พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่173

บทที่173

บทที่173 ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลฉัตรมงคล

หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ได้ยินคำพูดของอารียาแล้ว ใบหน้าสะท้อนความรังเกียจออกมา แล้วกล่าว “ฉันว่าแก กำลังอิจฉาฉันอยู่นะ ตระกูลลัดดาวัลย์มาเพื่อสู่ขอ มีแต่จะ

ให้ขอฉันเพิ่มขึ้น แกหยุดพูดให้ร้ายได้ล่ะ” อารียาไม่พูดอะไรต่อ เมื่อกี้ที่เธอพูดก็แค่พูดเพราะโมโห ถ้าตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอล่ะก็ ต่อไปชรินทร์ทิพย์ก็ต้อง

ยิ่งใหญ่หาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในใจอารียาแอบรุ้สึกอิจฉาหน่อยๆ

แต่เมื่อคิดถึงรพีพงษ์แล้ว ความอิจฉาในใจของเธอก็ มลายหายไป รพีพงษ์ในตอนนี้ ก็ไม่แย่ไปกว่าใคร

ศศินัดดาและศักดาเห็นอารียากำลังต่อร้องต่อเถียงกับ ชรินทร์ทิพย์ตอนนี้ ก็เริ่มเคร่งเครียดนิดหน่อย

ถ้าตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอจริงๆ ถ้าความสัมพันธ์ ระหว่างอารียากับชรินทร์ทิพย์แตกหัก จะไม่มีอะไรที่ดีต่อ ครอบครัวเขาเลย

ศศินัดดาเกินไปข้างหน้า แล้วหัวเราะพูดกับเจน “เจน อารมณ์ของอารีแกกรู้อยู่ หวังว่าแกจะไม่ถือสา ทุกคนๆก็ คือครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันจนไม่ เป็นสุขแบบนี้”

ชรินทร์ทิพย์ใช้สายตามองบนไปที่ศศินัดดา แล้วกล่าว “ใครเป็นครอบครัวเดี๋ยวกับเธอ ท่าทีแบบนี้ของเธอยังอยากสร้างความสัมพันธ์กับฉันอีกหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นเธอมี สามีที่เป็นไอ้สวะ เหอะ รอให้ฉันแต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์ ก่อน จะตัดความสัมพันธ์กับเธอทันที”

ใบหน้าของศศินัดดาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แล้ว รีบหันไปมองที่อารียา แล้วกล่าว “อารี แกก็หยุดโผงผางได้ ล่ะ รีบขอโทษเจนซะ ไม่งั้นต่อไปคนที่โชคร้าย ก็จะเป็น ครอบครัวเรานะ”

สายตาอารียาหนักแน่น แล้วกล่าว “ให้ฉันขอโทษ? ไม่มี ทาง ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย”

ชรินทร์ทิพย์ชักตา แล้วกล่าว “แกยั่วโมโหฉัน เป็นความ ผิดที่สุด!”

พูดจบ ชรินทร์ทิพย์ก็มองไปที่ผู้คนรอบๆ แล้วพูด “ทุกๆ

คนดูนะ เพราะอารียาอิจฉาฉันที่จะได้แต่งเข้าตระกูลลัด

ดาวัลย์ ตอนนี้ยังกล้าที่จะใช้ท่าทีแบบนี้พูดกับฉัน พวกคุณ คิดว่าฉันควรจะตัดความสัมพันธ์กับเธอเลยดีไหม?” ทุกคนรู้ว่าคนที่สำคัญของงานวันนี้คือใคร แน่นอนว่าต้อง

พูดแทนเจนอยู่แล้ว มองอารียาด้วยสายตาที่ตำหนิ

“วันนี้เป็นวันสำคัญของเจน อารียาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเกิน ไปล่ะ คิดไม่ถึงว่าในเวลานี้ยังกล้าที่จะยั่วโมโหเจนอีก โง่ จริงๆ”

ต่อไปเจนแต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์ นั่นคือคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์ อารียาไม่รู้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ที่กล้าจะเป็นปฏิปักษ์กับเจน”
“อาจจะเพราะในใจไม่สงบมั้ง ตัวเธอเองแต่งกับสามีสวะ เห็นเจนจะแต่งเข้าครอบครัวเศรษฐีแล้ว ก็เริ่มวุ่นวาย”

ธายุกรเพ่งไปที่อารียา แล้วหัวเราะ “อารียา แกนี่มันมี ปัญญาจริงๆนะ เอาไง อดทนกับตระกูลฉัตรมงคลไม่ไหว แล้ว?

ตอนนี้แกอยู่ตระกูลฉัตรมงคล แม้แต่งานก็ไม่มีแล้ว ถ้า ยังยั่วเจนอีก ถึงแม้ต้องไล่แกออกไป ก็ไม่มีใครพูดอะไร”

อารียาชักตาไปที่ธายุกร นึกถึงตอนนี้เขาคือผู้จัดการ บริษัท ในใจก็โกรธขึ้นมา

“ถ้าพวกเธอเป็นแบบนี้กันหมด ตระกูลนี้ ไม่อยู่ก็ไม่ เห็นจะเป็นไร!” อารียากัดฟันพูด

ผ่านกระบวนการคิดไตร่ตรองมาสักระยะ อารียาได้เรียน รู้ชัดเจนถึงท่าทางของคนเหล่านี้ของตระกูลฉัตรมงคลแล้ว เมื่อก่อนเธอเป็นกังวลว่าหากออกจากตระกูลฉัตรมงคล แล้วก็มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่มีความคิดนี้อีก ต่อไป

ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีอะไรแล้ว เธอยังมีรพีพงษ์ รพีพงษ์พูด ไว้ว่าจะให้เธอมีความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด

หลังจากศศินัดดาและศักดาได้ยินคำพูดของอารียาแล้ว

สีหน้าเปลี่ยนทันที แล้วรีบไปข้างหน้า แก้ตัวแทนอารียา

“วันนี้อารียังไม่ตื่น อย่าถือคำพูดของเธอ ทุกคนอย่า ถือสาเลย” ศักดาพูดอย่างอับอาย
“อารี แกบ้าไปแล้วหรอ คำพูดแบบนี้ก็พูดตามใจได้ด้วย หรอ? แกรีบอธิบายให้ทุกคนฟัง” ใบหน้าศศินัดดาเต็มไป ด้วยความเคร่งเครียด

อารียาไม่สนใจคำพูดของศักดาและศศินัดดาแต่อย่าง ใด ในเมื่อเลือกที่จะสู้สุดทางกับคนเหล่านี้ งั้นเธอก็ไม่มี ความจำเป็นที่จะต้องถอย

“ทำไม ตระกูลนี้ของฉันรับพระเจ้าแบบแกไม่ได้แล้ว? ใน ตอนนี้ เสียงต่ำของนภทีป์ดังขึ้นมา

ทุกคนหันหน้ากลับไปดู นภทีป์ที่เปลี่ยนชุดใหม่ทั้งตัวเดิน มาถึงตรงนี้

ธายุกรและชรินทร์ทิพย์รีบเดินไปพยุงนภทีป์ พยุงไปที่ โซฟา

หลังจากที่นั่งลงโซฟาแล้ว ดวงตาบูดบึงของนภทีป์กำลัง มองไปที่อารียา

ชรินทร์ทิพย์และธายุกรมองตากัน ใบหน้าสะท้อนรอย ยิ้มที่ร้ายกาจออกมา ชรินทร์ทิพย์ก็เริ่มใส่อารมณ์กับนภ ที่ป์ต่อ

“คุณปู่ วันนี้เป็นวันสำคัญของเค้า อารียาต้องการที่จะ เป็นศัตรูกับฉันในตอนนี้ให้ได้ คุณว่าถ้าเธอไม่อิจฉาฉัน แล้วจะเป็นเพราะอะไร เธอเป็นพี่สาวของฉัน ฉันรู้ว่าตัวเอง ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ แต่เธอทำแบบนี้ กระทบความ รู้สึกของฉันวันนี้ เดี๋ยวคนของตระกูลลัดดาวัลย์มาถึง เห็น ฉันไม่สบอารมณ์ ก็ไม่อยากสู่ขอฉันแล้ว นั่นก็ไม่ใช่ทำลายเรื่องสำคัญของตระกูลฉัตรมงคลของเราหรอ”

“ใช่คุณปู่ อารียาตั้งใจ เธออิจฉาเจน เมื่อกี้เธอยังพูดว่า ไม่อยากอยู่ในตระกูลฉัตรมงคลแล้ว ฉันว่าสู้ไล่เธอออกไป จากตระกูลเลยดีกว่า” ธายุกรกล่าวเสริม

ธายุกรหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วพูดกับอารียาว่า “เธอปีก กล้าขาแข็งแล้วจริงๆ กล้าพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว ตอนนี้ ขอโทษเจน เรื่องนี้รอให้คนของตระกูลลัดดาวัลย์กลับไป ก่อนแล้วฉันค่อยคุยกับแก”

“ให้ฉันขอโทษเธอ ไม่มีทาง” อารียาพูดอย่างเด็ดขาด นภทีป์เห็นอารียาแม้แต่คำพูดของเขาก็ไม่ฟังแล้ว แล้ว ตบโต๊ะทันที กล่าว “หรือแกอยากจะตัดความสัมพันธ์กับ ตระกูลฉัตรมงคงของฉัน?”

“ถ้าคุณปู่เชื่อคำพูดของชรินทร์ทิพย์ แม้จะตัดความ สัมพันธ์แล้วยังไง” อารียาไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย

ศักดาและศศินัดดาสองคนรีบไปด้านหน้า ขอโทษนภทีป์ และชรินทร์ทิพย์อย่างไม่หยุด แต่ทว่าอารียาได้ตัดสินใจ ไปแล้ว ถึงแม้ไม่ว่าพวกเขาจะขอร้องอย่างไร ก็เปลี่ยน ความคิดของเธอไม่ได้

“ลูกสาว แกก็ยอมๆหน่อยเหอะ จะมาทุ่มเทอะไรตอนนี้ ถ้าแกไม่มีความสัมพันธ์กับตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว ต่อไปจะ มีชีวิตอยู่อย่างไร” ศศินัดดาเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

“ฉันยังมีรพีพงษ์” อารียาตั้งใจพูด

ทุกคนต่างก็หัวเราะขึ้นมา คิดว่าอารียากำลังพูดตลกอยู่
“ฉันไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม แกคิดจะพึ่งรพีพงษ์ในการใช้ ชีวิต ไอ้สวะนั้นแม้แต่ตัวเองยังเลี้ยงไม่ได้เลย แกยังอยาก พึ่งเขา สมงสมองไปหมดล่ะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกจริงๆ ไม่คาดคิดว่าแกจะเอาไอ้สวะตัวนึง มาเป็นที่พึ่งช่วยชีวิตแล้ว นี่เป็นเรื่องตลกที่สุดที่ฉันได้ยิน มาล่ะ

“จัๆ แกเป็นเพราะตระกูลลัดดาวัลย์จะมาเพื่อสู่ขอ แล้ว ได้รับผลกระทบใช่ไหม ไอ้สวะรพีพงศ์ นั่น ไม่มีทางที่จะ เทียบกับตระกูลลัดดาวัลย์ได้หรอก

นภทีป์เห็นอารียายืนหยัดแบบนี้ ในใจก็เต็มไปด้วยความ โกรธ อีกสักครู่คนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะมาแล้ว เขาไม่ อยากให้อารียาเหมารวมกับเรื่องสำคัญนี้ ดังนั้นจำเป็นที่จะ ต้องจัดการเรื่องนี้ให้โดยเร็วเสีย

“คุณปู่ นี่เธอกำลังเยาะเย้ยตระกูลฉัตรมงคลของเราอยู่ นะ ความหมายของเธอคือ ตระกูลฉัตรมงคลของเรา เปรียบไม่ได้กับรพีพงษ์นั่น คนแบบนี้ ยังมีสิทธิ์อะไรอยู่ใน ตระกูลฉัตรมงคลอีก” ชรินทร์ทิพย์กล่าว

นภทีป่หลับตา แล้วกล่าว “ในเมื่อท่าทีของแกยืนหยัด ขนาดนี้ งั้นก็อย่าว่าฉันไม่เกรงใจล่ะกัน หลังจากวันนี้ เป็นต้นไป แกกับตระกูลฉัตรมงคลของฉันไม่มีความ สัมพันธ์ใดๆกันอีกต่อไป เงินของตระกูลฉัตรมงคงของฉัน แกก็เอาไปไม่ได้แม้แต่หยวนเดียว ไม่ว่าเรื่องใดของตระกูล ฉัตรมงคล ก็ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับแกทั้งนั้น ะ ๕
ดวงตาของอารียายืนหยัด แล้วกล่าว “ได้ ฉันรับได้!”

ธายุกรและชรินทร์ทิพย์หัวเราะอย่างดีใจออกมาทันที พวกเขารอมานานขนาดนี้ เพื่อที่จะได้เห็นตอนที่อารียาถูก ไล่ออกจากตระกูล ไม่คิดว่าจะเป็นวันนี้ จุดมุ่งหมายของ พวกเราสำเร็จแล้ว

ใบหน้าของศักดาและศศินัดดาเต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาสองคนรู้ดี ไม่ว่าตอนนี้จะทำอะไร ก็ไม่สามารถเรียกคืน กลับมาได้แล้ว

“อารียา ถึงแม้แกจะไม่ใช่คนของตระกูลฉัตรมงคลแล้ว แต่ฉันอนุญาตให้แกอยู่ที่นี่เพื่อดูตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอ ฉัน แต่ถ้าแกกล้าวุ่นวายล่ะก็ ฉันจะไม่ให้คุณปู่ปล่อยแกไว้ แน่” ชรินทร์ทิพย์หัวเราะพลางพูด

“ขอโทษ ฉันไม่สนใจ”

อารียาพูดไปหนึ่งประโยค แล้วกำลังจะเดินออกไปข้าง

นอก

ในขณะนี้เอง ทันใดนั้น มีคนวิ่งเข้ามาหนึ่งคน แล้วตะโกน “ท่านนภที่ ป์ คนของตระกูลลัดดาวัลย์มาแล้ว!”

ทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลยืนขึ้นทั้งหมด ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความเคร่งขรึม จัดระเบียบในห้องรับแขกเป็นอย่าง ดี รอให้คนของตระกูลลัดดาวัลย์เข้ามา

ตอนแรกอารียาจะออกไป แต่ถูกศักดาและศศินัดดาดึง

ไว้ข้างๆ

ตอนนี้นภทีป์ก็ไม่มีเวลาที่จะไปโกรธอารียาแล้ว รีบยืนขึ้นจากโซฟา แล้วจัดเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อย

อารมณ์ตื่นเต้น

วันนี้เพียงแค่ตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอชรินทร์ทิพย์ ต่อ

ไปตระกูลฉัตรมงคลของเขาก็จะเป็นตระกูลที่มีความ สัมพันธ์กับตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว

ถึงเวลานั้นยืมชื่อเสียงของตระกูลลัดดาวัลย์มา แม้แต่ ตระกูลกุลสวัสดิ์ ก็ไม่มีทางเทียบได้แน่นอน

ชีวิตนี้ที่นภทีปอยากเห็นมากที่สุด คือตระกูลฉัตรมงคล เจริญก้าวหน้าอยู่ในมือเขา ในวันนี้ก็ใกล้จะเป็นความจริง เข้าไปทุกที

ชรินทร์ทิพย์เฉกเช่นเจ้าหญิงก็มิปาน อกเผยไหล่ตึง ยืน อยู่ตรงกลางของทุกคน

เธอพยายามทำให้ตัวเองดูดีมีความสามารถสักหน่อย ให้ เป็นความทรงจำที่ดีต่อตระกูลลัดดาวัลย์ เสียดายที่ในตัว ของเธอไม่ได้มีพื้นฐานความดูดีมีความสามารถนี้เลย ไม่ว่า จะแสดงอย่างไร ก็ไม่มีอารมณ์นั้น

เธอหันไปมองที่อารียา ดวงตาของทั้งคู่สบตากัน สายตา ของชรินทร์ทิพย์เต็มไปด้วยความสะใจ

เธออิจฉาอารียามานานหลายปี วันนี้ ถึงตอนที่อารียา ต้องอิจฉาเธอบ้างแล้ว

ประตูของวิลล่ามีคนเปิดออก บอดี้การ์ดที่สวมชุดสูทดำ ทั้งตัวเดินเข้ามา เข้าแถวเป็นสองแถวอยู่หน้าประตู ด้วย ใบหน้าที่ปลื้มปิติ
ทุกคนให้ดังนี้ ในใจเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในใจก็ คิดคนของตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ธรรมดาแบบนี้นี่เอง ออก จากบ้านต้องมีบอดี้การ์ดมากมายขนาดนี้มาคุ้มครอง

โยษิตาสวมรองเท้าส้นสูงเดินเข้าไปในวิลล่า เธอมองไป รอบๆทุกคนในวิลล่า พบว่าทุกคนต่างสวมใส่ชุดที่สวยงาม ในใจหัวเราะดูแคลน

อำนาจของเธอแรงกล้ามาก ในงานผู้หญิงทุกคนที่เห็น เธอแล้ว ล้วนรู้สึกต่ำต้อย ถึงแม้ชรินทร์ทิพย์ที่เหมือนกับ เจ้าหญิงอยู่ต่อหน้าเธอ ก็ดูไม่มีออร่าไปเลย

เธอสิถึงจะเป็นราชินีของแท้

หลังจากที่อารียาเห็นคนที่เดินเข้ามาคือโยษิตาแล้ว ใบหน้าสะท้อนความตกใจอย่างไร้ซึ่งคำบรรยายใดๆ เธอ ถึงขั้นยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง

นี่ไม่ใช่คุณป้าของรพีพงษ์หรอกหรอ? ทำไมเธอถึงมาที่

หรือคุณป้าของรพีพงษ์ ก็คือคนของตระกูลลัดดาวัลย์?

นั่น รพีพงษ์ก็คือคนของตระกูลลัดดาวัลย์หรอ?

มาถึงตอนนี้ อารียาถึงได้เอานามสกุลของรพีพงษ์และ ตระกูลลัดดาวัลย์เชื่อมเข้าด้วยกัน ความสงสัยที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ก็ได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ถ้ารพีพงษ์เป็นคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์ล่ะก็ งั้นเมื่อก่อนที่รพีพงษ์แสดงสิ่งที่ต่าง จากคนทั่วไปนั้น ก็ไม่มีอะไรที่น่าแปลกใจแล้ว

เพียงแค่เธอไม่เข้าใจ ทำไมรพีพงษ์เป็นคนของตระกูล

นี่?ลัดดาวัลย์ แล้วยังแต่งมาอยู่กับฝ่ายหญิงอีก

ตอนนี้เธอนึกคำพูดที่ตอนนั้นคุณย่าได้บอกกับเธอเอาไว้ ว่าให้รพีพงษ์แต่งเข้าบ้าน สำหรับเธอแล้วมีแต่ข้อดีทั้งนั้น ไม่มีข้อเสีย รอในภายภาคหน้าเธอจะเข้าใจเอง

หรือตอนนั้นคุณย่าก็รู้แล้วว่ารพีพงษ์คือคนของตระกูล ลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต?

ไม่เพียงแค่อารียาที่ตื่นตกใจ ศศินัดดาก็ตกใจเช่นกัน เหงื่อท่วมเต็มหน้า

ผู้หญิงคนนี้ คือคนที่ตบเธอไปครั้งที่แล้วหนึ่งฉาดนี้

ในตอนนั้นเธอยังด่าทอผู้หญิงคนนี้ไปหลายวัน ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้แท้ที่จริงแล้วคือคน ของตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต

หากให้หล่อนรู้ว่าเธอได้ด่าหล่อนไปหลายวันล่ะก็ จะต้อง ไม่ปล่อยตนเองไว้แน่

คิดถึงจุดนี้ หลังศศินัดดาก็เย็นวูบขึ้นมา

นภทีป์เดินไปข้างหน้าสองก้าว หัวเราะพลางกล่าว “ยินดี ต้อนรับคนของตระกูลลัดดาวัลย์ หากต้อนรับผิดพลาด ประการใด ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย ตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอ ตระกูลฉัตรมงคลนี้ เป็นเกียรติกับตระกูลฉัตรมงคลของ ผมมาก เชื่อว่าในวันข้างหน้าสองตระกูลของพวกเราจะ ดองกันตลอดไป เดินไปด้วยกัน”

ชรินทร์ทิพย์เดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วกล่าว “ใช่ค่ะคุณน่าจะเป็นแม่สามีในอนาคตของฉัน ดูอ่อนเยาว์มากเลย ต่อไปฉันจะทำตัวดีๆกับคุณ”

โยษิตาได้ยินคำพูดของสองคนนี้แล้ว ชะงักงัน หัวเราะ

เยาะเย้ย แล้วกล่าว “เธอตระกูลเล็กๆของพวกเธอ คู่ควรจะ

ให้ตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอหรอ?

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท