนี้ ทำไมเมื่อก่อนถึง ไม่เคยพูดสักคำเลยล่ะ ฉันว่าระดับนายเนี่ย เปิดร้านนวด เล็กๆเป็นของตัวเองได้สบายๆเลยนะ แถมลูกค้าต้องติด ตรีมแน่นอน” อารียาไม่วายพูดชม

รพีพงษ์ยิ้มกว้าง พลางตอบกลับ “ฝีมือการนวดของฉันน่ะ มีไว้ใช้กับเธอคนเดียวเท่านั้น”

อยู่ๆอารียาก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกหยอดขึ้นมา เธอไม่ได้ รู้สึกว่ารพีพงษ์กำลังทำเป็นปากหวานสักนิด แต่เพียงแค่ว่า ฝีมือการนวดของรพีพงษ์มันจะสุดยอดเกินไปแล้วจริงๆ

ถูกนวดกดจุดเบาๆแบบนี้ เธอรู้สึกอย่างกับจะได้ขึ้น สวรรค์ยังไงอย่างอย่างนั้น

“จริงๆแล้ว ฉันก็ยังมีเทคนิคอื่นอีกเยอะนะ ถ้าเธออยากรู้ ล่ะก็ ฉันจะแสดงให้เธอดู ให้เธอคนเดียวเท่านั้น”

ก่อนหน้ารพีพงษ์มักจะไม่แสดงออกมากนัก มีเพียงแต่ต่อ หน้าผู้หญิงที่เขารักเท่านั้น ถึงจะกล้าป่าวประกาศออกมา สักครั้ง
แต่อารียากลับเงียบไม่ตอบเขา เขามองไปทางใบหน้า น้อยๆของอารียา พบว่าอารียาผล็อยหลับไปซะแล้ว รพีพงษ์อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พลางคลุมผ้าห่มให้อารี

ยา

เขาจ้องมองร่างบางของอารียาที่กำลังหลับปุ๋ย พูดความ จริง ถ้าให้บอกว่าไม่อยากที่จะสัมผัส แน่นอนว่าโกหก แต่ รพีพงษ์ก็ไม่อยากที่จะฉวยโอกาสกับเธอ

ถึงอยากจะสัมผัสเนื้อตัวเธอมากแค่ไหน เขาก็ยอมรอที่ จะสัมผัสเนื้อตัวเธอตอนที่เธอมีสติครบถ้วนเท่านั้น

ไม่ได้คิดอะไรมากมาย รพีพงษ์ปูฟูกที่พื้น ก่อนจะทิ้งตัว นอนแล้วหลับไป

เช้าวันต่อมา อารียาตื่นนอน บิดขี้เกียจไปมา รู้สึกสบาย ตัวอย่างบอกไม่ถูก

“ฝีมือการนวดของหมอนี่ ต้องยอมรับว่าสุดยอดจริงๆ ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนนะ” อารียาพูดออกมาอย่างพึง พอใจ

“เมื่อคืน เหมือนเขาพูดว่ามีเทคนิคที่จะใช้กับฉันแค่คน เดียวใช่ไหมนะ คิดไปคิดมา ก็ดีเหมือนกัน”

บนใบหน้าของอารียามีรอยยิ้มหวานๆออกมา นี่เป็นครั้ง แรกตั้งแต่แต่งงานมาที่เธอได้ยิ้มออกมาแบบนี้

วันนี้เป็นวันหยุด อารียาไม่ต้องไปทำงาน อาจจะเป็น เพราะการนวดของรพีพงษ์เมื่อวาน เลยทำให้วันนี้เธอ อารมณ์ดี ยอมออกไปซื้อเครปเป็นเพื่อนรพีพงษ์โดยเฉพาะ

หลังจากที่คนสองคนถึงหน้าร้านขายเครป รพีพงษ์ กวาดตามองผู้ชายวัยกลางคนตรงหน้าแวบหนึ่ง ก่อนจะพบว่าสีหน้าของเขาดูแปลกๆไป

“ทำไมเมื่อวานไม่มาล่ะ” รพีพงษ์ถามออกไปคำหนึ่ง

ชายวัยกลางคนหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “ผมเจอ ปัญหานิดหน่อยนะ เลยไม่ได้มาเปิดร้าน”

นัยย์ตาของเขาดูไม่สดใสอย่างที่เคย คิดๆดูแล้ว ปัญหา ที่เขาว่า คงจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

“ถ้าพี่ไม่รู้จะทำยังไง ผมอาจะช่วยพี่ได้นะ” รพีพงษ์เอ่ย “ไม่เป็นไรหรอก ผมจัดการได้ วันนี้พวกคุณดูอารมณ์ดี

ปาก

นะ เธอยอมมาเป็นเพื่อนคุณล่ะสิ” ชายวัยกลางคนพูดยิ้มๆ รพีพงษ์ยิ้มกว้างพลางพยักหน้าหงึกๆ

“ขอให้รักกันนานๆนะ” ชายวัยกลางคนยื่นเครปมาให้รพี พงษ์ ไม่วายที่จะอวยพร

รพีพงษ์พยักหน้าขอบคุณ ถือเครปในมือหมุนตัวเดินออก

มา

ถึงเขาจะรู้สึกว่าชายวัยกลางคนคนนั้นน่าจะเจอเรื่อง อะไรที่ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่ยอมพูดออกมา รพีพงษ์เองก็ ไม่รู้จะช่วยยังไง

อีกทั้งเขาก็รู้สึกว่าชายวัยกลางคนคงจะลำบากใจน่าดู ที่ ต้องมาหาวิธีจัดการปัญหาที่เจอ

“ดูเหมือนคนขายเครปคนนั้นหน้าตาหม่นหมองลงไป เยอะ เขาเจออะไรมาหรอ” อารียาถามรพีพงษ์ด้วยความ สงสัย

“ชีวิตมันไม่ง่ายนักหรอก ทุกคนต่างก็มีปัญหาของตัวเอง ที่ต้องจัดการนะ” รพีพงษ์ไม่วายที่จะพูดพร้อมถอนหายใจออกมา

อารียามองรพีพงษ์ด้วยสายตาแปลกๆ คิดไม่ถึงเลยว่าคน อย่างเขาก็ถอนหายใจเป็นเหมือนกัน

สองคนกลับถึงบ้าน ศศินัดดาเห็นในมือรพีพงษ์ถือเครปอ ยู่ ไม่พูดไม่จาอะไร ก็แย่งเครปออกไปจากมือ

“แม่ ทำอะไรของแม่ นั่นมันข้าวเช้าของรพีพงษ์นะ แม่ไม่ ได้จะทำข้าวกินเองหรือไง” อารียาพูดอย่างไม่พอใจ

“ข้าวเข้าอะไรของเขา ไม่ได้ใช้เงินของบ้านเราซื้อมาหรือ ไง อยู่ๆฉันก็ไม่อยากทำกับข้าวแล้ว ฉันจะกินไอ้นี่แหละเป็น ข้าวเช้า” ศศินัดดาพูดด้วยน้ำเสียงไร้ข้อกังขา

“แม่! “อารียาเริ่มทนไม่ไหว

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปทำข้าวเช้ากินเองละกัน อันนี้ก็ให้ แม่กินไปเถอะ”

รพีพงษ์กลับไม่ได้สนใจอะไร เดินดุ่มๆเข้าห้องครัวไปทำ กับข้าวกินเอง

ตอนสิบโมงตรง ศศินัดดากับศักดาออกไปข้างนอก เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่อารียากับรพีพงษ์อยู่บ้านกันสองคน

อยู่ดีๆก็มีเสียงกดออดที่ประตูดังขึ้น รพีพงษ์เดินไปเปิด ประตู เจอวัยรุ่นผู้หญิงรูปร่างได้สัดส่วนคนหนึ่ง แต่งตัว เซ็กซี่ ฉูดฉาด ยืนอยู่ที่ประตู

รพีพงษ์เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อน รู้ใจของอารียานั่นเอง ชื่อบุษบากร

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท