พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 120

บทที่ 120

บทที่ 120 คุกเข่าขอโทษ

ทุกคนต่างก็ใช้สายตาที่เย็นชามองไปทางชริน

ทร์ทิพย์ เวลานี้ใครกล้าพูดแทนหล่อนเป็นหาที่ตาย ธายุกรจ้องไปทางชรินทร์ทิพย์ “เจน ฟังที่ปู่พูด คุกเข่าขอโทษสาวน้อยคนนี้และหมอเทวดา ขุ

ชัดๆ

สุขภาพของปู่สำคัญที่สุดนะ”

ชรินทร์ทิพย์ มองไปทางเจสสิก้าด้วยสีหน้าที่ ไม่พอใจ เด็กผู้หญิงคนนี้อายุน้อยกว่าเธอตั้งหลาย ปีแต่จะให้เธอคุกเข่าขอโทษหรอ เธอทำไม่ได้

รพีพงษ์และอารียา ยิ้มแล้วมองไปทางชรินทร์ ทิพย์ ชรินทร์ทิพย์ ที่ไม่เคยแคร์ใครได้เจอกับคนที่ กลัวสักที

“ตระกูลฉัตรมงคล ไม่มีความจริงใจเลย พวก เรากลับกันเถอะอาจารย์” เจสสิก้าเห็นชรินทร์ทิพย์ นิ่งๆ ก็พูดออกเสียง

นภทีป์ กลัวทันทีและตะคอกไปทางชรินทร์ ทิพย์ “ชรินทร์ทิพย์ ถ้าไม่ครบเขาตอนนี้ฉันจะไล่ ออกจากบ้านทันที
ชรินทร์ทิพย์ถึง จะเดินไปตรงหน้าของเจสสกา ชุติเทพ จากนั้นก็คุกเข่าลงช้าๆ

“ขอ….ขอโทษ” ชรินทร์ทิพย์ ใช้เสียงระดับที่ ยุงส่งเสียงพูด

“เธอเป็นยุงหรอ? ปกติถ้าพูดด้วยน้ำเสียงแบบ นี้หรอ? หรือเธอดึงสายเสียงมาไว้ที่บ้าน? ” เจสสิ ก้า พูดออกมาตรงๆ

คนที่อยู่ในเหตุการณ์หัวเราะไม่น้อย

ชรินทร์ทิพย์ ทำตัวไม่ถูก จากนั้นก็เพิ่มระดับ เสียง “ขอโทษ” “ไม่ทราบว่าคุณพอใจกับการขอโทษนี้ไหม?

ถ้าไม่พอใจจะให้ขอโทษต่อ” นภทีป์ มองไปทางเจ

สสิก้า ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

เจสสิก้าเบ้ปาก “ได้ก็ละกัน”

ชุติเทพยิ้มและพูดว่า “เด็กไม่รู้เรื่อง มาขาย หัวเราะที่นี่แล้วเจสสิก้า อย่าดื้อ”

ธายุกร ไม่รู้จะพูดอะไร ถ้ารู้สึกว่าเป็นการขาย หัวเราะ ทำไมไม่ถามตั้งแต่เมื่อกี้

นภทีปก็ยิ้มให้ชุติเทพแปลกๆ ไม่รบกวนจะพูด อะไร

“รีบรีบนอนลงไปผมจะดูให้ตอนนี้” ชุติเทพพูดกับนภทีป์

นภทีป์ รีบนอนลงไป

ชุติเทพ เดินไปตรงหน้า และเอาอุปกรณ์ออก มาตรวจสุขภาพให้นภทีป์

หมอคนนั้นก็เคยได้ยินชื่อเสียงของชุติเทพ แต่ เค้าเป็นหมอรักษาด้านตะวันตก ชุติเทพ เป็นแพทย์ แผนจีน เค้ารู้สึกว่าโรคที่เขารักษาไม่ได้แพทย์แผน จีนก็ต้องรักษาไม่ได้

เค้าก็เลยอยากรู้ว่าชุติเทพจะรักษายังไงนภทีป์ ชุติเทพทำไรข้างเตียงนภทีป์ไปครึ่งชั่วโมง คนในตระกูลฉัตรมงคล ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย

ชรินทร์ทิพย์ อยากจะลุกขึ้น แต่เมื่อกี้ชุติเทพ บอกว่าให้ทุกคนเงียบ ชรินทร์ทิพย์ตกใจจนไม่กล้า ลุกขึ้นกลัวว่าจะทำให้เสียงดัง

เธอก็เลยคุกเข่าอยู่บนพื้นตลอด ขาชาและ เมื่อยไปหมด แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร

รพีพงษ์เห็นชรินทร์ทิพย์ คุกเข่าอยู่ ก็ดันตัว อารียาไปเบียดชรินทร์ทิพย์ เหมือนชรินทร์ทิพย์ กำลังกราบอารียาอยู่

ชรินทร์ทิพย์ จะริมฝีปากมองไปทางอารียา ด้วยสายตาที่โกรธแค้น อารียา รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่เธอควรจะได้รับไม่จำเป็นจะต้องสงสาร

ผ่านไปซักแป๊บชุติเทพหยุดลงและพูดว่า “ตอน นี้รู้สาเหตุแล้ว เดี๋ยวฉันจะจ่ายยาให้ กินตามสูตรนี้ ครึ่งเดือนก็จะหาย”

นภทีปได้ยินคำพูดของชุติเทพก็โล่งอกไปจาก นั้นก็รีบพูดว่า “หมอเทวดาชุเก่งจริงๆ เลย ผมแก่ ขนาดนี้แล้วถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือของคุณ คงอีกไม่ นานผมจะอยู่ในดิน”

ชุติเทพ แค่ยิ้มอ่อน แต่ไม่ได้พูดอะไร

หมอที่อยู่ข้างๆอึ้งไปเลย เมื่อกี้ตอนที่เค้าดูการ รักษาก็อึ้งแล้ว แต่ตอนนี้เห็นชุติเทพรักษานภทีป์ได้ แล้วในใจก็ไม่รู้จะพูดยังไงอีก

“หมอเทวดา บอกผมได้ไหมว่าเมื่อกี้คุณ

รักษายังไง” หมอพูด

ชุติเทพยิ้มและมองไปทางหมอ “ขอโทษด้วย ครับ ที่เป็น ของที่ผมศึกษาได้เองจะสืบให้เจสสิก้า

คนเดียว”

เจสสิก้ารีบทำหน้ามีความสุข แต่พอเห็นรพี พงษ์กก็รีบหุบยิ้ม

ทุกคนมองไปทางเจสสิก้าด้วยสีหน้าที่อิจฉา ในใจกำลังคิดอยู่ว่าจะสร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกับคน นี้ได้ยังไง
“พอแล้ว โรคก็ดูเสร็จแล้ว พวกเราจะไม่อยู่ต่อ แล้ว” ชุติเทพ ลุกขึ้นและพูดกับนภทีป์

“อาจารย์พวกเขายังไม่จ่ายเงินเราเลย” เจสสิ ก้าพูด

นภทีป์ รีบเอามือไปตบศีรษะและพูดว่า “ดู ความจำผมสิ ธายุ รีบไปเอาใจกันสมัยหมิงใน โบราณมาให้หมอเทวดาชู้เป็นการตอบแทน”

ธายุกร รีบพยักหน้าแล้วไปเอาแจกัน

ชรินทร์ทิพย์รู้ว่าที่นภทีป์พูดคือ ของที่ตระกูล ลัดดาวัลย์เอามา เธอรู้สึกมาตลอดว่าของพวกนั้น เป็นของเธอ

ตอนนี้จะเอาไปให้คนอื่นนั้นหรอ? เธอไม่ยอม หรอก

“ปู่ ของพวกนั้นเป็นของหนู จะให้คนอื่นไม่ได้” ชรินทร์ทิพย์พูด

นภทีป์ รีบจิกตาไปทั้งเธอและพูดว่า “ของ เธอ? ใครบอก? นั่นเป็นของที่ให้ฉัน ตอนที่ส่ง ของคงไม่มีใครบอกว่าเป็นของเธอมั้ง!

“ชรินทร์ทิพย์ ช่วงนี้ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ ช่วง เวลานี้ก็อยู่ในบ้านเถอะ ให้พ่อแม่สั่งสอนว่าควรจะ ใช้ชีวิตยังไง!”
นภทีป์ โกรธชรินทร์ทิพย์แล้วจริงๆ การกระทำ ของวันนี้ทำให้เขายิ่งผิดหวังไปใหญ่ก็เลยไม่ได้ เกรงใจอีก

ถึงแม้ทุกคนจะทายว่าตระกูลลัดดาวัลย์มา เพราะชรินทร์ทิพย์ แต่นั่นก็เป็นเพียงการทายเฉยๆ ใครจะรู้ว่าลูกสาวที่ตระกูลลัดดาวัลย์ชอบคือคน

ไหน เค้าเป็นหัวหน้าตระกูลไม่จำเป็นต้องทนเพราะ สาเหตุนี้

ชรินทร์ทิพย์โกรธมาก ในใจคิดอยู่ รอให้ ตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอเธอ เธอจะให้คนพวกนี้ไม่ อยู่ดีแน่!

ชุติเทพ ไม่ได้เกรงใจ ก่อนที่จะมารพีพงษ์ก็ บอกเขาแล้วว่าไม่ต้องเกรงใจกับคนครอบครัวนี้ เค้าก็เลยรับของที่เอามาให้

หลังจากที่ชุติเทพและเจสสิก้าไปนภทีป์

ต้องการจะพักผ่อน ก็เลยให้ทุกคนแยกย้ายกันไม่ ได้พูดถึงเรื่องนี้ที่รพีพงษ์เป็นคนเชิญชุติเทพมา รพีพงษ์ ก็ไม่ได้ถือสาเค้าทำได้ในสิ่งที่พูดแล้ว

นภทีปก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่อารียาออกไป

ตอนที่ออกจากวิลล่าธายุกรมองไปทางรพีพงษ์ ด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดว่า “รพีพงษ์ อย่าคิดว่าครั้งนี้โชคดีที่เชิญหมอมาได้และคิดว่าแกและอารี ยาจะสบาย”

“จะบอกให้ว่าตอนนี้ในตระกูลเราวุ่นวายไป หมด ให้ไปเป็นผู้จัดการตอนนี้ก็เป็นการผลักเข้าไป ในหลุมไฟ ถึงเวลาจะยุ่งกว่านี้พวกแกก็ต้องออก จากตระกูลอยู่ดี”

รพีพงษ์แค่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรและพาอารียาไป จากทีนี่

อารียาเองก็สงสัย รพีพงษ์ รู้ว่าโปรเจคที่ร่วม กันได้หยุดลงแล้ว ทำให้ตระกูลเสียอะไรไปเยอะ ถึงเวลาจะเป็นผู้จัดการที่เก่งขนาดไหนก็ไม่ สามารถที่จะดึงตระกูลออกจากปัญหาพวกนี้ได้ นอกจากโปรเจคนี้ทำต่อ

รพีพงษ์ ไม่มีทางทำร้ายอารียาแน่นอน แต่เธอ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าถึงทำแบบนี้

“รพีพงษ์ ไม่มีโปรเจคที่ร่วมมือกับบริษัทซัน บับเบิล กรุ๊ป ถึงแม้ฉันจะได้เป็นผู้จัดการกำลังจาก ที่ฉันไป สิ่งที่รฉันก็เป็นปัญหามากมาย คุณคิดว่า ทำไมปูถึงเอาตำแหน่งผู้จัดการให้ฉันล่ะ? ” อารียา พูด

รพีพงษ์ยิ้มและพูดว่า “เช็คของบริษัทซัน

บับเบิ้ล กรุ๊ปและตระกูลฉัตรมงคล หยุดแค่ชั่วคราวรอให้เธอเป็นผู้จัดการโปรเจคนี้ก็จะทำต่อ”

อารียาอึ้ง ไม่รู้ทำไมเค้าแน่ใจขนาดนี้ เหมือน ทั้งหมดนี้เค้าเป็นคนวางแผน

“ทำไมแน่ใจขนาดนี้? ” อารียาถาม

รพีพงษ์ ยิ้มและพูดว่า “มีเพื่อนที่บริษัทซัน บับเบิล กรุ๊ปไง พอแล้วอย่าคิดมากหน่า รอให้เธอ เป็นผู้จัดการ ไอ้พวกนั้นยังอยากจะรังแกเธออีก คงจะต้องคิดดีดีแล้ว”

หลังจากนั้นสองวันอาการของนภทีป์ดีขึ้น รวบรวมให้ทุกคนมาประชุมอีกครั้ง

“ครั้งนี้ที่ฉันอาการดีขึ้นก็เพราะรพีพงษ์ แต่รพี

พงษ์ เป็นเพียงคนที่หาหมอมาก็คงจะเป็นเพราะ

ความโชคดี แต่ก็อย่าคิดว่าตัวเองเก่งนัก เริ่มตั้งแต่

วันนี้บริษัทจะให้อารีเป็นผู้จัดการ” “คุณท่าน ให้พวกเราฟังคำสั่งของเด็กคงจะไม่ ดีมั้ง? ” มีคนโต๊ะกลับทันที

นภทีจิกตาไปทางเขา “โอ๋? งั้นให้แกมาเป็น ผู้จัดการไหม บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป เคยให้คำเชิญ ไปทำงานไหม?

คนคนนั้นเงียบไปทันทีเค้าเป็นคนที่ไม่ทำงาน อะไรเลย แถมทำอะไรไมเป็นด้วย ก็แค่สร้างปัญหา
“ปู่ให้อารียาเป็นผู้จัดการก็เป็นเ เป็นการต เพราะตอนนี้บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปหยุดโปรเจคกับ พวกเราแล้ว บริษัทกำลังวุ่นวายอยู่ ต้องการคน เก่งๆอย่างอารียามาจัดการ” ธายุกรพูด

ทุกคนเพิ่งคิดได้และเห็นด้วย

“ใช่ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่บริษัทไกล้จะตาย อารียาเธอจะต้องให้บริษัทฟื้นให้ได้ ไม่อย่างนั้น เธอก็เป็นคนบาป”

“อารียา ตอนนี้เป็นตอนที่เธอทำงานให้บริษัท แล้ว ถ้าเธอไม่ช่วยให้บริษัทพ้นภัยครั้งนี้ไป ก็จะ ทำให้ผิดหวัง

ธายุกร เห็นผู้คนเริ่มพูดกัน ในใจของเขาแอบ คิด “อารียา ครั้งนี้บริษัทเจอปัญหาแบบนี้ ไม่ใช่เธอ คนเดียวที่จะแบกรับไหว ถึงเวลาเธอสวยแน่!

อารียา ไม่สนใจคนพวกนั้นและพูดว่า “คุณปู่ อารี จะดูแลบริษัทให้ดีดีแทนปู่เป็นแน่ เดี๋ยวหนูจะ ไปขอดูว่าโปรเจคทำต่อได้ไหม”

ทุกคนหัวเราะเยาะเย้ย นี่อารียากำลังฝันอยู่

หรอ

แล้วในตอนนี้ประตูวิลล่าก็ถูกเปิด จากนั้นเธียร วิชญ์ ที่ใส่เสื้อสูทก็เดินเข้ามา ข้างข้างเค้ายังมีเลขาที่หุ่นเป๊ะเว่อร์

“ไม่ต้องแล้ว บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป จะทำโปร เจคกับตระกูลฉัตรมงคลต่อ!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท