พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่175

บทที่175

บทที่175 ชรินทร์ทิพย์ที่สิ้นหวัง

เห็นท่าทีของอารียาที่หนักแน่นนั้น นภทีป์ก็รู้สึกจน ปัญญา ตอนที่เขาพูดว่าจะไล่อารียาออกนั้น ก็ไม่ได้ให้เกีย รติใดๆกับเธอ

“อารียา แกนี่มันคนอกตัญญู ตอนนี้ตระกูลฉัตรมงคลเจอ วิกฤต แกแม้แต่ปัญหานี้ก็ไม่คิดที่จะช่วยคุณปู่เลี้ยงแกเสีย ข้าวสุกจริงๆ” ชรินทร์ทิพย์โมโหเกรี้ยวกราด

“ถูก ตระกูลฉัตรมงคลเลี้ยงไอ้คนอกตัญญูไว้” ธายุกรก็ กล่าวออกมา อารียาหัวเราะขึ้นมา เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนพวกนี้

จะหน้าด้านได้ถึงขั้นนี้ เมื่อกี้แต่ล่ะคนยังพูดว่าเธอกับ

ตระกูลฉัตรมงคลไม่มีสัมพันธ์ใดๆต่อกันอีกต่อไป ตอนนี้

กลับมาว่าเธออกตัญญู

“ชรินทร์ทิพย์ เหตุการณ์ในครั้งนี้เธอเป็นผู้ก่อเรื่องขึ้นมา เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับฉันเลยสัก นิด พูดได้ว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ติดร่างแหเธอไปด้วย แกยัง มีหน้ามีมากล่าวหาคนอื่นอีก?”

“การตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับตระกูล ฉัตรมงคล ก็เป็นแกนั่นแหละที่บีบบังคับ ตอนนี้แกกลับว่า ฉันว่าอกตัญญู แต่ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณแกจริงๆ ถ้าไม่ใช่ เพราะแก เกรงว่าฉันก็ต้องช่วยแบ่งภาระแปดสิบล้านนี่ด้วย กัน”
อารียามองไปที่ชรินทร์ทิพย์อย่างหัวเราะเยาะเย้ย

ความจริงทุกคนกำลังจะว่ากล่าวอารียาตามชรินทร์ทิพย์ แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอ ก็กลับลำทันที ผู้ร้าย ของเรื่องนี้จริงๆก็คือชรินทร์ทิพย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับอารียาเลย

อารียาตัดความสัมพันธ์กับตระกูลฉัตรมงคล ก็เป็นเพราะ ชรินทร์ทิพย์บีบบังคับ เค้าไม่ออกเงิน ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ทุกคนเอาต้นเหตุของเรื่องไปที่ชรินทร์ทิพย์ทันที “ชรินทร์ทิพย์ แกหยุดว่าคนอื่นได้แล้วแกรีบๆบอกมา

เหอะ แปดสิบล้านนี้ จะเอาไงกันแน่!” “ใช่ อีกนิดเดียวเกือบจะถูกแกทำให้ไขว้เขวแล้ว แปดสิบ ล้านนี้ทำไมพวกเราต้องช่วยรวบรวม นี่เป็นความผิดของแก เอง ครอบครัวแกควรจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปขายแล้ว

รวบรวมเอา”

“ครึ่งค่อนชีวิตของฉันยังไม่ทันได้เสพสุขเลย ก็ต้องถูก การ์ตูนเข้าให้แล้ว แกอย่าคิดจะเปลี่ยนเรื่องคุย!”

ชรินทร์ทิพย์ตกใจขึ้นมาทันที ไม่คาดคิดว่าทุกคนจะไม่ ด่าอารียาเหมือนกับที่เธอด่า แต่กลับเริ่มมาว่ากล่าวเธอแล้ว

เธอมองไปที่อารียาอย่างเกลียดชัง แล้วหันไปมองทุกคน แล้วกล่าว “ตอนนี้เป็นวิกฤตของตระกูลฉัตรมงคล พวกแก ควรจะเอื้อมมือเข้ามาช่วย หรือพวกแกอยากให้คุณปู่รับ ผิดชอบแปดสิบล้านนี่คนเดียว?”
ทุกคนคาดไม่ถึงว่าชรินทร์ทิพย์จะหน้าด้านขนาดนี้ เกลียดเธอถึงขั้นอยากจะเอาน้ำกรอกปากให้ตายไปเลย ศศินัดดาและศักดาทั้งคู่เห็นเหตุการณ์กลับตาลปัตร ก็

รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เมื่อกี้ความตกต่ำที่เกิดจากการที่อารี

ยาถูกไล่ออกนั้นตอนนี้ได้ถูกลบออกหมดแล้ว

“สมน้ำหน้าจริงๆ ให้พวกแกสะใจได้ ก็ให้พวกแกขมขื่น ได้เช่นกัน” ศศินัดดากล่าว

อารียาไม่อยากได้ยินคนเหล่านี้ทะเลาะกันแล้ว แล้วเดิน ออกไปจากวิลล่าทันที

ศศินัดดาและศักดาเห็นดังนั้น ก็รีบเดินตามออกไป

ถึงแม้รู้ว่าจากไปตอนนี้นั้นค่อนข้างที่จะไม่ถูกต้องอย่าง ชัดเจน เพราะศักดาก็เป็นลูกชายของนภทีป์ แต่คิดดูแล้ว ช่วงหลายปีมานี้ของศักดาทำดีต่อครอบครัวเขา ศักดาก็ ถือว่าไม่มีอะไรติดค้างแล้ว

อีกทั้งนภทีป์เป็นคนผู้เองว่าจะตัดความสัมพันธ์กับอารียา นี่ก็โทษเขาไม่ได้

ไม่สามารถร่วมสุข แต่กลับอยากให้ร่วมทุกข์ด้วยกัน นี่ มันชั่งเป็นเรื่องตลกขำขันอย่างมาก

“เดี่ยวก่อน” เห็นครอบครัวอารียาทั้งครอบครัวกำลังจะ เดินออก โยษิตาก็ตะโกนออกมา

ทุกคนหันกลับไปดู ไม่รู้ว่าทำไมโยษิตาถึงให้อารียาหยุด รอก่อน
ชรินทร์ทิพย์และธายุกรเห็นเหตุการณ์นี้ ก็หัวเราะเยาะ เย้ยขึ้นมา “เค้าจะต้องหาเรื่องเธอเป็นแน่ เธอคิดว่าตัดความสัมพันธ์

กับพวกเราแล้วจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วหรอ ฝันไปเถอะ”

ชรินทร์ทิพย์กล่าว

ตอนนี้เธอถึงจุดที่หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าอารียาโชค ร้ายเฉกเช่นเดียวกับเธอล่ะก็ เธอจะมีความสุขอย่างมาก

“หวังว่าคนของตระกูลลัดดาวัลย์จะไม่ปล่อยเธอไป ไม่ งั้นถ้าเธอผ่านเรื่องนี้ไปได้ ก็ง่ายเกินไปสำหรับเธอแล้ว” ธา ยุกรกัดฟันแล้วกล่าว

อารียามองโยษิตา ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร แต่เธอรู้เพียงว่า ความสัมพันธ์ของรพีพงษ์และโยษิตานั้นไม่สามารถพูด ตามใจได้ ดังนั้นจึงทำเป็นไม่รู้จักโยษิตา

ศศินัดดาจริงใจร้อนรุ่ม เธอยังกล้วผู้หญิงที่ตอนแรกตบ เธอไปหนึ่งฉาดนี้อยู่ เห็นโยษิตาเรียกให้พวกเขาอยู่ก่อน ในใจของเธอก็ตกใจชะงักงัน

โยษิตาเห็นมองอย่างเป็นมิตร หัวเราะพลางกล่าว “ฉัน มองเธอแล้วเจริญหูเจริญตามาก วัตถุโบราณเหล่านี้ ให้ เธอล่ะกัน”

เมื่อธายุกรพวกนั้นที่เตรียมตัวจะหัวเราะเยาะเย้ยได้ยิน คำพูดขอโยษิตาแล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นด้านชาขึ้นมาทันที

ใบหน้าของแต่ละคนเริ่มดูไม่ดี วัตถุโบราณที่ล้ำค่าเหล่านี้ล้วนราคาไม่ต่ำกว่าร้อยล้านทั้งนั้น ชรินทร์ทิพย์ขายไปสองชิ้น อยากได้คืนมา ต้อง แลกกับเงินแปดสิบล้าน ตระกูลฉัตรมงคลทุกคนต้องโชค ร้ายไปตามๆกัน

แต่ทว่าคำพูดเดียวของโยษิตา ที่จะมอบวัตถุโบราณ เหล่านี้ให้กับอารียา ทำให้ในใจพวกเขารู้สึกไม่สงบขึ้นมา ทันใด

ตอนแรกพวกเขาคิดว่า อารียาถูกไล่ออกจากตระกูล ฉัตรมงคลนั้น ชีวิตในภายภาคหน้าจะต้องสาหัดสากัน อย่างแน่นอน

แต่ความพยายามในพริบตาเดียวนั้น อารียาไม่เพียงแค่ ไม่ต้องรับผิดชอบแปดสิบล้านนี้ แล้วยังได้รับวัตถุโบราณ ที่ล้ำค่ามากมายขนาดนี้ นี่เทียบกับพวกเขาแล้ว ต่างกัน ราวกับฟ้าราวกับเหวกันเลยทีเดียว

“มี….มีสิทธิ์อะไร คุณไม่ใช่พูดว่าฉันไม่คู่ควรกับของ เหล่านี้ไม่ใช่หรอ เธอก็เป็นคนของตระกูลฉัตรมงคลเหมือน กัน คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะเอาของเหล่านี้ให้เธอ?” ชรินทร์ ทิพย์ตาแดงกล่ำแล้วพูด

โยษิตาหันไปมองเธอ แล้วกล่าว “แกไม่คู่ควรจริงๆ แต่ ฉันไม่เคยพูดว่าเธอไม่คู่ควรหนิ ถ้าเด็กผู้หญิงคนนี้กับเธอ ยื่นอยู่ด้วยกัน มาเปรียบเทียบกัน หรือแกจะสงสัยใน ดวงตาที่เฉียบแหลมในการดูคนของฉัน?”

ชรินทร์ทิพย์หมดคำพูดในทันที เธอรับรู้ได้ถึงความพ่าย แพ้ลึกๆในจิตใจ เธอแข่งกับอารียามานานหลายปี แม้อารี ยาจะแต่งกับไอ้สวะรพีพงษ์นั่น เธอก็ยังคงเทียบกับอารียาไม่ได้

อารียามองไปยังวัตถุโบราณเหล่านั้น ครุ่นคิดอยู่สักพัก เวลานี้ศศินัดดารีบยืนข้างหน้า แล้วกล่าว “งั้นฉันก็ขอบคุณ คุณแทนลูกสาวฉันล่ะกัน”

โยษิตาให้บอดี้การ์ดสองสามคนนำเอาวัตถุโบราณนั้น ช่วยถือไปให้อารียา ศศินัดดากลัวว่าอารียาจะไม่เอา จึงรีบ ดึงแขนเธอเดินออกไป บอดี้การ์ดพวกนั้นก็เดินตามกันออก ไป

รอให้อารียาออกไปแล้ว โยษิตาก็หันกลับไปดูทุกคนใน ตระกูลฉัตรมงคล แล้วกล่าว “ฉันให้เวลาพวกแกหนึ่งวัน ถ้า หลังจากหนึ่งวันแล้ว ฉันยังไม่เห็นวัตถุโบราณสองชิ้นนั้น ตระกูลฉัตรมงคลของพวกแก ก็รอถูกลบชื่อออกจากเมือง ริเวอร์ได้เลย

พูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกไป

ตอนนี้ทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลได้ล้อมครอบครัว ชรินทร์ทิพย์เอาไว้ แล้วก็โจมตีขับไล่พวกเขาไม่หยุด

ชรินทร์ทิพย์ถูกคนพวกนี้พูดจนรำคาญ แล้วตะโกนออก มาว่า “คุณปู่พูดแล้ว เงินเหล่านี้ทุกคนช่วยๆกันรวบรวม แล้วพวกแกมาเพ่งแต่ครอบครัวฉันทำไม”

“ปัญหานี้เป็นสิ่งที่แกสร้างขึ้นมา แกมั่นหน้าอยู่ตรงนี้อีก”

มีคนกล่าวออกมา

“ในบัตรฉันมีสิบล้านกว่า ฉันออกเยอะขนาดนี้แล้ว ที่ เหลือพวกแกรวบรวมล่ะกัน” ชรินทร์ทิพย์นำบัตรนั้นของเธอออกมา

“แกจะบ้าหรอ! นี่เป็นเงินที่แกขายวัตถุโบราณไป ยังไงก็ ต้องเอาออกมา” อีกคนตะโกนขึ้นมาอีก

“ยังไงครอบครัวฉันก็มีเงินเท่านี้แหละ พวกแกจะทำไงก็ ทำ” ชรินทร์ทิพย์กล่าวด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งความกลัวใดๆ

พรภาและคิมหัตต์ทั้งคู่รู้สึกว่าชรินทร์ทิพย์พูดแบบนี้ก็ไม่ ค่อยเหมาะสม แต่จะห้ามก็สายเกินไปแล้ว

“ในเมื่อแกหน้าด้านขนาดนี้ งั้นก็อย่าว่าพวกเราไม่เกรงใจ ล่ะกัน ครั้งที่แล้วพ่อแกพูดกับฉันว่า เขาลงทุนใน ตลาดหลักทรัพย์สามล้านกว่า ให้เขาเอาเงินนี้ออกมา!”

ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แล้วเริ่มพูดถึง ทรัพย์สินที่ครอบครัวชรินทร์ทิพย์แอบเอาไว้

“ร้านที่ถนนศิวิไลซ์ของครอบครัวแก ต้องขาย!”

“วันนั้นแม่แกบอกฉันว่าบ้านหลังเก่าของพวกแกขายได้ ล้านกว่า เงินก้อนนี้ต้องเอาออกมา”

“แล้วยังมีเครื่องประดับบนตัวแกอีก ขายออกให้หมด”

“วันนั้นพ่อแกบอกฉันว่าบ้านแกยังเก็บพระเลี่ยมทองเอา ไว้ ตอนนี้ต้องเอาออกมาจำนำ!”

ชรินทร์ทิพย์มึนงงขึ้นมาทันที แม้แต่เธอก็ไม่รู้ว่าใน ครอบครัวเธอยังมีทรัพย์สินมากมายขนาดนี้

นภทีปก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย ไม่คิดก็พอจะรู้ ทรัพย์สินพวกนี้ ต้องเป็นสิ่งที่คิมหัตต์แอบขโมยออกจากตระกูลฉัตร มงคลแน่ๆ

สีหน้าเขาทิ้งตึง แล้วกล่าว “ทำตามที่พวกเขาพูด ปัญหา

นี้แกเป็นคนก่อ เอาสิ่งของที่มีค่าของครอบครัวแกไปขาย

ก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยให้ทุกคนช่วยรวบรวม”

คิมหัตต์มองไปที่ชรินทร์ทิพย์อย่างไม่สบอารมณ์กับ การกระทำของเธอ ถ้าตอนนั้นเธอพูดจาสุภาพสักหน่อย ก็ น่าจะไม่จบแบบนี้

เค้าตบไปบนหน้าของชรินทร์ทิพย์โดยตรง แล้วด่าว่า “แกนี่มันไร้สมองจริงๆ ตอนนี้เป็นเพราะแก ครอบครัวของ เราจะไม่มีอะไรกินกันอยู่แล้ว!”

ชรินทร์ทิพย์เกิดความมึนงง เธอคิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะ เล่นงานครอบครัวของเธอ เมื่อนึกถึงหลังจากผ่านเรื่องนี้ ไปแล้ว ครอบครัวของเธอก็จะไม่เหลืออะไรซักอย่าง ใน ใจของชรินทร์ทิพย์เครียดขึ้นมาทันที

แม้ว่าตอนนี้เสียใจ แต่ก็สายไปเสียแล้ว

หลังจากที่อารียาเดินออกจากวิลล่าของตระกูล ฉัตรมงคลแล้ว ก็เดินไปทางที่รพีพงษ์อยู่

รพีพงษ์นั่งอยู่บนที่นั่ง ไม่รู้สึกเนื้อไม่รู้สึกตัวก็หลับไป อารียาเคาะกระจกเขาจึงตื่นขึ้นมา

ลงมาจากรถ รพีพงษ์มองไปที่อารียา แล้วถาม ” เสร็จ แล้วหรอ?”

อารียาพยักหน้า จากนั้นรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ อดไม่ได้ที่จะกอดรพีพงษ์ แล้วกล่าว ” ฉันกับพวกเขาตัดขาดความ สัมพันธ์กันแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรื่องของตระกูล ฉัตรมงคล ก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันอีก”

รพีพงษ์ โอบกอดอารียาไว้ แล้วกล่าว ” ไม่เป็นไรนะ คุณมีผมอยู่ จะไม่ให้คุณไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมใดๆ”

อารียาพยักหน้าอย่างจริงจัง ไม่เกิดความสงสัยในคำพูด ของรพีพงษ์แต่อย่างใด

“พวกแกหยุดสวีทกันตรงนี้จะได้ไหม รีบเอาของพวกนี้ วางบนรถให้ฉันโดยเร็ว” ศศินัดดาพึมพำ

รพีพงษ์มองไป พบว่าบนพื้นได้วางวัตถุโบราณเหล่านั้นที่ ตอนแรกตระกูลลัดดาวัลย์ได้ให้ไป รู้สึกประหลาดใจนิด หน่อย แล้วกล่าว “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

อารียาทั้งเอาวัตถุโบราณเหล่านั้นวางไว้บนรถ ทั้งยังเล่า ให้รพีพงษ์ฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวิลล่า

หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินแล้ว หัวเราะพลางกล่าว ” นี่เป็น สิ่งที่พวกเขาทำผิดแล้วต้องได้รับผลกรรมนั้น ครั้งนี้ชริน ทร์ทิพย์ต้องไม่กล้าที่จะโวยวายอีกเป็นแน่

อารียาไม่ได้ใส่ใจในผลลัพธ์ที่ชรินทร์ทิพย์ได้รับ แต่ กลับใส่ใจในความจริงเรื่องที่รพีพงษ์เป็นคนของตระกูลลัด ดาวัลย์

“คุณ..คุณคือคนของตระกูลลัดดาวัลย์จริงหรือ?” อารียากล่าว

รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว ” รอให้กลับไปก่อนแล้วฉันจะบอกให้เธอฟัง เรื่องนี้ห้ามให้พ่อกับแม่รู้” อารียาพยักหน้า แล้วนั่งลงบนรถ

วันนี้ ศศินัดดาอารมณ์ดี ดังนั้นจึงไม่ได้หาเรื่องรพีพงษ์

ตอนเดินทางกลับหัวเราะไม่หยุดตลอดทาง ขณะนี้เธอนึกถึงครั้งที่แล้วที่โยษิตาไปบ้านของพวกเขา ขึ้นมา ไปหารพีพงษ์ เธอรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นในใจ แล้วถามรพีพงษ์ “รพีพงษ์ คนของตระกูลลัดดาวัลย์ที่ไป วิลล่าในวันนี้ก็คือคนครั้งที่แล้วที่ไปหาแก แกกับเธอเป็น อะไรกัน?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน