บทที่165 คุณคือไอดอลของผม
เจ้าของร้านเกมส์ถูกพัชรพลตบไปหนึ่งฉาดจนมีน จับ หน้าของตัวเองไว้มองไปที่ธฤตญาณสามคนนั้นอย่างไม่ กล้าเชื่อ
“เขา….เขาคือธฤตญาณ? พี่พัช คุณคงไม่จำผิดคนใช่ ไหม?” เจ้าของร้านเกมส์พูดกับตัวเอง
พัชรพลถีบเข้าไปที่บนท้องของเจ้าของร้าน ก้นของ เจ้าของร้านลงไปนั่งอยู่บนพื้น จับท้องแล้วร้องโอดครวญ ออกมา
“สมองถึงแม่งน้ำเข้าหรือไง? แม้แต่ลูกพี่กู กูจะจำไม่ได้?”
พัชรพลด่าไปหนึ่งดอก แล้วรีบเดินไปทางธฤตญาณและ ไออ้วน ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี “ลูกพี่ ผมไม่รู้ว่าคุณ อยู่ที่นี่ แล้วก็ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เจ้าของร้านเกมส์นี้ รู้จักกับผม ปกติเวลามีปัญหาอะไรผมก็จะช่วยเขาอยู่บ้าง แต่ถ้าเขายั่วโมโหลูกพี่ ผมไม่มีทางไว้หน้าเขาแน่ๆ!”
ธีริทธิ์มองไปที่ธฤตญาณอย่างปลื้มใจ ใบหน้าดู ประหลาดใจยิ่งกว่าเจ้าของร้านเกมส์เสียอีก
เขามองธฤตญาณอย่างระมัดระวัง แล้วกล่าว “คุณ…คุณก็คือธฤตญาณ ราชาปฐพีแห่งเมืองริเวอร์คน นั้น?”
ไออ้วนยิ้มแล้วตบบ่าของเขา แล้วกล่าว “นอกจากเขาจะ เป็นใครไปได้อีก ที่เมืองริเวอร์ ไม่ใช่ใครก็กล้าพูดว่าตัวเองคือธฤตญาณ
ธีริทธิ์กลืนน้ำลายลงทันที ภายในใจเริ่มนับถือรพีพงษ์ ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็คาดไม่ถึง รพีพงษ์หาเพื่อนสอง คนมาให้เขา นั้นเป็นบุคคลของเมืองริเวอร์ที่ไม่มีใครใน พิภพกล้ายั่วโมโห
ไม่แปลกที่พวกเขามากันแค่สองคน กลับมีลักษณะที่ไม่ แคร์ใครเลย เพียงแค่ธฤตญาณชื่อนี้ ก็สามารถขย่มขวัญ ผู้คนเกือบครึ่งของเมืองริเวอร์ได้
ธฤตญาณหัวเราะกับธีริทธิ์ แล้วหันหน้าไปมองพัชรพล แล้วสั่ง “เมื่อกี้ตอนอยู่นี่ไออ้วนชนะสามสิบล้าน นับรวมกับ ที่ธีริทธิ์แพ้อีกสองล้าน เขายังต้องให้อีกยี่สิบแปดล้าน แก ไปเอาก้อนนี้มาจากเขา ห้ามขาดแม้แต่หยวนเดียว”
พัชรพลพยักหน้าทันที แล้วกล่าว “ลูกพี่ วางใจได้ พรุ่งนี้ ผมจะเอาเงินจำนวนนี้ไปให้”
เจ้าของร้านเกมส์ที่นั่งอยู่บนพื้นรีบลุกขึ้นมา ก้มหัวให้กับ ธฤตญาณ “ลูกพี่ ผมรู้สึกผิดแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผม ด้วย ยี่สิบแปดล้าน ผมไม่มีจริงๆ”
“ตอนถึงโกงคนอื่น จึงก็คงไม่คิดถึงว่าเขาจะมีเงินให้ไหม หากเงินขาดสักเหมาเดียว ก็เอาแขนขาของแกมาแทนละ กัน” ธฤตญาณกล่าวอย่างเยือกเย็น
“ลูกพี่ ยกโทษให้ผมเถอะ ต่อไปนี้ผมไม่กล้า….” เจ้าของ ร้านเกมส์ร้องไห้ออกมา
พัชรพลถีบไปที่บนร่างกายของเจ้าของร้านเกมส์อีกครั้งแล้วด่า “แม่ง มถึงมีสิทธิ์จะมาต่อรองเงินกับลูกพี่กู? รีบให้คน ของมึงรวบรวมเงินมาซะ มิเช่นนั้น ตอนนี้กจะตัดมือถึงทิ้ง
ซะ
ธฤตญาณมองไปที่ธีริทธิ์ แล้วกล่าว “ปัญหาได้คลี่คลาย แล้ว พวกเราไปส่งแกกลับละกัน”
ธีริทธิ์ยังอึ้งอยู่ พยักหน้าจากจิตใต้สำนึก
บนเส้นทางกลับบ้าน น้ำเสียงของธีริทธิ์ที่พูดกับธฤต ญาณและไออ้วนเปลี่ยนเป็นเสียงแห่งความปลื้มปิติอย่าง มาก ทั้งคู่คือลูกพี่ปฐพีของเมืองริเวอร์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะ ทำผิดต่อเขา
เมื่อถึงดงเย็น ธีริทธิวิ่งเข้าวิลล่าด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น หลัง จากเข้าประตูไปเห็นรพีพงศ์และอารียากำลังนั่งดูโทรทัศน์ อยู่บนโซฟา
รพีพงษ์เห็นธีริทธิ์กลับมา แล้วกล่าว “ปัญหาของแก แก้ไขแล้ว?” ธีริทธิ์พยักหน้าอย่างตื่นเต้น แล้วกล่าว “พี่เขย ไม่คิดเลย
ว่าจะรู้จักธฤต…”
รพีพงษ์ส่งสายตาไปที่เขา หมายถึงอย่าพูดเรื่องนี้ต่อ หน้าอารียา
ธีริทธิ์รีบเปลี่ยนคำพูด “พี่เขย คุณนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่ คิดว่าคุณจะรู้จักเพื่อนที่เจ๋งขนาดนั้น จากวันนี้ไป คุณคือ ไอดอลของผม!”
อารียาหน้าตาแปลกใจ แล้วกล่าว “นี่แกเป็นอะไรเนี่ยก่อนหน้านี้แกไม่ใช่ว่าคอยแต่หาเรื่องรพีพงษ์หรอกหรอ ทำไมตอนนี้เอาเขาเป็นไอดอลแล้วล่ะ?”
ธีริทธิ์หัวเราะอิอิ แล้วกล่าว “แน่นอนว่าต้องเป็นพี่เขยผม
เจ๋งไปเลยอ่าดิ พี่สาว คุณหาสามีที่ดีขนาดนี้ได้ โชคดีมาก จริงๆ คุณต้องดูแลพี่เขยของผมให้ดีๆนะ อย่าไม่ทันได้ ระวังแล้วปล่อยเค้าหลุดมือไปล่ะ เขาเก่งขนาดนี้ คุณน่าจะ กดดันสิจึงจะถูก”
อารียาโดนคำพูดของธีริทธิ์เข้าไปถึงกับมึน ตามความ หมายของธีริทธิ์ เหมือนกับว่าตัวเองไม่คู่ควรกับรพีพงษ์ อย่างนั้น
รพีพงษ์ถลึงตาไปที่ธีริทธิ์ แล้วกล่าว “พอล่ะ อย่ามาไร้ สาระตรงนี้ รบกวนเวลาดูทีวีของพวกเรา”
ธีริทธิ์แลบลิ้นแล้วแลบลิ้นอีก และไม่พูดอะไรต่อ
ตอนนี้ศศินัดดาเดินลงมาจากชั้นบน เห็นรพีพงษ์กำลังดู ทีวีอยู่ ขมวดคิ้วทันทีแล้วกล่าว “รพีพงษ์ ใครให้แกนั่งดูทีวี ตรงนั้น แกถูพื้นหรือยัง? ล้างจานหรือยัง? แกมีสิทธิ์อะไร พักผ่อนดูทีวีตรงนั้น?”
ธีริทธิ์ได้ยินคำพูดนี้ เคร่งเครียดขึ้นมาทันที แล้วกล่าว “คุณน้าจันทร์ ต่อไปนี้น้าห้ามพูดแบบนี้กับพี่เขยผมนะ ตอนนี้เขาคือไอดอลของผม”
ลัดดาวรรณซะงัก แล้วรีบกล่าว “ธีริทธิ์ แกอย่าเอาไอ้ สวะนี้เป็นไอดอลนะ เขานอกจากจะเกาะเมียกินก็ทำอะไร อย่างอื่นไม่เป็น ให้ทำงานบ้านก็อืดอาดยืดยาด แกเลียนแบบเขาทำไม”
ธีริทธิ์ถลึงตาทันที แล้วกล่าว “งานบ้านพวกนี้ผมทำเอง น้าอย่าว่าพี่เขยผมแบบนี้นะ มิฉะนั้นอย่าโทษผมที่แตกคอ กับน้า”
พูดจบ เขาก็ไปถูพื้นล้างจาน
ใบหน้าศศินัดดาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ คิดในใจนี่กี่วัน เอง รพีพงษ์สามารถซื้อใจของธีริทธิ์ได้แล้ว อารียาก็หลง เสน่ห์เขา ตอนนี้ไม่แม้แต่จะฟังคำพูดของตน
“นี่มันตัวซวยชัดๆ เพียงแค่แกอยู่บ้านฉันหนึ่งวัน ไม่มีวัน ไหนที่ฉันมีความสุขเลย!”
หลังจากพีมพำแล้ว ศศินัดดาก็เดินกลับขึ้นไปข้างบน อย่างโมโห
รพีพงษ์และอารียามองตากัน หัวเราะอย่างอดไม่อยู่
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ธฤตญาณให้คนเอาสัญญาของโรงงาน วัสดุก่อสร้างโฮมาท์มาให้
หลังจากรพีพงษ์ดูแล้ว รู้สึกไม่มีปัญหา ก็ส่งให้กับอารียา
อารียาเห็นคนที่เซ็นสัญญาคือธฤตญาณจริงๆ ในใจรู้สึก แปลกใจไปชั่วขณะ ไม่คาดคิดโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ ได้เปลี่ยนเจ้าของแล้วจริงๆ
“รพีพงษ์ คุณบอกกับฉันมาตรงๆ เรื่องการเปลี่ยนเจ้าของ โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ ความจริงแล้วคุณเป็นคนทำ ใช่ไหม?” อารียาถามขึ้นอย่างกะทันหัน
รพีพงษ์หัวเราะฮ่าฮ่า แล้วกล่าว “จะเป็นไปได้ยังไง ผมจะ มีความสามารถขนาดนั้นได้ไงกัน ธฤตญาณเค้าอยากทำ อะไร ก็ไม่ฟังผมหรอก”
อารียาไม่ได้เชื่อคำพูดของรพีพงษ์แต่อย่างใด ครั้งที่แล้ว บุษบากรพูดกับเธอว่า สถานะของรพีพงษ์น่ากลัวเกินกว่าที่ เธอคิดไว้มาก ตอนนี้ถ้าถือว่าธฤตญาณกำลังทำการแทน รพีพงษ์นั้น เธอก็ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานี้ล้วนทำให้อารียา
รู้สึกว่า รพีพงษ์ต่างหากถึงจะเป็นบุคคลที่ปิดแผ่นฟ้าด้วย ฝ่ามือจริงๆ หลายปีมานี้ต้องเป็นเพราะเหตุผลบางอย่างเขา จึงต้องเลือกแอบซ่อนความทุกข์ไว้
เธอไม่ได้ถามอะไรมากมาย เพราะเธอก็เข้าใจ รอให้ เวลานั้นมาถึง รพีพงษ์จะต้องบอกเธอทุกๆเรื่อง
หลังจากเช็คแล้วว่าสัญญาไม่มีปัญหาอะไร ทั้งสองจึงไป วิลล่าตระกูลฉัตรมงคลด้วยกัน
เพิ่งเข้าประตู รพีพงษ์เห็นในวิลล่าคนนั่งเต็มไปหมด เชื้อ สายญาติทั้งหลายแหล่ของนภทีป์ก็มาตรงนี้กันแล้ว
พูดตามเหตุผล หากเพียงแค่คุยเรื่องโรงงานวัสดุก่อสร้าง โฮมาท์ นภทีป์ไม่จำเป็นต้องเรียกคนมามากมายขนาดนี้
ดูจากลักษณะแล้ว น่าจะมีเรื่องสำคัญอย่างอื่นที่จะป่าว ประกาศด้วย
ใบหน้าอารียาเต็มได้วยความแปลกใจ ดึงญาติมาคนนึง แล้วถาม “นี่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนจึงมาบ้านคุณปู่?”
ญาติคนนั้นทองไปที่อารียา แล้วกล่าว “ฉันก็ไม่รู้ประเด็น หลัก แต่ได้ยินมาว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลลัดดาวัลย์เมือง เกียวโต