พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่108

บทที่108

บทที่108 ฉันไม่ได้คิดจะยุ่งอะไร

หลังจากบุษบากรทรงตัวได้แล้ว ก็เพิ่งเห็นอย่าง ชัดเจนว่าตรงหน้าของตัวเองนั้นคือรพีพงษ์

เธอดื่มเหล้าไป ใบหน้าแดงเรื่อ ดวงตาเบลอลอย นิดๆ หลังจากแน่ใจว่าคือรพีพงษ์แล้ว ก็รู้สึกน้อยใจขึ้น มาทันที แล้วยื่นมือออกไปกอดรพีพงษ์

รพีพงษ์ขวางเธอเอาไว้แล้วเอ่ยถาม “เธอมาอยู่ที่นี่

ได้ยังไง?”

บุษบากรเห็นว่ารพีพงษ์ไม่ยอมให้เธอแตะต้อง ทั้ง ยังมีสีหน้าเย็นชา ก็ร้องไห้ออกมาอย่างน้อยใจ ตอนนี้ รพีพงษ์ถามว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ เธอก็ต้องมาตา มหารพีพงษ์อยู่แล้วน่ะสิ

ไม่นานก่อนหน้านี้ หลังเธอเข้ามาในสตาร์กาย ก็ ไปถามพนักงานต้อนรับว่ารพีพงษ์อยู่ที่ห้องไหน

พนักงานต่างแสดงท่าทีว่าไม่รู้ บุษบากรจึงได้แต่ เดินวนไปรอบสตาร์กาย ตามหาตัวรพีพงษ์ไปทุกที่ และถามหาเขากับทุกคน

ในขณะที่เธอกำลังหารพีพงษ์อยู่นั้น ชายที่ใส่ทอง เส้นใหญ่คนหนึ่งก็เดินเข้ามาบอกกับเธอว่าเขารู้ว่ารพี พงษ์อยู่ที่ไหน

บุษบากรที่เชื่อคำพูดนั้น ตามเขาไปยังห้องห้อง หนึ่ง ภายในห้องนั้นมีผู้ชายนั่งอยู่ไม่น้อย พร้อมด้วยเหล่าหญิงสาวที่สวมชุดเซ็กซี่ ผู้ชายเหล่านั้นดูเหมือน ว่าจะมีอิทธิพลมาก เห็นดังนั้นบุษบากรก็เริ่มหวั่นกลัว ขึ้นมา

ชายที่พาเธอมานั้นบอกเธอว่ารพีพงษ์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาให้คนไปเรียกให้แล้ว และให้บุษบากรนั่งดื่มที่นี่

ก่อน

บุษบากรได้แต่นั่งกับคนพวกนั้น รอให้รพีพงษ์มา

ชายที่พาเธอไปคนนั้นเริ่มให้เธอดื่มเหล้าอย่าง รวดเร็ว บุษบากรที่ไม่เคยมาที่แบบนี้มาก่อน เพียงพูด ไม่กี่คำก็ถูกเซ้าซี้จนดื่มเข้าไป

เพียงไม่นาน เธอก็ดื่มจนเมามาย

ในขณะนั้นผู้ชายพวกนั้นก็เริ่มใช้มือไม้ลวนลาม เธอ ทั้งปากก็ยังพูดถ้อยคำสากหู

จนเมื่อถึงตอนนั้น บุษบากรจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองถูก หลอก เธอคิดว่าลุกขึ้นทันที แต่ก็ถูกชายที่สวม สร้อยทองจับเอาไว้

พวกผู้ชายในห้องต่างจ้องมาที่เธอด้วยใบหน้าเจ้า เล่ห์ ราวกับว่าอยากจะทำอะไรบางอย่างกับเธอ

ชายคนนั้นบอกว่าบุษบากรใส่ชุดวับแวมขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าออกมาหาผู้ชายเหรอ หาใครก็เทียบไม่ได้กับ การได้มาเล่นกับพวกเขา

จากนั้นผู้ชายทั้งห้องก็ลุกขึ้นยืน คิดจะรุมล้อม บุษบากรไว้
บุษบากรปัดป้องมือของคนพวกนั้นอย่างยาก ลำบาก แล้ววิ่งออกมานอกห้อง ก่อนจะชนเข้ากับรพี พงษ์

บุษบากรมองรพีพงษ์ด้วยความน้อยใจ กัดริม ฝีปากพูด”ทั้งหมดก็เพราะนาย อีกนิดเดียวฉันก็เกือบ จะถูกข่มเหงอยู่แล้ว นายมันใจร้ายเกินไปแล้ว”

รพีพงษ์สับสนไปหมด เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุษบากร มาทำอะไรที่นี่ นี่จะโยนความผิดมาที่ตัวเขางั้นเหรอ?

“อืม”รพีพงษ์ตอบกลับคำหนึ่ง ก่อนจะเดินต่อ เขา

ไม่ได้รู้สึกกับบุษบากร แล้วก็ขี้เกียจจะสนเรื่องของเธอ

ด้วย

บุษบากรไม่นึกว่าจะเห็นสีหน้าของรพีพงษ์ที่ไม่สน ว่าเธอจะเป็นยังไง ในใจก็อยากจะร้องไห้ออกมา ผู้ชายคนนี้ ไร้ความรู้สึกเกินไปแล้ว

ในตอนนั้นเองผู้ชายหลายคนก็วิ่งออกมาจากห้อง เมื่อเห็นบุษบากรยืนอยู่หน้ารพีพงษ์ ก็วิ่งเข้ามาทันที

“เธออยู่นั่น รีบจับตัวเธอไว้ คืนนี้ฉันเล็งเธอไว้แล้ว ผู้หญิงที่เวทนถูกใจ ต้องไม่มีใครหนีไปได้แม้แต่คน เดียว!” คนที่เป็นหัวหน้าตะโกนสั่ง

บุษบาเห็นดังนั้น ก็ตื่นตกใจรีบเข้าไปซ่อนด้าน หลังของรพีพงษ์

“พวกนายอย่าเข้ามานะ นี่คือแฟนของฉัน ฉันมา หาเขา พวกนายอย่ามายุ่งกับฉัน”
คนกลุ่มนั้นล้อมรพีพงษ์และบุษบากรเอาไว้ทั้นทั่

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าบุษบากร จะบอกว่าเขาคือแฟนของเธอ เวทนจ้องมองรพีพงษ์ ในดวงตาฉายแววหยาม

เหยียด “ไอ้นี้ จึงเป็นใครวะ ถึงได้กล้ามายุ่งเรื่องของกู”

“ฉันก็ไม่ได้คิดจะยุ่งอะไร”รพีพงษ์พูด

“ฮ่าฮ่า ที่แท้ก็ไม่ได้จะยุ่งงั้นเหรอ ฉันนึกว่าแกจะ ขวางพวกเราซะอีก ในเมื่อไม่ได้คิดจะยุ่งก็หลีกไป อย่า มาขวางทาง” เวทนมองรพีพงษ์ คิดว่าเขาเห็นคนของ ตัวเองมีมาก จึงกลัว ดังนั้นถึงไม่คิดจะยุ่งด้วย

บุษบากรหน้าถอดสี ไม่คิดว่าจะหมดหวังกับรพี

พงษ์ขนาดนี้

“รพีพงษ์ หรือนายพกคนจะตายก็ไม่ช่วยงั้นเหรอ! เรื่องนี้ถ้าอารีรู้เข้า นายคิดว่าเธอจะมองนายยัง ไง?”บุษบากรพูดอย่างเจ็บใจ

รพีพงษ์ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่คิดจะยุ่ง

จริงๆ ถึงยังไงเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุษบากรมาทำอะไร ที่นี่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของบุษบากร รพีพงษ์ก็รู้สึกว่า คงจะให้เกิดเรื่องกับเธอไม่ได้ บุษบากรคือเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของอารียา ถ้าเกิด

เรื่องกับเธอล่ะก็ อารียาต้องรู้สึกไม่ดีแน่

“งั้นเธอก็ต้องยอมรับว่าฉันไม่ใช่แฟนของเธอ ฉัน ถึงจะช่วย”รพีพงษ์พูด
บุษบากรกัดปากมองรพีพงษ์ ไม่นึกว่าเขาจะ จริงจังขนาดนี้

“โอเค ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่พูดพร่ำเพื่ออีก”บุษบา กรพูดอย่างโกรธเคือง

เวทนมองทั้งสองคนคุยกัน บนใบหน้าฉายแวว เหยียดหยาม

“แม่ม พูดอย่างกับว่าแกช่วยเธอแล้ว เรื่องวันนี้มัน จะแก้ไขได้อย่างนั้นแหละ ไอ้นี่ ในเมื่อแกไม่ใช่แฟน ของเธอ งั้นฉันก็แนะนำว่าอย่ามายุ่งเรื่องไม่เข้าเรื่อง ไม่อย่างนั้นล่ะก็ แกจะได้เสียใจทีหลัง” เวทนพูดอย่าง

เย็นชา

บุษบากรได้ยินคำพูดของเวทน ก็รู้สึกหวั่นใจเล็ก น้อย เธอเพิ่งจะขอให้รพีพงษ์มาช่วย โดยลืมไปโดย สิ้นเชิงว่าทางนี้ก็มีคนเยอะ รพีพงษ์แค่คนเดียว จะไป จัดการได้ยังไง

“ไสหัวไปตอนนี้ ฉันจะไม่เอาเรื่องพวกนาย ฝ่ายที่ จะเสียใจทีหลังมันพวกนายต่างหาก”รพีพงษ์เอ่ยเสียง เย็น

บุษบากรได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนั้น ก็หน้าถอดสี ทันที “เจ้าบ้า นายหาเรื่องใส่ตัวแล้วไม่ใช่เหรอ นายคน เดียวจะไปสู้คนมากขนาดนั้นได้ยังไง ฉันน่าจะรู้ว่าให้ โมโหดิ้นตายยังดีกว่าให้นายมาช่วยซะอีก”

“งั้นตอนนี้ฉันก็เดินต่อไปได้ แล้วปล่อยให้เธอจัดการเอง”รพีพงษ์พูด

เวทนหัวเราะเยาะขณะมองรพีพงษ์ “ไอ้นี่ แกคิดว่า พูดคำพูดเมื่อกี้ไปแล้ว ตอนนี้คิดจะไปก็ไปได้งั้นเห รอ?”

“กล้ามาบอกให้ฉันเวทนไสหัวไป แกเป็นคนแรกที่ พูดคำนี้ วันนี้ฉันคงไม่ได้แค่อยากเล่นกับผู้หญิงคนนั้น แล้วล่ะ ฉันจะทำให้แกรู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของฉัน”

บุษบากรได้ยินเวทนพูดดังนั้น ก็กังวลขึ้นมา เธอ บ่นในใจว่ารพีพงษ์โง่เกินไป แค่ประโยคเดียวก็ทำให้ คนโมโหได้ ทีนี้พวกเขาสองคนก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว

“รพีพงษ์ นายนี่มันโง่ชะมัด ทีนี้ก็จบกันแล้ว พวก เราหนีไม่รอดแล้ว โดนฆ่าจริงๆ แน่” บุษบากรพูด

“เฮ้ๆ สาวน้อย ถ้าเธอมาเล่นกับฉันดีๆ ฉันจะสั่ง สอนเขาให้เธอว่ายังไง?” เวทนพูดกลั้วหัวเราะ

“เหลวไหล! นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนเขา ถ้า นายกล้าทำอะไรเขา ฉัน…ฉันจะสู้ขาดใจแน่”บุษบากร พูดพลางจ้องเขม็ง

แม้ว่าเธอจะโมโหรพีพงษ์ที่ทำให้คนอื่นโกรธได้ ด้วยประโยคเดียว แต่นั่นก็แค่หงุดหงิดรพีพงษ์เท่านั้น ตอนนี้เธอยังคงโหยหารพีพงษ์ จึงไม่ยอมให้คนอื่นมา รังแกรพีพงษ์ได้

รพีพงษ์ไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดออกมาแบบนั้น เขามองเธออย่างไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เดาไม่ออกใสหญิงสาวคิดจะทำอะไรกันแน่

สีหน้าของเวทนเปลี่ยนไปอย่างดูไม่ดี ดวงตาทั้ง สองของเขาถลึงจ้องไปที่บุษบากร พูดด่า”ไอ้แม่ม ไว้ หน้าให้ก็ไม่รู้จักรับ ฉันจะเก็บไอ้นี่ก่อน แล้วต่อไปฉัน จะให้เด็กๆ ของฉันเล่นกับแก!”

พูดจบ เวทนก็เบนสายตาไปทางรพีพงษ์ พูดอย่าง เย็นชา “จัดการมันซะ ให้มันรู้ถึงความแข็งแกร่งของ พวกเรา!”

พวกลูกน้องของเวทนลงมือกับรพีพงษ์ทันที

ในตอนนั้นเองบุษบากรกัดฟัน ขึ้นมายืนอยู่ตรง หน้ารพีพงษ์ “ปล่อยเขาไปเถอะ ฉัน…ฉันจะไปกับพวก

คุณ”

เวทนนิ่งอึ้ง ไม่นึกว่าบุษบากรจะถึงกับยอมไปกับ

เขาเพื่อไอ้หนุ่มนี่

รพีพงษ์เองก็ไม่นึกว่าบุษบากรจะเสียสละตัวเอง เพื่อเขา แต่เขาไม่ต้องการจะติดหนี้บุญคุณกับบุษบา กร แถมอันธพาลกลุ่มนี้ ก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี

“เธอไปรอข้างๆ เถอะ พวกนี้เดี่ยวฉันจัดการ เอง”รพีพงษ์พูด

บุษบากรหันไปมองรพีพงษ์ พูด “นายบ้าไปแล้วเห รอ พวกเขามีกันตั้งเยอะ นายคนเดียวจะไปจัดการได้ ยังไง”

รพีพงษ์ยิ้ม ก่อนดึงบุษบากรไปไว้ด้านหลัง แล้วพูดกับเวทน “เข้ามาให้หมด รีบสู้รีบเสร็จ”

สีหน้าของบุษบากรเต็มไปด้วยความกังวล ด่ารพี พงษ์ในใจว่าโง่เง่า ทำแบบนี้มันหาที่ตายชัดๆ

แต่ในจังหวะนั้นคนของเวทนก็ลงมือแล้ว เธอ

อยากจะขวางก็ขวางไม่ทัน

พวกลูกน้องของเวทนต่างยื่นมือออกมาคว้าตัวรพี พงษ์ ถ้าเทียบกับลูกน้องของพิชญุตม์แล้ว ยังห่างไกล กันมาก ไม่มีทักษะอะไรเลยสักนิด ถ้ารพีพงษ์จะ จัดการพวกเขา ก็ทำได้เพียงไม่กี่นาที

เขาก้าวไปข้างหน้า ซัดหมัดใส่หน้าคนพวกนั้น ทุก การเคลื่อนไหวลื่นไหลราวสายน้ำ เขาจัดการพวกลูก น้องเวทนล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็วและง่ายดาย

บุษบากรที่เดิมทีกังวลเกี่ยวกับรพีพงษ์เมื่อเห็นว่า เขาเก่งขนาดนั้น ก็อึ้งไปทันที เธอเบิกตาทั้งสองข้าง จ้องรพีพงษ์ ไม่นึกว่าเขาจะต่อสู้เก่งขนาดนี้

เวทนเองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกับบุษบากร เขามอง รพีพงษ์ตาค้าง จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่า ครั้งนี้ตัว เองไปเล่นของแข็งเข้าให้แล้ว

เขาหมุนตัววิ่งหีโดยไม่ลังเล

รพีพงษ์เห็นดังนนั้นก็หัวเราะออกมาไล่ตามไม่กี่ ก้าว ก็ไปถึงข้างหลังของเวทน

เขายื่นมือไปคว้าคอเสื้อของเวทนไว้ แล้วเหวี่ยง เวทนลงกับพื้น
เวทนกุมก้นของตัวเองแล้วร้องอย่างเจ็บปวด รพี พงษ์เตะเข้าไปที่ท้องของเขาอีกครั้ง จนเข้าลุกไม่ขึ้น

“โอ้ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว ลูกพี่ ผมผิดไปแล้ว ยก โทษให้ผมด้วยเถอะ” เวทนรีบขอร้องอ้อนวอน

รพีพงษ์จ้องเวทน ก่อนพูดเสียงเย็น “จะยกโทษให้ นายแบบนี้ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ”

เวทนหวาดหวั่น ถ้าหากรพีพงษ์คิดจะจัดการเขา จริงๆ ล่ะก็ เขาหมดหนทางแล้ว

ในตอนนั้นเอง ธฤตญาณก็กลุ่มของพัชรพลกลับ มายังสตาร์กาย ส่วนด้านพิชญุตม์ก็จัดการอย่างสม เหตุสมผล ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไฟต์คลับของพิชญตม์ ก็เป็นของธฤตญาณแล้ว

เขาพาคนเดินมาถึงรพีพงษ์ เมื่อเห็นรพีพงษ์กำลัง จัดการเวทน ก็อึ้งไปเล็กน้อย

เวทนที่เห็นธฤตญาณพาคนมา ก็ตะเกียกตะกาย ขึ้นมาจากพื้น แล้ววิ่งไปยังหน้าธฤตญาณ เอ่ย ขอร้อง”พี่ธฤต ผมคือเวทน ที่กินข้าวด้วยกันกับพี่ครั้ง ก่อน พี่ช่วยผมหน่อย ไอ้นั่นมันมาก่อเรื่องในเขตของพี่ แถมยังด่าว่าพี่เป็นขยะต้องกำจัดทิ้ง ผมได้ยินแบบนั้น ก็เลยจะเข้าไปจัดการ สุดท้ายไม่นึกว่าเขาจะต่อสู้เก่ง ขนาดนี้ พี่ธฤต พี่ช่วยผมจัดการมันด้วยเถอะ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท