พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 114

บทที่ 114

บทที่ 114 ฉีกหน้ากาก

ทีแรกศศินัดดาคิดว่าข้ออ้างที่ตัวเองพูดจะทำให้ ทุกคนเชื่อใจได้ เพราะคุณหญิงตายตั้งนานแล้ว ไม่มี ใครที่จะสามารถไปพิสูจน์ว่านี่เป็นความจริงหรือไม่

บ้านและรถของพวกเขาก็จะได้มาอย่างสมเหตุสม ผลแล้ว

แต่เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่านภทีปัจะให้พวกเขา เอาบ้านและรถให้ธายุกร

ถ้าทั้งสองอยู่ภายใต้บารมีของรพีพงษ์ เธอกับ ศักดา จะอยู่จะใช้ยังไงก็ได้ แต่ถ้าให้ธายุกรไปพวก เขาคงจะไปแตะต้องไม่ได้ด้วยซ้ำ

ศศินัดดาโวยวายทันทีและเสียใจกับคำพูดที่พูด ไปเมื่อกี้ เธอมองไปทางศักดา อยากจะให้ศักดา ช่วย พูดอะไรหน่อย แต่เขายืนเหมือนไม่รู้เกิดอะไรขึ้นและ ไม่กล้าขัดคืนคำสั่งของนภทีป์

“ไม่ได้เรื่องจริงๆ ! ” ศศินัดดา ด่าไปตรงๆ

ธายุกร ที่กำลังเศร้าเรื่องถูกตรวจบัญชีอยู่ แต่ พอได้ยินแบบนี้ก็รีบยิ้มบานทันที ถึงแม้เขาจะไม่ได้ยุ่ง เรื่องบริษัท แต่ถ้าได้อยู่ในวิลล่าที่หรูพร้อมกับรถที่หรูๆ แปลว่าเขาได้เปรียบแล้ว CM

“ปูนี่ฉลาดจริงๆ เลย ของในตระกูลพวกเราจะไป อยู่ในมือคนนอกไม่ได้” ธายุกรยิ้มปนพูด
อารียามองไปทางนภทีปอย่างเหลือเชื่อ ทั้งทั้งที่ เป็นสองคนที่ทำความผิด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นรพี พงษ์ที่เสียเปรียบ

อยากใจเธอรู้ดีว่าเงินและเวลาใช้เงินของรพีพงษ์ ซื้อมา ไม่ใช่เงินที่คุณหญิงให้มา แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควร ให้ธายุกร

“ปู่จะทำแบบนี้ไม่ได้ รถและบ้านจะให้ธายุกรไม่ ได้!” อารียาอ้าปากพูด

นภทีป์ สีหน้ามืดครึ้มทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงที่ เย็นชาว่า “ทำไม สมบัติของตระกูลเราควรจะให้ คนนอกถืออำนาจหรอ?”

“เขาคือสามีของฉันไม่ใช่คนนอก เงินพวกนั้นก็

เป็นของเขา มีสิทธิ์อะไรที่จะให้ธายุกร” อารียา พูดดำ

น้ำเสียงที่เร่งรีบ

“กล้านัก! ” นภที่ ป์ตะคอก “อะไรคือเงินของเขา ไม่มีการงาน เงินที่ใช้ก็เป็นของตระกูลเรา ถึงแม้จะเป็น ที่ดยายเฒ่าเคยให้ไว้ นั่นก็เป็นเงินของตระกูลเรา รถ และบ้านจะต้องโอนชื่อ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก”

ที่เขาจะเอาบ้านและรถให้ธายุกร เพราะเขาเองก็ อยากย้ายไปอยู่ตรงนั้น

ถึงแม้ที่เขาอยู่ในตอนนี้ก็เป็นวิลล่าเหมือนกัน แต่ ตำแหน่งไม่ค่อยดี เทียบกับดงเย็นไม่ได้เลย นภทีป์ เป็นคนที่ชอบอวดโอ้ครั้งที่แล้วได้รับของโบราณที่ตระกูลลัดดาวัลย์เอามาให้ เขาได้จัดงานใชว่ ด้วย ครั้งนี้มีโอกาสจะเข้าไปพักที่ดงเย็นเขาจะไม่มี ทางพลาดแน่นอน

“รีบไปโอนชื่อ ฉันก็จะเข้าไปอยู่ในนั้น เห็นแกนี่ เป็นเงินที่ยายเฒ่าให้ไว้ ฉันอนุญาตให้พวกแกพักอยู่ที่ นั่น แต่ถ้าทำปฏิกิริยาไม่ดี ฉันก็จะไล่ออกไปทันที”

นภทีป์ พูดเหมือนวิลล่ากลายเป็นของเขาแล้ว ใคร จะพักในนั้นจะต้องขออนุญาตเขาเท่านั้น

พวกญาติๆมองไปทางครอบครัวศศินัดดาด้วย สายตาที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ในใจรู้สึกสบายใจ มาก เพราะพวกเขาไม่ได้เข้าไปอยู่คนอื่นก็ห้ามเข้าไป อยู่

อารียา รีบร้อนจนจะร้องไห้เธอมองไปทางรพีพงษ์ รพีพงษ์เดินไปหนึ่งก้าว พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นนชา “วิลล่าหลังนี้เป็นของฉัน ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง อยากจะ ให้ฉันกลับบ้านโอนชื่อหรอ ฝันไปเถอะ!”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจกันหมด ไม่คิด ว่ารพีพงษ์จะกล้าขัดคำสั่งของคนท่าน

ธายุกรมองไปทางรพีพงษ์ ด้วยสายตาที่เย็นชา และพูดว่า “อยากจะต่อต้านหรอ? แม้กระทั่งคำสั่งของ ปู่ก็ไม่ฟัง อยากจะถูกไล่ออกจากตระกูลใช่ไหม?”

รพีพงษ์ ยิ้มและพูดว่า “เมื่อกี้เขาก็พูดแล้วว่าฉัน เป็นเพียงคนนอก ทำไม คนนอกยังจะกลัวถูกพวกเธอไล่หรอ?”

นภทีป์ ตบไปที่โต๊ะแรงๆและพูดด้วยความโมโห “นี่แกกับพูดแบบนี้กับฉันหรอ? วิลล่าหลังนี้ต้องโอนชื่อ มา พรุ่งนี้ฉันจะไปพัก!”

รพีพงษ์ ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ปู่ อายุเยอะ แล้ว ไม่ควรที่จะย้ายบ้าน ฉันว่าพักอยู่ที่นี่ก็ดีนะ อยู่ที่นี่ เถอะ ที่นั่นไม่เหมาะกับปู่”

นภทีป์ โกรธจนตัวเริ่มสั่น ตาทั้งคู่ต้องไปทางรพี พงษ์ “แก ….แกบ้าไปแล้ว! สมบัติของตระกูลเราแกมี สิทธิ์อะไรจะมาพูด!

“ปู่ ทั้งวินล่านะรถต่างก็เป็นชื่อของฉัน ทาง กฎหมายนี้เป็นของของฉัน ใครจะเอาไปก็ไม่ได้” รพี

พงษ์พูด

อารียาเห็นรพีพงษ์และนภทีป์เริ่มโต้เถียงกัน อยากจะไปห้าม แต่นภทีป์ทำเกินไปจริงๆ ก็เลยปล่อย ให้ทั้งสองทะเลาะกัน

อย่างมากก็เธอออกจากตระกูลแล้วไปหาที่พักกับ รพีพงษ์

GO ครั้งนี้ศศินัดดาไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะนี่ เกี่ยวข้องและเป็นสิ่งตัดสินว่าเธอจะได้อยู่ในวิลล่าต่อ ไหม ถ้ารพีพงษ์อดทนได้ เธอก็จะได้อยู่ต่อ

ไม่ว่ายังไงคนที่ทะเลาะกับคุณท่านก็คือรพีพงษ์ ถ้าจะโทษก็ไม่โทษเธอ
นภทีป์เห็นรพีพงษ์ กล้าเถียงกลับ แถมยังจะใช้ กฎหมายมาพูด เขาก็ยิ่งโกรธไปใหญ่

“อารียา หาสามีได้ดีจริงๆ ครอบครัวเธอเก่งจริงๆ ไม่เห็นหัวหน้าครอบครัวอยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม ดีเลย ดีจริงๆ , ! ” นภทีป์ พูดด้วยคำพูดที่แปลกประหลาด

“ปู่ อารียา กินบนเรือนขึ้บนหลังคา ไล่ออกจาก ตระกูลเลยจะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้อีก” ชรินทร์ ทิพย์ พูดพึมพำ

“หุบปาก! เธอมีสิทธิ์มาพูดหรอ! ” ตอนนี้นภทีป์ กำลังโกรธอยู่ ไม่ว่าใครจะพูดก็จะทำให้เขารู้สึกไม่พอ ใจข

สีหน้าของชรินทร์ทิพย์เปลี่ยนไปทันทีจิกตาไป ทางรพีพงษ์ ที่เธอโดนด่าเพราะเขาคนเดียว

“ใสหัวออกไปเลย ต่อไปมีเรื่องอะไรจะให้ฉันช่วย ก็ไม่ต้องมาหา พวกเธอเก่งแล้ว ฉันจะว่าอะไรไม่ได้ แล้ว! ” นภทีป ตะโกนเสียงดัง

ทุกคนรู้แล้วว่าเขาโกรธจริงๆ ก็เลยรีบเดินออกไป

พวกเขาต่างก็มองไปทางครอบครัวศศินัดดาด้วย สายตาที่น่าสงสาร เรื่องที่รพีพงษ์ ทำในวันนี้มัน เป็นการฉีกหน้าเปิดสึกกลับนภทีป์ ถึงแม้จะไม่ไล่พวก เขาออกจากตระกูลแต่ถ้าต่อไปอยากจะได้ดีอะไรจาก นภทีปคงเป็นไปไม่ได้แล้ว

รพีพงษ์ เดินไปจูงมือของอารียา แล้วเดินออกไปด้านนอก

เขาไม่อยากจะเถียงอะไรกับนภทีป์ ที่เขาอดทน อยู่ในบ้านหลังนี้ก็เพราะอารียา

ตอนนี้นภทีป์ไม่ยุติธรรมกับอารียา เขาก็จะไม่

เกรงใจอีก

ตระกูลเล็กๆ ยังไม่อยู่ในสายตาของเขา แค่เขา อยากจะทำให้ตระกูลนี้พังทลายก็เป็นได้

ศศินัดดาและศักดาเห็นรพีพงษ์พาอารียาเดินไป ก็ รีบเดินตาม

“นี่ทำกรรมอะไรไว้เนี่ย ต่อไปพ่อของฉันจะไม่ดี กับครอบครัวเราอีกแน่” ศักดาพูด

ศศินัดดา จิกตาไปทางเขาและพูดว่า “เพราะแกไม่ ได้ประโยชน์ไง อย่างน้อยตอนนี้ก็มีบ้านและรถ ไม่ อย่างนั้นจะไม่มีอะไรทั้งนั้น”

ศักดา ได้ยินเราก็คิดว่าเป็นยังงั้น ถ้ารพีพงษ์ เอา รถและบ้านโอนไปจริงๆ พวกเขาก็คงไม่ปรับทัศนคติ เป็นแบบนี้ยังจะดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียอะไรไป

แค่พริบตาเดียวในวิลล่าก็เหลือเพียงแต่นภทีป์

และธายุกรสองคน

ชรินทร์ทิพย์ เพราะโดนด่าเมื่อกี้ก็ไปกับคิมหัตต์ แล้ว

“ปู่ รพีพงษ์ จะเกินไปแล้วจริงๆ กล้าขัดคำสั่งของปู่ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ผมว่าต้องเป็นเพราะอารียา สอนแน่นอน” ธายุกรพูด

“ครอบครัวเขาไม่มีใครดีเลย! ” นภทีป์พูด

“ผมว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเพราะอารียาแน่ๆ เลย ตอนนี้ เธอกำลังรับผิดชอบรถเจ็ดของบริษัทอยู่บอกได้เลยว่า นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของตระกูล ก็เลยคิดว่าปู่จะไม่ กล้ายุ่งอะไรกับเธอ” ลูกตาของธายุกรหมุนไปมาและ พูด

นภทีป์ เหมือนจะคิดอะไรได้และพูดว่า “รู้จักที่ สำคัญของบริษัทจะให้หล่อนรับผิดชอบคนเดียวไม่ได้ แล้ว”

“ใช่สิปู่ ว่ายังไงก็เป็นสะใภ้บ้านคนอื่น ถึงแม้รพี พงษ์จะเข้ามาอยู่ในบ้านแต่ก็จะให้รับผิดชอบโปรเจค สำคัญแบบนี้ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นสมบัติของตระกูลบ้าน เราก็จะต้องไปอยู่ในมือคนนอก” ธายุกร พูดจุด ประสงค์ที่แท้จริงของตัวเองออกมา

นภทีปหรี่ตา “พรุ่งนี้ไปที่บริษัทกับฉันโปรเจคนี้จะ ต้องเปลี่ยนคนรับผิดชอบจะให้อารียาทำต่อไม่ได้แล้ว”

บนใบหน้าของธายุกรเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แผน เป็นจริงสายตาก็เต็มไปด้วยความสุข อารียา ถ้าไม่มีโปรเจคของบริษัทอยู่ในตระกูลเรา แกก็ไม่ช่วยอะไรเลย!
กลับไปถึง ดงเย็น ศศินัดดา เหมือนอารมณ์จะดี มากวิลล่าไม่ได้เสียไปเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญยิ่งกว่า สิ่งอื่น

“รพีพงษ์ วันนี้ทำได้ดีมาก แต่ก็อย่าดีใจไป เพราะ วิลล่านี้ก็ยังเป็นของตระกูลเราว่างๆ หาเวลาโอนชื่อไป ให้อารี, ส่วนรถคันนั้นก็เก็บไว้เถอะ” ศศินัดดาพูด เธอรู้สึกว่านี่เป็นกระตัดสินใจที่ดีที่สุด

“แม่ แม่คิดว่านี่เป็นเงินของย่าจริงๆ หรอ? อย่ามาส ร้างเรื่องอีกเลย”

อารียาจับมือของรพีพงษ์แน่นๆ กลับเข้าไปในห้อง เธอไม่อยากจะฟังศศินัดดาพูดต่อ

“ช่วงนี้ลำบากคุณแล้วนะ” อารียา พูดด้วยน้ำเสียง

ที่เป็นห่วง

“ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด

บนใบหน้าของอารียามีความกังวล “หลังจากเรื่อง ครั้งนี้จะต้องหาวิธีไล่ฉันออกจากโปรเจคเป็นแน่ อาจ จะถึงขั้นไล่ฉันออกจากบริษัท ฉันคงจะต้องไปหางาน อื่นแล้ว”

รพีพงษ์หรี่ตา จากนั้นก็พูดว่า “เรื่องนี้เธอไม่ต้อง เป็นห่วง โปรเจคนั้น นอกจากเธอก็จะไม่มีใครยุ่งได้” อารียาอึ้งไปปสักแป๊บ รู้สึกว่ารพีพงษ์ พูดแบบนี้ เหมือนเขาเป็นเจ้าของบริษัทเลย

เห็นอารียา มีสายตาที่สงสัย รพีพงษ์รีบอธิบายไปว่า “เธอลืมไปแล้วว่าฉันมีเพื่อนที่บริษัท”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท