พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่176

บทที่176

บทที่176 จุดจบอันสมเพชของนภที่ป์

รพีพงษ์ได้ยินคำถามของศศินัดดา ชะงักซักพัก แล้ว กล่าว “รู้จักกันโดยบังเอิญ ครั้งที่แล้วที่เธอไปหาผมเพื่อ สอบถามเรื่องบางอย่าง”

ศศินัดดาพยักหน้าอย่างกำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนนั้นใน ใจของเธอมีความรู้สึกสงสัยความสัมพันธ์ของรพีพงษ์และ โยษิตาว่าไม่ธรรมดา บวกกับ คืนนั้นที่ศักดาบอกว่ารพีพงษ์ อาจจะเป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ ในใจของฉันศศิ นัดดาก็รู้สึกสงสัยว่ารพีพงษ์อาจจะเป็นคนของตระกูลลัด ดาวัลย์

เมื่อความคิดนี้ผุดเข้าไปในสมองของเธอ ในใจของเธอก็ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เพราะหลายปีมานี้เธอรุนแรงกับรพี พงษ์เหลือเกิน เอะอะอะไรก็ว่าเขา รพีพงษ์ก็ไม่โต้ตอบมา

โดยตลอด

ถ้าเขาเป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์จริงๆ ถึงเวลานั้นฉัน จะสั่งสอนตัวเองเกี่ยวกับทัศนคติของฉันที่มีต่อเขาในช่วง หลายปีที่ผ่านมานี้ เธอยังไม่กล้าพูดอะไร

แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดว่าเค้ากับโยษิตารู้จักกัน โดยบังเอิญเท่านั้น มาหาเค้าก็เพียงแค่สอบถามเรื่องราว เท่านั้น ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายลงมา

เพียงแค่รพีพงษ์ไม่มีความสัมพันธ์กับตระกูลลัดดาวัลย์ก็ โอเคแล้ว แม้ในมีอรพีพงษ์จะมีเงินเล็กน้อย เธอก็ยัง สามารถที่จะบีบบังคับรังแกรพีพงษ์อย่างไรก็ได้
“ช่วงนี้โชคของแกไม่ใช่โชคดีธรรมดา แม้กระทั่งคน ของตระกูลลัดดาวัลย์ก็ยังรู้จักโดยบังเอิญได้ คนนั้น หาแกเพื่อสอบถามเรื่องราว น่าจะให้เงินแกไม่น้อยนะ เงินของแกก็น่าจะได้มาจากตรงนี้สินะ คนตระกูลลัดดา วัลย์เวลาจ่ายเงินก็ใจปั๊มจริง วัตถุโบราณเหล่านี้ที่มีมูลค่า หลักร้อยล้าน ยังมอบให้อารีได้เลย

“รพีพงษ์ ฉันบอกแกไว้นะ ตอนนี้ฉันก็เป็นคนที่มี ทรัพย์สินมูลค่ากว่าร้อยล้าน ต่อไปขู่ฉันเรื่องค่าส่วนกลาง ให้น้อยๆหน่อย แกสามารถหารายได้จากคนตระกูลลัดดา วัลย์ได้ ต้องขอบคุณลูกสาวฉัน ไม่งั้นแกจะมีโชคที่จะได้ รู้จักคนของตระกูลลัดดาวัลย์หรอ ดังนั้นเงินพวกนั้นของ แก ก็ล้วนเป็นเงินของครอบครัวฉัน

เดี๋ยวแกเอาบัตรธนาคารของแกมาให้ฉัน ต่อไปฉันจะ เป็นคนกำหนดให้แกเอง ในหนึ่งเดือนให้เงิน ค่าครองชีพ พันหยวน ฉันมีน้ำใจกับแกขนาดนี้ แกควรที่จะกตัญญู เข้าใจไหม?”

ศศินัดดากล่าวอย่างคิดไปเอง

เมื่อรพีพงษ์ ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ในใจคิดว่า แม่ภรรยาของตนนั้นสมองน่าจะไปแล้ว ไม่ใช่เป็นสิ่งที่คน ทั่วไปเค้ามีกัน หลังจากที่อารียาได้ยินคำพูดของศศินัดดาแล้วในใจ

รู้สึกโกรธ โยษิตามอบวัตถุโบราณเหล่านี้ให้เธอ ก็ไม่ใช่

ว่าเพราะให้เกียรติรพีพงษ์หรอกหรอ

ไม่คาดคิดว่าศศินัดดาจะคิดว่านี่คือโชคดีของเธอเองแล้วยังคิดจะยึดบัตรธนาคารของรพีพงษ์อีก เกินไปแล้ว “แม่ ถึงแม้วัตถุโบราณเหล่านี้จะมีมูลราคามาก คุณก็

จริงๆ

ขายไม่ได้” อารียากล่าว

“ทำไมถึงขายไม่ได้? ก็มอบให้แกแล้ว ก็ต้องเป็นของแก อยากขายก็ต้องขาย ถ้าไม่ให้ขายแล้วจะเอาของพวกนี้ไว้ ทำไม” ศศินัดดากล่าว

หรือวันนี้คุณไม่เห็นจุดจบของชรินทร์ทิพย์หรอ ก็เพราะ เธอขายวัตถุโบราณไปสองชิ้น ตระกูลฉัตรมงคลทั้ง ตระกูลต้องรวบรวมเงินแทนเธอ ถึงตอนนั้นคุณเอาวัตถุ โบราณเหล่านี้ไปขายแล้ว คนของตระกูลลัดดาวัลย์มาเอา คืน ความผิดนี้คุณรับผิดชอบเอง” อารียากล่าว

ศศินัดดาคิดว่าความจริงแล้วก็มีเหตุผลนี้อยู่เหมือนกัน ตอนแรกมีความรู้สึกตื่นเต้นแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นโศก เศร้า ฉันก็ไม่เข้าใจพวกของ ไม่ให้ขาย แม้จะมีมูลค่าก็ไม่มี

ประโยชน์อะไร” ศศินัดดาพูดอย่างเป็นทุกข์

“ดังนั้นตอนนี้คุณก็ไม่ต้องคิดแล้วว่าตัวเองมีเงินมาก แล้วฉันก็ไม่งาน ตอนนี้คนในครอบครัวทุกคนต้องพึ่งรพี พงษ์

ต่อไปถ้าจะให้ดีคุณก็ทำดีกับรพีพงษ์สักหน่อย ถ้ายั่ว โมโหเขาแล้ว แม้แต่เงินที่จะกินข้าวคุณก็จะไม่มี” อารียา สอดส่องสายตาไปมาแล้วกล่าว
ศศินัดดารีบชักตาทันที ชักสายตาไปที่รพีพงษ์ แล้ว กล่าว ตอนนี้แกรีบเอาเงินของแกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

รักพี่พงศ์มองไปที่เธอด้วยสายตาที่ดุร้าย แล้วหันไปคุย

กับอารียาว่า ” ไม่งั้นพวกเราออกไปอยู่ข้างนอกซักกี่เดือน

ไหม ค่าส่วนกลางของที่นี่ค่อนข้างสูงจริง ผมไม่อยากจ่าย

แล้ว”

อารียาพยักหน้าอย่างร่วมมือ แล้วกล่าว “ฉันเห็นด้วย”

ศศินัดดาชักตาทันใด รพีพงษ์ไม่จ่ายค่าส่วนกลาง ก็ ต้องเป็นเธอที่จ่าย เธอจะมีเงินมากขนาดนั้นได้อย่างไรกัน

ดังนั้นเธอจึงคิดทบทวน แล้วรีบพูดว่า ” ชั่งเถอะชั่งเถอะ ฉันไม่เอาเงินจากแกยังไม่พอหรอ ยังจะมาข่มขู่ฉันอีก รพี่ พงษ์ แกยิ่งอยู่ยิ่งกล้าขึ้นนะ

รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ศศินัดดากัดฟัน ในใจคิดว่าถ้ามีโอกาสจะเอาบัตร ธนาคารของรพีพงษ์มาให้ได้ ดูซิว่าเขาจะมีความสุขได้ยัง ไงอีก

วิลล่าของตระกูลฉัตรมงคล

ทุกคนของตระกูลชาติมงคลยังคงทะเลาะกันไม่หยุด

ตอนนี้ครอบครัวของชรินทร์ทิพย์ เหมือนตกนรกทั้งเป็น นั่งอยู่บนโซฟาอย่างร่างไร้วิญญาณ ในตอนนั้นนภทีป์ ได้ จัดคนไปจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหมดของบ้านพวกเขา แล้ว ใช้เวลาไม่นาน บ้านของครอบครัวเขาและรถก็จะถูก ขายทิ้งทั้งหมด
ถึงแม้ทรัพย์สินของครอบครัวชรินทร์ทิพย์จะถูกขุดออก มาจนไม่เหลือ แต่ทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลก็ช่วยกัน รวบรวมเงินบางส่วนอย่างเต็มที่

แล้วรวมกับเงินของบริษัท อีกทั้งเงินที่เหลือจากการขาย วัตถุโบราณของชรินทร์ทิพย์ ก็เพิ่งจะรวบรวม

ได้เจ็ดสิบล้าน

เหลืออีกสิบล้าน ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องรวบรวมให้ได้

นภทีป์ มองดูทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลอย่างใบหน้า ซีดเซียว แล้วกล่าว ” ฉันรู้ว่าทุกคนยังมีเงินอยู่ ตอนนี้เป็น วิกฤติของตระกูลฉัตรมงคล หรือพวกแกคิดอยากที่จะเห็น ตระกูลฉัตรมงคลล่มสลายไป”

ทุกคนต่างก้มหน้า ไม่มีใครสนใจนภทีป์

นภทีปัถอนหายใจ แล้วคิดว่าคนพวกนี้สิถึงจะถือเป็นคน อกตัญญจริงๆ ถึงช่วงเวลาที่สำคัญ ไม่คาดคิดว่าสักคนที่ จะทุ่มเทนั้นก็ไม่มี

ในตอนนี้ธายุกรยืนขึ้นมา มองไปที่นภทีป์ แล้วกล่าว “คุณปู่ ฉันมีวิธีที่จะเอาสิบล้านนี้ออกมา” นภทีปัดตาประกาย แล้วกล่าว ” วิธีอะไร?”

“ผมไม่สามารถบอกวิธีคุณได้ แต่ผม รับประกันได้ว่า สามารถเอาสิบล้านนี้มาได้ แต่คุณต้องให้ผมเป็นประธาน ของบริษัทก่อน” ธายุกรกล่าว

ร่างกายของนภทีป์แข็งที่อขึ้นมาทันที ไม่คาดคิดว่าหลานชายที่เขารักที่สุด ในเวลานี้ยังจะฉวยโอกาสกับเขา ให้เขาเอาตำแหน่งของประธานให้

ทุกคนกำลังเพ่งไปที่ธายุกร ล้วนคิดเพียงแค่ธายุกรมี

หนทางที่จะรวบรวมเงินสิบล้านนี้ได้ ไม่ใช่แค่ขูดรีดพวกเรา

แม้ต้องให้ธายุกรเป็นประธานบริษัทก็ไม่เป็นอะไร

ทันใดนั้นทุกคนเริ่มโน้มน้าวนภูที่ป์กันอย่างวุ่นวาย

ยังไงนกที่ป์ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองจะมีจุดจบแบบนี้ ตอนนี้คิดๆดูแล้ว คนรุ่นหลังของเขาเหล่านี้ ก็มีแค่อารียา คนที่ทำให้เขาไม่ต้องกังวลมากที่สุด

เสียดายอารียโดนบีบออกจากตระกูลฉัตรมงตลแล้ว เขา เสียใจไปก็ไม่มีความหมายใดๆแล้ว

นภทีปหายใจลึกๆหนึ่งเฮือก หลับตาลง แล้วกล่าว “ใน เมื่อเป็นแบบนี้ งั้นต่อไปแกก็คือประธานบริษัท ฉันแก่แล้ว ก็ควรที่จะพักผ่อนพักผ่อนล่ะ”

ใบหน้าของธายุกรสะท้อนรอยยิ้มที่ตื่นเต้นออกมา แล้ว กล่าว “คุณปู่ คุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลบริษัทแทนคุณ อย่างดี”

หลังจากนั้นเขาก็หันหลังไปมองคนเหล่านั้น แล้วกล่าว “เหตุการณ์ในครั้งนี้ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจ แค่แปดสิบ ล้านเท่านั้น บริษัทยังมีโครงการของบริษัทซันบับเบิ้ลกรุ๊ป อยู่ เงินแค่นี้แป๊ปเดียวก็จะได้กลับมาแล้ว”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“งั้นยอดสิบล้านที่เหลือจะทำอย่างไร?” ชรินทร์ทิพย์ถาม
ธายุกรหัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว “ฉันรู้ว่าที่คุณปู่ นั้นยังมีวัตถุโบราณที่มีมูลค่าอยู่หลายชิ้น ถึงแม้มูลค่า เทียบไม่ได้กับที่ตระกูลัดดาวัลย์ให้มา แต่ทว่ารวบรวมให้ ครบสิบล้านก็เหลือเฟือ”

เมื่อนภูทีปได้ยินวิธีในการรวบรวมเงินสิบล้านของธายุกร ว่าจะขายวัตถุโบราณของเขาแล้ว ก็โกรธจนตัวสั่นขึ้นมา ทันใด

ยังไงเขาก็ไม่คาดคิดว่าธายุกรจะเล่นงานเขา

“ธายุ วัตถุโบราณเหล่านั้นของฉันขายไม่ได้นะ!” นภทีป์ เกรี้ยวกราด

ธายุกรหันหลังกลับไป หัวเราะพลางพูด “คุณปู่ ตอนนี้ เป็นช่วงวิกฤตของตระกูลฉัตรมงคล ทุกคนต้องร่วมด้วย ช่วยกันฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้ ในฐานะที่เป็นประธานบริษัท ผมจำเป็นต้องคิดถึงตระกูลเป็นหลัก วัตถุโบราณเหล่านั้น ของคุณขายก่อนล่ะกัน เดี๋ยวผมค่อยซื้อกลับมาให้คุณ”

ในใจทุกคนคิดว่าพวกเราออกเงินแล้วทั้งนั้น แค่คุณที่ยัง ไม่ออก แล้วตอนนั้นยังพูดเกี่ยวกับภาพรวมส่วนใหญ่ ตอน นี้ขายวัตถุโบราณของคุณกี่ชิ้นคุณก็เคร่งเครียดแล้ว ชั่ง หน้าไม่อายจริงๆ

ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มเสียงดังขึ้นมา แล้วพูดว่าต้องขายวัตถุ โบราณพวกนี้ด้วย

นภทีปก็ยินยอมให้ธายุกรเป็นประธานบริษัทไปแล้ว ตอนนี้ก็เปรียบเสมือนว่าเขาไม่มีอำนาจในการพูดใดๆในตระกูลฉัตรมงคลอีกแล้ว ทำได้เพียงยอมให้ธายุกรเชือด เท่านั้น

เขานั่งบนโซฟาอย่างไร้ซึ่งพลัง ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ตนเองจะมีจุดจบแบบนี้

“เรื่องนี้เอาตามนี้ล่ะกัน ต่อไปผมจะเป็นผู้นำของทุกท่าน ให้ตระกูลฉัตรมงคลเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป!” ธายุกร กล่าว

ใบหน้าของเขาสะท้อนรอยยิ้มอันสะใจ ในใจคิดว่าตอนนี้ ตนเองไปเป็นประธานบริษัทแล้ว อนาคตจะได้ทำธุรกิจ

มากมาย

แต่อารียาก็เป็นแค่คนทั่วไป ไม่มีสิทธิ์ที่จะเทียบกับเขา

ได้อีก

ในช่วงเวลาค่ำ บอดี้การ์ดสองคนของโยษิตานำขวดหยก ขาวและไม้แกะสลักส่งมาถึงดงเย็น

เมื่อโยษิตาได้รับสองสิ่งนี้แล้วก็รู้สึกประหลาดใจนิด หน่อย เธอไม่คาดคิดว่าตระกูลฉัตรมงคลสามารถรวบรวม เงินแปดสิบล้านได้ แล้วไถ่เอาของสองสิ่งนี้กลับมาได้

แต่ไม่สนว่าตระกูลฉัตรมงคลจะรวบรวมเงินเหล่านี้มาได้ อย่างไร ล้วนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ

เมื่อตอนบ่ายรพีพงษ์ได้พูดคุยกับเธอ บอกเธอว่าเขาคือ คนของตระกูลลัดดาวัลย์จริงๆ นั่นเป็นเพียงแค่อดีต ตอนนี้ เขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว
รพีพงษ์ไม่ได้เล่าให้อารียาฟังถึงเรื่องในปีนั้นที่เขาโดน ไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ เพียงแค่บอกเธอว่ามีความ ขัดแย้งใดเกิดขึ้นกับตระกูลลัดดาวัลย์ ดังนั้นจึงได้ออกมา

โยษิตามาหาเขา ก็แค่มาขอความช่วยเหลือจากเขา

ถึงแม้อารียาจะรู้แล้วว่ารพีพงษ์คือคนของตระกูลลัดดา วัลย์ แต่หลังจากที่ได้ยินเขายอมรับด้วยตัวเองแล้ว ใน จิตใจก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

รพีพงษ์บอกกัยอารียาแล้วว่าเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ ใดๆกับตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว ตอนนี้เขาก็แค่อยากอยู่กับ อารียา นี่ทำให้ในใจอารียาอบอุ่น รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่โชคดี ที่สุดในชีวิต ที่ได้เจอกับรพีพงษ์

หลังจากนั้นสองวัน ศศินัดดาคิดว่าอารียาไม่ต้องไป ทำงาน สู้กลับบ้านพ่อแม่ให้เร็วขึ้นดีกว่า ก็ได้ทำตามนั้น แล้วให้อารียาจัดเก็บข้าวของ

“อารี พวกเรายังต้องพารพีพงษ์กลับไปด้วยไหม? จากที่ ฉันดู ไม่งั้นไม่พาเขาไปแล้วดีกว่า?” ศศินัดดาเข้ามายังห้อง ของรพีพงษ์และอารียา ชาวยอารียาเก็บข้าวของ

“พาไปสิ ทำไมจะไม่พาไป? วันนั้นปรางทิพย์ก็ไม่ให้ฉัน พาไป แต่ฉันจะพาไปให้ได้ ตอนนี้รพีพงษ์ไม่ใช่ไอ้สวะ อย่างที่พวกเขาคิดแล้วนะ ฉันจะต้องพากลับไปให้พวกเขา ได้แหกตาดู” อารียากล่าว

ทันใดนั้นศศินัดดากล่าวอย่างเคร่งเครียดว่า “ไอ้หยา ลูกสาวผู้โง่เขลา นั่นเธอตั้งใจ เธออยากจะให้แกพารพีพงษ์ไป จะได้ฉวยโอกาสนี้ว่าแกนะ แล้วตอนนี้ในมือรพีพงษ์ก็ พอมีเงินอยู่นิดหน่อย ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรเลย พากลับไปก็ มีแต่ทำให้พวกเราขายขี้หน้า”

อารียามองบนไปที่ศศินัดดา แล้วกล่าว “ถ้าคุณไม่พารพี พงษ์ไป งั้นฉันก็ไม่ไปแล้ว”

ศศินัดดาได้ยินดังนี้ก็ไม่พูดอะไรกับอารียาอีกต่อไป ช่วยเธอเสื้อผ้าอย่างเงียบๆ

ตอนนี้ศศินัดดาเห็นบนหัวเตียงกำลังวางบัตรธนาคารสี ดำไว้ คือบัตรนั้นของรพีพงษ์พอดี

วันนี้ตอนที่รพีพงษ์เปลี่ยนชุดออกไปข้างนอกนั้นลืมหยิบ

ไป

ศศินัดดามองซ้ายมองขวา ปกติเธอเห็นรพีพงษ์จับจ่าย ใช้สอยก็ใช้เงินในบัตรนี้ แล้วก็เสแสร้งทำเป็นนั่งลง เก็บ เสื้อผ้าไปพลาง แล้วก็ขโมยบัตรนั้นใส่ในเสื้อผ้าของตัวเอง ไปพลาง

“ลูกสาว ฉันเห็นปกติรพีพงษ์รูดบัตรก็ใช้บัตรธนาคารสี ดำใบนั้น ไม่ค่อยเหมือนกับบัตรธนาคารทั่วไป แกรู้หรือ เปล่าว่านั่นคือบัตรอะไร?” ศศินัดดาถามอย่างแสร้งไม่รู้

“ฉันก็ไม่ค่อยรู้ แต่บัตรธนาคารนั้นค่อนข้างเจ๋งอยู่ คน ธรรมดาไม่สามารถทำได้” อารียากล่าว

“งั้นแกรู้รหัสบัตรนั้นของเขาไหม? ศศินัดดาถามต่อ อารียาชะงักชั่วครู่ ถาม “แม่ คุณถามเรื่องนี้ทำไม?”
ศศินัดดาหัวเราะอย่างอายุ แล้วกล่าว “ฉันก็แค่เป็นห่วง ปกติแกปกป้องเขาจะตาย เขาต้องบอกรหัสบัตรธนาคาร กับแกสิ เขาคงไม่แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่บอกแกหรอกนะ?”

อารียามองบน แล้วกล่าว “เขาบอกฉันแล้ว รหัสก็คือศูนย์ หกตัว เพราะทุกครั้งที่รูดบัตรใส่รหัสบัตรลำบาก ดังนั้นจึง ตั้งให้มันง่าย แล้วบัตรนั้นของเขายังมีความปลอดภัยสูงอีก ด้วย ถ้าหายแล้ว เหมือนกับโทรหาธนาคารก็สามารถล็อค บัตรได้แล้ว”

ศศินัดดากำลังหัวเราะแล้วพยักหน้า รพีพงษ์ต้องคิดแน่ๆ ว่าบัตรนี้ยังอยู่ในบ้าน เดี๋ยวอีกสักแปปเธอจะไปธนาคาร เช็คยอดดู ในบัตรนี้ยังมีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท