พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 70

บทที่ 70

บทที่ 70 ถ้าแพ้ก็จะล้มละลายแล้ว

เมื่อได้ยินสิ่งที่ธฤตญาณพูด รพีพงษ์ก็หัวเราะออกมา “เรื่องนี้ง่ายมาก ครั้งหน้าถ้านายไปที่กาสิโนนั่นอีกก็เรียก ฉันไปด้วย ฉันจะช่วยให้นายชนะเขา”

ธฤตญาณกับไตรทศเบิกตาโต พวกเขาดูไม่ค่อยเชื่อสัก เท่าไรนัก “พี่รพี แม้ว่ากาสิโนนั่นจะไม่ใหญ่ แต่ว่าหัวโจกของพวก

มันเรียกได้ว่าเป็นเซียนพนันเลยนะครับ ผมไปกับพี่ธฤต มาสองครั้ง เห็นความสามารถของมันมาแล้ว คนในเมืองริ เวอร์ที่พนันชนะเขามีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น พี่กับพวกเราก็ไม่ใช่ ว่าจะชนะเสมอไป” ไตรทศพูด

“ใช่ ทักษะการพนันของคนคนนั้นถือว่าสูงและฉลาดมาก แถมทักษะการคิดเลขในใจของเขานั้นน่ากลัวมาก ผมชอบ ทักษะของเขา จึงอยากใช้ความสามารถของเขา ภายภาค หน้าเมื่อคาสิโนใต้ดินได้รับการรวมเป็นหนึ่งเดียว ทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่สำคัญและต้องการคนแบบนี้มาจัดการ” ธฤต ญาณพูด

รพีพงษ์มองทั้งสองคนอย่างพูดอะไรไม่ออก “พูดตรงๆ แบบไม่ปิดบังเลยนะ ทักษะการพนันของฉันก็ไม่น่าจะแย่ กว่าคนๆ นั้นเสมอไปนิ

สีหน้าของไตรทศและธฤตญาณเต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขารู้ดีว่ารพี่พงษ์เป็นคนเก่ง แต่ว่าคนคนหนึ่งจะเก่งไป เสียทุกอย่างก็ไม่น่าจะใช่ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ารพีพงษ์ กำลังคุยโอ้อวด

เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนไม่เชื่อตัวเอง รพีพงษ์ก็คร้านจะอธิบาย จึงพูดตรงๆ ออกไปว่า “ครั้งหน้าถ้าจะไปที่นั่นอีก เรียกฉันไปด้วย ฉันจะเปิดหูเปิดตาพวกนายเอง”

ทั้งสองคนพยักหน้า จากนั้นก็ออกจากที่นี่

เช้าวันต่อมา เจตนิพัทธ์ไปร้านคาราโอเกะเพียงคนเดียว เขาคุยกับหมาป่าดำไว้แล้วว่าวันนี้ตอนเช้าจะมาเอาตัวของ อารียา

เมื่อวานตอนค่ำเขาโทรหาหมาป่าดำหลายสาย แต่ หมาป่าดำไม่รับสาย ทำให้เขาคิดว่าหมาป่าดำกำลังเข้า ด้ายเข้าเข็มกับอารียาเลยไม่มีเวลามาสนใจเขา

แม้จะคิดถึงภาพที่อารียาอยู่ใต้ร่างหมาป่าดำก็รู้สึก หงุดหงิด แต่ว่าหลังจากนี้อารียาก็จะเป็นของเขา เขาก็ไม่ สนใจอะไรแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เมื่อเขาเข้ามาในร้าน คาราโอเกะ กลับไม่เห็นหมาป่าดำ

เขาไปหาผู้จัดการร้านคาราโอเกะ แล้วซักถามเรื่องราว จากนั้นเขาก็ตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที

“ว่าไงนะ! เมื่อวานหมาป่าดำถูกทำให้หายไปงั้นเหรอ” เจตนิพัทธ์พูดด้วยความตกใจ

“เบาๆ หน่อยสิ เรื่องนี้พูดได้งั้นเหรอ” ผู้จัดการจ้องเขา

เขม็ง

“ใครเป็นคนทำ” เจตนิพัทธ์ถามขึ้น

“เรื่องนี้นายไม่ต้องถามแล้ว อีกอย่างตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ในเมืองริเวอร์ไม่มีคนชื่อหมาป่าดำอีกต่อไปแล้ว” ผู้จัดการ พูดจบก็ไม่สนใจเจตนิพัทธ์อีก

เจตนิพัทธ์กลืนน้ำลายลงคอ เขาคิดในใจว่ารพีพงษ์กับอารียายังโชคดี เดิมทีเรื่องมันจะสำเร็จแล้วแท้ๆ คิดไม่ถึง จริงๆ ว่าหมาป่าดำจะโชคร้าย

เขาไม่คิดว่าหมาป่าดำจะโดนรพีพงษ์ท่ำร้าย แต่คิดว่า เป็นศัตรูคนอื่นของหมาป่าดำ

“ให้ตายเถอะ รพีพงษ์มันโชคดีอะไรนัก คงจะต้องปล่อย มันไปก่อน ช่วงนี้ที่บริษัทมีโครงการที่ต้องสะสางให้ เรียบร้อย แล้วค่อยมาจัดการกับมันทีหลัง”

เจตนิพัทธ์ไม่ได้คิดอะไรมากมาย และไม่สนจุดจบของ หมาป่าดำอีกด้วย หนำซ้ำเขากับหมาป่าดำก็ไม่ได้มีสัมพันธ์ อะไรกัน ก็แค่ร่วมมือกันแบบกะทันหันเท่านั้นเอง

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อวานถ้าหมาป่าดำไม่มีโอกาสให้เขา ออกมา จุดจบของเขาก็คงไม่ต่างกับหมาป่าดำ

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ธฤตญาณส่งข้อความมาหารพีพงษ์ ว่า “คืนนี้จะไปกาสิโน จะลองเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ายังไม่ สำเร็จ ผมจะไม่สนกับเขาอีก”

หลังจากที่รพีพงษ์ได้รับข้อความ ก็มองอารียาที่อยู่ข้างๆ ทันที เขาถามอย่างระแวดระวัง “เอ่อ คืนนี้ผมจะไปธุระกับ เพื่อน อาจจะกลับค่ำสักหน่อย คุณให้ไปไหม”

อารียาอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “นายมีธุระ อะไรก็ไปทำสิ ทำไมต้องถามฉันล่ะ”

“คุณเป็นภรรยาผมนิ แน่นอนว่าต้องขออนุญาตคุณก่อน” รพีพงษ์พูดขึ้น

“นายไปเถอะ” อารียาตอบ ไม่รู้ทำไม จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าไม่

ค่อยดี
เมื่อก่อนเธอกับรพีพงษ์ไม่กาวก่ายเรื่องของกันและกัน รพิพงษ์จะทำอะไร เธอก็ไม่เคยถามอะไรมากมาย

แต่ว่าครั้งนี้ จู่ๆ เธอก็อยากรู้ว่ารพีพงษ์จะไปทาอะไร ไป ธุระกับเพื่อนตอนค่ำงั้นเหรอ รพีพงษ์ไม่ได้ทำงานอะไร จะมี ธุระได้อย่างไรกัน

เขาคงไม่ได้จะไปในที่แบบนั้นใช่ไหม ทันใดนั้นอารียาก็มี ความคิดที่ใจกล้าขึ้นมา

ก่อนหน้านี้เธอเคยได้ยินบุษบากรพูดว่าผู้ชายทั่วไปเมื่อ พูดว่าจะออกไปข้างนอก แล้วไม่บอกว่าจะไปทำอะไร มี ความเป็นไปได้สูงว่าจะไปหาอะไรเจริญหูเจริญตา

หรือรพีพงษ์จะออกไปหาอะไรเจริญหูเจริญตา ทันใดนั้น อารียาก็ตระหนักได้ว่าเธอกับรพีพงษ์ก็แต่งงานกันมาสอง สามปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยให้เขาแตะต้องตัวเธอเลย

ไม่ว่าอย่างไรรพีพงษ์ก็เป็นผู้ชาย การที่เธอไม่ให้เขาแตะ ต้องตัว เขาก็ต้องไปหาที่ระบาย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ อารียาก็ยิ่งรู้สึกว่าคืนนี้รพีพงษ์จะไปในที่ แบบนั้น

เธอกัดปากตัวเอง แล้วก็กำมือทั้งสองข้างแน่น ดูแล้ว

เหมือนจะโกรธ

แต่ว่าจะโทษเขาก็ไม่ได้ อีกอย่างเธอเองที่ไม่ยอมให้เขา แตะต้องตัว แต่ทำไมเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอถึงรู้สึกลำบากใจ กันนะ

“ต่อจากนี้ถ้านายอยากไปก็ไปเถอะ ฉันจะไม่ก้าวก่าย เรื่องของนาย” จู่ๆ อารียาก็พูดขึ้นมา เธอลุกขึ้นมาด้วย สีหน้าน้อยใจ หลังจากนั้นก็เดินกลับห้องไป
รพีพงษ์มีสีหน้ามึนงง ไม่รู้ว่าอารียาเป็นอะไรไป เมื่อครู่ยัง

ดีอยู่เลย ทำไมจู่ๆ ก็ทำเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรอย่างนั้น

เขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย เข้าใจว่าอารียาคิดถึงเรื่องที่ ทำให้ไม่สบายใจ

ช่วงค่ำเวลาสองทุ่ม รพีพงษ์ออกมาจากบ้าน ตอนที่ออก จากบ้านอารียายังออกมาหาเขา มันทำให้เขาประหลาดใจ มาก

ไตรทศและธฤตญาณมารอเขาอยู่ใกล้ๆ กาสิโน เมื่อเขา ออกมาจากบ้านก็รีบเรียกแท็กซี่ทันที

ไม่นาน เขาก็มาถึงที่หมาย ไตรทศและธฤตญาณเดินมา หาเขา ทั้งสามคนเดินไปยังร้านวิดีโอเกมที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อเข้ามาข้างในร้าน ไตรทศพาทั้งสองคนขึ้นไปบนชั้น สองของตึก มีคนยืนเฝ้าอยู่ตรงประตูหน้าบันได เดิมที่เขา

กะจะกันทั้งสามคนเอาไว้ แต่เมื่อเห็นว่าไตรทศเป็นคนพา

พวกเขามา ก็ตกใจจนรีบหลีกทางให้ทันที

กาสิโนใต้ดินที่ธฤตญาณพูดถึงอยู่ที่ชั้นสองของร้าน วิดีโอเกมแห่งนี้ คนทั่วไปที่อยากเข้าไปจำเป็นต้องให้คนที่ รู้จักพาเข้าไป แต่คนที่มีชื่อเสียงอย่างไตรทศก็ไม่จำเป็น

อีกอย่างใครๆ ก็รู้ว่าขอแค่ไตรทศคิด เขาก็สามารถ ทำลายที่นี่ได้ทุกเวลา

พื้นที่บนชั้นสองถือว่าไม่ใหญ่มาก เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มี อย่างครบครัน ทุกคนต่างพากันรุมล้อมอยู่ที่นี่ ในมือก็ถือ กองชิปกาสิโน พูดโหวกเหวกโวยวาย ดูๆ ไปแล้วมันช่าง คึกคักเหลือเกิน

ไตรทศเดินไปยังจุดแลกชิป แล้วพูดกับคนที่อยู่ข้างใน”ผมอยากเจอเจ้านายของพวกคุณ ให้เขาออกมาหน่อย” คนที่อยู่ข้างในมองพวกเขาทั้งสามคนแล้วพูดว่า “ขอโทษ ด้วย วันนี้เจ้านายของพวกเราไม่พบแขก”

“บอกว่าไตรทศมาหาเขา” ไตรทศจ้องเขาแล้วพูดออกมา ราวกับจะทุบทำลายที่นี่ได้ตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้น คนคนนั้นตกใจกลัว แล้วรีบเข้าไปข้างในทันที

ไม่นาน คนนั้นก็เดินออกมา เขามองทั้งสามคนอย่างระ แวดระวัง “เจ้านายของเราบอกว่า ก่อนหน้านี้พวกคุณสอง คนเข้าพบเขาแบบฟรีๆ มาสองครั้งแล้ว ครั้งนี้ถ้าอยากจะ พบเขาต้องจ่ายค่าเข้าพบห้าแสน ไม่งั้นก็ชนะการพนันใน กาสิโนของเราห้าแสน ถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายของเราก็จะ ไม่พบพวกคุณ”

“อะไรนะ!” ไตรทศเบิกตาโต เขาเข้าไปบีบคอคนๆ นั้น ทันที

“พะ พี่ ถึงพี่ลงมือ เจ้านายของเราก็ไม่ออกมาเจอพี่หรอก นี่คือชิปหนึ่งหมื่น ขอแค่พวกคุณใช้ชิปนี้ชนะพนันห้าแสน เจ้านายของเราก็จะออกมา” เขาพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว

รพีพงษ์ส่งสายตาให้ไตรทศเพื่อเป็นสัญญาณให้เขา ปล่อยมือ ไตรทศปล่อยมือ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความ ไม่พอใจ

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ทำตามระเบียบที่เจ้านายเขาว่าไว้ ใช้ ชิปพวกนี้หาเงินให้ได้ห้าแสน” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดออกมา “พี่รพี พี่บ้าไปแล้วเหรอ หมื่นเดียวจะชนะห้าแสนได้ยังไง มันยากเกินไป ไม่แน่พวกเราอาจจะแพ้หมิ่นนี่ก็ได้” ไตรทศ

พูด
“ใช่ ถึงพวกเราสามคนจะชนะได้ห้าแสน ก็คงจะผ่านพ้น คืนนี้ไปแล้ว” ธฤตญาณพูด

รพีพงษ์เหลือบมองทั้งสองคนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว พวกเราแยกกันไป มาดูกันว่า สุดท้ายแล้วใครจะชนะได้เยอะที่สุด”

พูดจบ รพีพงษ์ก็หยิบชิปราคาสิบหยวนออกมาหนึ่งอัน จากนั้นก็เดินออกไป

“พี่รพี พี่บ้าไปแล้ว นั่นมันมีค่าแค่สิบหยวน” ไตรทศ ตะโกนพูดออกไป

ธฤตญาณส่ายหัว แล้วพูดว่า “เขาน่าจะดูทีวีมากไป เรา

มาคิดวิธีหาเงินเถอะ เดี๋ยวเขาแพ้เขาก็กลับมาหาพวกเรา” พูดพลางทั้งสองก็ต่างนั่งลงบนโต๊ะ และเริ่มหาเงิน คนเมื่อครู่แสยะยิ้มให้ทั้งสามคนแล้วพูดขึ้นมาว่า “น่า

ตลกสิ้นดี ถ้าพวกนายสามารถใช้หนึ่งหมื่นเพื่อเอาเงินห้า แสนมาได้ งั้นพวกเราก็ไม่ต้องเปิดกาสิโนแล้ว ไร้เดียงสา จริงๆ ที่นี่เป็นกาสิโนของเซียนพนันเชียวนะ”

เขาหมุนตัวเดินเข้าไปในห้อง แล้วเดินเข้าไปยืนข้างหน้า ผู้ชายร่างใหญ่ จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “เจ้านายครับ พวกมัน เอาชิปหนึ่งหมื่นไปพนันเพื่อหาเงินแล้วครับ”

ชายร่างใหญ่เงยหน้าขึ้น แล้วก็หัวเราะร่วนออกมา “ไตรทศนี่มันโง่จริงๆ ไม่ดูเลยว่าฉันทำอะไร แถมยังคิดเพ้อ เจ้อว่าจะเอาเงินหมื่นชนะเงินห้าแสนงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ”

“เจ้านายพูดถูกครับ ดูจากฝีมือของพวกมัน เดาว่าสิบ นาทีก็น่าจะแพ้แล้วครับ”

“นายบอกว่าพวกมันมากันสามคน คนที่สามคือใคร นายเคยเจอหรือเปล่า” ชายร่างใหญ่เอ่ยปากถาม

“ไม่เคยเจอครับ แต่ดูท่าแล้วเหมือนเด็กหนุ่มที่ไม่รู้เรื่อง

อะไร เจ้านายไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ” เขาตอบ ชายร่างใหญ่พยักหน้า แล้วพูดว่า “นายออกไปจับตาดู มันไว้ อีกไม่นานพวกมันน่าจะแพ้ ฉันขอนอนสักพัก ถ้าไม่มี

อะไรอย่ามารบกวนฉัน”

ชายคนนั้นรีบพยักหน้า แล้วเดินออกมาจากห้อง

ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ชายคนนั้นวิ่งเข้าไปหา ชายร่างใหญ่ที่อยู่ในห้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนก จากนั้นพูด ด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “ลูกพี่ ลูกพี่ครับ แย่แล้ว เกิดเรื่อง ใหญ่แล้ว!”

ชายร่างใหญ่ที่กำลังนอนอยู่ ตกใจตื่นเพราะเสียงของ ชายคนนั้น เขาจ้องชายที่วิ่งเข้ามาตาเขม็ง “ให้ตายเถอะแก เบาเสียงหน่อยได้ไหม โรคหัวใจฉันเกือบจะกำเริบเพราะแก มีเรื่องอะไร ไตรทศแพ้หมดตัวแล้วหรือไง อวดดีอยากมา แตะที่ของฉัน ไปบอกมันว่าถึงแม้มันจะแตะต้องที่ของฉัน ฉันก็ไม่ออกไปเจอมัน”

“ไม่ใช่ครับ คนที่ไตรทศพามาใช้เงินเพียงสิบหยวนทำ เงินห้าแสนมาได้แล้ว ถ้าพี่ไม่ออกไป กาสิโนของเราต้องล้ม ละลายแน่ๆ ครับ!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน