พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่107

บทที่107

บทที่107 ทำร้ายพี่น้องของฉันก็ต้องจ่ายค่า

ตอบแทน

เลปกรกัดฟันกรอด พูดเสียงเย็น “งั้นนายก็ไม่มี โอกาสได้พูดอีก! เตรียมตัวตาย!”

เขาจับช่องโหว่ของรพีพงษ์ได้ จากนั้นจึงซัดหมัด เข้าไปโดยตรง

แต่ในขณะที่หมัดของเขากำลังจะสัมผัสโดน มือ ข้างหนึ่งของรพีพงษ์ก็คว้าจับข้อมือของเขาเอาไว้ อย่างว่องไวแล้วถอยไปข้างหลัง ก่อนจะเหวี่ยงเขาล้ม ลงกับพื้น

เลปกรลุกขึ้นจากพื้นจากรวดเร็ว สีหน้าเปลี่ยนไป อย่างดูไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่คงไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่

“เมื่อกี้นายมีช่องโหว่ชัดๆ ทำไมถึงยังตอบโต้ได้ รวดเร็วขนาดนี้?” เลปกรพูดอย่างงุนงง

“ช่องโหว่? คิดว่าระดับนายจะมองเห็นช่องโหว่ ของฉันงั้นเหรอ ยังห่างไกลน่า ที่นายเห็นคือสิ่งที่ฉัน อยากให้เห็นต่างหาก”รพีพงษ์พูดพลางเหยียดยิ้ม

เลปกรตื่นตะลึง เมื่อกี้นี้พีรพงศ์จงใจเผยช่องโหว่ ให้เขา เพื่อล่อเขาให้เข้าไปติดกับ จริงๆ แล้วเขาทำ อะไรไม่ได้เลย

“แม่มเอ๊ยไอ้เวร ดูไปแล้วนายก็มีความสามารถแค่ นี้ เมื่อกี้ฉันแค่ประมาทไป ต่อจากนี้ ก็ถึงคราวซวยของนายแล้ว!”

เลปกรกัดฟัน แล้วพุ่งเข้าใส่รพีพงษ์อีกครั้ง ใช้ขา ราวกับแส้ เตะไปที่ตัวของรพีพงษ์ รพีพงษ์หลบหลีกอย่างรวดเร็ว ก่อนใช้เข่าตรง

โจมตีเข้าใส่ท้องของเลปกร

เลปกรตื่นตะลึงเมื่อเห็นเช่นนั้น เพียงแต่ในเวลา นั้นเขาไม่สามารถถอยกลับได้ ทำได้แค่จ้องมองเข่า ของรพีพงษ์ที่พุ่งเข้าใส่ตัวเอง

หนักหน่วงมาก

เลปกรกระอักเลือดออกมา สีหน้าซีดขาวอย่าง

มาก

พิชญุตม์ที่อยู่นอกสังเวียนกำหมัดแน่น ตัวตนของ

เลปกรนั้นไม่ธรรมดา ที่เขาเชิญเลปกรมาได้ก็เพราะ มิตรภาพที่เขากับเลปกรมีกันมาแต่แรกเริ่ม

ในมุมของเขา โลกใต้ดินของเมืองริเวอร์ ไม่มีใคร ที่จะเป็นคู่มือของเลปกรได้เลย

แต่เจ้ากระจอกที่ธฤตญาณหามา คาดไม่ถึงว่าจะ ทำให้เลปกรกระอักเลือดได้ นั่นทำให้เขาสติแทบหลุด ถ้าเลปกรเอาชนะรพีพงษ์ไม่ได้ อย่างนั้นเขาเองก็ ชนะไม่ได้แน่ ถึงเวลานั้นน่ากลัวว่าคงจะซวยแน่ๆ

เขาเหลือกตาไปมา ในใจคิดว่าโชคดีที่พวกเขามา กันแค่สองคน หลังจากนี้เขายังสามารถพึ่งลูกน้องของตัวเองเพื่อจะหาจังหวะหนีไปได้

หลังจากเลปกรกระอักเลือดออกมา เขาก็ไม่ใช่ คู่มือของรพีพงษ์อีกต่อไป เขากัดฟันฝืนไว้ แต่มันก็ไม่ ได้ผลมากนัก

“ทำร้ายพี่น้องของฉัน ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน” รพี พงษ์เอ่ยอย่างเย็นชา

“จ่ายแม่ถึงน่ะสิ!” เลปกรชกใส่อีกครั้ง

รพีพงษ์จับแขนของเขาไว้ ก่อนสับมือมีดลงไป อย่างแรงราวสายฟ้าฟาด

กรอบ

ใบหน้าของเลปกรบิดเบี้ยว เหงื่อที่อยู่บนหน้ายิ่ง 8

พรั่งพรูออกมา

“แขนของฉัน!” เลปกรร้องโหยหวนด้วยความเจ็บ

ปวด

“มันยังไม่พอหรอก”รพีพงษ์เอ่ยขึ้นหนึ่งประโยค ก่อนชกเข้าที่อกของเลปกร

ร่างของเลปกรลอยออกนอกสังเวียน ล้มลงบนพื้น อย่างแรง ก่อนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

การโจมตีเมื่อครู่ของรพีพงษ์ ทำให้ซี่โครงของเขา หักอย่างน้อยสี่ ซี่ เขาหักซี่โครงของไตรทศ รพีพงษ์จึง ให้เขาได้ลิ้มรสชาติของการถูกหักซี่โครงบ้าง

เขาก้าวลงจากสังเวียน มายังเบื้องหน้าของ เลปกรก่อนพูดขึ้น”นายไม่ควรมาทำร้ายพี่น้องของฉัน แขน อีกข้าง ก็ทิ้งมันไปเลยแล้วกัน”

เลปกรพลันตื่นตระหนก เขาขอร้องอ้อนวอนรพี พงษ์ “ฉันยอมแพ้ เมตตาด้วย ฉันเป็นคนของคุณชาย กุมุท ถ้านายยังหักแขนอีกข้างของฉัน เขาต้องไม่ ปล่อยนายไว้แน่”

“คุณชายกุมุท? ฉันไม่รู้จัก”รพีพงษ์ตอบกลับง่ายๆ เตรียมจะหักแขนอีกข้างของเลปกร

เมื่อพิชญุตม์เห็นความพ่ายแพ้ของเลปกร ในใจก็ เริ่มอยู่ไม่สุข

เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์กำลังจะลงมือกับเลปกรอีก จึง รีบตะโกนออกไป “พวกแกยังยืนบื้ออะไรอยู่! รีบเข้าไป สิ!”

กลุ่มคนมุ่งเข้าหารพีพงษ์ไปทันที

ธฤตญาณเห็นดังนั้น จึงรีบเข้าไปหน้ารพีพงษ์ พูด พลางยิ้ม “ไม่ได้ขยับเนื้อขยับตัวซะตั้งนาน งั้นมาอุ่น เครื่องกับพวกนายหน่อยแล้วกัน”

ความแข็งแกร่งของธฤตญาณไม่ได้ด้อยไปกว่า ไตรทศเลย แต่เพราะตอนนั้นบาดเจ็บ จึงไม่ได้แสดง ฝีมือ ตอนนี้ชุติเทพได้รักษาแขนของเขาแล้ว ถึงกำลัง จะเทียบไม่ได้กับเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ใช่แบบที่พวกคนของ พิชยุตม์จะรับมือได้

ยังไงเสียในถนนแห่งการนองเลือดตอนนั้น พวกที่มาล้อมรอบก็เป็นพวกระดับสูงอย่างริชาร์ดทั้งนั้น ถึง อย่างนั้นเขาก็ยังรอดมาได้

รพีพงษ์เห็นธฤตญาณเริ่มเคลื่อนไหว ก็ยิ้มออกมา ก่อนหันมาทางเลปกร

ใบหน้าของเลปกรเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก คนของพิชยุตม์ถูกธฤตญาณขวางไว้ ไม่มีใครช่วยเขา ได้จริงๆ แล้ว

“นายหักแขนฉันไปข้างหนึ่งแล้ว ปล่อยฉันไป เรื่องของเราให้ขาดกันแค่นี้ ไม่อย่างนั้นคุณชายกุมุท จะไม่ปล่อยนายไปแน่” เลปกรพูด

“นายไม่มีสิทธิ์มาเจรจาเงื่อนไขกับฉัน ฉันบอก แล้ว ทำร้ายพี่น้องของฉัน ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน”

รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา ก่อนทำลายแขนอีกข้าง ของเลปกร

สีหน้าของเลปกรเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทรุดลง กับพื้นไม่อาจลุกขึ้นได้อีก

พิชยุตม์เห็นรพีพงษ์ โหดเหี้ยมขนาดนี้ แถมนึกไม่ ถึงว่าธฤตญาณจะมีฝีมือขนาดนี้ด้วย เขาก็ขวัญหนี ดีฝ่อขึ้นมาทันที เขามองไปรอบๆ จากนั้นก็ไม่คิดสนใจ พี่น้องของตัวเองอีก แล้วหันหลังวิ่งไปที่บันได

“นายไปจัดการพิชญุตม์เถอะ คนพวกนี้ฝากฉัน เอง”รพีพงษ์เข้ามาข้างธฤตญาณ

ธฤตญาณพยักหน้า เตรียมมุ่งไปทางที่พิชญุตม์หนีไปทันที

“พิชญุตม์ วันนี้แกหนีไม่รอดแน่”ธฤตญาณพู

ดกับพิชญุตม์อย่างเย็นชา พิชญุตม์เห็นคฤตญาณไล่ตามมา ก็กัดฟันพูด “แก

คิดว่าจะหยุดฉันได้รึไง?”

เขาตรงลงบันไดไป ตามไปด้วยธฤตญาณ ทั้งสอง คนต่อสู้กันกลางบันได

พิชญุตม์เองก็ไม่ได้อ่อนแอ แข็งแกร่งกว่าอินทัช ในตอนแรกซะด้วยซ้ำ น่าเสียดายที่ธฤตญาณในตอน แรกก็รวมโลกใต้ดินของเมืองกรีนโคลไว้ได้แล้ว พิชญ

ตม์เทียบไม่ได้เลย

ศิลปะการต่อสู้เมื่อครู่ พิชญุตม์ก็เทียบธฤตญาณ ไม่ได้ จนถูกเขาซัดหมอบลงกับพื้น

“ในเมื่อแกอยากจะเก็บฉัน งั้นก็ควรคิดถึงด้วยว่า แกเองก็อาจจะโดนฉันเก็บได้เหมือนกัน วันของแก จะ จบลงวันนี้แหละ”

ธฤตญาณฉุดเสื้อของพิชญุตม์ ลากเขาขึ้นไปชั้น บน

“อย่าหวังจะกำราบฉันได้ ถึงแกจะชนะก็เถอะ ข้าง บนนั้นฉันยังมีพี่น้องอีกกว่าสามสิบคน ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าลำพังแค่พวกนายสองคนจะจัดการทั้งสามสิบกว่า คนนั้นได้” พิชญุตม์พูดลอดไรฟัน

ธฤตญาณก็ไม่ได้สนใจอะไรเขา แล้วลากเขาขึ้นชั้นสอง

“อย่าประมาทกับพี่น้องสามสิบกว่าคนของฉัน ถ้า ต้อนมากเข้า พวกเขาจะสุดชีวิตกับพวกแก ต่อให้พวก แกสองคนแกร่งแค่ไหนก็หยุดไม่ไหวหรอก!”

พิชญุตม์ยังคงมีความหวังกับลูกน้องของตัวเอง ใน ความคิดของเขา คฤตญาณกับรพีพงษ์ถึงจะแข็งแกร่ง มาก แต่ก็คงรับมือกับคนกว่าสามสิบคนไม่ได้หรอก

ธฤตญาณลากพิชญุตม์มาถึงชั้นสอง หลังจากเขา

ได้เห็นสถานการณ์ที่ชั้นสอง ก็ถึงกับผงะ

“เหล่าพี่น้อง รีบมา….”พิชญุตม์ขึ้นมาถึงก็ตะโกน เรียกให้มาช่วยตัวเอง

แต่หลังจากเขาได้เห็นสถานการณ์ของชั้นสอง แล้วก็ตกตะลึงทันที

จากนั้น ความเหลือเชื่อเผยออกมาทางสีหน้าของ เขา เขามองออกไปด้วยริมฝีปากสั่นๆ แถมขาก็เริ่มสั่น แล้ว

เพียงแค่เห็นสภาพของชั้นสอง ที่ลูกน้องของ พิชญุตม์ทั้งหมดถูกรพีพงษ์คว่ำหมดจนเกลื่อนพื้น มี เพียงรพีพงษ์ที่ยังยืนอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น

“นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง แต่เก่งการต่อสู้นิดหน่อย

เขาจะไปซัดลูกน้องฉันหมอบหมดได้ยังไง?”พิชญุตม์

มองรพีพงษ์ที่ยืนอยู่บนชั้นสองเพียงคนเดียวด้วย

สีหน้าเหลือเชื่อ
คฤตญาณเองก็อึ้งไปเหมือนกัน เขารู้ว่ารพื้พงษ์ นั้นแกร่งมาก แต่ก็ไม่นึกว่ารพีพงษ์จะแกร่งขนาดนี้ เขา ไล่ตามไปจับพิชญุตม์เพียงครู่เดียว คาดไม่ถึงว่ารพี พงษ์จะจัดการคนกว่าสามสิบคนไปแล้ว

นี่มันบ้าไปหน่อยรึเปล่า

คฤตญาณลากพิชญุตม์ไปยังหน้ารพีพงษ์ ก่อน พูด “นี่นายไปจ้างใครมารึเปล่า คนที่นายจ้างมาซ่อน อยู่ที่ไหน อย่าบอกนะว่านายคว่ำคนพวกนี้เองทั้งหมด น่ะ”

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา “นายคิดว่าไงล่ะ”

คฤตญาณถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้ดีว่า รพีพงษ์ไม่สามารถซ่อนใครไว้ที่นี่ได้ เพียงแต่เขารู้สึก ไม่อยากจะยอมรับนิดหน่อย

“ตอนที่จะจัดการคนพวกนี้เมื่อกี้ เลปกรกระโดด หนีออกไปทางหน้าต่างแล้ว คุณชายกุมุทที่หมอนั่นพูด ถึงคือใครน่ะ?” รพีพงษ์ถาม

คฤตญาณหัวเราะ “นี่นายอยู่เมืองริเวอร์มานาน กว่าฉันอีกนะ ถ้านายไม่รู้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”

รพีพงษ์พยักหน้า “งั้นก็ระวังหน่อย เลปกรนั่นถูก ฉันหักแขนไปทั้งสองข้าง คงจะปล่อยไปไม่ได้”

คฤตญาณพยักหน้าอย่างจริงจัง

ในตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากชั้นล่าง ต่อ มาคนกลุ่มหนึ่งก็วิ่งขึ้นมายังชั้นสอง โดยมีพัชรพลเป็นผู้นำ

พัชรพลวิ่งมาถึงคฤตญาณและรพีพงษ์ ก่อนพูด ขึ้น”พี่รพี พี่ธฤต พวกเราไม่ได้มาสายใช่ไหม คนของ พิชญุตม์ล่ะ เราจะมาคิดบัญชีกับพวกมัน”

ธฤตญาณและรพีพงษ์สบตากัน ก่อนลุกขึ้นยืน

“นายคิดว่านายมาสายรึเปล่าล่ะ?”ธฤตญาณพูด พลางยิ้ม

ในตอนนั้นพัชรพลเพิ่งจะสังเกตเห็น ว่าชั้นสองมี คนจำนวนมากล้มระเนระนาดไปหมด คนพวกนี้เขา รู้จักทั้งนั้น เป็นลูกน้องของพิชญุตม์

แต่พิชญุตม์เองก็ถูกธฤตญาณจับตัวไว้อยู่

“นี่มัน…”พัชรพลตื่นตะลึง

พวกคนที่เขาพามาเองก็ตะลึงไม่แพ้กัน

พวกเขาสองคน ก็จัดการพิชญุตม์กับพวกลูกน้อง

ได้แล้วงั้นเหรอ?

น่ากลัวอะไรขนาดนี้!

“จะจัดการกับเขายังไงดีล่ะ?”คฤตญาณถามรพี

พงษ์

“นั่นนายตัดสินใจเองเถอะ จากนี้โลกใต้ดินของ เมืองริเวอร์ ก็มีนายเป็นราชาเพียงคนเดียวแล้ว”รพี พงษ์พูดด้วยรอยยิ้ม

พิชญุตม์ได้ยินรพีพงษ์พูดดังนั้น ก็เข้าใจความหมายในทันที

ใบหน้าของเขาซีดขาว เอ่ยอ้อนวอน”ลูก…ลูกพี่ ปล่อยผมไปเถอะ ผมสามารถหาเงินให้พวกคุณ ให้ อิทธิพลกับพวกคุณ ผมสามารถให้พวกคุณได้หมดทุก อย่าง”

รพีพงษ์ไม่สนใจเขา แต่หันไปพูดกับธฤต ญาณ”ฉันไปที่สตาร์กายก่อนนะ ที่นี่นายจัดการก็แล้ว กัน”

พูดจบ เขาก็ออกจากไฟต์คลับของพิชญุตม์ไป ส่วนเรื่องที่เหลือ เขาเชื่อว่าธฤตญาณจะสามารถ จัดการได้

ตลอดทางไปจนถึงสตาร์กาย รพีพงษ์เดินตรง เข้าไปข้างใน ภายในนั้นครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่มา

เที่ยวกัน

รพีพงษ์ตรงเข้าไปข้างใน ต้องการจะมาหาไตรทศ

ขณะเขาเดินเข้าไปตามทางเดิน ทันใดนั้นประตู ห้องจะเปิดออก จากนั้นหญิงสาวสวมชุดเซ็กซี่ก็วิ่งออก มาแล้วพุ่งตรงมาหาเขา

“ช่วยด้วยค่ะ พวกเขาจะทำร้ายฉัน ช่วยฉัน ด้วย”หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ใบหน้าตื่นตระหนกเอ่ย อ้อนวอน

รพีพงษ์ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ห่างออกจาก หญิงสาว ในตอนนั้นเขาเพิ่งจะเห็นใบหน้าของหญิงสาวอย่างชัดเจน ก่อนฉายแววประหลาดใจออกมา

ไม่นึกว่าหญิงสาวคนนี้ก็คือบุษบากร!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท