พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 121

บทที่ 121

บทที่ 121 โอนวิลล่าให้ฉัน

คนในตระกูลฉัตรมงคลไม่เคยเจอเธียรวิชญ์ ดังนั้นเมื่อ เห็นเธียรวิชญ์ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย

“เขาเป็นใคร? เขาบอกว่าสำนักงานสาขาบริษัทซัน บับเบิ้ล กรุ๊ป จะยอมต่อสัญญากับตระกูลฉัตรมงคล หรือ จะเป็นคนของสำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ป? ”

“อย่าล้อเล่นนา คนของสำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป จะมาอยู่ที่นี่ได้ไง อาจเป็นคนที่อารียาส่งมาเล่นละคร ก็ได้”

“ดูเหมือนมาก นักแสดงคนนี้เก่งจริงๆ อารมณ์ที่ แสดงออกมาทำให้ฉันคิดว่าเป็นประธาน ของสำนักงาน สาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ปจริงๆ”

คนตระกูลฉัตรมงคลพวกนี้ไม่รู้จักเธียรวิชญ์ แต่นภทีป์

กับธายุกรรู้จัก เมื่อเห็นเธียรวิชญ์เข้ามา นกทีป์ที่พักฟื้นอยู่รีบยืนขึ้น ทันที ธายุกรก็รีบเดินเข้าไป เมื่อคิดถึงเรื่องที่เธียรวิชญ์พูด

ถึงเขาวันก่อน ในใจก็รู้สึกขาดความมั่นใจ

อารียาก็ไม่รู้จักเธียรวิชญ์เช่นกัน ใบหน้าเต็มไปด้วย ความสงสัย แม้รพีพงษ์บอกว่าแค่เธอได้เป็นผู้จัดการ สำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ป ก็สามารถกลับมาต่อ สัญญากับตระกูลฉัตรมงคลได้

รอไม่คิดว่าตัวเองที่เพิ่งจะได้เป็นผู้จัดการ คนของสำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ปก็มาซะแล้ว อีกทั้งดู จากท่าทางแล้ว ราวกับเป็นคนใหญ่คนโตของสำนักงาน สาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ป

ถ้านี่เป็นคนที่รพีพงษ์เรียกมางั้นรพีพงษ์ก็เก่งเกินไปแล้ว อารียาหันไปมองรพีพงษ์ ก็เห็นว่ารพีพงษ์ยิ้มให้เธออย่าง หยอกล้อ ราวกับว่าทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของ เขา

ญาติๆตระกูลฉัตรมงคลที่ไม่รู้จักเธียรวิชญ์เดินเข้ามา และเย้ยหยันเขาทันที

“คุณเป็นนักแสดงที่อารียาเชิญมาใช่ไหม แสดงได้ เหมือนมาก ทั้งยังมีเลขามาด้วยอีก อารียาคงให้เงินพวก คุณไปไม่น้อยเลยใช่ไหม”

“อารียา เธอเห็นเราเป็นคนโง่รึไง บริษัทใหญ่อย่าง สำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ป จะเป็นฝ่ายกลับมา ต่อสัญญากับเราเองได้ยังไง เธอทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์ แม้แต่น้อย”

“อีกอย่าง เธอเพิ่งจะได้เป็นผู้จัดการ พวกเขาจะกลับมา ต่อสัญญากับเราได้ยังไง เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? ท่านปู่นภ ทีป์ ฉันว่าอารียาไม่เหมาะที่จะเป็นผู้จัดการตั้งแต่แรก ถึง ได้ทำเรื่องแบบนี้”

เมื่อนภทีปกับธายุกรได้ยินพวกญาติๆพูดเหน็บแนม สีหน้าดูไม่ดีขึ้นมาทันที
ธายุกรเด็กกว่าจึงพูดอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงมองพวกเขา ด้วยสายตาน่าสงสาร ในใจพลางคิดว่าอย่าให้นภทีป์โมโห เลย

นภทีด่ากลับไป:”พวกแกไสหัวออกไปให้หมด! เขาเป็น ถึงประธานของสำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป แต่ กลับโดนพวกแกชี้นิ้วด่าอย่างนี้นะเหรอ? ต่อจากนี้ไปผล กำไรของบริษัท พวกแกอย่าคิดว่าจะได้ไปสักแดงเดียว ไสหัวออกไปซะ!

เมื่อพวกเขาได้ยินนภทีป์พูดเช่นนั้น หน้าถอดสีทันที พวก เขาไม่คาดคิดว่าคนนี้จะเป็นประธานของสำนักงานสาขา บริษัทซันบับเบิลกรุ๊ป เป็นเรื่องใหญ่แล้ว

พวกเขาเสียใจภายหลัง และมองนกที่ป์ด้วยสายตา

ขอร้อง

นภทีป์เห็นพวกเขายังไม่ออกไป ก็รีบคว้าแก้วที่ตั้งอยู่บน โต๊ะปาไปยังพวกเขา

พวกเขาเห็นเป็นเช่นนั้น ก็รู้ว่าถ้าหากยังไม่ออกไป เกรง ว่านภทีปคงได้ป่วยอีกรอบ ดังนั้นจึงรีบพากันออกไป

ธายุกรสายหน้า ในใจคิดว่าคนในตระกูลฉัตรมงคลพวก นี้ ต่อไปอย่าได้คิดว่าจะมีโอกาสออกหน้าออกตาอีกเลย

คนที่เหลืออยู่ก็สงสัยเช่นกัน แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนภ ที่ป์ก็เข้าใจขึ้นมาทันที คนคนนี้คงเป็นประธานของ สำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ปจริงๆ

ทุกคนต่างไม่อยากจะเชื่อ คาดไม่ถึงว่าประธานของสำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ป จะกลับมาทาตอ สัญญาด้วยตัวเอง

หรือจะเป็นเพราะอารียา?

ทันใดนั้นทุกคนก็เดาความสัมพันธ์ของอารียากับเธียร วิชญ์ จากการคาดเดาของพวกเขา คิดว่าอารียาคงสวมเขา ให้รพีพงษ์แล้วล่ะ

ไม่งั้นระดับประธานของสำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป จะมาต่อสัญญาด้วยตัวเองแบบนี้ได้ยังไง

คิดเช่นนั้น พวกเขาก็คิดว่าสมเหตุสมผล พลางมองรพี

พงษ์ด้วยสายตาเห็นใจ

บางคนต้องหาเหตุผลต่างๆมาปกปิดความตระหนกไว้ใน ใจเสมอ พวกเขาไม่อยากยอมรับความเก่งของคนอื่น จึงใช้ ความคิดร้ายๆมาแสดงความอิจฉาที่มีอยู่ในใจ

นภทีป์เดินไปหาเธียรวิชญ์ตัวสั่น พลางพูด”ประธาน ที่ พวกไม่มีมารยาทล่วงเกินคุณเมื่อครู่นี้ หวังว่าคุณอย่าได้ ใส่ใจ”

เธียรวิชญ์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ไม่เป็นไร ท่านปู่นภทีบ์ไม่ สบายอยู่รีบนั่งลงเถอะ ที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อจะมาบอกว่า พวก เราตกลงที่ต่อสัญญา กับตระกูลฉัตรมงคลต่อ”

นภทีปรีบพยักหน้าและพูดขึ้น:”ประธานทำสัญญากับ ตระกูลฉัตรมงคลของเราต่อ เหมือนเป็นการให้เกียรติเรา ผมรู้สึกขอบคุณมาก”

เธียรวิชญ์ยิ้มแล้วพูดขึ้น:”แต่ผมต้องแจ้งถึงเหตุผลที่ผมยอมต่อสัญญา คุณเป็นคนที่มีความชอบธรรม ที่ให้อารยา เป็นผู้จัดการ ผมหวังว่าจากนี้สิทธิในมือเธอจะมีมากขึ้น หน่อย เช่นนี้เราจึงสามารถต่อสัญญากับตระกูลฉัตรมงคล ได้” था

นภที่ป์พยักหน้าทันทีและพูดขึ้น :”ประธานไม่ต้องกังวล ตอนนี้อารีเป็นผู้จัดการแล้ว จากนี้ผมจะค่อยๆให้สิทธิกับ เธอ”

ธายุกรที่อยู่ไม่ไกลกัดฟันกรอดๆ สิ่งที่นภทีป์พูด ราวกับ ให้ทุกอย่างของตระกูลฉัตรมงคล กับอารียาอย่างไรอย่าง นั้น

แต่ต่อหน้าเธียรวิชญ์ เขาไม่กล้าพูดอะไร

“อีกอย่าง เพื่อไม่ให้คนในบ้านของคุณคิดไปไกล ผม ต้องอธิบายกับพวกคุณสักหน่อย ว่าทำไมผมถึงให้ความ สำคัญกับอารียา”

เธียรวิชญ์พูดจบก็ให้เลขาของตน พูดโครงการที่อารียา ทำจนประสบความสำเร็จ ทั้งหมดออกมาให้ทุกคนฟัง

ผลงานพวกนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่บริษัทไหน ถือว่ายอดเยี่ยม

มาก

คนตระกูลฉัตรมงคลพวกนี้ถึงแม้จะเอ้อระเหยในบริษัท

ไปวันๆ แต่ความสำเร็จของงานพวกเขาก็พอจะดูออก อีก ทั้งตอนที่อารียาดูแลโครงการ ตระกูลฉัตรมงคลก็พัฒนาดี ขึ้นมาก เพียงแต่พวกเขาไม่ยอมรับก็เท่านั้น

ขณะนี้เธียรวิชญ์กำลังแสดงให้พวกเขาเห็นถึงประสิทธิภาพที่แท้จริง ให้พวกเขายอมรับความเก่งของอารี

ยา

คนที่คาดเดาในเมื่อครู่ว่าอารียาทำบางอย่าง จึงทำให้ สำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ปร่วมงานต่อ ตอนนี้คน พวกนั้นต่างทำตัวไม่ถูก

นี่เป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย อีกทั้ง เหมือนบอกพวกเขาว่า พวกเขาทำอย่างอื่นไม่เป็นนอกจาก ใส่ร้ายคนอื่น อารียาเห็นเธียรวิชญ์ทำแบบนี้ ในใจก็รู้สึกซาบซึ้ง เป็น

เช่นนี้ใครก็ไม่อาจว่าร้ายเธอลับหลังได้แล้ว

แม้บางคนจะยังปฏิเสธไม่ยอมรับ ว่าอารียาอาศัยความ สามารถมานั่งตำแหน่งผู้จัดการ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอารียา ทำได้ดีกว่าพวกเขามาก

แต่ที่เธียรวิชญ์ทำแบบนี้ เพราะเกรงว่ารพีพงษ์จะมา จัดการเขา เพราะคนอื่นพูดถึงอารียาไม่ดี เขาไม่อยาก แบกรับความโกรธเกรี้ยวของรพีพงษ์

เมื่ออธิบายทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธียรวิชญ์ก็กลับไป

พร้อมกับเลขาของเขา

คนในตระกูลฉัตรมงคลล้วนไม่สบอารมณ์ โดยเฉพาะธา

ยุกร

เขาคิดว่าถึงอารียาจะได้เป็นผู้จัดการ ก็ไม่ได้มีผลกระ ทบอะไรกับเขา อีกทั้งไม่ได้ร่วมงานกับสำนักงานสาขา บริษัทซันบับเบิลกรุ๊ป ตระกูลฉัตรมงคลก็เป็นแค่เรื่องเละเทะ แค่นี้ก็เป็นปัญหากับอารียาแล้ว

แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่า อารียาที่เพิ่งจะได้เป็นผู้จัดการ สำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลกรุ๊ปก็กลับมาต่อสัญญา ทันที อีกทั้งนภทีปยังรับปากว่าจะให้สิทธิอีกมากมายกับ อารียา

เป็นเช่นนี้ตำแหน่งของอารียาในตระกูลฉัตรมงคล อยู่ใน ตำแหน่งสูงมากๆ แม้ว่าเขาจะเป็นทายาทสืบทอดตระกูล ฉัตรมงคลในอนาคต แต่นภทีป์ยังไม่ตาย งั้นตำแหน่งใน ตระกูลฉัตรมงคลของเขา ต่ำกว่าอารียาซะอีก

เขามองหน้าอารียาด้วยความเคียดแค้น ไม่รู้ทำไม เขา กับอารียาก็เป็นศัตรูกันมานาน แต่ไม่เพียงเขายังไล่อารียา ออกจากตระกูลฉัตรมงคลไม่ได้ ตำแหน่งของอารียาใน ตระกูลฉัตรมงคลกลับยิ่งสูงขึ้นไปอีก

“รอฉันก่อนเถอะ ฉันเป็นทายาทของตระกูลฉัตรมงคล วันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว เธอจะต้องโดนเหยียบใต้เท้าฉัน!

หลังจากที่อารียาเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ตระกูล ฉัตรมงคลที่เดิมที่นั้นย่ำแย่ ตอนนี้มั่นคงขึ้นมาแล้ว

นภทีปก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องจะเอาวิลล่าหรือรถกลับมา คนที่ ดีใจที่สุดก็คือศศินัดดา

แค่ตระกูลฉัตรมงคลไม่มีปัญหา ศศินัดดาก็ไม่เดือดร้อน เธออยากสร้างปัญญาให้รพีพงษ์

หลังจากเรื่องนี้ศศินัดดาก็รู้อะไรมากขึ้น ถ้าวิลล่าไม่ใช่ ชื่อของอารียา งั้นพวกเขาก็อยู่อย่างไม่มีหน้ามีตา
รพีพงษ์ถึงขนาดกล้าแข็งข้อกับนภทีป์ เพราะวิลล่าเป็น ชื่อเขา

ถ้าหากวันไหนรพีพงษ์ไม่ใจดีขึ้นมา ถึงเขาจะไล่พวกเขา ออกไป พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงทำให้ศศินัดดาอยากให้รพีพงษ์ รีบโอนวิลล่าให้

เป็นชื่ออารียา

วันนี้รพีพงษ์ส่งอารียาไปทำงาน หลังจากกลับมาก็เห็น ศศินัดดานั่งอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นเธอกลับมาดวงตา ของเขา ก็กลายเป็นเหมือนสุนัขจิ้งจอกทันทีและไม่ปิดบัง

“รพีพงษ์ คุณมานี่หน่อยสิ”ศศินัดดาพูด

รพีพงษ์เดินไปหาศศินัดดา มองเธออย่างสงสัยพลาง พูด:”มีอะไรครับแม่? :

ศศินัดดายิ้มๆแล้วพูดขึ้น:”นั่งลงก่อน ฉันมีเรื่องอยาก คุยกับแก”

รพีพงษ์นั่งลงตรงข้ามศศินัดดา

“คืออย่างนี้นะ ถึงพวกแกไม่พูดฉันก็พอจะรู้ ช่วงนี้แก นอนบนเตียงอารีตลอด ฉันพูดถูกใช่ไหม? “ศศินัดดาพูด

รพีพงษ์นิ่งอึ้งไป ไม่รู้ว่าทำไมศศินัดดาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้น และสิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ ตอนกลางคืนศศิ นัดดาแอบตรวจดูพวกเขา

ตอนที่พวกเขานอนไม่ได้ล็อกประตูแต่ก็ปิดมัน ศศินัดดา รู้เรื่องนี้ได้ ต้องเป็นเพราะเธออาศัยตอนที่พวกเราหลับแล้วแอบเปิดประตูเข้ามาแน่ๆ

นี่ทำให้รพีพงษ์รังเกียจนิดหน่อย คิดไม่ถึงว่าศศินัดดาจะ ทำเรื่องแบบนี้

“คุณหมายความว่าไง? “รพีพงษ์ถาม

“ความหมายของฉันนั้นง่ายมาก อารีเป็นลูกสาวของฉัน แกนอนบนเตียงกับเธอก็เท่ากับเอาเปรียบเธอ แบบนี้แกเอา เปรียบเฉยๆไม่ได้หรอกนะ”ศศินัดดาพูด

รพีพงษ์หมดคำจะพูด เขาพูดขึ้น:”ผมกับเธอเป็นสามี ภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย นอนเตียงเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ ถูกต้องแล้ว”

“เหลวใหล! ตอนนี้ลูกสาวฉันเป็นถึงผู้จัดการของบริษัท เธอเก่งขนาดนี้ แกมีคุณสมบัติอะไรมาเป็นสามีของเธอ รพี พงษ์ แกอย่าทำเป็นไม่รู้ผิดชอบหน่อยเลย ถ้าไม่ใช่เพราะ ลูกสาวฉัน แกคงโดนท่านปู่นภทีป์ไล่ออกจากตระกูล ฉัตรมงคลไปนานแล้ว”

“ถึงฉันจะไม่รู้ว่าแกเอาเงินจากไหนมาซื้อวิลล่า แต่แกก็ ไม่เหมาะสมกับลูกสาวของฉัน ตอนนี้นอนเตียงเดียวกับเธอ แกชดเชยให้เธอนั่นก็เป็นเรื่องที่ควรทำ”

“ดังนั้นฉันอยากให้แกหาเวลา แล้วไปโอนวิลล่าหลังนี้ให้ ลูกสาวฉันซะ แบบนี้ถึงจะยุติธรรม ช่างเถอะ แกโอนวิลล่า ให้ฉันก็ได้ ยังไงเมื่อถึงเวลาฉันก็โอนให้อารีอยู่ดี”

ศศินัดดาพูดอย่างมั่นใจ ไม่รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเกินไป แม้แต่น้อย
“คิดไม่ถึงจริงๆ เพื่อให้ได้วิลล่าหลังนี้ ถึงกับคิดว่าอาร์ เป็นสินค้า หรือเธอในสายตาของคุณมีค่าแค่วิลล่าหลังหนึ่ง งั้นเหรอ? “รพีพงษ์พูดอย่างเย้ยหยัน

“หี ฉันต้องเป็นฝ่ายถามแกมากกว่า แกเอาเปรียบลูกสาว ฉัน แต่แม้แต่วิลล่าหลังหนึ่งก็ไม่ให้? “ศศินัดดาพูดอย่าง ดุดัน

รพีพงษ์กระตุกยิ้มแล้วพูด:”วิลล่าหลังนี้สำหรับผมแล้วขน หน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ให้คุณไปแล้วจะยังไง”

“ฮ่าๆ ยังจะมาอวดกับฉัน วิลล่าหลังนี้ราคาตั้ง15ล้าน แก

คิดว่าตัวเองเป็นใคร ประธานของสำนักงานสาขาบริษัทซัน

บับเบิลกรุ๊ปงั้นเหรอ? แกพูดมาว่าจะโอนหรือไม่โอน ถ้าไม่

โอนคืนนี้แกกับอารีก็นอนแยกกัน”

รพีพงษ์ถอนหายใจ ไม่อยากเถียงกับเธอต่อจึงพูด ขึ้น:”วิลล่าหลังนี้ให้คุณได้ แต่หลังจากนี้คุณไม่สามารถยุ่ง เกี่ยวกับอะไร ระหว่างผมกับอารีได้อีก”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท