บทที่78มีแต่อารียาเท่านั้นที่เซ็นได้
นภทีปกับชรินทร์ทิพย์ต่างมองเป็นตาเดียวกันไปทาง รพีพงษ์ สีหน้านภที่ป์บึ้งตึง ส่วนชรินทร์ทิพย์ไม่สบ อารมณ์
อารียาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะมาปรากฏกายในเวลานี้ แม้เธอจะรู้ว่ารพีพงษ์จะไม่สามารถเปลี่ยนใจนภทีป์ แต่ พอฟังคำพูดรพีพงษ์แล้ว ในใจเธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น
“สวะอย่างนายมาที่นี่ได้ไง ที่นี่เป็นสถานที่ที่นายมาได้ เหรอ”ชรินทร์ทิพย์เปิดปากพูด
“ผมมารับเมียผม”รพีพงษ์พูดเสียงเรียบ
“เชอะ”ชรินทร์ทิพย์เบ้ปาก เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์ ที่เห็นหน้ารพีพงษ์
อารียาหันหน้าไปทางรพีพงษ์ ตอนนี้น้ำตาเธอไหลเต็ม หน้าไปหมด
รพีพงษ์ยื่นมือออกไป เช็ดน้ำตาที่ขอบตา ยิ้มแล้ว “ร้องไห้ทำไม ผมไม่ให้คุณจากผมไปไหนหรอก” พูด”
เดิมทีอารียาคิดอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่พอเห็น ท่าทีแข็งกร้าวของนภทีป์ สุดท้ายจึงได้แต่ถอนหายใจ
“รพีพงษ์ แกมาพอดีเลย แกคงได้ยินที่ฉันพูดเมื่อกี้แล้ว สินะ แกไม่คู่ควรกับแคลร์ กลับไปหย่ากับแคลร์ซะ เพื่อ ชดเชย ฉันจะให้เงินแกก้อนหนึ่ง แกจะได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป นี่คือความเมตตาของฉันแล้วล่ะ”นภที่ป์ เปิดปากพูด
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ต้องการความเมตตาของ ท่าน”รพีพงษ์ตอบ
นภทีปัถดึงตาขึ้น เปิดปากพูด”ว่าไงนะ หรือแกคิดจะ เกาะตระกูลฉัตรมงคงเราไม่ยอมไปหรือไง บอกแกให้นะ แคลร์มีตัวเลือกที่ดีกว่า ตอนที่แต่งกับแกตอนนั้นน่ะไม่มี ทางเลือก ตอนนี้เธอมีความสุขมาก แกไม่ต้องมาขัด ขวางความสุขของเธอ!
“ท่านก็แค่ต้องการร่วมมือกับกลุ่มซันบับเบิลไม่ใช่เหรอ ครับ พูดซะยิ่งใหญ่ ถ้าท่านให้อารียาแต่งกับเจตนิพัทธ์ จริงๆ ท่านกำลังทำลายความสุขของเธอครับ”รพีพงษ์ดู ท่าไม่ลดราวาศอก
สำหรับปัญหาของอารียา รพีพงษ์ไม่เคยยอมอ่อนข้อ
“แก! “นภทีปคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะพูดกับตนแบบนั้น เขาโกธรจนหน้ามืดตามัว
ชรินทร์ทิพย์จ้องรพีพงษ์เขม็ง เปิดปากพูด”นายพูดถูก แล้วล่ะ คุณปู่ทำเพื่อร่วมมือกับซันบับเบิล สำหรับตระกูล ฉัตรมงคลแล้ว โครงการนี้สำคัญมาก”
“อารียาหย่ากับแก แต่งกับเจตนิพัทธ์ ก็จะได้โครงการ นี้มา เป็นสิ่งที่เธอต้องทำเพื่อวงศ์ตระกูล ส่วนแกทำอะไร เพื่อวงศ์ตระกูลได้บ้าง แกมันก็แค่สวะคนหนึ่ง มีสิทธิอะไรเข้ามารุ่มร่าม”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแกห่วยแตกเกินไป ไม่มีน้ำยา คุณปู่ก็ คงไม่ยกอารียาให้เจตนิพัทธ์หรอก จะพูดก็คือ สิ่งที่อารี ยาประสบ ทั้งหมดก็เพราะแกคนเดียว!
นภที่ป์เห็นด้วยกับคำพูดของชรินทร์ทิพย์ จึงกล่าวกับ รพีพงษ์ว่า”เจนพูดได้ดี แกไม่อยากให้แคลร์หย่ากับแก ก็ได้ แกก็คุยโครงการนี้ให้จบสิ แกทำได้ไหมล่ะ”
อารียาถอนหายใจ หลังจากที่เธอรู้ว่าคนที่รับผิดชอบ
โครงการนี้คือเจตนิพัทธ์ ก็รู้แน่แล้วว่ารพีพงษ์ไม่สามารถ
คุยโครงการนี้ได้สำเร็จหรอก
เธอดึงแขนรพีพงษ์ เปิดปากพูด”รพีคะ อย่าต่อกรอีก เลย คงเป็นชะตากรรมฉันเอง”
รพีพงษ์เปิดปากพูด”ผมเอาโครงการนี้มาเรียบร้อย แล้วครับ แคลร์ไม่ต้องหย่ากับผม”
พอเขาพูดแบบนี้ออกไป ทั้งสามคนในห้องโถงต่างก็ ตกตะลึง ต่างก็แสดงสายตาไม่น่า
เชื่อ
“รพีพงษ์ แกโม้ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ น้ำหน้าอย่าง แกจะคุยจบได้ไง เจตนิพัทธ์บอกฉันแล้ว มีแค่เงื่อนไข เดียวคือแกต้องหย่ากับแคลร์”ชริทร์ทิพย์ทำสีหน้าไม่ เชื่อ
“ดูท่าแกคงเป็นแค่สวะที่โม้เป็นอย่างเดียว ให้แคลร์หย่ากับแก เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้วล่ะ”นภทีป์แค่น เสียงเย็นชา
“รพีพงษ์คะ ฉันรู้ว่าคุณคิดเผื่อฉัน แต่ว่า….”อารียาเม้ม ปากพูด
รพีพงษ์หยิบหนังสือสัญญาออกมา จากนั้นวางลงตรง หน้านภทีป์ เปิดปากะพูด”หนังสือสัญญาผมเอามาแล้ว ครับ ถ้าท่านไม่เชื่อ ตรวจสอบดูได้ครับว่าเป็นจริงหรือ เท็จ”
นภทีป์สีหน้าตระหนกตกใจ รีบรับหนังสือสัญญามา มองดูอย่างละเอียด
อารียามองด้วยความเหลือเชื่อ คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะ เอาหนังสือสัญญามาได้จริงๆ
คนรับผิดชอบโครงการเป็นเจตนิพัทธ์อยู่แท้ๆ ดูความ สัมพันธ์ของเขากับรพีพงษ์แล้ว เขาคงไม่ให้หนังสือ สัญญารพีพงษ์แน่ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
ไม่ใช่แค่อารียาเท่านั้นที่สงสัย ชรินทร์ทิพย์เองก็สงสัย เต็มประดา ยังไงเธอก็ไม่เชื่อว่ารพีพงษ์จะเอาหนังสือ สัญญาของซันบับเบิลมาได้
“คุณปู่คะ อย่าไปเชื่อสวะนี่นะคะ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะ เอาสัญญาปลอมที่ไหนมาหลอกคุณปู่ก็ได้ ช่างโง่จริง ทำสัญญาปลอมมาหลอกคุณปู่ซะได้”ชรินทร์ทิพย์กล่าว
เธอปักใจว่าหนังสือสัญญาที่รพีพงษ์เอาออกมาฉบับนี้(
คือของปลอม เจตนิพัทธ์เป็นคน
บอกเธอเองกับปาก ว่าจะต้องให้อารียาแต่งกับเขา ถึง
จะยอมเซ็น
เดิมทีนภทีปคิดว่ารพีพงษ์เอาสัญญาปลอมที่ไหนมาให้ แต่ว่าพอดูอย่างละเอียด ไม่ใช่
ของปลอม
นอกจากนี้บนสัญญายังมีลายเซ็นของท่านประธานซัน บับเบิล พร้อมตราประทับบริษัท
อันนี้ปลอมกันไม่ได้แน่
หลังจากที่ยืนยันว่าหนังสือสัญญาเป็นของจริงแล้ว แววตาของนภที่ป์ก็เป็นประกาย สองมือสั่นเทาเล็กน้อย พูดว่า”สัญญาฉบับนี้เป็นของจริง แกเอามันมาจนได้สิ”
ชรินทร์ทิพย์และอารียามองอย่างตะลึง คิดไม่ถึงว่ารพี พงษ์จะเอาหนังสือสัญญามาได้
“เป็นไปไม่ได้! เจตนิพัทธ์จะให้หนังสือสัญญากับแก
ได้ไง แกคงไม่ได้ขโมยมันมาสินะ”ชรินทร์ทิพย์ไม่อยาก
เชื่อในความจริงข้อนี้ เธอชี้ไปที่รพีพงษ์
“หนังสือสัญญาฉบับนี้เจตนิพัทธ์ไม่ได้เป็นคนให้หรอก ครับ ตอนนี้เจตนิพัทธ์ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบโครงการ แล้ว หนังสือสัญญาฉบับนี้ประธานของซันบับเบิลเป็นคน ให้ผมเอง”รพีพงษ์เอ่ยปากกล่าว
อารียาตกตะลึง ก่อนหน้านี้รพีพงษ์เคยบอกว่ามีเพื่อน อยู่ในซันบับเบิล อารียาคิดว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาใน ซันบับเบิล และไม่น่าจะช่วยอะไรได้มาก ตอนนี้จู่ๆเธอเกิดสงสัยขึ้นมาว่า เพื่อนคนนี้ที่รพีพงษ์
พูดถึง คงไม่ใช่ประธานบริหารของ
ซันบับเบิลหรอกมั้ง
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นก็น่ากลัวเกินไปหน่อยแล้ว
“คุณปู่คะ อย่าไปเชื่อคำของมันค่ะ มันโกหกแน่นอน มันไม่ได้เซ็นชื่อไว้บนหนังสือสัญญาสักหน่อยต้องขโมย มาแน่ๆ”ชรินทร์ทิพย์เถียงเอาเป็นเอาตาย
ในเวลานี้เอง เลขาส่วนตัวของนกที่ป์ก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามา รายงานนภทีป่ว่า “คุณท่านคะ เมื่อกี้ได้รับข่าว ผู้รับผิด ชอบโครงการของซันบับเบิลเปลี่ยนจากเจตนิพัทธ์เป็น กุลชาด นอกจากนี้เขายังโทรมาเป็นพิเศษว่า หวังว่าเรา จะร่วมมือกันด้วยดี”
คำพูดของเลขายืนยันว่ารพีพงษ์ไม่ได้โกหก ชรินทร์ ทิพย์หมดคำพูดอีกต่อไป
เธอแค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ โครงการกะทันหัน นอกจากนี้ซันบับ
เบิลยังยกโครงการให้สวะอย่างพีรพงษ์อีก เป็นเรื่องที่ ทำให้เธอเข้าใจได้ยาก
นกที่ป์หัวเราะขึ้นมา เปิดปากพูด”ดูท่ารพีพงษ์จะไม่ได้โกหก ครั้งนี้ฉันดูแกผิดไป แกคุยโครงการนี้มาได้ สำหรับตระกูลฉัตรมงคลของเราแล้ว เป็นผลประโยชน์ มหาศาล ในเมื่อเป็นแบบนี้ แกก็ไม่ต้องหย่ากับแคลร์แล้ว ล่ะ”
พอได้ยินคำพูดนภทีป์ อารียาถอนใจออกมาด้วยความ โล่งอก ในขณะเดียวกันก็ส่งสายตาขอบคุณไปยังรพี พงษ์
สีหน้าของชรินทร์ทิพย์ไม่สบอารมณ์ แผนการของเธอ ชวดเสียแล้ว ดูท่าคงไม่สามารถใช้วิธีนี้ กลั่นแกล้งอารี ยาเสียแล้ว
“แต่สัญญาฉบับนี้ยังไม่ได้ลงนามอีกฝ่ายนี่ ทิ้งไว้ให้ ใครเซ็นเหรอ”นภที่ ถาม
หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ได้ยิน แววตาก็เป็นประกายขึ้น มา จึงรีบพูดขึ้น:”คุณปู่คะ งั้นโครงการนี้ให้หนูรับผิด ชอบเถอะค่ะ คุณปู่อายุเยอะแล้ว รับผิดชอบงานหนัก ขนาดนี้ เสียสุขภาพเปล่า แบ่งเบาภาระให้หลานเถอะนะ คะ”
ชรินทร์ทิพย์รู้ดีว่ามีผลประโยชน์มากมายมหาศาลใน โครงการนี้ ในเมื่อรพีพงษ์เอาโครงการมาได้แล้ว เธอก็ ต้องหาทางให้โครงการมาอยู่ในมือแน่นอน
นภที่ปฟังชรินทร์ทิพย์พูด จึงพยักหน้า เปิดปาก พูด”หลานพูดได้ไม่ผิดหรอก ปู่แก่แล้ว ทำไม่ไหวจริงๆ”
ชรินทร์ทิพย์แสดงรอยยิ้มออกมา เปิดปากพูด”ในเมื่อ เป็นแบบนี้ เจนก็เซ็นโครงการนี้แทนปู่แล้วกัน”
นภทีปก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยื่นหนังสือสัญญาฉบับนั้น ให้ชรินทร์ทิพย์
ต่อให้รพีพงษ์เป็นคนนำหนังสือสัญญาฉบับนี้กลับมา แต่สำหรับนกที่ป์แล้ว รพีพงษ์ก็ยังคงเป็นคนนอก แน่นอนว่าย่อมไม่ให้รพีพงษ์เซ็นอยู่แล้ว
รพีพงษ์เห็นสถานการ์ณจึงรีบพูดขึ้น “คนของซัน
บับเบิลพูดแล้ว ว่าให้อารียาเป็นคนเซ็นหนังสือสัญญา
ฉบับนี้ ถ้าคนอื่นเซ็น เป็นโมฆะ”
อารียาถลึงตาขึ้นทันที เปิดปากถามรพีพงษ์”ทำไมถึง ให้ฉันเซ็นล่ะคะ”
รพีพงษ์ยิ้ม เปิดปากพูด”อาจจะเพราะว่าคนซันบับเบิล คิดว่าคุณไว้ใจได้”
รพีพงษ์เป็นเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังซันบับเบิล สัญญา ฉบับนี้ให้ใครเซ็น แน่นอนว่าเขาเป็นคนตัดสินใจ
หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ได้ฟังรพีพงษ์พูด อาจจะอิจฉา บ้าง แต่หนังสือสัญญาฉบับนี้มีประ
ธานซันบับเบิลเซ็นแล้ว ไม่ว่าใครเซ็น ก็ย่อมมีผล บังคับร่วมกัน คำพูดของรพีพงษ์จะ
หลอกล่อใครได้
ดังนั้นเธอจึงไม่ใส่ใจคำพูดของรพีพงษ์เท่าไหร่ หยิบ ปากกา แล้วเซ็นลงไป
“รพีพงษ์ ฉันรู้ว่านายอยากให้อารียาได้รับผล ประโยชน์ แต่หนังสือสัญญาฉบับนี้ฉันเซ็นแล้ว โครงการ นี้ฉันจะเป็นคนดูแลเอง นายจะพูดอะไรก็สายไปแล้วทั้ง นั้น”ชรินทร์ทิพย์พูดอย่างลำพองใจ
นภที่ป์รู้ดีถึงผลบังคับใช้ นอกจากว่าจะมีการเขียนระบุ ไว้ มิเช่นนั้นคำพูดเดียวของรพีพงษ์ไม่เป็นผลอะไรหรอก
“ผมบอกแล้ว ว่าสัญญาฉบับนี้แคลร์เซ็นได้คนเดียว คนอื่นเซ็น เป็นโมฆะหมด”รพีพงษ์พูดเสียงเรียบ
“นายคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง แค่คำพูดนาย นับอะไรได้บนสัญญาไม่ได้เขียนไว้ ปัญญาอ่อน จริงๆ”ชรินทร์ทิพย์เบ้ปากพูด
รพีพงษ์ยิ้ม เปิดปากพูด”งั้นเธอก็เปิดดูหน้าสุดท้ายสิ ว่าเขียนว่าอะไร”
ใจชรินทร์ทิพย์หล่นตุ๊บ เปิดดูหน้าสุดท้ายของหนังสือ สัญญา เห็นแต่ข้างบนเขียนว่า
“หนังสือสัญญาฉบับนี้ระบุให้นางสาวอารียา ฉัตรมงคลเป็นผู้รับผิดซอบโครงการเท่านั้น ผู้อื่นนอก เหนือจากนี้เซ็นให้ถือว่าเป็นโมฆะ”