พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 125

บทที่ 125

บทที่ 125 น้ารองของรพีพงษ์

“รพีพงษ์ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? “อารียาเห็นรพีพงษ์ยืน เหม่อ เลยถามอย่างเป็นกังวล

รพีพงษ์ดึงสติกลับมา แล้วยิ้มให้อารียาจากนั้นพูด ขึ้น:”ไม่มีอะไร คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด เดี๋ยวผมจะ จัดการ2เรื่องนี้ให้เรียบร้อย”

“เข้าใจผิด? นี่อ่ะนะเข้าใจผิด พวกเขาตบฉันเนี่ยนะ? รพีพงษ์ ที่ฉันโดนตบก็เพราะแก แกไปก่อเรื่องไว้ใหญ่โต แล้วจะให้เราประสบหายนะไปพร้อมกับแกด้วยงั้นเหรอ แก ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า! “ศศินัดดาพูดอย่างเดือดดาล

“แม่ เรื่องนี้เป็นเพราะผมก็จริง แต่คงไม่มีใครตบคนอื่น โดยไม่มีเหตุผล แม่ว่าจริงไหม? “รพีพงษ์ถามเธอกลับ

ศศินัดดากินปูนร้อนท้องขึ้นมาทันที ที่เธอโดยตบทั้งสอง ครั้ง เป็นเพราะปากพล่อยๆของตัวเองทั้งนั้น

“เหอะ แกอย่ามาเถียงข้างๆคูๆ แกยังหลอกให้ฉันจ่ายค่า สินทรัพย์เดือนละหนึ่งแสน ฝ่ายสินทรัพย์ที่ไหนกันถึงได้

แพงขนาดนี้ แกคงเป็นคนส่งมาหลอกฉันแน่ๆ”ศศินัดดาพูด

“แม่ วิลล่าหลังนี้แม่เป็นคนให้ผมโอนให้แม่เอง ทำไมถึง กลายเป็นผมหลอกแม่ได้ล่ะ? “รพีพงษ์พูดอย่างอดไม่ได้ การมาของโยษิตาทำให้เขาไม่สบายใจเล็กน้อย

เมื่อศศินัดดาเห็นรพีพงษ์ไม่มีทีท่า ว่าจะจ่ายชุดเชยให้ เธอ เธอจึงนั่งลงบนพื้นและงัดเล่ห์เหลี่ยมออกมา
“ลูก แกดูเจ้ารพีพงษ์คนนี้ ทำให้แม่ต้องโดนตบ แถมยัง หลอกเอาเงินที่เราเก็บมาทั้งชีวิตไปจนหมด ถ้าเขาไม่จ่าย ชดใช้ให้แม่ แกก็หย่ากับเขาซะ !

อารียาขมวดคิ้ว จู่ๆก็คิดได้ว่าที่ศศินัดดาโดนตบ คงเป็น เพราะเธอทำตัวเองแหละ

“แม่ แม่อย่ามาก่อเรื่องวุ่นวายเลย ถ้าแม่คิดว่าแม่รับผิด ชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ของวิลล่าหลังนี้ไม่ไหว งั้นก็คืนวิลล่า ให้รพีพงษ์ ไม่งั้นแม่ก็หาเรื่องใส่ตัวอยู่แบบนี้้”อารียาพูด เสียงเย็นชา

เธอเข้าใจดีที่ศศินัดดามาไม้นี้ ถ้าเธอใจอ่อน ศศินัดดาก็ จะทำให้วุ่นวายกว่าเดิม

เมื่อศศินัดดาได้ยินสิ่งที่อารียาพูดก็ถลึงตาทันที พลาง พูด”จะให้แม่คืนวิลล่าให้เขา ไม่มีทาง หรือที่แม่โดนตบ สองฉาดนี้โดนไปฟรีๆงั้นเหรอ? แม่ไม่เพียงไม่คืนวิลล่านี้ ให้เขา แม่ยังจะให้เขาจ่ายค่าสินทรัพย์นี่แทนแม่ด้วย”

“แม่! แม่ทำเกินไปแล้วนะ! “อารียาพูดอย่างเดือดดาล

เธอไม่คิดว่าศศินัดดาที่ผ่านเรื่องมาขนาดนี้แล้ว ยังไม่ สำนึกผิดอีก

รพีพงษ์ถอนหายใจ แล้วจับไหล่ของอารียาพลาง พูด:”เอาเป็นว่าทำตามที่แม่ว่าเถอะ ผมจะจ่ายค่าสินทรัพย์ เองแต่เงื่อนไขแรกคือต้องให้เราย้ายกลับมาอยู่ที่นี่”

รพีพงษ์คิดว่าที่ศศินัดดาโดนตบ คงเพราะตัวของเธอเอง อีกทั้งวิลล่าเป็นของเขาหรือไม่นั้นเขาไม่สน แค่เพียงได้อยู่กับอารียา อยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน

ศศินัดดาได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนั้น ก็รีบลุกขึ้นจากพื้น พลางพูด “ลูก แกได้ยินแล้วใช่ไหม เขาพูดเองนะ แกรีบเอา เงินค่าสินทรัพย์ของเดือนนี้ให้แม่ เงินหนึ่งแสนที่แม่จ่ายไป นั้น เป็นเงินค่างานศพของแม่เลยนะ”

“ตอนนี้ผมไม่มีเงินสดติดตัวเยอะขนาดนั้น เดี๋ยวผมไป กดแล้วเอามาให้” รพีพงษ์พูด

“ตามที่แกว่า”ศศินัดดาดีใจมาก จนลืมเรื่องที่ตัวเองโดน ตบไปซะสนิท

“คุณให้ท้ายแม่เกินไปแล้ว”อารียาจ้องรพีพงษ์พลางพูด รพีพงษ์ยิ้มบางๆและพูดขึ้น ” แม่เป็นผู้อาวุโส อะไรยอม ได้ก็ยอมไปเถอะ”

“งั้นเรื่องคุณชายตระกูลกุลสวัสดิ์กับผู้หญิงคนนั้น จะมี ปัญหาอะไรไหม? “อารียาถาม

“ไม่ต้องกังวล ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก พวกเขามาหา ผม ผมไปจัดการนิดๆหน่อยๆก็โอเคแล้ว”รพีพงษ์ยิ้มบางๆ

“งั้นคุณก็ระวังตัวด้วย”อารียาพูดอย่างเป็นห่วง

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วบอกว่าจะไปจัดการเรื่องอะไร หน่อย จากนั้นก็ออกจากวิลล่าไป

โรงแรมซินหล่อเฮ้าส์

โรงแรมแห่งเดียวในเมืองริเวอร์ที่สร้างริมแม่น้ำ พูดได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่มองเห็นวิวเมืองริเวอร์ได้สวยที่สุด

ที่นี่เหมือนกับโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนล เป็น สถานที่ที่มีระดับ คนที่มาล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และ บุคคลระดับสูง

เมื่อก่อนที่นี่เป็นของตระกูลกุลสวัสดิ์ นี่เป็นสถานที่ที่กุนล

โรจน์แห่งตระกูลกุลสวัสดิ์จัดเตรียมให้ตัวเองขึ้นมาโดย

เฉพาะ

แต่ตอนนี้ที่นี่เปลี่ยนเจ้าของแล้ว พนักงานทุกคนของโรง แรมซินหล่อเฮ้าส์ล้วนรู้ข่าวแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของคนใหม่ นั้นเป็นใคร รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิง

เมื่อรพีพงษ์ปรากฏตัวต่อโรงแรมซินหล่อเฮ้าส์ เขาสวม กางเกงยีนส์และเสื้อกัก มองยังไงก็ไม่เหมือนบุคคลที่มีชื่อ เสียง

เขาเดินเข้าไปในโรงแรมซินหล่อเฮ้าส์ ทันใดนั้นเองก็ มีรปภ.2คนเข้ามา และขวางรพีพงษ์ไว้

“นาย ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายจะเข้ามาได้ รีบออกไปซะ อย่า ทำให้กระทบกับธุรกิจของที่นี่ “รปภ.คนหนึ่งพูดอย่างไม่ พอใจ

เขาเห็นรพีพงษ์แต่งตัวแบบนี้ แค่มองก็รู้ว่าเป็นพวกคนจน คนจนเช่นนี้จะมีสิทธิ์เข้ามาในสถานที่ของคนระดับสูงได้ อย่างไร

“ผมมาหาคน คุณไปบอกให้หน่อยสิ ผมชื่อรพีพงษ์ “รพี

พงษ์พูด
รปภ.ทั้ง2หัวเราะออกมาทันที หนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นมา:”แก ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรีไงวะ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย คนที่มา โรงแรมซินหล่อเฮ้าส์ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้น ใครจะ มารอคนชั้นต่ำอย่างแก? ”

“แกรีบออกไปซะ ถ้าส่งผลกระทบกับอารมณ์ของแขก คนอื่นๆ แกรับผิดชอบไหวเหรอ? “อีกคนพูดขึ้น

รพีพงษ์ยักไหล่ไปมา ไม่สนใจสองคนนี้แล้วเดินเข้าไป

ทันใดนั้นก็มีผู้ชายใส่สูทเดินมา เขาเป็นหัวหน้าล็อบบี้ เมื่อครู่เจ้านายคนใหม่บอกกับเขาแล้ว ว่าให้เขารอคนที่ชื่อ รพีพงษ์

เขาเดินมาถึงด้านหลังของรูปภ.ทั้งสอง แล้วพูด:”เกิด อะไรขึ้น? เสียงดังเอะอะโวยวาย พวกแกกลัวแขกด้านใน ไม่ได้ยินงั้นเหรอ? ”

รปภ.ทั้งสองสำรวมขึ้นทันที แล้วหันไปมองผู้จัดการด้วย ความเคารพ

“ผู้จัดการ มีไอ้ชั่วจะเข้าไปด้านในให้ได้ เรากำลังจะไล่ มันออกไป”รปภ.พูด

ผู้จัดการเหลือบมองรพีพงษ์ที่อยู่ด้านนอก เขาดูเหมือน คนชั้นต่ำจริงๆ แต่กผู้ไม่ได้สนใจอะไร และพูดขึ้น:”งั้นก็รีบ ไล่เขาออกไป วันนี้ฉันรอแขกคนสำคัญอยู่ ถ้าเรื่องนี้ผิด พลาดไป พวกแกสองคนรับผิดชอบไม่ไหวแน่ ! ”

รปภ.ทั้งสองพยักหน้า และกำลังจะไปไล่รพีพงษ์

“มันชื่อรพีพงษ์ แถมยังบอกอีกว่ามีคนรออยู่ด้านใน น่าขำจริงๆ คนที่เข้ามาที่นี่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต จะมีใครรอ คนชั้นต่ำแบบนี้ได้ยังไง”รปภ.คนหนึ่งพูดขึ้น

เมื่อผู้จัดการได้ยินก็ตกใจจนตาถลึง เขารีบหันไปเรียก รปภ.สองคนนั้นไว้

“เมื่อกี้พวกแกพูดว่าไงนะ? เขาชื่อรพีพงษ์งั้นเหรอ? “ผู้

จัดการรีบพูด

รปภ.ทั้งสองหันมาพยักหน้า

“ใช่ คนคนนี้ชื่อรพีพงษ์ เหมือนผมจะเคยได้ยินว่าเมืองริ เวอร์มีเศษขยะที่ชื่อรพีพงษ์” รูปภ.พูดอย่างไม่พอใจ

ผู้จัดการหน้าถอดสี ที่เจ้านายคนใหม่สั่งเขาเมื่อครู่คือให้ เขารอคือรพีพงษ์ ไม่คิดว่ารูปภ.สองคนนี้จะไล่รพีพงษ์ไป เจ้านายบอกให้มารอคน คงเป็นคนสำคัญ ถ้าไล่ออกไป

เกรงว่างานของเขาคงไม่เหลือแน่ๆ

เขายกมือขึ้นแล้วตบลงไปบนหน้าของรูปภ.ที่กำลังพูด อยู่ และด่าทอ “ฉันว่าแกนั่นแหละที่เป็นเศษขยะ ถึงได้กล้า ต้อนรับแขกคนสำคัญของเจ้านายแบบนี้ ฉันว่าแกไม่อยาก มีชีวิตอยู่แล้ว!

รปภ.คนนั้นอึ้งไป ไม่คิดว่าผู้จัดการจะกล้าลงไม้ลงมือตบ คนอื่น รปภ.อีกคนยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็โดนตบไปเหมือนกัน

และโดนผู้จัดการด่า

หลังจากผู้จัดการสั่งสอนทั้งสองคนเสร็จ ก็รีบเดินไปหารพีพงษ์อย่างนอบน้อม และพูดอย่างเคารพ: “คุณคือคุณรพี พงษ์?

รพีพงษ์พยักหน้า

“ต้องขอโทษจริงๆครับ รปภ.สองคนนั้นเพิ่งมาใหม่ ไม่รู้ เรื่องอะไรถึงได้ล่วงเกินคุณ หวังว่าคุณคงไม่ใส่ใจ เดี๋ยว ผมจะไล่ทั้งสองคนออกครับ”ผู้จัดการพูด

รปภ.ทั้งสองรู้สึกไม่ยุติธรรม ผู้จัดการเป็นคนบอกให้ไล่ รพีพงษ์ออกไปเองแท้ๆ ทำไมพอได้ยินชื่อรพีพงษ์ ผู้ จัดการถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?

“พาฉันไปเถอะ”รพีพงษ์พูด

ผู้จัดการพยักหน้าทันที แล้วพารพีพงษ์เข้าไปในโรงแรม

ซินหล่อเฮ้าส์

ทั้งคู่เดินมาถึงห้องที่ดีที่สุดของโรงแรมซินหล่อเฮ้าส์ ผู้ จัดการพูดอย่างเคารพ:”เจ้านายของเรารอคุณอยู่ด้านใน

ครับ”

รพีพงษ์พยักหน้า พลางยืนมือไปผลักประตู แล้วเดิน เข้าไป

ห้องนี้พื้นที่กว้างมากๆ การตกแต่งเรียบง่าย แต่เผยให้ เห็นบรรยากาศหรูหรา หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานบาน ใหญ่ ช่วยให้มองเห็นความสวยงามของเมืองริเวอร์

หน้ากระจกบานใหญ่มีโต๊ะที่ฝีมือละเอียดอ่อนวางอยู่ และมีผู้หญิงหน้าตาดีนั่งอยู่หน้าโต๊ะ ข้างๆผู้หญิงคนนั้นมีผู้ อาวุโสอายุราวๆ 50-60ปียืนอยู่
เมื่อเห็นว่าประตูเปิดออก ผู้หญิงคนนั้นก็หันไปมอง พลาง พูด:”มาแล้วเหรอ”

รพีพงษ์เดินหน้าตายไปยังด้านหน้าของโต๊ะแล้วนั่งลง

“เรียกพบผมมีอะไร? “รพีพงษ์พูด

“ทำไมเย็นชาแบบนี้ล่ะ ฉันเป็นน้าของเธอนะ แม้แต่คำว่า น้าเธอก็เรียกไม่ได้งั้นเหรอ? โยษิตาพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ

รพีพงษ์มองผู้หญิงที่สวยจนทำให้คนในสั่นและอ่อนโยน จนทำให้คนหลงตรงหน้า เขารู้ว่ามันเป็นเพียงการแสดง

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ตอนนั้นเป็นคนใส่ร้ายเขาว่า เขาจะฆ่าแม่ของตัวเองเพื่อยึดอำนาจ จึงทำให้เขาโดนไล่ ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์

“วันที่ผมออกจากตระกูลลัดดาวัลย์วันนั้น ผมกับคุณก็ ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกันอีก ในสายตาของผม คุณก็เป็นแค่คนแปลกหน้า”รพีพงษ์พูด

โยษิตาได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าก็หาย ไปทันที และถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา

“ในเมื่อแกพูดแบบนี้ งั้นฉันก็ไม่อ้อมค้อมละนะ กลับไป กับฉัน ตอนนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ต้องการแก” โยษิตาพูด

รพีพงษ์กระตุกปาก แล้วพูดขึ้น: “ตอนนั้นที่ไล่ผม ทำไม คุณไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ที่ต้องการผม หมดประโยชน์ก็ไล่ พอมีประโยชน์ก็เรียกกลับไป พวกคุณเห็นผมเป็นอะไร? ”

“เรื่องในตอนนั้น ฉันกับพี่รู้แล้วว่าเข้าใจผิด ขอโทษด้วยแกกลับไปเก็บของแล้วกลับไปกับฉันวันนี้เลย”

โยษิตาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ขอโทษงั้นเหรอ ผมไม่รับคำขอโทษของพวกคุณหรอก ผมกับตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว เรื่อง ของพวกคุณผมไม่เข้าไปยุ่ง”รพีพงษ์พูด

“ไม่คิดว่ามาอยู่ที่นี่ไม่กี่ปี ี แกจะทระนงได้ขนาดนี้ แต่ฉัน ได้ยินมาว่าแกอยู่ที่นี่ไม่ได้ราบรื่นนัก”โยษิตาพูดเยาะ

“ราบรื่นหรือไม่ราบรื่น มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ ถ้าที่คุณเรียก ผมมาเพื่อแค่ให้ผมกลับตระกูลลัดดาวัลย์ งั้นผมจะบอก คุณให้นะ ว่าคุณอย่าเสียเวลาเลย”รพีพงษ์พูดอย่างเด็ด

ขาด

โยษิตายิ้มออกมา ไม่โกรธกับสิ่งที่รพีพงษ์พูดออกมา แม้แต่น้อย

“ในเมื่อแกไม่อยากกลับ งั้นฉันก็จะไม่บังคับ อ้อ ฉันจะ แนะนำให้รู้จัก นี่คือกุนลโรจน์หัวหน้าตระกูลกุลสวัสดิ์แห่ง เมืองริเวอร์”

คนที่ยืนข้างๆ โยษิตาเดินขึ้นมาทันที จากนั้นพูดกับรพี พงษ์อย่างเคารพ:”ผมกุนลโรจน์ ดีใจที่ได้รู้จักคุณชาย”

รพีพงษ์ชะงักไป แล้วถามขึ้น”คุณคือพ่อของกุมุท? ”

กุนลโรจน์คิดไม่ถึงเช่นกันว่ารพีพงษ์จะพูดแบบนี้ เขารีบ พยักหน้าและพูดขึ้น:”ใช่ กุมุทเป็นลูกชายของผม ไม่คิดว่า คุณชายจะรู้จักกับลูกชายไม่เอาไหนของผม นับว่าเป็น เกียรติกับตระกูลกุลสวัสดิ์ของผมมาก”
กุนลโรจน์รู้ดีว่าโยษิตาเป็นตระกูลใหญ่ในเกียวโต และ จากบทสนทนาเมื่อครู่ เขาก็พอจะเดาออกว่ารพีพงษ์ต้อง เป็นคนสำคัญของตระกูลนี้แน่ๆ

แต่ไม่ว่าตัวตนของรพีพงษ์ในเมืองริเวอร์คืออะไร นั่นก็ ไม่ใช่ตระกูลกุลสวัสดิ์ของเขาจะไปยุ่งได้ ดูจากอำนาจ ของตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว เกรงว่าอาจล้มตระกูลกุลสวัสดิ์ ได้ด้วยมือเดียว

ดังนั้นเขาจึงต้องหาวิธีประจบรพีพงษ์เข้าไว้

“ผมกับลูกชายคุณไม่ถึงกับรู้จักกันหรอก แต่เขามันไม่ เอาไหนจริงๆ “รพีพงษ์ยิ้มออกมาอย่างหยอกล้อ

วันนี้กุมุทเพิ่งจะไปตบศศินัดดามา ถ้าเขารู้ว่าตอนนี้พ่อ ของตัวเองกำลังนอบน้อมเขาอยู่ละก็ ไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไง บ้าง

กุนลโรจน์ได้ยินรพีพงษ์เช่นนั้นก็อึ้งไปทันที และพูด ขึ้น:”คุณชาย ลูกชายของผมยั่วโมโหคุณรึเปล่า ถ้าเขาไป ยั่วโมโหคุณเข้า กลับไปผมจะตีขาเขาให้หักเลย!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน