พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่131

บทที่131

บทที่131 ประมุขบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์มาเอง

กุมุทตกใจขนานใหญ่ ความดีใจในตอนแรกแปรเปลี่ยน เป็นความเซ็งขึ้นมาทันที คาดว่าต่อไปบางแห่งก็คงจะมี อุปสรรค

“เย็ดแม่งเอ๊ย ใครวะ กล้ามาขัดเรื่องดีของกู ตกใจ

หมด! ”

กุมุทตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง จากนั้นจึงหันหลังกลับ เดินไปทางด้านหลัง พอเขาเห็นปิ่นพงศ์หายใจรวยระรินอยู่ บนพื้น ก็ตกตะลึงขึ้นทันที

ปิ่นพงศ์มองไปทางกุมุท แววตาเต็มไปด้วยความหวาด กลัว เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เสียดายที่ร่างกายไม่มี

เรี่ยวแรงแม้แต่น้อย

หลังจากกระเสือกกระสุนอยู่ไม่กี่ที จึงหลับตา

กุมทกลืนน้ำลายลงคอ คิดไม่ถึงว่าบอดี้การ์ดที่เก่งกาจ ที่สุดของเขาจะสู้รบจนมีสภาพแบบนี้ คนที่ลงมือ จะแน่ไป สักแค่ไหนเชียว

“เป็น…เป็นใครกัน”กุมุทเปิดปากพูดขึ้นมาคำหนึ่ง รพีพงษ์เดินเข้ามาจากนอกประตู แววตามองกุมุทด้วย ความเย็นชา

กุมุทรีบปั้นสีหน้าไม่น่าเชื่อ คิดไม่ถึงว่าคนที่เดินเข้ามาจะเป็นรพีพงษ์

“นี่ …นี่เป็นไปได้ไงกัน! ข้างนอกมีคนอยู่ตั้งมากมาย นายบุกเข้ามาได้ไง! ปิ่นพงศ์…ก็โดนนายซ้อมเหรอ”กุมุท พูดอย่างตะลึง

รพีพงษ์มองดูอารียาที่นอนอยู่บนโซฟา พอเห็นว่าเธอไม่

เป็นอะไร จึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เขาเดินตรงไปทางโซฟา โดยที่ไม่สนใจกุมุท

พออารียาเห็นรพีพงษ์เดินมา ความหวาดกลัวในใจก็ลด ทอนลง รพีพงษ์ยื่นมือฉุดเธอขึ้นมาจากโซฟา แล้วดึงเข้า มาไว้ในอ้อมกอด

“ผมอยู่ตรงนี้ทั้งคน ไม่มีใครทำอะไรคุณได้”

จากนั้นเขาจึงหันตัวกลับ ถีบลงไปที่ท้องกุมุท กุมุทนั่งจุม ปักลงบนพื้น เจ็บจนขบฟันกรอดๆ

“แกกำลังรนหาที่ตาย”

รพีพงษ์พูดเสียงเย็นชาขึ้น มือคว้าผมของกุมุทเอาไว้ อีก มือโอบกอดอารียา แล้วเดิน

ออกไปจากห้อง

กุมุทโดนรพีพงษ์ถีบจนหมดแรง โดยที่แทบจะไม่ สามารถต่อต้าน

ทั้งสามคนเดินไปตามระเบียงทางเดิน กุมุทเห็นระเบียง ทางเดินมีคนนอนขวางเต็มไปหมด ทั้งหมดเป็นคนที่เขา เตรียมมารับมือกับรพีพงษ์ทั้งนั้น
อารียาเองก็มองระเบียงทางเดินด้วยความตกตะลึงเช่น กัน คนมากมายก่ายกองนอน

ขวางเต็มพื้นแบบนี้ ไม้พลองตกพื้น ภาพตรงหน้าช่างน่า ตกตะลึงเสียจริง

ในใจกูมุมเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ คิดไม่ถึงว่าคน

เหล่านี้เป็นกองคนที่รพีพงษ์จัดการ อย่างไรเสียรพีพงษ์ก็

เป็นเพียงแค่สวะคนหนึ่งเท่านั้น

หรือว่ามียอดฝีมือที่ไหนมาแอบช่วยเขา แต่ว่าใครมาจะมาช่วยไอ้สวะนี่ล่ะ

ในเวลานี้ ในใจกุมุทเต็มไปด้วยความสงสัย ถ้าไม่มีใคร

มาช่วยรพีพงษ์ คนพวกนั้นรพีพงษ์จัดการเองหมดเลยเหรอ คิดมาถึงตรงนี้ กุมุทก็รู้สึกขนหัวลุก ถ้าเป็นแบบนั้นจริง

รพีพงษ์ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว

รพีพงษ์กระชากกุมุทมาที่กลางบาร์เหล้า คนที่นี่ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นที่ระเบียงทางเดิน ทุกคนต่างก็มองชายคนนั้น เต้นรำอยู่กลางโต๊ะ

ตอนนี้บนตัวผู้ชายคนนั้นไม่มีเสื้อผ้าอยู่แล้ว เขายืนสีหน้า เคลิบเคลิ้มอยู่กลางโต๊ะ ตอนนั้นพวกสาวๆก็กลับเข้ามาใน โถงแล้ว และก็จ้องชายผู้ที่แอบยิ้มอยู่บนโต๊ะ

กุมทเห็นฉากนี้เข้า สีหน้ายิ่งน่าเกลียด จึงตะคอกออก

ไป”ยังจะยืนดูหาหอกอะไรล่ะ! มาช่วยฉันเร็วเข้า! ”

คนส่วนมากตกใจไปกับเสียงของกุมุท ต่างก็หันหน้ากลับมาดู ต่างก็เห็นว่าเขาโดนรพีพงษ์กำผมลากเข้ามา ต่างมี สีหน้าตกตะลึง

รพีพงษ์ให้อารียานั่งที่นั่งริมๆ จากนั้นจึงมองไปที่ฝูงชน อย่างเย็นชา พูดเสียงเย็นชาว่า”ใครอยากช่วยเขา ก็เข้า มา”

ทุกคนต่างไม่คิดว่าสวะอย่างรพีพงษ์จะพูดจาแบบนี้กับ พวกเขา ต่างมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์

แน่นอนว่า ถ้าพวกเขาได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่ระเบียง ทางเดิน เกรงว่าคงจะไม่กล้าแม้แต่สบอารมณ์

“รพีพงษ์ นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ นายรีบปล่อยคุณชาย กุมุท เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลกุลสวัสดิ์เชียวนะ นายทำ กับเขาแบบนี้ จะเดือดร้อนมาถึงพวกเราตระกูล ฉัตรมงคล! “ธายุกร

ชิงพูดขึ้นอย่างร้อนใจ

เมื่อทุกคนต่างได้ฟังคำพูดของธายุกรแล้ว ต่างก็รีบกล่าว โทษไปยังรพีพงษ์

“ไอ้สวะ กล้าทิ้งผมคุณชายกุมุทแบบนี้เลยเหรอ แกไม่ อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม”

“คุณชายกุมุทเป็นทายาทสืบทอดตระกูลกุลสวัสดิ์เชียว นะ แกทำกับเขาแบบนี้ ช่างรนหาที่ตายจริงๆ! ”

สวะนี่ช่างไม่มีหัวสมองเลย กล้ามาทำกับคุณชายแบบนี้ ฉันว่าไม่น่าจะแค่มันหรอก ใครที่เกี่ยวข้องกับมันก็จะพลอย โดนไปด้วย”
ธายุกรกลัวว่ารพีพงษ์จะทำอะไรที่เลยเถอด กลัวว่า ตระกูลฉัตรมงคลจะเดือดร้อนเพราะเขา จะวุ่นไปกันใหญ่ จึงรีบระดมคน”พวกเราขึ้นหน้าไปพร้อมกัน ช่วยคุณชาย กุมุทออกมา ไอ้สวะนี่มันก็แค่แรงเยอะหน่อยก็แค่นั้น”

ได้ยินธายุกรพูดแบบนี้ ทุกคนต่างก็มองเขาด้วยความ ดูแคลน กุมุทโดนเขาซ้อมก็ด้วยคำพูดแบบนี้แหละ

แต่ว่าพวกเขาคนเยอะ ถ้าจะแห่ขึ้นไปพร้อมกัน รพีพงษ์ ไม่มีใครช่วยแน่นอน

“แม่งเอ๊ย เราปล่อยให้สวะมันรังแกคุณชายกุมุทแบบนี้ได้ ไง ขึ้นไปเร็ว จัดการมัน!

คนกลุ่มหนึ่งต่างแห่ขึ้นหน้าไปหารพีพงษ์

รพีพงษ์มองพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชา พูดขึ้น”ในเมื่อ ทุกคนรนหาที่ตาย ก็อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจแล้วกัน!

ธายุกรแค่นเสียงเย็นชา “รพีพงษ์ หยุดตอแหลได้แล้ว บอกไรให้ ถ้าวันนี้แกกล้าแตะต้องพวกเราคนใดคนหนึ่ง แม้แต่ปลายขน ฉันจะกลับไปบอกให้คุณปู่ไล่แกออกจาก ตระกูลฉัตรมงคล!

รพีพงษ์ออกแรงจับมือกุมุท ผมบนหัวของกุมุทจึงโดน กระชากทิ้งลงมาอย่างแรง

กุมทเจ็บจนร้องโอดโอย เขาจ้องถมถึงไปที่ธายุกร ตะโกน ว่า”ถ้าพวกมึงยังปากมากอีก กูจะเย็บปากพวกมึง!
ธายุกรรีบเอามือปิดปากตนเองสนิท เขาจะไปรู้ได้ไงว่า รพีพงษ์จะทิ้งผมกุมุท

คนกลุ่มหนึ่งแห่กันมาล้อมวงรพีพงษ์ ต่างก็ดูอยากจะสั่ง สอนรพีพงษ์สักตั้ง

ในเวลานี้เอง จู่ๆคนๆหนึ่งก็วิ่งพรวดเข้ามา พอเห็นกุมุทที่

โดนรพีพงษ์กระชากผมจนลงไปนั่งกองกับพื้น ก็ตกตะลึง

“คุณชายครับ คุณท่านมาแล้วนะครับ”คนๆนั้นเปิดปาก พูด กุมุทได้ยิน แววตาเป็นประกาย รีบถามขึ้น “ท่านมาเองเห

รอ ท่านพาบอดี้การ์ดมาด้วยไหม”

“บอดี้การ์ดมาพร้อมคุณท่านครับ”คนนั้นตอบ

กุมุทวางใจลงทันที จากนั้นเงยหน้าจ้องรพีพงษ์อย่าง ดุดัน เอ่ยปากขึ้น”ไอ้โง่ พ่อกูมาแล้ว บอดี้การ์ดเขาเก่งกาจ กว่าแกมาก แกกล้าดีกับฉัน รอตายซะเถอะมึง!

รพีพงษ์สีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก ราวกับว่าคุณพ่อของ กุมุทมาแล้ว เขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร

พอทุกคนฟังคนๆนั้นพูด ก็ตกใจไปตามๆกัน ต่างก็มองไป ที่รพีพงษ์ด้วยแววตาสมน้ำหน้า

“ไอ้หนุ่ม แกยังไม่รีบปล่อยคุณชายกุมุทอีกเหรอ ท่านปู่กู่ มาแล้วนะ แกยังไม่รู้หรือไงว่าหมายความว่าไง”

“ดูท่าไอ้โง่นี่ จะไม่รู้ว่าท่านปู่กู่จะมาที่นี่มั้ง ตอนนี้คิดกลับ ใจก็ไม่ทันแล้วล่ะ ถ้าท่านปู่กู่มาเห็นว่าคุณชายกุมุทโดนรังแกแบบนี้ ท่านไม่ยอมแน่นอน”

“จัๆ วันสิ้นโลกของเจ้าหนุ่มนี่มาถึงแล้ว ท่านปู่คู่ถนอม คุณชายอย่างกับอะไรดี ถ้ารู้ว่าคุณชายโดนแบบนี้ จะต้อง ถลกหนังเจ้าหนุ่มนี่แน่ๆ!

ธายุกรได้ยินเสียงของท่านปู่ตระกูลกุลสวัสดิ์ มาถึงแล้ว จึงรีบลุกขึ้น จะยังไงรพีพงษ์ก็มีความเกี่ยวดองกับตระกูล ฉัตรมงคล ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้ตระกูลกุลสวัสดิ์เริ่ม หาเรื่องตระกูลฉัตรมงคล ต่อไปตระกูลฉัตรมงคลคงจะ ลืมตาอ้าปากไม่ได้

เขารีบมายืนตรงหน้ารพีพงษ์ ตะคอกว่า”แกหูหนวกหรือ ไง รีบปล่อยคุณชายสิ แกอยากตาย ก็อย่าดึงตระกูล ฉัตรมงคลเข้าไปซวยด้วย! ”

“หีๆ กลัวแล้วเหรอ แล้วตอนที่เหน็บแนมผม ก็ไม่เห็นจะ ปราณีกันบ้างเลย” รพีพงษ์ยิ้มให้

ธายุกรกระทืบเท้า จ้องรพีพงษ์”คุณท่านรักคุณชายมา ถ้าไปรังควานคุณชายเข้า ไม่มีจุดจบที่ดีหรอก ฉันหวังดี กับแกนะ รีบปล่อยคุณชายซะ!

รพีพงษ์ยักไหล่ แต่ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยกุมุทแม้แต่นิด

เดียว

อารียาเดินมาข้างๆรพีพงษ์ พูดโน้มน้าวว่า”รพีคะ ช่าง เถอะค่ะ พวกเราไปหาความกับเขาไม่ได้หรอก พอพวกเขา โกรธขึ้นมา เราจะรับไม่ไหว”
รพีพงษ์ยิ้ม พูดขึ้น “ต่อให้ผมปล่อยเขา คุณคิดว่าตระกูล กุลสวัสดิ์จะไม่หาเรื่องเราเหรอ อีกอย่างคุณสบายใจได้นะ คนแก่อย่างกุนลโรจน์ ไม่กล้าทำอะไรผมหรอก”

กุมุทด่าทอออกไป“แม่งเอ้ย แกคิดว่าแกเป็นใคร คิดว่า พ่อฉันไม่กล้าทำอะไรแกงั้นเหรอ ฝันไปเถอะแก!

“ฉันบอกแกให้นะ ถ้ามึงยังไม่ปล่อยฉันอีก ฉันไม่ได้จะ จัดการแกคนเดียว พ่อฉันก็จะจัดการโคตรเหง้าแกด้วย แล้วถ้าตระกูลฉัตรมงคลฉิบหายเพราะแก อารียายังจะอยู่ กับแกไหม!

ธายุกรหน้าถอดสี เขาแทบจะคุกเข่าขอร้องรพีพงษ์ ว่า ให้ปล่อยกุมุท

ส่วนรพีพงษ์สีหน้าไม่ยี่หร่า ราวกับไม่สนใจว่าตระกูลกุล สวัสดิ์จะทำอะไรบ้านฉัตรมงคล

ไม่นาน บาร์เหล้าด้านนอกมีเสียงฝีเท้าลอดเข้ามา คน กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในบาร์เหล้า

และคนที่นำกลุ่มคนนั้น ก็คือกุนลโรจน์

เขาได้ข่าวว่าวันนี้กุมุทจัดงานเลี้ยงเหล้าที่นี่ ก็เลยอยาก จะมาดู

ด้านหลังกุนลโรจน์เป็นชายสวมสูทสามสี่คน และชาย สวมแว่นตาดำ คนเหล่านี้ร่างกายกำยำยืนตัวตรง แค่ท่ายืน ก็ให้ความรู้สึกว่าพร้อมระเบิดตลอดเวลา

พอกุนลโรจน์เข้ามา เห็นคนกลุ่มหนึ่งล้อมรอบ จึงขมวด

คิ้วขึ้น
กุมุทเห็นกุนลโรจน์เข้ามา ก็ไม่เกรงกลัวอะไรอีกต่อไป รีบสะบัดมือให้หลุดจากรพีพงษ์

วิ่งไปอยู่ตรงหน้ากุนลโรจน์

“กุมุท เกิดอะไรขึ้นลูก ลูกจัดงานเลี้ยงเหล้าที่นี่ไม่ใช่เห

รอ”

กุมุทรีบฟ้องพ่อ”คุณพ่อครับ งานเลี้ยงเหล้าโดนไอ้โง่คน หนึ่งมันพังครับ ถ้าคุณพ่อมาช้าอีกนิด ไม่แน่ว่าลูกชายคุณ พ่อคงโดนซ้อมตายไปแล้ว! 12

กุนลโรจน์รีบถลึงตาขึ้น พูดเสียงเย็นชา”ใครหน้าไหน

กล้ามาซ้อมลูกชายกู!

ธายุกรเห็นกุนลโรจน์บันดาลโทสะ จึงแอบด่ารพีพงษ์อยู่ ในใจ เพื่อที่จะให้หลุดพ้นการเกี่ยวดองกับรพีพงษ์ ธายุกร รีบเดินขึ้นหน้า พูดว่า “ท่านปู่กู่ คนที่ซ้อมคุณชายชื่อรพี พงษ์ครับ เป็นสวะที่ขึ้นชื่อของเมืองริเวอร์ แม้ว่าเขาจะ เกี่ยวข้องกับตระกูลฉัตรมงคลนิดหน่อย แต่เรื่องซ้อม คุณชาย เขาทำคนเดียว ไม่เกี่ยวกับตระกูลฉัตรมงคลนะ ครับ”

กุนลโรจน์แค่นเสียงเย็นชา พูดขึ้น”มันอยู่ไหน”

กุมทรีบชี้ไปที่รพีพงษ์ ทุกคนที่อยู่ตรงหน้ารพีพงษ์ต่าง หลีกทางออก ให้กุนลโรจน์เห็น

รพีพงษ์ชัดๆ

ในตอนที่สายกันลโรจน์จับจ้องไปที่รพีพงษ์ จู่ๆเขาก็รู้สึก

ตัวแข็งที่อ
นี่เป็นคุณชายคนเมื่อวานที่โยษิตาพาเข้าพบนี้!

กุนลโรจน์ผู้มีท่าทีดุดันในตอนแรกรีบเก็บอาการ แล้ว เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มทันที พูดกับ

รพีพงษ์ว่า”คุณ….”

คำพูดยังไม่ทันหลุดออกจากปาก รพีพงษ์ก็จ้องถมึงทึง ไปที่เขา กุนลโรจน์นึกถึงคำพูดของโยษิตาที่ว่า ห้ามเปิด เผยฐานะของรพีพงษ์ เขาจึงรีบเปลี่ยนคำเรียก

“น้องชายคนนี้ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกของผมไป สร้างความเดือดร้อนให้คุณเข้าใช่หรือไม่”

รพีพงษ์พยักหน้า พูดว่า “ลูกชายของท่านอาศัยนามใน งานเลี้ยง เข้าลวนลามภรรยาของกระผม ถ้าผมมาหยุดไว้ ไม่ทัน คาดว่าตระกูลกุลสวัสดิ์ทั้งตระกูลคงต้องชดใช้โทษ นี้

กุนลโรจน์หน้าถอดสี เขารู้จักนิสัยลูกชายตัวเองดี ที่ผ่าน มามีแต่เขาเท่านั้นที่หาเรื่องคนอื่น ไม่เคยมีใครกล้ามาหา เรื่องเขาอย่างไร้สาเหตุ

ดังนั้นคำพูดของรพีพงษ์เชื่อถือได้แน่นอน เขาหันไปถามกุมุทอย่างเดือดดาล”เป็นความจริงหรือไม่”

ทุกคนต่างประหลาดใจ ประมุขผู้น่าเกรงขามของตระกูล กุลสวัสดิ์ พอฟังคำพูดรพีพงษ์ ทำไมจู่ๆท่าที่เปลี่ยนไป

กุมุทเองก็ตกตะลึง แต่ก็ไม่คิดมาก คิดว่าบิดาจะต้องเข้า ข้างตนอยู่แล้ว จึงพยักหน้าพูดว่า “แม้ว่าเขาจะพูดไม่ผิดแต่ผมก็ยังไม่ได้แตะต้องเมียเขาเลยนี่ครับ อีกอย่างเขา ซ้อมผมแล้ว คุณพ่อครับ คุณพ่อจะต้อง….”

กุมุทพูดไม่ทันจบ กุนลโรจน์จึงตบฉาดลงไปที่ใบหน้าเขา อย่างแรงดังผัวะใหญ่

กุมุทล้มลงไปบนพื้นอีกครั้ง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท