พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่165

บทที่165

บทที่165 คุณคือไอดอลของผม

เจ้าของร้านเกมส์ถูกพัชรพลตบไปหนึ่งฉาดจนมีน จับ หน้าของตัวเองไว้มองไปที่ธฤตญาณสามคนนั้นอย่างไม่ กล้าเชื่อ

“เขา….เขาคือธฤตญาณ? พี่พัช คุณคงไม่จำผิดคนใช่ ไหม?” เจ้าของร้านเกมส์พูดกับตัวเอง

พัชรพลถีบเข้าไปที่บนท้องของเจ้าของร้าน ก้นของ เจ้าของร้านลงไปนั่งอยู่บนพื้น จับท้องแล้วร้องโอดครวญ ออกมา

“สมองถึงแม่งน้ำเข้าหรือไง? แม้แต่ลูกพี่กู กูจะจำไม่ได้?”

พัชรพลด่าไปหนึ่งดอก แล้วรีบเดินไปทางธฤตญาณและ ไออ้วน ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี “ลูกพี่ ผมไม่รู้ว่าคุณ อยู่ที่นี่ แล้วก็ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เจ้าของร้านเกมส์นี้ รู้จักกับผม ปกติเวลามีปัญหาอะไรผมก็จะช่วยเขาอยู่บ้าง แต่ถ้าเขายั่วโมโหลูกพี่ ผมไม่มีทางไว้หน้าเขาแน่ๆ!”

ธีริทธิ์มองไปที่ธฤตญาณอย่างปลื้มใจ ใบหน้าดู ประหลาดใจยิ่งกว่าเจ้าของร้านเกมส์เสียอีก

เขามองธฤตญาณอย่างระมัดระวัง แล้วกล่าว “คุณ…คุณก็คือธฤตญาณ ราชาปฐพีแห่งเมืองริเวอร์คน นั้น?”

ไออ้วนยิ้มแล้วตบบ่าของเขา แล้วกล่าว “นอกจากเขาจะ เป็นใครไปได้อีก ที่เมืองริเวอร์ ไม่ใช่ใครก็กล้าพูดว่าตัวเองคือธฤตญาณ

ธีริทธิ์กลืนน้ำลายลงทันที ภายในใจเริ่มนับถือรพีพงษ์ ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็คาดไม่ถึง รพีพงษ์หาเพื่อนสอง คนมาให้เขา นั้นเป็นบุคคลของเมืองริเวอร์ที่ไม่มีใครใน พิภพกล้ายั่วโมโห

ไม่แปลกที่พวกเขามากันแค่สองคน กลับมีลักษณะที่ไม่ แคร์ใครเลย เพียงแค่ธฤตญาณชื่อนี้ ก็สามารถขย่มขวัญ ผู้คนเกือบครึ่งของเมืองริเวอร์ได้

ธฤตญาณหัวเราะกับธีริทธิ์ แล้วหันหน้าไปมองพัชรพล แล้วสั่ง “เมื่อกี้ตอนอยู่นี่ไออ้วนชนะสามสิบล้าน นับรวมกับ ที่ธีริทธิ์แพ้อีกสองล้าน เขายังต้องให้อีกยี่สิบแปดล้าน แก ไปเอาก้อนนี้มาจากเขา ห้ามขาดแม้แต่หยวนเดียว”

พัชรพลพยักหน้าทันที แล้วกล่าว “ลูกพี่ วางใจได้ พรุ่งนี้ ผมจะเอาเงินจำนวนนี้ไปให้”

เจ้าของร้านเกมส์ที่นั่งอยู่บนพื้นรีบลุกขึ้นมา ก้มหัวให้กับ ธฤตญาณ “ลูกพี่ ผมรู้สึกผิดแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผม ด้วย ยี่สิบแปดล้าน ผมไม่มีจริงๆ”

“ตอนถึงโกงคนอื่น จึงก็คงไม่คิดถึงว่าเขาจะมีเงินให้ไหม หากเงินขาดสักเหมาเดียว ก็เอาแขนขาของแกมาแทนละ กัน” ธฤตญาณกล่าวอย่างเยือกเย็น

“ลูกพี่ ยกโทษให้ผมเถอะ ต่อไปนี้ผมไม่กล้า….” เจ้าของ ร้านเกมส์ร้องไห้ออกมา

พัชรพลถีบไปที่บนร่างกายของเจ้าของร้านเกมส์อีกครั้งแล้วด่า “แม่ง มถึงมีสิทธิ์จะมาต่อรองเงินกับลูกพี่กู? รีบให้คน ของมึงรวบรวมเงินมาซะ มิเช่นนั้น ตอนนี้กจะตัดมือถึงทิ้ง

ซะ

ธฤตญาณมองไปที่ธีริทธิ์ แล้วกล่าว “ปัญหาได้คลี่คลาย แล้ว พวกเราไปส่งแกกลับละกัน”

ธีริทธิ์ยังอึ้งอยู่ พยักหน้าจากจิตใต้สำนึก

บนเส้นทางกลับบ้าน น้ำเสียงของธีริทธิ์ที่พูดกับธฤต ญาณและไออ้วนเปลี่ยนเป็นเสียงแห่งความปลื้มปิติอย่าง มาก ทั้งคู่คือลูกพี่ปฐพีของเมืองริเวอร์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะ ทำผิดต่อเขา

เมื่อถึงดงเย็น ธีริทธิวิ่งเข้าวิลล่าด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น หลัง จากเข้าประตูไปเห็นรพีพงศ์และอารียากำลังนั่งดูโทรทัศน์ อยู่บนโซฟา

รพีพงษ์เห็นธีริทธิ์กลับมา แล้วกล่าว “ปัญหาของแก แก้ไขแล้ว?” ธีริทธิ์พยักหน้าอย่างตื่นเต้น แล้วกล่าว “พี่เขย ไม่คิดเลย

ว่าจะรู้จักธฤต…”

รพีพงษ์ส่งสายตาไปที่เขา หมายถึงอย่าพูดเรื่องนี้ต่อ หน้าอารียา

ธีริทธิ์รีบเปลี่ยนคำพูด “พี่เขย คุณนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่ คิดว่าคุณจะรู้จักเพื่อนที่เจ๋งขนาดนั้น จากวันนี้ไป คุณคือ ไอดอลของผม!”

อารียาหน้าตาแปลกใจ แล้วกล่าว “นี่แกเป็นอะไรเนี่ยก่อนหน้านี้แกไม่ใช่ว่าคอยแต่หาเรื่องรพีพงษ์หรอกหรอ ทำไมตอนนี้เอาเขาเป็นไอดอลแล้วล่ะ?”

ธีริทธิ์หัวเราะอิอิ แล้วกล่าว “แน่นอนว่าต้องเป็นพี่เขยผม

เจ๋งไปเลยอ่าดิ พี่สาว คุณหาสามีที่ดีขนาดนี้ได้ โชคดีมาก จริงๆ คุณต้องดูแลพี่เขยของผมให้ดีๆนะ อย่าไม่ทันได้ ระวังแล้วปล่อยเค้าหลุดมือไปล่ะ เขาเก่งขนาดนี้ คุณน่าจะ กดดันสิจึงจะถูก”

อารียาโดนคำพูดของธีริทธิ์เข้าไปถึงกับมึน ตามความ หมายของธีริทธิ์ เหมือนกับว่าตัวเองไม่คู่ควรกับรพีพงษ์ อย่างนั้น

รพีพงษ์ถลึงตาไปที่ธีริทธิ์ แล้วกล่าว “พอล่ะ อย่ามาไร้ สาระตรงนี้ รบกวนเวลาดูทีวีของพวกเรา”

ธีริทธิ์แลบลิ้นแล้วแลบลิ้นอีก และไม่พูดอะไรต่อ

ตอนนี้ศศินัดดาเดินลงมาจากชั้นบน เห็นรพีพงษ์กำลังดู ทีวีอยู่ ขมวดคิ้วทันทีแล้วกล่าว “รพีพงษ์ ใครให้แกนั่งดูทีวี ตรงนั้น แกถูพื้นหรือยัง? ล้างจานหรือยัง? แกมีสิทธิ์อะไร พักผ่อนดูทีวีตรงนั้น?”

ธีริทธิ์ได้ยินคำพูดนี้ เคร่งเครียดขึ้นมาทันที แล้วกล่าว “คุณน้าจันทร์ ต่อไปนี้น้าห้ามพูดแบบนี้กับพี่เขยผมนะ ตอนนี้เขาคือไอดอลของผม”

ลัดดาวรรณซะงัก แล้วรีบกล่าว “ธีริทธิ์ แกอย่าเอาไอ้ สวะนี้เป็นไอดอลนะ เขานอกจากจะเกาะเมียกินก็ทำอะไร อย่างอื่นไม่เป็น ให้ทำงานบ้านก็อืดอาดยืดยาด แกเลียนแบบเขาทำไม”

ธีริทธิ์ถลึงตาทันที แล้วกล่าว “งานบ้านพวกนี้ผมทำเอง น้าอย่าว่าพี่เขยผมแบบนี้นะ มิฉะนั้นอย่าโทษผมที่แตกคอ กับน้า”

พูดจบ เขาก็ไปถูพื้นล้างจาน

ใบหน้าศศินัดดาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ คิดในใจนี่กี่วัน เอง รพีพงษ์สามารถซื้อใจของธีริทธิ์ได้แล้ว อารียาก็หลง เสน่ห์เขา ตอนนี้ไม่แม้แต่จะฟังคำพูดของตน

“นี่มันตัวซวยชัดๆ เพียงแค่แกอยู่บ้านฉันหนึ่งวัน ไม่มีวัน ไหนที่ฉันมีความสุขเลย!”

หลังจากพีมพำแล้ว ศศินัดดาก็เดินกลับขึ้นไปข้างบน อย่างโมโห

รพีพงษ์และอารียามองตากัน หัวเราะอย่างอดไม่อยู่

ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ธฤตญาณให้คนเอาสัญญาของโรงงาน วัสดุก่อสร้างโฮมาท์มาให้

หลังจากรพีพงษ์ดูแล้ว รู้สึกไม่มีปัญหา ก็ส่งให้กับอารียา

อารียาเห็นคนที่เซ็นสัญญาคือธฤตญาณจริงๆ ในใจรู้สึก แปลกใจไปชั่วขณะ ไม่คาดคิดโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ ได้เปลี่ยนเจ้าของแล้วจริงๆ

“รพีพงษ์ คุณบอกกับฉันมาตรงๆ เรื่องการเปลี่ยนเจ้าของ โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ ความจริงแล้วคุณเป็นคนทำ ใช่ไหม?” อารียาถามขึ้นอย่างกะทันหัน
รพีพงษ์หัวเราะฮ่าฮ่า แล้วกล่าว “จะเป็นไปได้ยังไง ผมจะ มีความสามารถขนาดนั้นได้ไงกัน ธฤตญาณเค้าอยากทำ อะไร ก็ไม่ฟังผมหรอก”

อารียาไม่ได้เชื่อคำพูดของรพีพงษ์แต่อย่างใด ครั้งที่แล้ว บุษบากรพูดกับเธอว่า สถานะของรพีพงษ์น่ากลัวเกินกว่าที่ เธอคิดไว้มาก ตอนนี้ถ้าถือว่าธฤตญาณกำลังทำการแทน รพีพงษ์นั้น เธอก็ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานี้ล้วนทำให้อารียา

รู้สึกว่า รพีพงษ์ต่างหากถึงจะเป็นบุคคลที่ปิดแผ่นฟ้าด้วย ฝ่ามือจริงๆ หลายปีมานี้ต้องเป็นเพราะเหตุผลบางอย่างเขา จึงต้องเลือกแอบซ่อนความทุกข์ไว้

เธอไม่ได้ถามอะไรมากมาย เพราะเธอก็เข้าใจ รอให้ เวลานั้นมาถึง รพีพงษ์จะต้องบอกเธอทุกๆเรื่อง

หลังจากเช็คแล้วว่าสัญญาไม่มีปัญหาอะไร ทั้งสองจึงไป วิลล่าตระกูลฉัตรมงคลด้วยกัน

เพิ่งเข้าประตู รพีพงษ์เห็นในวิลล่าคนนั่งเต็มไปหมด เชื้อ สายญาติทั้งหลายแหล่ของนภทีป์ก็มาตรงนี้กันแล้ว

พูดตามเหตุผล หากเพียงแค่คุยเรื่องโรงงานวัสดุก่อสร้าง โฮมาท์ นภทีป์ไม่จำเป็นต้องเรียกคนมามากมายขนาดนี้

ดูจากลักษณะแล้ว น่าจะมีเรื่องสำคัญอย่างอื่นที่จะป่าว ประกาศด้วย

ใบหน้าอารียาเต็มได้วยความแปลกใจ ดึงญาติมาคนนึง แล้วถาม “นี่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนจึงมาบ้านคุณปู่?”
ญาติคนนั้นทองไปที่อารียา แล้วกล่าว “ฉันก็ไม่รู้ประเด็น หลัก แต่ได้ยินมาว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลลัดดาวัลย์เมือง เกียวโต

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท