พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่193

บทที่193

บทที่193 เปิดคลิป

หลังจากที่บจีได้ยินคำพูดของศศินัดดาแล้ว ในใจ ก็ด่าบรรพบุรุษเธอทั้งแปดชั่วโคตร แต่เมื่อด่าจบ ก็คิด ได้ว่าไม่ถูกต้อง เธอด่าบรรพบุรุษแปดชั่วโคตรของศศิ นัดดา ก็เหมือนกับด่าตุลยวัตปะ

วันนั้นบจีพูดว่าจะไม่ขอความช่วยเหลือจากศศิ นัดดาเป็นอันขาด ไม่คิดว่าเร็วขนาดนี้ เธอก็ต้องกลับ คำเสียแล้ว

“ทำอย่างกับว่าพวกแกใหญ่สุดของที่นี่อย่างนั้น คนพวกนี้น่าจะเป็นนักแสดงที่พวกแกหามาล่ะซิ ตอนนี้ ที่แกมาขอเงินแม่ฉันก็ได้เปิดเผยความจริงออกมาแล้ว” ท่าทีของปรางทิพย์เหมือนรู้ความจริงอย่างไรอย่างนั้น

บจีพยักหน้าทันที รู้สึกว่านี่คือเรื่องจริง

“ศศินัดดา ฉันขอล่ะให้แกรีบพาเหล่านักแสดง พวกนี้ของแกออกไปเถอะนะ ไม่งั้นเดี๋ยวคน ของRose&Mary Hostelมาถึง พวกแกจะหนีก็หนี ไม่ทันล่ะ” บจีพูดอย่างเกรี้ยวกราด

เธอยังไม่เข้าใจ ทำไมต้องมีคนมา เหมาRose&Mary Hostelโดยเฉพาะในตอนที่ ครอบครัวเธอจะจัดงานหมั้นด้วยนะ ตอนนี้ปรางทิพย์ พูดแบบนี้ ก็อธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว

ต้องเป็นเพราะศศินัดดาอิจฉาครอบครัวเขาปรางทิพย์และโมไนย ดังนั้นวันนี้ถึงได้ตั้งใจจัดหานักแสดง มากมายขนาดนี้ เพื่อมาหาเรื่องพวกเขา ไม่ให้พวกเขา เข้าไป

ถ้าเป็นคนของRose&Mary Hostelจริง ทำไมถึง ได้เรียนไอ้สวะรพีพงษ์นั้นว่าคุณรพี ดังนั้นจะต้อง เป็นการแสดงแน่ๆ

“พวกแกบอกว่าใครเป็นนักแสดงนะ พวกเราเป็น พนักงานจริงๆของRose&Mary Hostel!” พนักงาน ตะโกนไปที่บจี

“ชิ แสดงได้สมบทบาทมาก” บจีกล่าวอย่างไม่

พอใจ

ศศินัดดาเห็นพวกเขาไม่เชื่อ ก็เครียดขึ้นมาทันที แล้วหันไปทางรพีพงษ์ หวังให้รพีพงษ์คิดหาทางออก

“ถ้าพวกแกไม่เชื่อล่ะก็ ผมจะเรียกผู้จัดการลงมา พวกคุณสามารถถามเขาได้โดยตรง” รพีพงษ์กล่าว “ได้สิ งั้นแกก็เรียกผู้จัดการมา ฉันรู้ว่าผู้จัดการที่นี่

คือใคร ถึงแม้ไม่รู้จัก แต่ก็เคยเห็นหน้าบ้าง ไม่มีทางจำ ผิดแน่ๆ” โมไนยกล่าว

รพีพงษ์ โทรหานิรุทธ์ทันที หลังจากที่นิรุทธ์ได้รับ โทรศัพท์แล้ว รีบลงมาทันที

“คุณรพี ได้โปรดรับสั่ง” นิรุทธ์กล่าว

“อธิบายให้พวกเขาฟังหน่อย พวกเราได้เหมาที่นี่ ไว้แล้วใช่ไหม?” รพีพงษ์กล่าว
นิรุทธ์มองไปที่กลุ่มโมไนยที่ประตู แล้วชะงัก นี่มัน ผู้ชายคนนั้นที่อยู่ในคลิปนี่?

แต่เขาก็ไม่กล้าถามอะไรมาก แล้วรีบอธิบาย “วันนี้ ที่นี่ได้ถูกคุณรพีเหมาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ทราบ ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”

เมื่อโมไนยเห็นนิรุทธ์แล้ว ในใจก็รู้สึกตกใจเป็น อย่างมาก นิรุทธ์คือผู้จัดการของRose&Mary Hostelจริงๆ อันนี้ไม่เท็จแน่นอน

เขาหันไปมองรพีพงษ์ ไม่คาดคิดว่านิรุทธ์จะ เคารพรพีพงษ์ขนาดนี้

ปรางทิพย์เพ่งไปที่นิรุทธ์ แล้วถามโมไนย “นี่คือผู้

จัดการหรือเปล่า?”

โมไนยพยักหน้า

ปรางทิพย์กัดฟัน ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะเรียกผู้

จัดการลงมาได้จริงๆ

ความจริงบจีนกำลังคิดที่จะดูถูกครอบครัวศศินัดดา อยู่ ไม่คิดว่านี่คือผู้จัดการตัวจริง คำพูดที่อยู่ในปากเธอ ก็กลืนมันลงไปอีกครั้ง

ศศินัดดามองไปที่บจีอย่างสะใจ แล้วถาม “ไง วัน นี้พวกแกอยากจะจัดงานหมั้นที่Rose&Mary Hostelไหม? ไทม์ไลน์ที่แกลงไว้ คนทั้งตระกูลเขมพงศ์ น่าจะรู้หมดแล้วนะ ถึงเวลานั้นหากพวกเขารู้ว่าแม้ กระทั่งประตูของRose&Mary Hostelพวกแกยังเข้าไม่ได้ จะต้องหัวเราะเยาะพวกแกแน่ๆเลย”

บจีเคร่งเครียดทันใด ศศินัดดาพูดไว้ไม่มีผิด ถ้า พวกเขาแม้แต่ประตูยังเข้าไม่ได้ จะต้องเป็นตัวตลก ของตระกูลเขมพงศ์แน่นอน

โมไนยหันไปหาบจี แล้วถาม “พวกเรายังเป็นหนี้ พวกเขาอยู่เท่าไหร่?”

“หนึ่งแสนสามหมื่นแปดพัน!” ไม่รอให้บจีเอ่ยปาก ศศินัดดาก็ตะโกนออกมาโดยตรง

โมไนยขมวดคิ้ว แต่คิดๆวันนี้คือวันหมั้นของเขา และปรางทิพย์ ห้ามทะเลาะจนไม่เป็นสุข สำหรับเขา แล้วหนึ่งแสนสามหมื่นแปดพันยังรับไหวอยู่ แล้วก็พูด กับศศินัดดาว่า หนึ่งแสนสามหมื่นแปดพันผมให้คุณ ให้พวกเราเข้าไปเถอะ”

ปรางทิพย์รีบกล่าวขึ้นมาทันที “แม่ของฉันให้พวก แกไปแล้วหนึ่งแสนนี่ พวกแกจะเอายังไงอีก ใครจะรู้ว่า ไอ้หยกนั่นราคาเท่าไหร่กันแน่ แล้วแม่ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจ ด้วย ยังไงพวกแกเป็นญาติของครอบครัวฉัน จำเป็น ต้องทำขนาดนี้หรอ?”

ศศินัดดารีบชักตาทันที แล้วกล่าว “แกกับแม่ของ แกแกะกับออกมาชัดๆ หน้าด้านทั้งคู่เ”

ตอนนี้รพีพงษ์ก้าวมาข้างหน้า แล้วกล่าว “ถ้าพวก แกเอาเงินนี้ออกมา ฉันสามารถให้พวกเขาจัดห้องส่วน ตัวVIPสุดให้พวกแกได้”
โมไนยตาลุกวาว แล้วกล่าว “ไม่มีปัญหา ผมจะเอา เงินให้คุณเดี่ยวนี้”

บจีรีบห้าม แล้วกล่าว “โมไนย แกบ้าไปแล้วหรอ เอาเงินให้เขาทำไม”

“คุณป้า คุณไม่รู้อะไร ห้องส่วน

ตัวVIPของRose&Mary Hostelแค่ค่าใช้จ่ายในการใช้ ห้องก็แสนกว่าแล้ว ข้างในตกแต่งหรูหรามาก แล้วยังมี จอมอนิเตอร์ติดผนังด้วย กินข้าวพลางดูหนังไปพลาง ก็ได้ด้วย ห้องก่อนหน้านี้ที่ผมจองไว้เป็นแค่ห้อง ธรรมดาเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเราได้เปรียบ นะ”โมไนยกล่าว

บจีและปรางทิพย์ต่างตกใจ แล้วยิ้มขึ้นมา พวก เขาไม่คิดว่ารพีพงษ์จะโง่ได้ขนาดนี้ แค่ต้องการเงิน ก็ จัดห้องส่วนตัวVIPให้พวกเขาแล้ว อย่างนี้ก็เท่ากับพวก เขาไม่ได้เสียเปรียบอะไรเลย

รพีพงษ์ ทำไมแกจัดห้องส่วนตัวVIPให้พวกเขา แก บ้าไปแล้วหรอ?” ศศินัดดาชักตาไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าว “วางใจนะแม่ ให้ ห้องส่วนตัวVIPกับพวกเขา ผมวางแผนไว้แล้ว”

โมไนยไม่ลังเล แล้วโอนเงินให้ศศินัดดาโดยตรง หนึ่งแสนสามหมื่นแปดพัน หลังจากที่ศศินัดดาได้รับ เงินแล้วก็ดีใจ หยกรพีพงษ์ก็เป็นผู้ซื้อให้ เธอยังมีอีก เยอะ ตอนนี้ก็เหมือนเอาหยกแปรสภาพเป็นอย่างอื่น

แค่นั้น
รพีพงษ์เห็นโมไนยเห็นเงินแล้ว ก็ให้ผู้จัดการ ปล่อยพวกเขาเข้าไป แล้วยังให้ห้องส่วนตัวระดูบสูง อีกด้วย

“โง่จนเหนือคำบรรยายจริงๆ เขายังคิดว่าได้ เปรียบพวกเราอีก ฉันไม่เคยเห็นใครโง่แบบเขาล่ะ” บจี พึมพำ

หลังจากที่ครอบครัวบจีเข้าไปแล้ว รพีพงษ์ให้อารี ยาและศศินัดดากลับห้องไปก่อน แล้วตัวเขาเองก็ไป ห้องควบคุมกับพนักงานสองคนนั้น

“คุณรพี ครั้งที่แล้วที่คุณเอาคลิปนั้นจากผมไป คงจะไม่ใช่ ” นิรุทธ์มองไปที่รพีพงษ์แล้วกล่าว

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “เดี๋ยวรอสัญญาณจากผม รู้

ว่าต้องทำยังไงใช่ไหม”

นิรุทธ์พยักหน้า หัวเราะพลางกล่าว “รับประกันว่า

คุณรพีพอใจแน่นอน!”

จากนั้นรพีพงษ์ก็เดินออกไปจากห้องควบคุม เดินไปทางห้องส่วนตัวVIPนั้น

แล้ว

ในห้องส่วนตัวVIP ครอบครัวของบจีและ ครอบครัวของโมไนยมองไปที่การตกแต่งของห้องส่วน ตัวVIPอย่างตื่นตาตื่นใจ ล้วนอ้าปากค้างกันทั้งหมด

“พระเจ้า นี่หรูหราไปป่ะเนี่ย นี่มันเป็นที่มีฮ่องเต้ เท่านั้นจะมาได้ หรือที่โมไนยพูดว่าที่นี่คือค่าใช้จ่ายก็ ปาไปแสนกว่าแล้ว” บจีกล่าวอย่างตื่นเต้น
ปรางทิพย์ก็หัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าว “พวกเราจัด งานหมั้นในสถานที่แห่งนี้ได้ มันชั่งดีมากจริงๆ ฉันจะ ต้องถ่ายรูปไว้เยอะๆ เดี๋ยวให้พวกเพื่อนของฉันดู พวก เขาจะต้องอิจฉาฉันเป็นแน่”

โมไนยยิ้มแล้วกล่าว “รพีพงษ์นั่นคิดว่าใช้วิธีให้ผม เอาเงินให้ แล้วเขาจะได้เปรียบ ชั่งน่าขำสิ้นดี ดูแล้วๆ เขาก็เป็นแค่ไอ้เด็กบ้านนอก ไม่รู้คุณค่าของห้องส่วน ตัวVIPที่นี่เสียด้วยซ้ำ

“โมไนยพูดถูก ไอ้สวะรพีพงษ์นั่น จะเข้าใจเรื่อง แบบนี้ได้ยังไง ฉันเห็นผู้จัดการนั้นก็เป็นไปกับเขาด้วย พวกเขาจะต้องยื่นผลประโยชน์ให้กับผู้จัดการแน่นอน ให้ผู้จัดการร่วมกันแสดงละคร ไม่แน่เงินที่ได้กลับไป อาจจะแบ่งครึ่งนึงให้ผู้จัดการก็ได้นะ” บจีกล่าว

“แต่เรื่องห้องส่วนตัวว่าไง ค่าใช้จ่ายเป็นแสนเลย

นะ” ตุลยวัตกล่าว

“คุณบ้าหรือเปล่า ผู้จัดการนั่นดูแลที่นี่ ห้องนี้ถ้า เป็นคนอื่นใช้ ก็ต้องจ่ายค่าบริการ แต่เขาเป็นผู้จัดการ ที่นี่ หากต้องการใช้ก็แค่พูดเท่านั้น ไม่แน่เขาอาจจะใช้ วิธีนี้ในการหาเงินนอกก็ได้นะ” บจีกล่าว

เมื่อฟังเธอพูดแล้ว ทุกคนก็เริ่มพยักหน้ารู้สึกว่าที่ เธอพูดนั้นมีเหตุผลอยู่บ้าง

“เหอะ สนพวกเขาทำไม ยังไงพวกเราก็มาห้อง ส่วนตัวVIPRose&Mary Hostelแล้ว ทำให้หลายๆคน อิจฉา โมไนย ต่อไปฉันจะทำดีกับคุณ ในสายตาจะมีคุณเพียงคนเดียว จะไม่มีทางสนใจผู้ชายคนอื่นอีกต่อ ไป คุณก็ต้องดีกับฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น ฉันพูดถูก ไหม?” ปรางทิพย์พูดต่อโมไนย

โมไนยมีแววตาของความอายเกิดขึ้น แล้วกล่าว “ชะ…ใช่ ผมจะดีกับคุณเพียงคนเดียว”

ในขณะเดียวกันนี้เอง ประตูของห้องส่วนตัวถูก เปิดออก พนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามา โมไนยมองไป ใน ใจก็ตะลึง พนักงานคนนี้เป็นคนนั้นที่แอบมีอะไรกับเขา ครั้งที่แล้ว

พนักงานก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน ในตอนนั้นผู้ จัดการให้เธอเข้ามารับเมนู เธอจึงมา เธอก็ไม่รู้มาก่อน ว่าโมไนยอยู่ในห้องส่วนตัวนี้

เธอเอาเมนูแล้วเดินไปข้างๆของโมไนย ยิ้มพลาง กล่าว “คุณผู้ชายเชิญสั่งอาหารค่ะ”

โมไนยรับเมนูอาหารอย่างอับอาย แล้วเริ่มสั่ง

LEGO LEGO ปรางทิพย์รับรู้ได้ถึงความอับอายของโมไนย หลัง จากนั้นก็เริ่มสังเกตเขากับพนักงาน แล้วถาม “โมไนย คุณเป็นอะไรหรอ? ที่นี่ออกจะหนาว ทำไมคุณเหงื่อ ไหล?”

อาหาร

“แห่มแห่ม อาจจะเพราะเพิ่งเข้ามามั้ง คุณสั่งละกัน ฉันไปเปิดทีวี” โมไนยยื่นเมนูให้ปรางทิพย์ จากนั้นก็ไป เปิดทีวี
ปรางทิพย์มองโมไนยอย่างสงสัย รู้สึกได้ว่าเขามี อะไรไม่ชอบมาพากล

หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว พนักงานเดินออกจาก ห้องส่วนตัวไป โมไนยจึงเริ่มผ่อนคลายลงบ้าง

“ดูทีวีเถอะ จอใหญ่ขนาดนี้ เหมือนกับโรง

ภาพยนต์เลย พวกเราอยู่ที่บ้านไม่มีแบบนี้ให้ดูนะ” โมไนยยิ้มพลางกล่าว ขณะนี้เองประตูของห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออกอีก

ครั้ง ทุกคนหันไปดู พบว่าเป็นรพีพงษ์

“รพีพงษ์ แกไอ้สวะมาที่นี่ทำไม พวกเราไม่ต้อนรับ แก แกรีบไสหัวไปนะ!” ปรางทิพย์ด่า

รพีพงษ์หัวเราะ แล้วกล่าว “ขอโทษอย่างสูงที่ ขัดจังหวะงานหมั้นของพวกคุณ แต่ผมอยากเตือนคุณ หน่อยนะโมไนยไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด ถ้าคุณอยากจะ หมั้นกับเขาจริงๆ ผมขอให้คุณคิดทบทวนดูใหม่ให้ดี”

โมไนยยืนขึ้นทันที แล้วด่า “รพีพงษ์ มึงแม่ง หมายความว่าไงวะ!”

“ไอ้เหี้ยนี่ต้องมาทำลายงานอย่างแน่นอน พวกคุณ นั่งก่อน ผมไปจัดการสักครู่” โมไนยดูไปที่ทุกคนอย่าง เคร่งเครียด

“ถึงแม่งพูดเหี้ยไรอยู่ที่นี่นักหนา มีงเห็นพวกเรามี ความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม?” โมไนยกล่าวอย่างเกรี้ยว

กราด
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “กูพูดถูกหรือไม่นั้นในใจถึง

รู้ดี ความจริงที่กูมา แค่อยากถามมึง ครั้งที่แล้วที่มีสี่คน มาหาเรื่องพวกกูมึงเป็นคนสั่งมาใช่ไหม? ถ้าตอนนี้ถึง ขอโทษกกับอารียา กูจะปล่อยมึงสักครั้ง”

ไมโนยหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา แล้วกล่าว “กูว่ามึง บ้าไปแล้วจริงๆหวะ ให้กูขอโทษมึง มึงฝันไปป่ะ?”

“อ่อ งั้นก็คือ ถึงไม่เห็นค่าความสำคัญของโอกาส ครั้งนี้ที่ให้ใช่ไหม?” รพีพงษ์กล่าว

“ให้ความสำคัญทำเหี้ยอะไร รีบไสหัวไปซะ กูไม่ อยากได้ยินถึงพูดเหี้ยไรที่นี่ล่ะ ไปที่ชอบที่ชอบเหอะ อย่าหาว่าไม่เตือน”

โมไนยพูดอีกครั้ง แล้วก็หันหลังเดินกลับไปยัง

ห้องส่วนตัว

รพีพงษ์หัวเราะ จากนั้นหยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทร หานิรุทธ์

หลังจากที่โมไนยกลับไปที่ห้องส่วนตัวแล้ว แล้ว หัวเราะกับทุกคน แล้วกล่าว “ไอ้บ้านั่นโดนผมไล่ไปล่ะ มามามา พวกเรายกแก้ว ฉลองให้กับงานหมั้นระหว่าง ผมกับปรางทิพย์หน่อย ผมสัญญา จากวันนี้ไปจะทำดี กับปรางทิพย์เพียงผู้เดียวเท่านั้น”

พูดพลาง ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมา

บจีและทุกคนก็หยิบแก้วเหล้าขึ้น ยิ้มไปที่โมไนย ใบหน้าปรางทิพย์มีความสุข รู้สึกว่าตนเองหาแฟนได้ดีมากจริงๆ

ในขณะนี้เอง รูปบนหน้าจอในห้องส่วนตัว ได้มี การเปลี่ยนกะทันหัน ด้านในมีเสียงอู้อี้อู้อี้ของชาย หญิงดังขึ้นมา

คลิปนี้ เป็นคลิปของโมไนยและพนักงานผู้หญิง คนนั้นที่กำลังมีอะไรกันพอดี!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท