พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 158

บทที่ 158

บทที่ 158 กังวลจนจะบ้าแล้ว

รพีพงษ์ลุกขึ้นจากที่นั่งทันทีและเดินตามอารียาเข้าไปใน ห้อง

“มันแปลกจริงๆ อารี คุณวางแผนที่จะหย่ากับไอ้ขยะนี้ ไม่ใช่เหรอ?ทำไมคุณกลับไปที่ห้องของเขาอีกละ?” ศศิ นัดดาด่าไปหนึ่งคำ

“แม่ ก่อนหน้านี้ฉันวู่วามไปหน่อย ต่อไปไม่ต้องพูดถึง เรื่องนี้แล้ว” หลังจากพูดจบ อารียาก็เข้ามาในห้อง รพีพงษ์กลัวว่าศศินัดดาจะหาเรื่องอีก เขาจึงรีบเข้าไป

ในห้องและปิดประตู

ศศินดาโยนตะเกียบลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ แผนที่ เธอจะของเงิน10ล้านหยวนจากรพีพงษ์ก็ล้มเหลวไป

ในห้อง

หลังจากอารียาวางของลง เธอก็หันไปมองรพีพงษ์ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

รพีพงษ์มองไปที่อารียาด้วยรอยยิ้มและถามว่า “คุณยก โทษให้ผมจริงๆหรือ?”

อารียาเอากำปั้นเล็กๆของเธอทุบตีเขาทันที พูดด้วย ความน้อยอกน้อยใจ “ไอ้บ้า คุณทำให้ฉันตกใจหมด รู้ ไหมว่าฉันเสียใจแค่ไหนหลังจากเห็นรูปนั้น คุณรู้ไหมว่าฉันสองสามวันนี้ฉันร้องไห้ไปแล้วเท่าไหร่ คุณมันใจร้าย จริงๆเลย!” ในขณะที่อารียาบ่นรพีพงษ์อยู่ น้ำตาก็ไหลออกมาอีก

ครั้ง แต่ครั้งนี้น้ำตาไม่ใช่เพราะความเศร้า แต่เป็นเพราะ

ความคับแค้นใจในใจของเธอได้รับการระบายออกมาแล้ว

รพีพงษ์เฝ้าดูอารียาระบายความคับแค้นใจที่มีต่อเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ เขาไม่พูดอะไร แต่ก้าวไปข้างหน้าและโอบกอดอารียาเข้ามาในอ้อมแขน ของเขาโดยตรง

อารียาทุบที่หน้าอกของเขาอีกสองสามครั้งแล้วกอดรพี พงษ์ไว้แน่น

“สัญญากับฉันได้ไหมว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก โอ เคไหม” อารียาถาม

“ผมสัญญากับคุณว่าผมจะไม่มีวันทรยศคุณในชั่วชีวิต ของผม ผมจะรักแค่คุณคนเดียวเท่านั้น”รพีพงษ์พูดอย่าง จริงจัง

มีคำมั่นสัญญาของรพีพงษ์ อารียาก็รู้สึกโล่งใจ เงย หน้าขึ้นและมองไปที่ดวงตาของรพีพงษ์

รพีพงษ์ก้มศีรษะลงและโน้มตัวไปที่ริมฝีปากของอารียา อารียาหลับตาลงและทั้งสองก็จูบกัน

อารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆแบบนี้ ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่าง คนสองคนหนักแน่นมากยิ่งขึ้น หลังจากประสบเหตุการณ์ นี้ทั้งสองคนก็สนิทกันมากขึ้น
รพีพงษ์อุ้มอารียาลงบนเตียงโดยตรง ตั้งใจจะทำสิ่งนั้น

ให้เสร็จ

อารียาก็รอคอยเป็นอย่างมาก คิดในใจว่าครั้งนี้รพีพงษ์ คงไม่โง่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ รพีพงษ์แทบช็อก

ทำให้อารียารู้สึกหงุดหงิดและตะโกนที่ประตู”แม่ ท่าน ทำอะไร!”

“บอกให้รพีพงษ์รีบออกมาล้างจาน เขาพักอาศัยที่บ้าน ของเรา ไล่ก็ไม่ยอมไปสักที หรือจะให้เขาอยู่ที่นี่โดยไม่ ต้องทำอะไรเลยเหรอ?เสียงที่สุดจะทนของศศินัดดาดัง ขึ้น

รพีพงษ์มองไปที่อารียาด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ได้และลุก ขึ้นจากเตียง

“คุณพักผ่อนก่อนเถอะ ผมไปล้างจานละ เรื่องนี้ยังไม่ ต้องรีบก็ได้” รพีพงษ์กล่าว

อารียาเบะปาก ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโมโห แม่ของเธอต้องจงใจแน่นอน ทุกครั้งที่ถึงจุดสำคัญก็มักจะ มาหาเรื่อง

หลังจากรพีพงษ์ออกไป อารียาก็บ่นพิมพำ ทำไมจะไม่

รีบละ รีบจนจะบ้าแล้ว น่าโมโหจริงๆเลย”

หลังจากที่รพีพงษ์ล้างจานเสร็จ เพื่อระบายความไม่ พอใจของเธอ ศศินัดดาจึงให้รพีพงษ์ถูพื้น ถูพื้นเสร็จก็ไปเช็ดโต๊ะ หลังจากเช็ดโต๊ะเสร็จก็ไปและซักผ้า หลังจากเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เกือบห้าทุ่ม

แล้ว

เมื่อรพีพงษ์กลับไปที่ห้อง เขาพบว่าอารียาหลับแล้ว

เขานอนลงข้างๆ อารียาอย่างระมัดระวัง เห็นอารียานอน หลับสนิท หัวใจของเขาก็รู้สึกเงียบสงบ

รพีพงษ์รู้สึกว่ามีความสุขมากมาย แค่เขาได้นอนเตียง เดียวกันกับอารียา

เช้าวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์ตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารจนเสร็จ จากนั้นเรียกอารียาตื่นมาทานอาหาร ระหว่างรับประทานอาหาร อารียาได้รับโทรศัพท์จากธา

ยุกร ในสายธายุกรพูดอย่างหยาบคายโดยบอกให้เธอไป

พบนภทีป์ มีธุระหาเธอ พูดจบหัวเราะเยาะสองที

อารียาขมวดคิ้วทันที เมื่อรู้ว่านภทีป๊อยากพบเธอ ต้อง พูดถึงเรื่องวัสดุการก่อสร้างแน่นอน

เมื่อวานหลังจากที่โสรธัสจากไป อารียาก็ได้ติดต่อ โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างหลายแห่งแม้ว่าโรงงานผลิตวัสดุ ก่อสร้างเหล่านี้ยินดีที่จะจัดหาวัสดุก่อสร้างให้กับพวกเขา แต่ปริมาณนั้นน้อยจนน่าสงสาร ไม่เพียงพอสำหรับ โครงการของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป

โรงงานวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่อื่นๆอีกหลายแห่ง ได้ ร่วมมือกับโสรัสหมดแล้ว ไม่มีใครรับโทรศัพท์ของอารี

ยาเลย
แม้ว่าเธอจะคืนดีกับรพีพงษ์แล้ว แต่เรื่องของบริษัทก็ยัง ทำให้เธอปวดหัวมาก

” เกิดอะไรขึ้น?” รพีพงษ์มองไปที่อารียาและถาม

อารียาพูดเรื่องที่เมื่อวานโสรธัสขอขึ้นราคากับเธอให้กับ รพีพงษ์ฟัง

“โสรธัสคนนี้นะ ไม่เพียงแต่ขอราคาไปทั่ว แต่ยังยัง จะ” ณ จุดนี้อารียาพูดต่อไปอีกไม่ได้และความคับแค้นใจ บนใบหน้าของเธอก็ปรากฏขึ้น

เขายังทำอะไรอีก?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วและถาม

“ช่างมันเถอะ ไม่พูดแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ประสบ ความสำเร็จอยู่ดี” อารียากล่าว

” เขาเอาเปรียบคุณใช่ไหม?” รพีพงษ์ถาม อารียากัดริมฝีปากและพยักหน้า

ทันใดนั้นหัวใจของรพีพงษ์ก็ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่า โสรธัสคนนี้ถูกเขาขึ้นบัญชีดำแล้ว

“ โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างแห่งนั้นชื่ออะไร?” รพีพงษ์

ถาม

“โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ เป็นโรงงานผลิตวัสดุ ก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองริเวอร์” อารียาตอบ

รพีพงษ์ผงะ เขาคิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นโรงงานวัสดุ ก่อสร้างโฮมาท์ ถ้าเป็นแบบนี้ พงศ์เทพก็น่าจะเป็นลูก ชายของโสรธัส
ตอนนี้เขายังกล้าที่จะเอาวัสดุก่อสร้างมาข่มขู่อารียา ซึ่ง หมายความว่าเขายังไม่รู้ว่าโรงงานวัสดุ

ก่อสร้างนี้พงศ์เทพได้แพ้ให้กับรพีพงษ์แล้ว

ปัจจุบันโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์เป็นทรัพย์สินของรพี พงษ์แล้ว สัญญาการโอนเขียนไว้อย่างชัดเจนแม้ว่าโสรธัส จะไม่ยอมรับก็ตาม รพีพงษ์หัวเราะเยาะ คิดในใจว่าโสรจัสคนนี้ยังกล้าที่จะ

เล่นงานอารียา เขาต้องให้โสรธัสเข้าใจว่า หากเขาคิดจะ

เล่นงานผู้หญิงของรพีพงษ์ จะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ”

เรื่องวัสดุก่อสร้างคุณไม่ต้องกังวล ผมรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง ที่สามารถจัดหาวัสดุก่อสร้างให้คุณได้และรับประกันเรื่อง ปริมาณว่าเพียงพอแน่นอน ผมจะไปหาคุณปู่กับคุณก่อน เพื่อดูว่าท่านพูดอะไรบ้าง” รพีพงษ์กล่าว

อารียารู้สึกประหลาดใจ เธอได้ถามโรงงานผลิตวัสดุ ก่อสร้างทั้งหมดในเมืองริเวอร์ ไม่มีใครสามารถจัดหาวัสดุ ก่อสร้างให้เธอได้เลย แต่รพีพงษ์กลับบอกว่าเขาสามารถ จัดหาให้เธอได้

เป็นไปได้ไหมที่ในเมืองริเวอร์จะมีโรงงานผลิตวัสดุ ก่อสร้างเจ้าอื่นๆที่เธอไม่รู้จัก?

เธอไม่ได้ถามอะไรมากนัก เมื่อเห็นรพีพงษ์อยากไป เธอ จึงตกลงที่จะไปกับเขา หลังจากทั้งสองคนกินข้าวเสร็จก็

ไปวิลล่าตระกูลฉัตรมงคล

ธายุกรและชรินทร์ทิพย์ได้มาเป่าหูของนภที่ป์ตั้งแต่เช้าฟ้องว่าอารียาได้คุยโครงการกับบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปที่ จัดหาวัสดุก่อสร้างล้มเหลว ตอนนี้โครงการทั้งหมดไม่ สามารถทำงานได้ตามปกติ

ตอนแรกนภที่ป์ยังไม่ค่อยเชื่อ ดังนั้นเขาจึงเรียกคนจาก ตระกูลฉัตรมงคลที่รับผิดชอบในโครงการนี้ ถามเสร็จก็ พบว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

เจ้านายของ โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์กล่าวเป็นการ ส่วนตัวว่าการจะหยุดจัดหาวัสดุก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างที่ เหลือก็เพียงพอที่จะให้โครงการดำเนินต่อไปได้เป็นเวลา

หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น

อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา โครงการจะถูกบังคับให้หยุดลง ด้วยเหตุนี้ ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะตระกูลฉัตรมงคลหรือ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปก็จะประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่

“ปกติอารียามักจะตั้งใจทำงาน ทำไมครั้งนี้จึงได้ล้ม เหลวละ” นภที่ป์ขมวดคิ้วและกล่าว ธายุกรหมุนตาของเขาและพูดว่า “ผมได้ยินมาว่า อารี

ยากดราคาเขา กดราคานั้นต่ำกว่าราคาเดิม 10% พวก

เขาจึงไม่ยอม ดังนั้นการเจรจาในครั้งนี้จึงได้ล้มเหลว คุณ

ปู่ อารียาต้องการทำกำไรจากตรงนี้ ”

นภที่ป์ตบโต๊ะทันทีและพูดด้วยความโกรธ ราคาของ โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์นั้นผมรู้ เป็นราคาที่ตลาด ตกลงกันไว้ อารียาคลั่งไคล้เงินจนบ้าไปแล้วใช่ไหม? ทำไมยังไปกดราคาของเขาอีก?”
“คุณปู่ คุณลืมไปแล้วหรือ ครั้งที่แล้วเธอทำกับคุณปู่ยัง ไง เธอคงกลัวว่าท่านจะขับไล่เธอออกจากตระกูล ฉัตรมงคล ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้ในการหาเงินและหนีไป” ธายุกรกล่าว

“ใช่เลย คุณปู่ อารียาคนนี้มีความทะเยอทะยานอย่าง มากกับทรัพย์สินของตระกูลฉัตรมงคล เธอไม่ต้องการให้ ตระกูลฉัตรมงคลเจริญรุ่งเรือง ไม่เช่นนั้นเธอจะทำสิ่งที่ชั่ว ร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร” ชรินทร์ทิพย์กล่าวเสริม

คนที่นภทีป์เรียกมาถาม ก็รีบพูดตามเช่นกัน แม้ว่าพวก เขาจะทำงานภายใต้การดูแลของอารียา แต่อนาคต ตระกูลฉัตรมงคลคงเป็นของธายุกร แน่นอนว่าพวกเขาก็ ต้องอยู่ข้างธายุกรอยู่แล้ว

นภทีป์โมโหจนหน้าอกขึ้นๆลงๆ พูดอย่างเย็นชา “อารียา คนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งกล้า เธออาศัย บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปให้ความ สำคัญกับเธอ เธอจึงกล้าทำแบบนี้กับผมอย่างโจ่งแจ้ง ตอนนี้มาทำลายการพัฒนาของตระกูลฉัตรมงคลของผม ตระกูลฉัตรมงคลเก็บเธอไว้ไม่ได้อีกต่อไป!”

เมื่อธายุกรและชรินทร์ทิพย์เห็นนภทีป์โกรธขนาดนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เผยรอยยิ้มร้ายๆ

หลังจากนั้นไม่นาน รพีพงษ์และอารียาก็มาถึงบ้านพัก ของตระกูลฉัตรมงคล

ทั้งสองเดินไปหานภทีป็อารียาก็พูดกับนภทีป์”คุณปู่ ธุระอะไร?”
“อย่าเรียกผมว่าคุณปู่! ผมรับคำเรียกของคุณไม่ไหว หรอก คุณเกือบจะเป็นบรรพบุรุษของตระกูลฉัตรมงคล ของผมแล้ว!” นภที่ป์พูดอย่างโกรธเคือง

อารียาไม่รู้จะทำยังไง คิดว่านภทีป์ยังคงโกรธกับ

เหตุการณ์ครั้งที่แล้ว เธอไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นเพราะธายุกรและ ชรินทร์ทิพย์ได้เป่าหูให้กับนภทีป์ “คุณปู่ คุณสงบสติอารมณ์ก่อน อย่าเสียสุขภาพเพราะ เธอเลย มันไม่คุ้ม พวกเรามาคุยธุระสำคัญกันเถอะ” อารี

ยากล่าว

นภทีปสงบลงและจ้องไปที่อารียา” ทำไมคุณถึงต้องกด ราคาของ โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ด้วย? ราคาที่พวก เขาให้นั้นเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในตลาดอยู่แล้ว คุณยังจะไป กดราคาลง 10% คุณคลั่งไคล้เงินจนบ้าไปแล้วใช่ไหม?”

อารียาถึงกับผงะและจากนั้นเธอก็พูดว่า “ฉันไม่ได้กด ราคานิคุณปู่ ทั้งๆที่โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ต่างหากที่ ขึ้นราคาให้ฉันและเขาต้องการเพิ่มเป็นหนึ่งเท่า ฉันไม่เห็น ด้วย เขาจึงหยุดจัดหาวัสดุก่อสร้าง

“อารียา อย่ามาอ้างโน่นอ้างนี่เลย ดูที่คุณพูดซิ คนอื่น เขาโง่เหรอ เพิ่มราคาเพิ่มตั้งหนึ่งเท่า คุณนี่มันโกหกก็ไม่ เป็นเลย” ธายุกรหัวเราะเยาะทันที

อารียามองไปที่ธายุกรและเข้าใจทันทีว่า ต้องเป็นเขา แน่ๆที่สร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ในใจมีไฟลุกโชนขึ้นมาทันที แต่เธอรู้ดีว่ายิ่งเธออธิบายมากเท่าไหร่ นภทีป์ก็จะเชื่อคำพูดของธายุกรมากขึ้นเท่านั้น “ตอนนี้เขาหยุดจัดหาวัสดุ ก่อสร้างให้เราและโครงการไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ พวกคุณทุกคนคงรู้ดีว่าเราจะสูญเสียมากแค่ไหน บอกผม มาว่าคุณจะทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” นภทีปักล่าวด้วยน้ำ เสียงที่หนักแน่น

ใบหน้าของอารียาดูสับสน เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ในเวลานี้รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “โรงงาน วัสดุก่อสร้างโฮมาท์จะไม่หยุดจัดหาวัสดุก่อสร้างและผม สามารถให้พวกเขาลดราคาต่ำกว่าราคาตลาด 10%

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท