บทที่ 93 นี่คือรถของผม
กันตาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่พนักงานของร้านพูด คิดไม่ ถึงว่าหล่อนแค่มาเยาะเย้ยถากถางอารียาแค่ไม่กี่ประโยค พนักงานเหล่านี้ก็จะมาไล่หล่อน
“พวกคุณตาบอดหรือไงห๊ะ พวกเขาสองคนถือเป็น ลูกค้าสำคัญอะไรกัน ฉันต่างหากที่เป็นลูกค้าสำคัญของที่ นี่ พวกคุณกล้าไล่ฉันเหรอ ฉันจะให้เจ้าของร้านไล่พวก นายออกให้หมดเลย”กันตาตวาดอย่างโมโห
พนักงานเหล่านั้นแทบจะไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่หล่อนพูดเลย เมื่อครู่เจ้านายใหม่ของพวกเขาสั่งมาแล้ว ว่าคนสองคนที่ นั่งตรงนี้นั้น ก็คือลูกค้าที่สำคัญที่สุดของร้าน ไม่ว่าใคร ก็ ห้ามทำให้พวกเขาสองคนไม่พอใจ
“รบกวนคุณอย่าก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่เลย พวกเราได้รับคำ สั่งจากเจ้านายมา ให้เชิญตัวคุณออกไป”พนักงานที่นำหน้า มานั้นเอ่ย
อีกหลายคนเดินมาด้านหน้า จะนำตัว กันตาออกไป
กันตาขัดขืนขึ้นมาทันที ตะคอกออกมาว่า “พวกคุณบ้า
ไปแล้วเหรอ ฉันเป็นลูกค้าประจำของที่นี่นะ พวกแกทำ แบบนี้ อาจจะเสียลูกค้าที่สำคัญที่สุดไปคนหนึ่ง และพวก เขาสองคนก็เป็นแค่คนจนๆสองคนเท่านั้น ทานอาหารมือ หนึ่ง ชีวิตนี้คงไม่มากินข้าวที่ร้านนี้อีกแล้ว!”
“อย่ามัวแต่พูดเพ้อเจ้ออยู่เลย หากคุณยังไม่ยอมออกไปดีๆ ก็อย่าโทษว่าพวกเราไม่เกรงใจนะครับ!”พนักงาน ผู้นำนั้นเอ่ยด้วยความรำคาญ
รพีพงษ์และอารียาต่างก็มองดูกันตาด้วยความยินดี อารี ยาคิดว่านี่คือผลกรรมของกันตา ส่วนรพีพงษ์นั้นรู้ดีว่า นี่ เป็นแผนของตาสีทอง
“พวกแกหยุดเดี่ยวนี้นะ ฉันว่าหากพวกแกกล้าแตะต้อง ฉัน สามีของฉันก็คือวรดร ถ้าพวกแกแตะต้องฉัน สามี ฉันต้องไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!”กันตาตะคอกออกมา
พนักงานเหล่านั้นเห็นชัดว่าไม่รู้ว่าใครคือวรดร และต่อ
ให้รู้ พวกเขาก็ไม่กลัว
ะ เวลานี้รพีพงษ์ส่งสายตาให้พนักงานพวกนั้น แสดงความ หมายให้พวกเขาหยุด บรรดาพนักงานเหล่านั้นจึงปล่อยมือ
“พวกเราไม่เป็นไร พวกคุณไปทำงานของพวกคุณเถอะ ไม่ต้อนสนใจทางนี้” รพีพงษ์เอ่ยปาก
บรรดาพนักงานต่างก็พยักหน้า หลังจากนั้นก็หมุนตัวเดิน จากไป
กันตายืนนิ่งอยู่ที่เดิม หล่อนไม่ได้เห็นรพีพงษ์ส่งสายตา ให้กับบรรดาพนักงานพวกนั้น ดังนั้นตอนนี้หล่อนจึงคิดว่า พวกพนักงานเหล่านั้นได้ยินชื่อของวรดรจึงเกิดความหวาด
กลัว
ใบหน้าหล่อนแสดงให้เห็นถึงความสะใจ ในใจก็ยังคงคิด ว่าแฟนของตนเองเก่งกล้าสามารถ แค่พูดชื่อออกมาก็ ทำให้พวกตื่นตกใจวิ่งหนีหมด
หล่อนยังคงมองมาทางอารียาและรพีพงษ์ เชิดหน้าพูด ว่า”คนพวกนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี คิดจะไล่ฉันออกไป ช่าง น่าขันเสียจริงๆ พวกเธอคงเห็นแล้วสินะ แค่ฉันเอ่ยชื่อแฟน ของฉัน พวกเขาก็ตกใจจนรีบเผ่นหนีกันหมดแล้ว”
รพีพงษ์และอารียาต่างก็หัวเราะออกมา อารียาพูดว่า “อย่างนั้นแฟนของเธอก็เก่งมากสินะ”
กันตาไม่รู้เลยว่าอารียากำลังหัวเราะหล่อนอยู่ ใบหน้า ยังเต็มไปด้วยความสะใจ เอ่ยว่า”เรื่องนั้น ก็เก่งกาจกว่า สามีเศษสวะของเธอมาก
อารียาไม่คิดจะสนใจหล่อน คิดว่าคนๆนี้ช่างไร้เหตุผล
จริงๆ
“ความจริงแล้วเดิมฉันก็คิดจะไปหาเธอ คิดไม่ถึงว่าวันนี้ จะมาเจอเธอที่นี่ ในเมื่อเจอเธอแล้วฉันก็จะพูดตรงๆเลยนะ อย่าคิดว่าตอนแรกที่โรงเรียนนั้นเธอเป็นดาวโรงเรียน แล้ว จะหยิ่งทระนง ตอนนี้ก็มาแต่งงานกับเศษสวะไร้ประโยชน์ คนหนึ่ง”
“ส่วนฉันตอนนี้มีแฟนเป็นทายาทมหาเศรษฐี ก็เป็นการ พิสูจน์ว่า ใบหน้าของเธอนั้น ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้มี แรงดึงดูดน่าสนใจอะไร”
“ดูสามีฉันสิซื้อบ้านที่ดงเย็นให้ฉัน พวกเธอกล้าคิดถึง ห้องที่นี่เหรอ ฉันว่าพวกเธอใช้เวลาทั้งชีวิต ก็คงจะซื้อบ้าน ที่นี่ไม่ได้ แต่สามีฉันนั้นบอกว่าจะซื้อก็ซื้อให้เลย”
อารียาเงยหน้ามาถลึงตาใส่หล่อน พูดด้วยเสียงเย็นยะเยือกว่า”เธอพล่ามพอหรือยัง เรื่องพวกนี้ของเธอฉันไม่คิด จะสนใจ ฉันกับเธอก็แค่คนรู้จักกัน จะคุยกันแบบเพื่อนยัง ไม่ได้เลย ฉันว่าเธอรีบไปเถอะ”
กันตาหัวเราะเยาะ พูดว่า “ฮีๆๆๆ ดูสิ นี่เห็นชัดว่าอิจฉา ยัง จะบอกว่าไม่สนใจ เธอจะแสดงให้เนียนกว่านี้อีกหน่อยได้ มั้ย”
“บอกเธอตามความจริงเลยนะ แฟนฉันไม่ได้แค่ซื้อบ้าน ให้ฉันนะ ยังซื้อรถให้ฉันด้วยคันหนึ่ง ไม่รู้ว่าตอนที่เธอเข้า มาเห็นหรือเปล่ารถแลนด์โรเวอร์ที่จอดอยู่ด้านนอกคันนั้น ก็คือรถที่แฟนฉันซื้อให้”กันตายังคงไม่เลิกโอ้อวด ยิ่งพูด ยิ่งได้ใจ
รพีพงษ์และอารียาต่างพากันตกตะลึง ตอนที่พวกเขาเข้า มานั้น มีเพียงรถแลนด์โรเวอร์คันนั้นของพวกเขา ไม่มีคัน
อื่น
“คุณหมายถึงรถแลนด์โรเวอร์เรนจ์โรเวอร์ สีน้ำเงินคัน นั้นเหรอ”รพีพงษ์เอ่ยถาม กันตาพยักหน้าทันที พูดว่า”ใช่ คันนั้นแหละ คิดไม่ถึงว่า
คุณจะรู้จักเรนจ์โรเวอร์ด้วย แต่ต่อให้คุณรู้ ก็ซื้อไม่ไหว
อยู่ดี รถคันนั้นต้องล้านกว่าบาทเชียวนะ”
รพีพงษ์และอารียาสบตากัน ต่างก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี รถคันที่กันตาพูดถึงนั้น ก็คือคันที่พวกเขาขับมานั่นแหละ คำพูดโกหกหน้าด้านๆแบบนี้ ก็คงจะไม่มีใครที่ไหนแล้วละ ทั้งสองต่างคิดว่ากันตาน่าขำ อยากจะคุยโอ้อวดก็คุยไปแต่กล้าเอาของคนอื่นมาโม้ว่าเป็นของตน
กันตาเห็นทั้งสองยิ้มออกมา ก็เข้าใจว่าทั้งสองคงจะบ้าน นอก คงไม่รู้จักว่าแลนด์โรเวอร์นั้นมันดียังไง “ช่างเถอะ พูดกับพวกเธอก็คงไม่เข้าใจ สรุปก็คือ ต่อไป
เธอคงจะรู้แล้วว่า เธอกับฉัน อยู่คนละชั้นกันแล้ว”กันตาพูด
จากนั้นก็เตรียมจะหมุนตัวเดินไป รพีพงษ์ก็พูดขึ้นมา ว่า”พวกเราก็กำลังจะไปพอดี ช่วยพาเราไปดูรถแลนด์โร เวอร์เรนจ์โรเวอร์คันนั้นของคุณหน่อยได้มั้ยครับ ให้พวก เราได้เปิดโลก”
ร่างของกันตากระตุกชะงักทันที เมื่อครู่ที่หล่อนพยายาม พูดโอ้อวดความร่ำรวยของสามี จึงโม้ว่ารถแลนด์โรเวอร์ คันนั้นเป็นของตน
เพราะสำหรับหล่อน แฟนของหล่อนก็มีปัญญาซื้อรถคัน นี้ ก็แค่อ้างส่งเดชไป ไม่น่าจะเป็นอะไร
แต่หล่อนคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะคิดอยากไปดูรถคันนั้น นี่ ทำให้หล่อนรู้สึกกลัวขึ้นมา
หากพวกเขาไป แล้วรถคันนั้นขับออกไปแล้ว ก็ไม่รู้จะ อธิบายอย่างไร
รถคันนั้นไม่ใช่ของหล่อน หล่อนก็ขับไปไม่ได้อยู่ดี ถึง ตอนนั้นก็จะถูกพวกเขาจับได้อย่างง่ายดาย
“ทำไมหรือครับ ดูไม่ได้เหรอ คุณคงไม่ใจแคบขนาดนั้น มั้ง”รพีพงษ์เอ่ยถามยิ้มๆ
“เชอะ ให้คุณแล้วจะทำไม ตามฉันมา”กันตาในใจคิดว่า ให้พวกเขาดูรถแค่ภายนอกเท่านั้น จากนั้นก็อ้างว่ากุญแจ อยู่ที่แฟนของเธอ ปล่อยให้ทั้งสองคนแยกย้ายไปก็จบ ทั้งสามคนเดินออกจากคุ้มกะตังค์ มาถึงลานจอดรถ
อารียาและรพีพงษ์ตามมาด้านหลัง อยากจะรู้ว่ากันตา แต่งเรื่องหลอกพวกเขาว่ายังไงต่อ
ไม่นาน กันตาก็นำอารียาและรพงษ์มาที่ด้านหน้าของรถ แลนด์โรเวอร์คันนั้น ก็คือคันเดียวกันกับของพวกเขา
“ดูสิ รถคันนี้ก็คือรถที่แฟนฉันซื้อให้ พวกเธอคงจะไม่เคย ลูกคลำรถที่ราคาแพงขนาดนี้สินะ วันนี้ฉันจะให้โอกาส พวกเธอได้ลองลูบๆคลำๆหน่อย แต่ว่าอย่าได้คิดอยากจะ นั่ง กุญแจรถอยู่ที่แฟนฉัน ฉันต้องรอให้เขามาที่นี่”กันตา พูดด้วยท่าที่จริงจัง
รพีพงษ์ยิ้มกับกันตา ถามว่า”คุณแน่ใจนะครับ ว่านี่เป็นรถ คุณ”
“ไม่อย่างนั้นจะเป็นของใคร หรือจะเป็นรถของคุณ อย่า คิดเพ้อเจ้อลมๆแล้งๆไปหน่อยเลย คนอย่างคุณ ชีวิตนี้ คงจะไม่มีปัญญาซื้อรถหรูๆแบบนี้หรอก”กันตาพูดด้วย สีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยาม
อารียากลั้นหัวเราะเอาไว้ ตอนนี้หากหัวเราะออกมา แน่นอนว่าต้องถูกกันตามองว่าอิจฉาอีก
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นพวกเรากลับกันเถอะเมียจำ รถหรูก็ดูแล้ว ก็ถือว่าพอใจแล้ว”รพีพงษ์เอ่ยพลางยิ้ม
อารียาพยักหน้า จากนั้นก็ถามว่า “แล้วพวกเราจะกลับยัง ไงกันล่ะ”
“แน่นอนว่าขับรถกลับสิครับ” รพีพงษ์ตอบ
กันตาชำเลืองมองรพีพงษ์อย่างดูถูก แล้วพูดว่า”คิดไม่ถึง เลยนะว่าคนอย่างคุณจะมีปัญญาซื้อรถกับเขาด้วย แต่ว่า คงจะเป็นรถมือสามสินะ รถแบบนั้นต่อไปไม่ต้องขับนาให้ ขายหน้าคนอื่นเขาหรอก”
รพีพงษ์ยิ้มไม่พูดอะไร จากนั้นก็หยิบกุญแจออกมา เดิน มาที่ด้านหน้าของกันตา พูดว่า”รบกวนคุณช่วยหลีกทาง หน่อย”
กันตาตกตะลึง ถามว่า”คุณจะทำอะไร” “ผมก็จะเปิดประตูรถไง”รพีพงษ์ตอบ
กันตาหันไปมองทันที พบว่าด้านหลังหล่อนนั้นมีรถจอด
อยู่แค่คันเดียวก็คือรถแลนด์โรเวอร์คันนั้น รพีพงษ์จะเปิด ประตูรถ ก็มีแค่แลนด์โรเวอร์คันนี้เท่านั้น หล่อนหัวเราะออกมา พูดว่า”คุณจะเล่นตลกอะไรตรงนี้
ที่นี่มีรถอยู่แค่คันเดียว คุณจะเปิดประตูรถคันไหน คุณ
อย่าบอกนะว่าจะเปิดประตูรถแลนด์โรเวอร์คันนี้ของฉัน”
แม้ว่ารถแลนด์โรเวอร์คนนี้จะไม่ใช่ของหล่อน แต่ไม่ว่า อย่างไร หล่อนก็ไม่เชื่อว่า รถคันนี้จะเป็นของรพีพงษ์ รพี พงษ์ยิ้มกับ กันตา แล้วพูดว่า”ขอโทษนะครับ ที่ผมจะเปิด ก็ คือประตูของรถคันนี้”
“คุณเพ้อเจ้อ! “กันตารีบตวาดออกมาทันที”รถคันนี้เป็นของฉัน คุณจะเปิดประตูได้ยังไง ฉันบอกแล้วไงว่าให้ดูแค่ ด้านนอก อย่าคิดจะเข้าไปนั่งข้างใน!
“ผมว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้ว รถคันนี้เป็นของผม ทำไมผม จะเข้าไปนั่งไม่ได้” รพีพงษ์จ้องหน้าของกันตา เต็มไปด้วย การหยอกเย้า
“รถคันนี้เป็นของนายเหรอ นี่นายฝันอยู่หรือไง ใครบ้าง ไม่รู้ว่านายเป็นเศษสวะที่มีชื่อของเมืองริเวอร์ ถ้านายมี ปัญญาซื้อรถคันนี้ได้ ลิงมันก็คงขึ้นบนฟ้าได้แล้ว! “กันตา ยังคงไม่เชื่อ
รพีพงษ์มองกันตาที่ยังคงหน้าด้านโกหกไปเรื่อย จากนั้น ก็กดที่กุญแจรถหนึ่งครั้ง ไฟรถกระพริบสองที ล็อคก็ถูก ปลดออก
กันตาแทบไม่เชื่อสายตา รอจนหล่อนตั้งสติได้ ใบหน้า
นั้นก็กลายเป็นร้อนราวถูกไฟเผา หน้าแตกจนน่าตกใจ ทำไมหล่อนถึงคิดไม่ถึงว่า รถคันที่หล่อนพล่ามอยู่นาน สองนาน จะถูกรพีพงษ์ใช้กุญแจเปิดออกได้ ต่อให้หล่อน จะอธิบายอย่างไร ก็ฟังไม่ขึ้นแล้ว
“ที่รักจา ขึ้นรถเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน”รพีพงษ์เอ่ย
ปาก
อารียารีบขึ้นไปนั่งข้างคนขับทันที
รพีพงษ์หันไปมองกันตา แล้วพูดว่า”คุณคงจะจำรถผิด คันแล้ว รถแบบนี้มีให้เห็นเยอะแยะ ไม่รู้ว่ารถคันแฟนคุณ ซื้อไปจอดไว้ที่ไหนแล้ว”
พูดจบ รพีพงษ์ก็นั่งลงในรถ ขับออกไปจากลานจอดรถ
กันตายืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว หลังจากที่หน้าแตก ก็ เหมือนคนคลุ้มคลั่ง ทำไมหล่อนถึงนึกไม่ถึงว่า จะถูกเศษ สวะอย่างรพีพงษ์แกล้งจนหน้าแตกแบบนี้
“แกจะมาทำเป็นสะใจอะไร รถคันนี้ต้องไม่ใช่แกซื้อแน่ อาจจะเป็นรถที่แกเช่ามา กลับไปฉันจะให้แฟนฉันซื้อให้ฉัน คันหนึ่ง ให้พวกแกได้ตาสว่าง!
กันตาตะคอกออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วก็ กระทืบเท้าตนเองที่พื้นอย่างแรง เห็นชัดว่าอับอายมาก