พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 129

บทที่ 129

ตอนที่ 129 ตบอย่างเหี้ยมโหดหนึ่งฉาด

ดวงตาธายุกรลุกวาว แล้วกล่าวว่า “คุณชายกุมุท ขอแค่ คุณพูด แล้วผมจะทำให้สำเร็จ”

กุมุทหัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าวว่า “มึงบอกกูมา ก่อน รพีพงษ์นี้ฝีมือดีมั้ย?”

ถึงแม้เลปกรจะบอกว่าไหล่ของเขาถูกรพีพงษ์ทำให้หัก แต่เขาได้ยินมาตลอดว่ารพีพงษ์ก็เป็นแค่เศษสวะ กำลัง ของเลปกรความจริงก็ไม่น้อย

แต่ทำไมสามารถโดนไอ้สวะตัวหนึ่งทำให้ไหล่หักได้นะ

ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อว่าหัวไหล่ของเลปกรโดนรพีพงษ์ทำ หัก จะต้องมีเหตุผลอย่างอื่นแน่นอน

อนนี้ธายุกรอยู่ตรงนี้ เขาจะต้องรู้แน่ๆว่ารพีพงษ์ฝีมือเป็น อย่างไร ดังนั้นกุมุทต้องแน่ชัดก่อนว่าความสามารถของรพี พงษ์ขนาดไหน

ธายุกรคิดแล้วคิดอีก เขาจำได้เพียงว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งรพี

พงษ์สามารถใช้มือเดียวยกเขาขึ้นมาจากพื้นได้ เขาต่อย

ไม่ชนะรพีพงษ์แน่นอน

แต่การ์ดของกุมุท คนนึงเก่งอีกคนนึ่งก็เก่งขึ้นไปอีก รพี พงษ์ไม่ใช่ศัตรูของพวกเขาอย่างแน่นอน

แล้วธายุกรยังคิดเสมอว่ากำลังมหาศาลที่รพีพงษ์ได้มา นั้น มาจากการทำงานบ้านงานเรือน
ดังนั้นเขาจึงพูดกับกุมุทว่า “ไอ้สวะรพีพงษ์นี้ มันไม่มีฝีมือ แน่นอน ปกติเขาก็ทำแต่งานบ้าน กำลังแรงมีขึ้นมาหน่อย

ได้ยินธายุกรพูดแบบนี้ กุมุทก็สบายใจแล้ว จากนั้นขยับ ไปที่ใกล้ๆหูของเขา แล้วพูดกี่ประโยค

ใบหน้าของธายุกรแสดงออกถึงความร้ายกาจ พยักหน้า

ให้กับกุมุท จากนั้นก็ขยับตัวขึ้นแล้วเดินไปที่ฟลอร์เต้น

เขาหยิบไมค์ขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย ทุกท่าน ทั้งหลายที่มาร่วมงานในวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นชนชั้นสูงใน

สัมคม

เป็นคนเด่นคนดัง คุณชายกุมุทก็ไม่มีทางที่จะเป็นเพื่อน กับคนไร้ซึ่งความสามารถอยู่แล้ว

“เพียงแต่พวกคุณอาจจะไม่รู้ ในกลุ่มของพวกเรา ยังมี คนหนึ่งที่พิเศษต่างจากพวกเราอยู่

ทุกคนล้วนโดนเสียงของธายุกรดึงดูด หันหน้าไปดูที่เขา ตรงนั้น

“อะไรคือวิถีชีวิตที่พิเศษ? หรือว่ายังพิเศษว่าคุณชาย กุมุทอีกงั้นหรอ?” มีคนถามขึ้นมา

ทันใดนั้นธายุกรก็หัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “เขาจะมา เทียบกับคุณชายกุมุทได้อย่างไรกัน ผมบอกว่าเขาพิเศษ

นั้น

เป็นเพราะว่าเขาคือไอ้สวะเพียงคนเดียวในงานนี้ของ พวกเรา!”
คนหมู่มากเริ่มถกเถียงกัน ไม่คาดคิดว่าผู้คนที่มาร่วมงาน เลี้ยงในวันนี้ ยังมีไอ้สวะหนึ่งคน

“ไม่ทราบว่าทุกท่านที่อยู่เมืองริเวอร์เคยได้ยินรพีพงษ์ชื่อ นี้หรือไม่?” ธายุกรกล่าว

ทันใดนั้นคนจำนวนไม่น้อยก็เริ่มถูกเถียงกันเรื่องนี้

“ใช่รพีพงษ์ที่แต่งงานแล้วไปอยู่บ้านของภรรยาหรือ เปล่า? ได้ยินมาว่านอกจากเกาะผู้หญิงกินแล้ว อะไรก็ทำ ไม่เป็นสักอย่าง”

“ฉันเคยได้ยินชื่อนี้ ว่ากันว่าโคตรเศษสวะ อยู่บ้านรองรับ อารมณ์ทั้งวัน ใช้ชีวิตแย่ยิ่งกว่าสุนัขอีก

“รพีพงษ์ ฉันว่าทำไมได้ยินแล้วคุ้นหูจัง ที่แท้ก็คือไอ้สวะ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี่เอง หรือว่าวันนี้ก็มาร่วมงานของพวก เราด้วย?”

ธายุกรได้ยินผู้คนดูถูกดูแคลนรพีพงษ์ ในใจรู้สึกดี สิ่งที่ เขาชอบดูที่สุด คือการที่รพีพงษ์ถูกทุกคนดูถูก

อารียาไม่คาดคิดว่าธายุกรจะมาแนวนี้ ขมวดคิ้วขึ้นมา ทันที เธอหันไปมองรพีพงษ์ เห็นรพีพงษ์ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย สีหน้าอันสงบนิ่ง

ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ธายุกรพูดออกมาอย่างไรอย่างนั้น

กุมุทยิ้มอย่างสงบ คิดในใจว่าที่รพีพงษ์สงบในตอนนี้ นั้น ก็แค่กำลังเสแสร้งแค่เท่านั้น ประเดี๋ยวเขาจะทำให้ทึกคนได้รับรู้ว่า

รพีพงษ์ที่อยู่ต่อหน้าทุกคน ก็เป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น

“พวกคุณพูดไม่ผิด รพีพงษ์เศษสวะตามที่ทุกคนคิดไว้ นั่นแหละ!” ธายุกรตะโกนเสียงดัง

จากคำวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นของเขา ทันใดนั้นมีแสงไฟ สาดไปที่ร่างกายของรพีพงษ์ ผู้คนทั้งหมดในงานเลี้ยงล้วน จ้องมองไปที่เขา

ผู้คนต่างประชดประชันรพีพงษ์ แต่รพีพงษ์ก็เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา เพียงแค่อยากรู้ว่าธายุกรคิดจะทำอะไร

“แต่ก็แค่ไอ้สวะคนนึง ตอนนั้นยังกล้าพูดว่าการ์ดของ คุณชายกุมุทภายนอกมันก็ดูดีอยู่นะ แต่ไม่กล่าวถึงจะดี กว่า พวกคุณว่าไง เขากำลังเร้ากับความเกรงขามของ คุณชายกู่อยู่” ธายุกรตะโกนต่อไป

“ใช่!” คนจำนวนไม่น้อยก็ตะโกนออกมาด้วย

“แม่ง แม้แต่ความเกรงขามของคุณชายกุมุทยังกล้าเร้า

“ไอ้สวะ ไม่คิดว่าถึงจะกล้ายั่วคุณชายกู่ คงใช้ชีวิตจน เบื่อแล้วจริงๆ สู้ให้การ์ดชกซักหมัด ดูสิว่าเขายังกล้าพูด แบบนี้อีกมั้ย!”

ธายุกรเฝ้ามองดูอารมณ์ของผู้คนที่ถูกปลุกปั่นขึ้น แล้วก็ กล่าวต่อว่า “ความเกรงขามของคุณชายกุมุทถูกเร้า เรื่องนี้ ยังไงก็ยอมไม่ได้

พวกคุณที่อยู่ที่นี่น่าจะรู้ถึงฝีมือของคุณชายกุมุท
สู้ให้รพีพงษ์กับคุณชายกุมุทประลองฝีมือกันสักตั้ง ดูว่า เขายังกล้าที่จะพูดประโยคแบบนั้นอีกหรือไม่!”

ทุกคนได้ยินธาตุกรอยากให้รพีพงษ์กับกุมุทชกกันสักตั้ง ทันใดนั้นก็เริ่มมีเสียงโห่ดังขึ้นมา

ถึงอย่างไรสิ่งที่พวกเขาอยากดูที่สุดก็คือเรื่องแบบนี้

ใบหน้าของรพีพงษ์แสดงว่าถึงความประหลาดใจ เขาไม่ คาดคิดว่าธายุกรพูดมาตั้งนานนั้น สุดท้ายก็แค่อยากให้ เขากับกุมุทต่อยกันสักยก

รพีพงษ์หันไปมองกุมุท ภายใจในอดไม่ได้ที่จะมีคำถาม

ไอ้เด็กนี้….อยากโดนต่อยขนาดนี้เลยหรอ?

กุมุทยิ้มอย่างดูแคลน ไม่ได้มองรพีพงษ์อยู่ในสายตาแต่ อย่างใด คำพูดเหล่านั้นของธายุกรล้วนเป็นสิ่งที่เขาอยาก ให้พูด เขาแค่อยากจะต่อหน้าทุกคน ให้รพีพงษ์ได้รู้ว่าเขา ก็คือไอ้สวะดีๆนี่เอง ไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่กับอารียา

เขาก็ได้รับการฝึกฝนจากทางบ้านตั้งแต่ยังเล็ก ความ แข็งแกร่งของร่างกายเทียบกับคนปกติแล้วจะมีมากกว่า เยอะ ฝีมือก็ไม่เลว ถึงแม้ไม่เก่งเท่าเลปกรหรือปิ่นพงศ์ แต่ ถ้าเทียบกับคนทั่วไปแล้วก็ชนะแบบใสๆ

เมื่อสักครู่ธายุกรก็ยืนยันกับเขาแล้ว ว่ารพีพงษ์ไม่มีฝีมือ ใดๆเลย ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลแต่อย่างใด

หากเลปกรอยู่ในงานด้วยล่ะก็ ถ้ารู้ว่ากุมุทจะต่อยกับรพี พงษ์ จะต้องเข้าไปห้ามแน่นอน เสียดายที่กุมุทไม่ได้พา เลปกรมาด้วย
อีกทั้งเขายังไม่เชื่ออีกว่าแขนของเลปกรถูกรพีพงษ์ ทำให้หัก วันนั้นที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มีธฤตญาณ กุมุทเชือ ว่าเป็นธฤตญาณทำแขนของ

เลปกรหัก

เขายืนขึ้นมาจากที่นั่ง หัวเราะพลางพูดกับรพีพงษ์ว่า: “ในเมื่อทุกคนอยากดูกกับมึงต่อยกันขนาดนี้

งั้นกูก็ทำได้แค่ทำตามสิ่งที่ทุกคนพูดออกมา”

“รพีพงษ์ ถึงกล้าต่อยกับกูไหม?”

รพีพงษ์ยิ้มแล้วยิ้มอีกให้กับกุมุท แล้วกล่าวว่า: “เลปกรไม่ ได้บอกถึงหรอ ว่าแขนของเขาหักได้ยังไง?”

กุมุทยิ้มอย่างเยอะเย้ย แล้วกล่าวว่า: “อย่ามาทำเสแสร้ง ตรงนี้ แขนของเลปกรธฤตญาณเป็นคนทำหัก ไม่เกี่ยวกับ จึงเลยสักนิด

ถ้าถึงไม่กล้าต่อยกับกู ก็รีบไสหัวไปให้ไวซะ ที่นี่ไม่ ต้อนรับสวะ!” รพีพงษ์หัวเราะพลางพูด: “ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว งั้นก็

สนองให้ถึงล่ะกัน”

อารียาเห็นรพีพงษ์ตอบรับ ทันใดนั้นก็เป็นเดือดเป็นร้อน ขึ้นมาทันที แล้วรีบกล่าว่า “คุณชายกุมุท นี่ล้วนเป็นเพ ราะธายุกรยั่วยุปลุกปั่นทั้งนั้น เขาตั้งใจให้เป็นแบบนี้ คุณ อย่าบ้าตามธายุกรสิ

กุมุทมองไปที่อารียา แล้วกล่าวว่า “คุณอารียา นี่เป็นเรื่องระหว่างผู้ชาย เธออย่ายุ่ง”

รพีพงษ์ส่งสายตาให้กับอารียา สายตาที่แสดงออกให้ อารียาไม่ต้องเป็นห่วง

กุมุทเดินตรงไปที่ฟลอร์เต้นตรงนั้น ทันใดนั้นทุกคนก็ เคลียร์พื้นที่ ให้กุมุทกับรพีพงษ์ได้ประลองฝีมือ

รพีพงษ์ไม่ลังเล เดินตามกุมุทไป แล้วไปยืนอยู่ตรงหน้า

เขา

ทุกคนคาดไม่ถึงว่าจะเห็นรพีพงษ์กล้าที่จะต่อกรกับกุมุท จริงๆ ทันใดนั้นก็เริ่มมีการประชดประชันกัน ว่ารพีพงษ์เป็น พวกที่ดึงดัน ไม่รู้เลยเสียด้วยซ้ำว่าที่เผชิญหน้าอยู่นั้น เป็น คนอย่างไร

ใบหน้าร้ายกาจของธายุกรกำลังมองรพีพงษ์อยู่ แล้ว กล่าวว่า “รพีพงษ์ ผ่านวันนี้ไป ชื่อสวะนี้ของมึง จะยิ่งทวีชื่อ เสียงในเมืองริเวอร์ ชั่วชีวิตนี้ของมึงจะไม่มีทางกลับมาดีได้ อีก”

รพีพงษ์ชักตาไปที่เขา แล้วกล่าวอย่างสงบว่า “มึงคิดไว้ นะ เดี๋ยวถ้ากุมุทนี่โดนต่อยแล้ว ถึงจะขอร้องให้หยุดยัง ไง?”

ชัดเจนมาก ธายุกรบอกกุมุทว่า รพีพงษ์ไม่มีฝีมือ ประเดี๋ยวกุมทโดนต่อยล่ะก็ จะไม่มีทางปล่อยธายุกรไป

แน่ๆ

อวดเก่งให้มันน้อยๆหน่อย กับอีแค่กังฟูกระจอกๆของมึง จะเป็นคู่ต่อกรกับคุณชายกุมุทได้ยังไง ถึงรอความตายได้เลย!”

พีพงษ์เบื่อที่จะสนใจเขา หันหัวไปหากุมุท แล้วพูดอย่าง สงบว่า “ลงมือเถอะ”

“เหอะๆ ไม่คาดคิดว่าตอนนี้ใบหน้าของมึงยังเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น ถึงนี่เสแสร้งเก่งจัง แต่ทว่าอีกแป๊บเดียวมึงก็ จะเสแสร้งไม่ออกล่ะ!”

กุมุทไม่พูดพร่ำทำเพลง แล้วพุ่งเข้าไปที่รพีพงษ์ทันที

ความเร็วของเขาถือว่าไม่ช้า แค่ท่วงท่าในสายตาของรพี พงษ์นั้นดูชักช้าไปสักนิด จุดอ่อนเริ่มเผยออกมาตั้งแต่ต้นที่ เขาเริ่มขยับ แสดงออกมาหลายจุด

หากเผชิญหน้ากับคนธรรมดา เช่นครูสอนฟิตเนสพวก นั้น กุมุทน่าจะรับมือได้อย่างง่ายดาย

เสียดายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นคือรพีพงษ์

พรรคพวกไฮโซรอบๆนั้นเมื่อเห็นกุมุทลงมือแล้ว ท่าทาง เป็นธรรมชาติ ล้วนก็ชื่นชมขึ้นมาทันที

“เจ๋งหวะ คุณชายกุมุท จริงๆแล้วคือ… ไม่คาดคิดว่า ฝีมือจะเยี่ยมขนาดนี้!”

“แค่ท่วงท่าที่ต้องทำอย่างรวดเร็วก็น้อยคนนักที่จะทำได้ คุณชายกุมุทสมแล้วที่เป็นทายาทของตระกูลอันดับหนึ่ง เมืองริเวอร์

“คุณชายกุมุทหล่อมากเลย พวกเราคือแฟนคลับของคุณ ตลอดไป!”
กลุ่มหญิงสาวต่างพากันหลงใหล เห็นกุมุทวาดลวดลาย ก็ไม่หยุดที่จะเรียก

มุมปากของกุมุทก็ยั่วยวนให้เกิดอาการเหงานิดๆ ดูๆไป แล้วเป็นที่น่าพอใจ

ตั้งแต่เขาเริ่มลงมือ กระทั่งถึงตรงหน้าของรพีพงษ์ รพี

พงษ์ยังไม่แม้กระทั่งจะลงมือ

“ไอ้สวะนั่นคงไม่ใช่กลัวหัวหดไปแล้วนะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันว่าใช่ โดนท่วงท่าสวรรค์ของคุณชายกุมุทขู่ เข้าไปเลยกลัวจนหัวหดไปล่ะ”

หมัดของกุมุทชกไปที่หน้าของรพีพงษ์

ในตอนนี้เอง ที่ร่างกายของรพีพงษ์เริ่มขยับ เขาเอียงตัว แล้วหลบหมัดของกุมุท

แล้วรีบสวนกลับ มือของเขายกขึ้นมา เร็วเหมือนฟ้าผ่า ตบไปที่บนหน้าของกุมุท

เพี้ยะ!

เพิ่ง!

ร่างกายของกุมุทล้มลงบนพื้นอย่างจัง

ท่วงท่าที่ง่ายๆ ก็ทำให้ตบกุมุทล้มลงไปนอนบนพื้นได้ เพียงการกระทำแค่อึดใจเดียว ไม่อืดอาดยืดยาดใดๆ

ทุกคนล้วนมองอย่างมึนงงไปที่ฟลอร์เต้นนั้น แต่เดิมผู้ หญิงเหล่านั้นที่โห่เชียร์ให้กับกุมุทล้วนต้องเอาปากทิ้งไป บนพื้น แล้วใช้มันเจาะพื้นซะ
ธายุกรที่ถือไมค์อยู่นั้นแต่เดิมยังรออย่างมีความสุขที่จะ ได้ดูหนังม้วนนี้ แต่ยังไม่รอถึงเขาได้พูดอะไร ให้กำลังใจ กุมุทเลย ก็เห็นรพีพงษ์ตบกุมุทลงไปนอนเป็นที่เรียบร้อย แล้ว

ไมค์ที่บนมือเขาล่วงหล่นลงไปบนพื้นแล้ว เสียงรบกวน ดังขึ้น ถึงได้ดึงจิตที่กำลังตกใจของทุกคนกลับคืนมา

อารียาเห็นกุมุทถูกรพีพงษ์ตบไปหนึ่งครั้งแล้วร่วงลงกับ พื้น ก็แค่รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะเมื่อวานเธอได้เห็นรพี พงษ์ต่อสู้กับพวกของชญตว์แล้ว ตอนกุมุทเริ่มลงมือ เธอก็ เดาถูกว่ากุมุทไม่ใช่คู่ต่อกรของรพีพงษ์

“นี่….นี่เป็นไปได้ยังไง ไอ้สวะนั่น นึกไม่ถึงว่าตบแค่เพี้ยะ เดียวจะทำให้คุณชายกุมุทล้มลงได้

“ฉันคงไม่ได้ตาลายสินะ นี่เป็นแค่สวะจริงๆหรอ”

“ไอ้ที่ถือไมค์นะเล่นอะไร คงไม่ได้มาหลอกคุณชายกุมุท หรอกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เกรงว่าคุณชายกุมุท

ก็ไม่น่าจะขึ้นไปต่อยกับไอนั่นที่ชื่อรพีพงษ์นะ?

กุมุทเพียงรู้สึกว่าในสมองมันจะช้าๆ ในหูมีเสียงวิ่งๆ เหมือนกับสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างนั้น

ผ่านไปสักพัก เขาจึงจะมีสติกลับมา หลังจากยืนขึ้นมา

จากพื้นแล้ว ก็มองอย่างหวาดกลัวนิดหน่อยไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์เพิ่งมองเขา พัวเราะพลางกล่าวว่า “ยังอยากโดนตบอีกสักฉาดมั้ย?”

กุมุทลูบบนใบหน้าของตนทันที แต่เดิมเขาอยากจะทำให้ รพีพงษ์เกิดความอับอาย

ผลลัพธ์ตอนนี้กลับกลายเป็นตัวเองที่อับอายขายหน้า เรื่องแบบนี้แน่นอนว่าเขาลืมมันไม่ลง

เพียงแต่ว่าเขาไม่กล้าต่อยกับรพีพงษ์แล้ว เขารีบออก จากฟลอร์เต้น แล้วเดินตรงไปที่ด้านหน้าของธายุกร ธายุกรเห็นกุมุทเดินเข้ามา ในใจเต้นตึกตักทันที ขาเริ่ม

อ่อนแล้ว

“คะ..คุณชายกุมุท ฟังผมอธิบายก่อน ไอ้รพีพงษ์นี่ตอน อยู่ที่บ้านเป็นเพียงแค่คนที่เกาะผู้หญิงกินเท่านั้น เขาก็แค่ ทำงานบ้านไปวันๆ

ดังนั้นกำลังแรงมีมากขึ้นมาหน่อยเท่านั้นเอง..”

กุมุทได้ยินธายุกรพูดแบบนี้ ในใจยิ่งโมโหมากขึ้น หรือ การที่เขาได้รับการฝึกตั้งแต่เด็กนั้น

ยังเทียบไม่ได้กับคนหนึ่งที่ทำเพียงงานบ้าน?

นี่ชัดเจนมากกว่าธายุกรกำลังเล่นตลกกับตนอยู่

เขาชักตาอย่างเหี้ยมโหดไปที่ธายุกร แล้วยกมือขึ้นมา ทันที ต่อยใส่เขาอย่างรุนแรงหนึ่งฉาด

แวบเดียวธายุกรก็ล้มลงบนพื้น แต่กุมุทก็ไม่หยุดต่อย

“เบ็ดแม่ง ถึงไปต่อยกับเขาเลยนะ ล่ะดูว่ามันเป็นแค่คนที่ ทำแต่งานบ้านแล้วมีแรงเพิ่มขึ้นจริงมั้ย?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท