พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่78

บทที่78

บทที่78มีแต่อารียาเท่านั้นที่เซ็นได้

นภทีปกับชรินทร์ทิพย์ต่างมองเป็นตาเดียวกันไปทาง รพีพงษ์ สีหน้านภที่ป์บึ้งตึง ส่วนชรินทร์ทิพย์ไม่สบ อารมณ์

อารียาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะมาปรากฏกายในเวลานี้ แม้เธอจะรู้ว่ารพีพงษ์จะไม่สามารถเปลี่ยนใจนภทีป์ แต่ พอฟังคำพูดรพีพงษ์แล้ว ในใจเธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น

“สวะอย่างนายมาที่นี่ได้ไง ที่นี่เป็นสถานที่ที่นายมาได้ เหรอ”ชรินทร์ทิพย์เปิดปากพูด

“ผมมารับเมียผม”รพีพงษ์พูดเสียงเรียบ

“เชอะ”ชรินทร์ทิพย์เบ้ปาก เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์ ที่เห็นหน้ารพีพงษ์

อารียาหันหน้าไปทางรพีพงษ์ ตอนนี้น้ำตาเธอไหลเต็ม หน้าไปหมด

รพีพงษ์ยื่นมือออกไป เช็ดน้ำตาที่ขอบตา ยิ้มแล้ว “ร้องไห้ทำไม ผมไม่ให้คุณจากผมไปไหนหรอก” พูด”

เดิมทีอารียาคิดอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่พอเห็น ท่าทีแข็งกร้าวของนภทีป์ สุดท้ายจึงได้แต่ถอนหายใจ

“รพีพงษ์ แกมาพอดีเลย แกคงได้ยินที่ฉันพูดเมื่อกี้แล้ว สินะ แกไม่คู่ควรกับแคลร์ กลับไปหย่ากับแคลร์ซะ เพื่อ ชดเชย ฉันจะให้เงินแกก้อนหนึ่ง แกจะได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป นี่คือความเมตตาของฉันแล้วล่ะ”นภที่ป์ เปิดปากพูด

“ขอโทษนะครับ ผมไม่ต้องการความเมตตาของ ท่าน”รพีพงษ์ตอบ

นภทีปัถดึงตาขึ้น เปิดปากพูด”ว่าไงนะ หรือแกคิดจะ เกาะตระกูลฉัตรมงคงเราไม่ยอมไปหรือไง บอกแกให้นะ แคลร์มีตัวเลือกที่ดีกว่า ตอนที่แต่งกับแกตอนนั้นน่ะไม่มี ทางเลือก ตอนนี้เธอมีความสุขมาก แกไม่ต้องมาขัด ขวางความสุขของเธอ!

“ท่านก็แค่ต้องการร่วมมือกับกลุ่มซันบับเบิลไม่ใช่เหรอ ครับ พูดซะยิ่งใหญ่ ถ้าท่านให้อารียาแต่งกับเจตนิพัทธ์ จริงๆ ท่านกำลังทำลายความสุขของเธอครับ”รพีพงษ์ดู ท่าไม่ลดราวาศอก

สำหรับปัญหาของอารียา รพีพงษ์ไม่เคยยอมอ่อนข้อ

“แก! “นภทีปคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะพูดกับตนแบบนั้น เขาโกธรจนหน้ามืดตามัว

ชรินทร์ทิพย์จ้องรพีพงษ์เขม็ง เปิดปากพูด”นายพูดถูก แล้วล่ะ คุณปู่ทำเพื่อร่วมมือกับซันบับเบิล สำหรับตระกูล ฉัตรมงคลแล้ว โครงการนี้สำคัญมาก”

“อารียาหย่ากับแก แต่งกับเจตนิพัทธ์ ก็จะได้โครงการ นี้มา เป็นสิ่งที่เธอต้องทำเพื่อวงศ์ตระกูล ส่วนแกทำอะไร เพื่อวงศ์ตระกูลได้บ้าง แกมันก็แค่สวะคนหนึ่ง มีสิทธิอะไรเข้ามารุ่มร่าม”

“ถ้าไม่ใช่เพราะแกห่วยแตกเกินไป ไม่มีน้ำยา คุณปู่ก็ คงไม่ยกอารียาให้เจตนิพัทธ์หรอก จะพูดก็คือ สิ่งที่อารี ยาประสบ ทั้งหมดก็เพราะแกคนเดียว!

นภที่ป์เห็นด้วยกับคำพูดของชรินทร์ทิพย์ จึงกล่าวกับ รพีพงษ์ว่า”เจนพูดได้ดี แกไม่อยากให้แคลร์หย่ากับแก ก็ได้ แกก็คุยโครงการนี้ให้จบสิ แกทำได้ไหมล่ะ”

อารียาถอนหายใจ หลังจากที่เธอรู้ว่าคนที่รับผิดชอบ

โครงการนี้คือเจตนิพัทธ์ ก็รู้แน่แล้วว่ารพีพงษ์ไม่สามารถ

คุยโครงการนี้ได้สำเร็จหรอก

เธอดึงแขนรพีพงษ์ เปิดปากพูด”รพีคะ อย่าต่อกรอีก เลย คงเป็นชะตากรรมฉันเอง”

รพีพงษ์เปิดปากพูด”ผมเอาโครงการนี้มาเรียบร้อย แล้วครับ แคลร์ไม่ต้องหย่ากับผม”

พอเขาพูดแบบนี้ออกไป ทั้งสามคนในห้องโถงต่างก็ ตกตะลึง ต่างก็แสดงสายตาไม่น่า

เชื่อ

“รพีพงษ์ แกโม้ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ น้ำหน้าอย่าง แกจะคุยจบได้ไง เจตนิพัทธ์บอกฉันแล้ว มีแค่เงื่อนไข เดียวคือแกต้องหย่ากับแคลร์”ชริทร์ทิพย์ทำสีหน้าไม่ เชื่อ

“ดูท่าแกคงเป็นแค่สวะที่โม้เป็นอย่างเดียว ให้แคลร์หย่ากับแก เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้วล่ะ”นภทีป์แค่น เสียงเย็นชา

“รพีพงษ์คะ ฉันรู้ว่าคุณคิดเผื่อฉัน แต่ว่า….”อารียาเม้ม ปากพูด

รพีพงษ์หยิบหนังสือสัญญาออกมา จากนั้นวางลงตรง หน้านภทีป์ เปิดปากะพูด”หนังสือสัญญาผมเอามาแล้ว ครับ ถ้าท่านไม่เชื่อ ตรวจสอบดูได้ครับว่าเป็นจริงหรือ เท็จ”

นภทีป์สีหน้าตระหนกตกใจ รีบรับหนังสือสัญญามา มองดูอย่างละเอียด

อารียามองด้วยความเหลือเชื่อ คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะ เอาหนังสือสัญญามาได้จริงๆ

คนรับผิดชอบโครงการเป็นเจตนิพัทธ์อยู่แท้ๆ ดูความ สัมพันธ์ของเขากับรพีพงษ์แล้ว เขาคงไม่ให้หนังสือ สัญญารพีพงษ์แน่ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น

ไม่ใช่แค่อารียาเท่านั้นที่สงสัย ชรินทร์ทิพย์เองก็สงสัย เต็มประดา ยังไงเธอก็ไม่เชื่อว่ารพีพงษ์จะเอาหนังสือ สัญญาของซันบับเบิลมาได้

“คุณปู่คะ อย่าไปเชื่อสวะนี่นะคะ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะ เอาสัญญาปลอมที่ไหนมาหลอกคุณปู่ก็ได้ ช่างโง่จริง ทำสัญญาปลอมมาหลอกคุณปู่ซะได้”ชรินทร์ทิพย์กล่าว

เธอปักใจว่าหนังสือสัญญาที่รพีพงษ์เอาออกมาฉบับนี้(

คือของปลอม เจตนิพัทธ์เป็นคน

บอกเธอเองกับปาก ว่าจะต้องให้อารียาแต่งกับเขา ถึง

จะยอมเซ็น

เดิมทีนภทีปคิดว่ารพีพงษ์เอาสัญญาปลอมที่ไหนมาให้ แต่ว่าพอดูอย่างละเอียด ไม่ใช่

ของปลอม

นอกจากนี้บนสัญญายังมีลายเซ็นของท่านประธานซัน บับเบิล พร้อมตราประทับบริษัท

อันนี้ปลอมกันไม่ได้แน่

หลังจากที่ยืนยันว่าหนังสือสัญญาเป็นของจริงแล้ว แววตาของนภที่ป์ก็เป็นประกาย สองมือสั่นเทาเล็กน้อย พูดว่า”สัญญาฉบับนี้เป็นของจริง แกเอามันมาจนได้สิ”

ชรินทร์ทิพย์และอารียามองอย่างตะลึง คิดไม่ถึงว่ารพี พงษ์จะเอาหนังสือสัญญามาได้

“เป็นไปไม่ได้! เจตนิพัทธ์จะให้หนังสือสัญญากับแก

ได้ไง แกคงไม่ได้ขโมยมันมาสินะ”ชรินทร์ทิพย์ไม่อยาก

เชื่อในความจริงข้อนี้ เธอชี้ไปที่รพีพงษ์

“หนังสือสัญญาฉบับนี้เจตนิพัทธ์ไม่ได้เป็นคนให้หรอก ครับ ตอนนี้เจตนิพัทธ์ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบโครงการ แล้ว หนังสือสัญญาฉบับนี้ประธานของซันบับเบิลเป็นคน ให้ผมเอง”รพีพงษ์เอ่ยปากกล่าว
อารียาตกตะลึง ก่อนหน้านี้รพีพงษ์เคยบอกว่ามีเพื่อน อยู่ในซันบับเบิล อารียาคิดว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาใน ซันบับเบิล และไม่น่าจะช่วยอะไรได้มาก ตอนนี้จู่ๆเธอเกิดสงสัยขึ้นมาว่า เพื่อนคนนี้ที่รพีพงษ์

พูดถึง คงไม่ใช่ประธานบริหารของ

ซันบับเบิลหรอกมั้ง

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นก็น่ากลัวเกินไปหน่อยแล้ว

“คุณปู่คะ อย่าไปเชื่อคำของมันค่ะ มันโกหกแน่นอน มันไม่ได้เซ็นชื่อไว้บนหนังสือสัญญาสักหน่อยต้องขโมย มาแน่ๆ”ชรินทร์ทิพย์เถียงเอาเป็นเอาตาย

ในเวลานี้เอง เลขาส่วนตัวของนกที่ป์ก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามา รายงานนภทีป่ว่า “คุณท่านคะ เมื่อกี้ได้รับข่าว ผู้รับผิด ชอบโครงการของซันบับเบิลเปลี่ยนจากเจตนิพัทธ์เป็น กุลชาด นอกจากนี้เขายังโทรมาเป็นพิเศษว่า หวังว่าเรา จะร่วมมือกันด้วยดี”

คำพูดของเลขายืนยันว่ารพีพงษ์ไม่ได้โกหก ชรินทร์ ทิพย์หมดคำพูดอีกต่อไป

เธอแค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ โครงการกะทันหัน นอกจากนี้ซันบับ

เบิลยังยกโครงการให้สวะอย่างพีรพงษ์อีก เป็นเรื่องที่ ทำให้เธอเข้าใจได้ยาก

นกที่ป์หัวเราะขึ้นมา เปิดปากพูด”ดูท่ารพีพงษ์จะไม่ได้โกหก ครั้งนี้ฉันดูแกผิดไป แกคุยโครงการนี้มาได้ สำหรับตระกูลฉัตรมงคลของเราแล้ว เป็นผลประโยชน์ มหาศาล ในเมื่อเป็นแบบนี้ แกก็ไม่ต้องหย่ากับแคลร์แล้ว ล่ะ”

พอได้ยินคำพูดนภทีป์ อารียาถอนใจออกมาด้วยความ โล่งอก ในขณะเดียวกันก็ส่งสายตาขอบคุณไปยังรพี พงษ์

สีหน้าของชรินทร์ทิพย์ไม่สบอารมณ์ แผนการของเธอ ชวดเสียแล้ว ดูท่าคงไม่สามารถใช้วิธีนี้ กลั่นแกล้งอารี ยาเสียแล้ว

“แต่สัญญาฉบับนี้ยังไม่ได้ลงนามอีกฝ่ายนี่ ทิ้งไว้ให้ ใครเซ็นเหรอ”นภที่ ถาม

หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ได้ยิน แววตาก็เป็นประกายขึ้น มา จึงรีบพูดขึ้น:”คุณปู่คะ งั้นโครงการนี้ให้หนูรับผิด ชอบเถอะค่ะ คุณปู่อายุเยอะแล้ว รับผิดชอบงานหนัก ขนาดนี้ เสียสุขภาพเปล่า แบ่งเบาภาระให้หลานเถอะนะ คะ”

ชรินทร์ทิพย์รู้ดีว่ามีผลประโยชน์มากมายมหาศาลใน โครงการนี้ ในเมื่อรพีพงษ์เอาโครงการมาได้แล้ว เธอก็ ต้องหาทางให้โครงการมาอยู่ในมือแน่นอน

นภที่ปฟังชรินทร์ทิพย์พูด จึงพยักหน้า เปิดปาก พูด”หลานพูดได้ไม่ผิดหรอก ปู่แก่แล้ว ทำไม่ไหวจริงๆ”
ชรินทร์ทิพย์แสดงรอยยิ้มออกมา เปิดปากพูด”ในเมื่อ เป็นแบบนี้ เจนก็เซ็นโครงการนี้แทนปู่แล้วกัน”

นภทีปก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยื่นหนังสือสัญญาฉบับนั้น ให้ชรินทร์ทิพย์

ต่อให้รพีพงษ์เป็นคนนำหนังสือสัญญาฉบับนี้กลับมา แต่สำหรับนกที่ป์แล้ว รพีพงษ์ก็ยังคงเป็นคนนอก แน่นอนว่าย่อมไม่ให้รพีพงษ์เซ็นอยู่แล้ว

รพีพงษ์เห็นสถานการ์ณจึงรีบพูดขึ้น “คนของซัน

บับเบิลพูดแล้ว ว่าให้อารียาเป็นคนเซ็นหนังสือสัญญา

ฉบับนี้ ถ้าคนอื่นเซ็น เป็นโมฆะ”

อารียาถลึงตาขึ้นทันที เปิดปากถามรพีพงษ์”ทำไมถึง ให้ฉันเซ็นล่ะคะ”

รพีพงษ์ยิ้ม เปิดปากพูด”อาจจะเพราะว่าคนซันบับเบิล คิดว่าคุณไว้ใจได้”

รพีพงษ์เป็นเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังซันบับเบิล สัญญา ฉบับนี้ให้ใครเซ็น แน่นอนว่าเขาเป็นคนตัดสินใจ

หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ได้ฟังรพีพงษ์พูด อาจจะอิจฉา บ้าง แต่หนังสือสัญญาฉบับนี้มีประ

ธานซันบับเบิลเซ็นแล้ว ไม่ว่าใครเซ็น ก็ย่อมมีผล บังคับร่วมกัน คำพูดของรพีพงษ์จะ

หลอกล่อใครได้
ดังนั้นเธอจึงไม่ใส่ใจคำพูดของรพีพงษ์เท่าไหร่ หยิบ ปากกา แล้วเซ็นลงไป

“รพีพงษ์ ฉันรู้ว่านายอยากให้อารียาได้รับผล ประโยชน์ แต่หนังสือสัญญาฉบับนี้ฉันเซ็นแล้ว โครงการ นี้ฉันจะเป็นคนดูแลเอง นายจะพูดอะไรก็สายไปแล้วทั้ง นั้น”ชรินทร์ทิพย์พูดอย่างลำพองใจ

นภที่ป์รู้ดีถึงผลบังคับใช้ นอกจากว่าจะมีการเขียนระบุ ไว้ มิเช่นนั้นคำพูดเดียวของรพีพงษ์ไม่เป็นผลอะไรหรอก

“ผมบอกแล้ว ว่าสัญญาฉบับนี้แคลร์เซ็นได้คนเดียว คนอื่นเซ็น เป็นโมฆะหมด”รพีพงษ์พูดเสียงเรียบ

“นายคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง แค่คำพูดนาย นับอะไรได้บนสัญญาไม่ได้เขียนไว้ ปัญญาอ่อน จริงๆ”ชรินทร์ทิพย์เบ้ปากพูด

รพีพงษ์ยิ้ม เปิดปากพูด”งั้นเธอก็เปิดดูหน้าสุดท้ายสิ ว่าเขียนว่าอะไร”

ใจชรินทร์ทิพย์หล่นตุ๊บ เปิดดูหน้าสุดท้ายของหนังสือ สัญญา เห็นแต่ข้างบนเขียนว่า

“หนังสือสัญญาฉบับนี้ระบุให้นางสาวอารียา ฉัตรมงคลเป็นผู้รับผิดซอบโครงการเท่านั้น ผู้อื่นนอก เหนือจากนี้เซ็นให้ถือว่าเป็นโมฆะ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท